เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 29-03-2023
เด็กน้อย เด็กน้อย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Aug 2009
ข้อความ: 263
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ภาคเหนือมีฝุ่นละออง/หมอกควันสะสมมากเนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ส่วนภาคอื่นๆ มีการสะสมลดลงเนื่องจากมีฝนตก


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28 ? 29 มี.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 30 มี.ค. ? 3 เม.ย. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นไว้ด้วย ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 28 ? 29 มี.ค. 66 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
รูปขนาดเล็ก
คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	topchart_28_march_2023_18.jpg
Views:	0
Size:	103.3 KB
ID:	22511   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	322.jpg
Views:	0
Size:	90.6 KB
ID:	22512   คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

Name:	28-29-mar-2023-new.jpg
Views:	0
Size:	84.5 KB
ID:	22513  
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 29-03-2023
เด็กน้อย เด็กน้อย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Aug 2009
ข้อความ: 263
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ

ภูเก็ตเดินหน้าจัดระเบียบ ?หาดฟรีด้อม? คืนความบริสุทธิ์ ให้ชายหาด คราวนี้เอาจริงดำเนินการขั้นเด็ดขาด


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตสนธิกำลังจัดระเบียบหาด ?ฟรีด้อม? ให้กลับมาเป็นชายหาดที่บริสุทธิ์ ไร้ร่มเตียง ยึดสิ่งข้องที่นำมาไว้เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง ระบุดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังฝ่าฝืน คราวนี้เอาจริงจัดเจ้าหน้าดูแล


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 มี.ค.) เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นำโดย นายวัฒนพงษ์ สุกใส ทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.ภูเก็ต, เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, สปก.ภูเก็ต, ตัวแทนจากเทศบาลตำบลกะรน, เทศบาลเมืองป่าตอง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังลงพื้นที่ หาดฟรีด้อม หรือ หาดไม้ง้าว ซึ่งเป็นชายหาดชื่อดังในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด หมู่ที่ 1 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินการตรวจสอบความเป็นเรียบร้อยของพื้นที่ รวมทั้งจัดระเบียบพื้นที่ ตลอดจนกำกับดูแลห้าม มิให้มีการจำหน่ายสินค้าแก่นักท่องเที่ยว และ ผู้ที่ใช้บริการพื้นที่



อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ( 27 มี.ค.) พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค 4 ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 และคณะ ได้ลงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อทำความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่น พบว่ามีพื้นที่ดังกล่าวมีการวางร่มให้เช่า ซึ่งขัดต่อระเบียบ เนื่องจากหาดฟรีด้อมได้มีประกาศไว้อย่างชัดเจน ให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คงความเป็นธรรมชาติของชายหาดดั้งเดิม ห้ามมิให้บุคคลใดเข้าประกอบอาชีพ หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม หากมีผู้ใดฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินการโทษสูงสุด


นายวัฒนพงษ์ สุกใส ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่ชายหาดดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่มาแล้ว 2 ครั้ง และมีการดำเนินการตัดเตือน จี้แจงและทำความเข้าใจไปแล้ว 2 ครั้ง รวมทั้งได้เคยมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ออกไปแล้ว แต่ยังพบว่ามีผู้ลักลอบนำโต๊ะ และเตียงร่มผ้าใบมาแอบให้บริการอีก และ เคยมีผู้ประกอบการบางรายพูดกับทางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาดูแลพื้นที่ว่า ? ไม่กลัวเจ้าหน้าที่? เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการก็จะหายไป 4 -5 วัน หลังจากนั้นก็จะกลับมาเปิดให้บริการอีก ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
รวมทั้งจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแม่ทัพภาคที่ ที่ 4 ที่ได้ลงมาในพื้นที่ และพบปะพูดคุยกับทางพี่น้องประชาชน โดยได้มีการสอบถามปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ามาดูแลและจัดระเบียบชายหาดเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงสนธิกำลังลงมาในพื้นที่อีกครั้ง ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าครั้งนี้ไม่มีร้านอาหาร เหลืออุปกรณ์เล็กน้อย ๆ ที่ยังวางอยู่และไม่ได้ขนกลับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินเก็บขนออกมา เพื่อเคลียร์พื้นที่ โดยไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ และตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดเพื่อนำกลับไปเป็นของกลาง


อย่างไรก็ตามพื้นที่ชายหาดแห่งนี้ ทางกรมป่าไม้มีเป้าหมายให้เป็นโครงการป่านันนาการ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติได้มาพักผ่อนหย่อนใจ และให้เป็นชายหาดที่ไม่มีร่มเตียงเป็นธรรมชาติล้วน ๆ เงียบสงบ ส่วนกรณีทางขึ้นลงที่ยังมีการจัดเก็บค่าผ่านทางในการขึ้นลง ซึ่งจากการตรวจสอบได้ข้อสรุปว่า มีบางช่วงต้องผ่านที่เอกสารกรรมสิทธิ์ และมีผู้มาจัดเก็บค่าผ่านทางโดยเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ทราบเรื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและท้องถิ่นจะมีการเข้าไปพูดคุยหากพบว่ายังเก็บอยู่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่เส้นทางอื่นๆ สามารถเดินลงชายหาดได้ปกติเพราะเป็นที่ของป่าไม้ ส่วนการจะปรับปรุเส้นทางเพื่อใช้สำหรับการเก็บขนขยะหรือการลำเลียงกรณีที่มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเปิดเส้นทาง เบื้องต้นวางแนวทางในเรื่องขยะนั้น จะต้องเป็นขยะคืนถิ่น เมื่อนำมาแล้วต้องนำกลับไปด้วย


สำหรับหาดฟรีด้อม หรือ หาดไม้ง้าว เป็นหาดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ระหว่างพื้นที่ป่าตอง และ กะรน หาดทรายแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหาดบริสุทธิ์ ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนรู้จัก แต่คนไทยยังรู้จักไม่มากนัก เป็นหาดที่มีเสน่ห์ อยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์และความงามของธรรมชาติ ที่มีความสงบ ทำให้นักท่องเที่ยวให้สมญานามว่าฟรีดอม บีช ?Freedom Beach?

การเข้าถึงหาดฟรีด้อมการเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับนักท่องเที่ยว เพราะในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวไม่น้อยกว่า 200-300 คน และในช่วงไฮซีซัน มีนักท่องเที่ยวเข้าไปไม่ต่ำกว่า 400-500 คน และเกือบ 100 % เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ


และจากการเข้าถึงลำบาก ทำให้ชายหาดแห่งนี้ ยังคงความงามของธรรมชาติ ไว้จนถึงขณะนี้ สำหรับการเดินทางไปหาดฟรีด้อม ออกจากหาดป่าตองมุ่งหน้าขึ้นเขาไปยังหาดไตรตรัง ถึง 3 แยก จะเห็นป้ายบอกทางให้เลี้ยวไปทาง เลี้ยวซ้ายมือและตรงไป ขับรถไปอีกไม่เกิน 500 เมตร จะเห็นทางลงไปยังหาดฟรีด้อม ซึ่งอยู่บริเวณด้านขวามือ ซึ่งมีหลายเส้นทาง มีทั้งเข้าไปในพื้นที่เอกชน และเส้นทางที่เป็นพื้นที่ของป่าไม้ ต่อจากนั้นก็เดินเท้าลงไปซึ่งเป็นถนนดินและสูงชัน ซึ่งระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะไปถึงบันใดที่ทำจากปูน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวก อีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงชายหาด ฟรีด้อม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 29-03-2023
เด็กน้อย เด็กน้อย is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Aug 2009
ข้อความ: 263
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ

เชยแล้ว ?กินปลาแล้วฉลาด? สมัยนี้ ?กินปลาแถมปรอท? น่าตกใจ ?ไทย = อันดับ 9 ของโลก!!?



ไม่ได้มีแค่ ?โอเมก้า 3? ผลสำรวจชี้ ?กินปลา แถมปรอท? พบปนเปื้อนสูง เสี่ยงส่งผลต่อร่างกาย อันตรายถึงเด็กในท้อง หันมองประเทศไทย สถิติเตือนใจ ติดอันดับสะสมสารพิษเป็น ?ที่ 9? ของโลก

ปรอท! สดจากทะเล

ถ้าการกินปลาไม่ได้ต่อดีสุขภาพเสมอไปล่ะ? เมื่อ ?คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA)? ออกมาเตือน 78% ของปรอทที่เรารับเข้าไปในร่างกายในแต่ละวันนั้น มาจากปลาและอาหารทะเล การรับปรอทจำนวนมาก เป็นอันตรายต่อร่างกายและส่งต่อทารกในครรภ์

ปรอทที่ปนเปื้อนในปลาและอาหารทะเล จะมีปริมาณของปรอทที่มากน้อยไม่เท่ากัน ยิ่งเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีสารปรอทคงค้างมากกว่าปลาขนาดเล็ก และปลาที่พบปนเปื้อนปรอทสูงคือ ปลาเก๋า, ปลากะพง, ปลาหิมะ, ปลาอินทรี, ทูน่าครีบเหลือง, ฉลาม และปลากระโทง

แล้วอะไรทำให้สารปรอท เข้ามาอยู่ในตัวปลาได้ล่ะ?



[ ระดับปลาที่มีปรอทสะสม ]

ปรอทเป็นสารที่เกิดอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว การมีปนเปื้อนปรอทเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล

แต่อุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน การเผาขยะ ปล่อยสารปรอทลอยไปกับอากาศ ทำให้ฝนที่ตกลงแหล่งน้ำและทะเลมีปรอทปนเปื้อนอยู่ ทำให้ในตัวปลามีปรอทสะสมเกินค่ามาตรฐาน นี่ยังไม่นับรวมการทิ้งขยะลงทะเล ที่ส่งผลต่อการปนเปื้อนของปลาเช่นกัน

จากผลการศึกษาทั่วโลกของผู้หญิง 1,044 คน ใน 25 ประเทศ พบว่า 36% มีสารปรอทเกิน 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยของสารปรอทอยู่ที่ 3.077 มิลิกรัมต่อกิโลกรัม เป็นลำดับที่ 9 ของโลก

พบว่าสิ่งที่มีผลต่อปริมาณปรอทที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย คือ การกินปลาเป็นประจำ ทำงานในเหมืองทองขนาดเล็ก และอาศัยใกล้เขตอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นว่าการปนเปื้อนของสารปรอท เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ทำให้ปรอทแพร่กระจาย สะสม และตกค้างอยู่ในธรรมชาติ



[ ปรอทที่ลอยอยู่ในอากาศและทะเล ]

ร่างกายคนเราสามารถรับปรอทได้ไม่เกิน 0.5 มิลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ถ้ากินอาหารที่ปรอทสะสมเป็นเวลานาน ก็จะสงผลเสียต่อร่างกายและอาจถึงตายได้

ไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้, ชา-ตามแขนขา, แขนขาบิดเบี้ยวคล้ายคนพิการ, ตาบอด, กล้ามเนื้อสั่น, หูตึง, หลอดเลือดแข็ง, เป็นอัมพาต และอาการเหล่าท้ายจากสู่ลูกได้ ทำให้เด็กที่เกิดมา มีอาการพิการทางสมอง

นี่คือผลกระทบจาก พิษของสารปรอท หรือเรียกว่า ?โรคมินามาตะ?

?สมองพรุน? สู่ทารกในครรภ์

คงมองข้ามปัญหาการปนเปื้อนของปรอทไม่ได้แล้ว เมื่อมีกรณีตัวอย่างจากญี่ปุ่น ช่วงยุค 50 ที่มีโรงงานแอบปล่อยสารปรอทลงแหล่งน้ำใน เมืองมินามาตะ ทำให้ชาวเมืองเริ่มป่วยเป็นโรคประหลาด

ชาวเมืองเริ่ม มีอาการชาที่มือและเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง สูญเสียการได้ยินและการมองเห็น ควบคุมสติไม่ได้ มีอาการวิกลจริตอย่างอ่อนๆ กรีดร้อง มีการกระตุกตัวแข็ง แขนขาบิดงออย่างรุนแรง

จากบันทึกของ นพ.ฮาจิเมะ โฮโซคาวะ ผอ.โรงพยาบาล ชิสโสะ เขียนว่า ?เมื่อแพทย์ชำแหละสมองของผู้ที่เสียชีวิต สมองของผู้ป่วยนั้นจะพรุนเหมือนฟองน้ำ ส่วนที่เนื้อสมองหายไปนั่นคือส่วนที่ถูกทำลายด้วยสารปรอท และ ยังพบอีกว่า ทารกที่เกิดมาในช่วงนั้นมีความพิการทางสมอง? จากเหตุการณ์ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของ โรคมินามาตะ

ตอกย้ำอันตรายจากปรอท ด้วยผลการศึกษาในไทย ?สารปรอทในปลาและร่างกายมนุษย์ ในพื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าของประเทศไทย? โดย มูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมกับ สมาคมอาร์นิก้า สาธารณรัฐเชก

?จากการศึกษาปริมาณสารปรอทในผู้หญิง อายุระหว่าง 18 - 44 ปี ในพื้นที่รอบเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และเขตอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษและโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.ปราจีนบุรี พบว่า 73.5% ของอาสาสมัครมีสารปรอทเกินมาตรฐานของ EPA ที่ 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และค้นพบว่าเป็นจุดเริ่มต้นความเสียหายทางระบบประสาทของทารกในครรภ์ ?

8 จังหวัดไทย กลายเป็น มินามาตะ!

?มินามาตะโมเดล? อาจเกิดในไทยก็ได้ เมื่อผลการศึกษายังระบุอีกว่า 8 จังหวัด อุตสาหกรรม พบการปนเปื้อนของปรอทสูง ได้แก่ สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ระยอง, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, เลย, ขอนแก่น และจันทบุรี

ซึ่งแหล่งกำเนิดสารปรอทคงหนีไม่พ้น เขตอุตสาหกรรมที่หนาแน่น และโรงไฟฟ้าถ่านหิน จากการเก็บตัวอย่างปลาและหอยในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัด พบว่าทั้งปลาทะเลและปลาน้ำจืด มีค่าปรอทที่เกินมาตรฐาน



[ การปล่อยปรอทจากโรงไฟฟ้าในไทย ]

จากการเก็บตัวอย่าง ปลาและดิน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ พื้นที่ใกล้กับเขตอุตสาหกรรม และพื้นที่อยู่ห่างไกลจากเขตอุตสาหกรรม พบว่าเขตอุตสาหกรรม ในปลาหลายชนิด เช่น ปลาเต็กเล้ง ปลาช่อน ทุกตัวอย่างมีปรอทเกินค่ามาตรฐานไทยถึง 24 เท่า

แต่ที่น่าตกใจ ในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งอุตสาหกรรม กลับพบปลาบางชนิด มีปรอทสะสมถึง 16 เท่าจากค่ามาตรฐาน ในเขตอุทยานบางแห่ง พบว่า ปลาช่อน ปลาบู่ ปลานิล มีปรอทอยู่ในตัว เกิน 6 - 28 เท่า

ถ้ากินปลาเหล่านี้ เราจะได้รับปรอทถึง 6.1 ? 375 กรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของปลา แต่ก็เลยระดับความปลอดภัยมาตรฐาน ที่ร่างกายจะรับได้ที่ 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน



และนี่คือคำแถลงการณ์จาก อัครพล ตีบไธสง นักวิชาการมูลนิธิบูรณะนิเวศ

?ผลการศึกษายืนยันการสะสมของสารปรอทในสิ่งมีชีวิต แสดงให้เห็นว่าคนในพื้นที่ 8 จังหวัดของไทย เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากสารปรอท และสารปรอทสามารถเดินทางได้ไกลในอากาศ แม้จะอยู่ห่างไกลจากแหล่งอุตสาหกรรม ก็สามารถเสี่ยงพบปัญหาการปนเปื้อนจากปรอทที่ลอยอยู่ในอากาศได้เช่นกัน?

สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : www.researchgate.net, www.greenpeace.org, magnumphotos.com และ nandamization.blogspot.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:03


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger