เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 31-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,204
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 31 ส.ค. - 3 ก.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 5 ก.ย. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 4 ? 5 ก.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่เกิดขึ้นไว้ด้วย ที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 31-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,204
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


หุ่นยนต์ใต้น้ำคล้ายปลามีครีบอกขยายใหญ่ขึ้น



ทุกวันนี้ หุ่นยนต์ใต้น้ำเป็นเครื่องมือในงานทางทะเลที่หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมประมง การสำรวจใต้น้ำ การทำแผนที่ หุ่นยนต์ใต้น้ำแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยใบพัด ซึ่งมีประสิทธิภาพสำหรับการดำน้ำในน่านน้ำเปิดด้วยความเร็วคงที่ ทว่าหุ่นยนต์อาจต้องเคลื่อนที่หรือลอยด้วยความเร็วต่ำในกระแสน้ำเชี่ยวกรากขณะปฏิบัติงานเฉพาะบางอย่าง จึงเป็นเรื่องยากต่อใบพัดที่ต้องขับเคลื่อนหุ่นยนต์ในสภาวะเหล่านี้ อีกทั้งการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำในน้ำที่ไม่นิ่งก็อาจทำให้เกิดการกระตุกของใบพัด จนลดประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ลง

ล่าสุด ทีมวิจัยจากสถาบันด้านระบบควบคุมอัตโนมัติของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เผยแพร่งานวิจัยลงในวารสารระบบไซบอร์ก และไบโอนิค (Cyborg and Bionic Systems) ถึงการพัฒนาสร้าง RobDact เป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ใต้น้ำไบโอนิค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปลาตระกูล Dactylop teridae ที่มีครีบอกที่ขยายใหญ่ ทีมวิจัยระบุว่าเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ได้ดียิ่งขึ้น จำเป็นต้องมีแบบจำลองอุทกพลศาสตร์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย ทีมจึงได้รวมการเคลื่อนที่เชิงคำนวณของน้ำและอากาศรวมถึงทดลองวัดแรงเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างแบบจำลองอุทกพลศาสตร์ที่แม่นยำของ RobDact ให้ได้

ทั้งนี้ ในอนาคตทีมวิจัยระบุว่า จะต้องศึกษาการควบคุมหุ่นยนต์ใต้น้ำไบโอนิคโดยใช้แบบจำลองอุทกพลศาสตร์ร่วมกับวิธีทางปัญญาประดิษฐ์ เช่น การเรียนรู้การเสริมแรง โดยเป้าหมายสูงสุดของงานนี้คือการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ยานยนต์ใต้น้ำไบโอนิคในการติดตามสภาพแวดล้อมทางน้ำ การค้นหาและกู้ภัยใต้น้ำ.


Credit : Rui Wang, Institute of Automation, Chinese Academy of Sciences


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2485591


***********************************************************************************************************************************


พบโมซาซอร์ขนาดยักษ์ชนิดใหม่ในโมร็อกโก



เมื่อนานมาแล้ว ในทะเลที่ซึ่งปัจจุบันคือโมร็อกโก มีสัตว์นักล่าที่เรียกว่าโมซาซอร์ (mosasaur) ครอบครองน่านน้ำแถบนั้น โมซาซอร์ไม่ใช่ไดโนเสาร์ แต่เป็นกิ้งก่าทะเลขนาดมหึมาที่เติบโตได้สูงถึง 12 เมตร พฤติกรรมการกินเหยื่อก็คือพอกินแล้วก็จะคายกระดูกออกมา

ล่าสุด ทีมวิจัยที่นำโดยนิค ลองริช นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยบาธ ในอังกฤษ เผยผลการวิจัยซากโมซาซอร์ยักษ์ที่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยในพื้นที่นอกเมืองคาซาบลังกา โมร็อกโก โดยระบุว่า เป็นโมซาซอร์สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน คาดว่าน่าจะอาศัยอยู่ในดินแดนแอฟริกาเหนือจนถึงช่วงปลายยุคครีเตเชียสเมื่อ 66 ล้านปีก่อน โมซาซอร์ตัวนี้มีชื่อว่า Thalassotitan atrox เชื่อว่าเจริญเติบโตในทะเลในเวลาเดียวกันกับไดโนเสาร์ที่อยู่บนบกอย่างพวกไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ ทีมเผยว่า Thalassotitan atrox สามารถเติบโตจนมีความยาวได้ถึง 9 เมตร มีกะโหลกศีรษะขนาดมหึมายาว 1.4 เมตร เป็นนักล่าชั้นยอดโดยจะกินสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลตัวอื่นๆด้วยการใช้ฟันขนาดมหึมาเหมือนวาฬเพชฌฆาตและกรามล่างแบบบานพับสังหาร เนื่องจากซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลฟันของ Thalassotitan atrox มีความเสียหายจากการบดและกัดกินกระดูกเหยื่อ

นอกจากนี้ ยังค้นพบซากที่อาจเป็นเหยื่อของ Thalassotitan atrox จากแหล่งฟอสซิลเดียวกัน มีทั้งปลานักล่าขนาดใหญ่ เต่าทะเล ศีรษะเพลซิโอซอร์ยาวครึ่งเมตร กรามและกะโหลกของโมซาซอร์อย่างน้อย 3 สายพันธุ์ เหยื่อเหล่านี้ดูจะถูกย่อยในท้องของ Thalassotitan atrox ก่อนที่มันจะคายกระดูกเหยื่อออกมา.

Credit : Nick Longrich


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2485597

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 31-08-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,204
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


งานวิจัยชี้ น้ำแข็งกรีนแลนด์ ละลาย จะทำให้ทะเลทั่วโลกสูงขึ้นเกือบ 30 ซม.



วันที่ 30 ส.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานการวิจัยครั้งล่าสุดที่ชี้ว่า การละลายของ น้ำแข็งกรีนแลนด์ เป็นวงกว้างจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นเกือบ 1 ฟุต (ราว 30 ซม.) ซึ่งคาดจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และการศึกษาล่าสุดชี้ว่า ไม่มีทางหยุดยั้ง ต่อให้โลกหยุดการปลดปล่อยความร้อนจากโลกวันนี้เดี๋ยวนี้

การศึกษาดังกล่าว ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เนเจอร์ ไคลเมต เชนจ์ (Nature Climate Change) พบว่า การละลายของน้ำแข็งโดยภาพรวมจากแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างน้อย 10 นิ้ว (25.4 ซม.) ไม่ว่าสถานการณ์จะร้อนขึ้นอย่างไร และทั่วไปแล้วจะเป็นปริมาณเท่ากับที่ทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาจากกรีนแลนด์ แอนตาร์กติกา และการขยายตัวทางความร้อน (เมื่อน้ำทะเลขยายตัวขณะอุ่นขึ้น) รวมกัน

คณะนักวิจัยจากสถาบันสำรวจธรณีวิทยาเดนมาร์กและกรีนแลนด์ (Geological Survey of Denmark and Greenland) สังเกตการเปลี่ยนแปลงในปริมาณแผ่นน้ำแข็งทั้งในและรอบกรีนแลนด์ และเห็นว่าการไหลบ่าของน้ำที่ละลายเป็นตัวแปรขับเคลื่อนหลัก โดยใช้ทฤษฎีก่อตัวอย่างถาวร (well-established theory) และสามารถกำหนดได้ว่า ราวร้อยละ 3.3 ของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ ? เทียบเท่าน้ำแข็ง 110 ล้านล้านตัน ? จะละลายโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากแผ่นน้ำแข็งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว

เจสัน บ็อกซ์ นักวิทยาศาสตร์สถาบันสำรวจธรณีวิทยาเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ผู้นำการเขียนการศึกษา ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจากน้ำแข็งที่ละลายนี้จะเกิดขึ้น ?ไม่ว่าเส้นทางภูมิอากาศในอนาคตอันใกล้ในศตวรรษนี้จะเป็นเช่นไร น้ำดังกล่าวในทางเทคนิคอยู่ใต้สะพานแล้ว และแม้ว่าผู้เขียนการศึกษาไม่ได้ระบุกรอบเวลา แต่ทำนายว่าการเปลี่ยนในระดับน้ำทะเลสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงปัจจุบันกับปลายศตวรรษที่ 21

"การวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงประมาณการขั้นต่ำหรือขอบเขตระดับต่ำที่สุดของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากการละลายในกรีนแลนด์ และในเหตุการณ์ที่เกือบจะแน่นอนที่ภูมิอากาศยังคงร้อนขึ้นเท่าไร ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น" บ็อกซ์กล่าว

แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่สามารถละลายได้อย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิอากาศอุ่น แต่น้ำในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นยังกัดเซาะแผ่นน้ำแข็งรอบๆ ขอบแผ่นน้ำแข็งด้วย การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นในปี 2565 ที่องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ของสหรัฐเผยแพร่เมื่อต้นปีนี้ หลังพบว่า ชายฝั่งของสหรัฐอาจมีระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 10-12 นิ้วในอีก 30 ปีข้างหน้า จะทำให้น้ำท่วมสูงเกิดขึ้นบ่อยกว่า 10 เท่า และปล่อยให้คลื่นพายุซัดขึ้นฝั่งต่อไป

กรีนแลนด์มีน้ำแข็งมากพอที่หากละลายหมดจะสามารถเพิ่มระดับน้ำทะเลอีกราว 25 ฟุต (7.62 เมตร) ทั่วโลก คณะนักวิจัยชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล 20 ฟุตไม่ได้หมายถึงจะเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั่วโลก ทำให้สถานที่บางแห่งเสียหายเนื่องจากระดับน้ำทะเลลดลงในบางแห่ง

วิลเลียม คอลแกน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันสำรวจธรณีวิทยาเดนมาร์กและกรีนแลนด์ กล่าวระหว่างการเดินทางไปวิจัยในช่วงฤดูร้อนปี 2564 ว่า กรีนแลนด์ยังยังสูญเสียแรงโน้มถ่วงของน้ำแข็งบนน้ำซึ่งหมายความว่า ระดับน้ำทะเลของกรีนแลนด์กำลังลดลงเมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นที่อื่นที่อื่น อัตราของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงเป็นปัญหา

"จะยากมากที่จะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" นายคอลแกนกล่าวขณะยืนที่ธารน้ำแข็ยาค็อบซาว์น (Jakobshavn) ของกรีนแลนด์ ที่ซึ่งอ่าวแคบๆ เต็มไปด้วยน้ำแข็งแตกออกจากธารน้ำแข็ง และก่อนการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจากมนุษย์จะเริ่มต้น อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ในกรีนแลนด์ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ภูมิภาคนี้อุ่นขึ้นราว -16.94 องศาเซลเซียส ต่อทศวรรษ เร็วกว่าอัตราการก้าวทั่วโลกถึง 4 เท่า จึงมีแนวโน้มว่า อุณหภูมิจะผ่านเกณฑ์การหลอมเหลวมากขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์บอกซีเอ็นเอ็นว่า อากาศอบอุ่นผิดปกติทางเหนือของกรีนแลนด์เป็นเวลาหลายวันเป็นชนวนการละลายของน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ด้วยอุณหภูมิประมาณ 15.56 องศาเซลเซียส อุ่นกว่าปกติ 10 องศาเซลเซียสในช่วงเวลานี้ของปี

ก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากศูนย์หิมะและน้ำแข็งแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า ปริมาณน้ำแข็งที่ละลายในกรีนแลนด์ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค. อยู่ที่ 6,000 ล้านตันต่อวัน เพียงพอสำหรับเติมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 7.2 ล้านสระ

นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกกล่าวว่าแนวโน้มที่การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกำลังเร่งตัวขึ้นค่อนข้างชัดเจน และเว้นแต่จะควบคุมการปล่อยมลพิษทันที เหตุการณ์การหลอมเหลวที่รุนแรงอีกมากมายจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7239982
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger