สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย คาดว่าจะเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมผ่านประเทศมาเลเซียเข้าปกคลุมช่องแคบมะละกาและทะเลอันดามันตอนล่างในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลาง พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 9 ? 10 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนบริเวณภาคใต้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ช่องแคบมะละกา และทะเลอันดามันตอนล่าง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 14 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงอีก 3 - 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 - 4 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตลอดช่วง ไว้ด้วย และประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนควรดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


อึ้ง เจอซากสัตว์ปริศนาบนหาดใน UK ถกกันสนั่น มันคือตัวอะไร


Cr ภาพ: Reddit/huskyboi72

เมื่อ 8 ธ.ค. 2565 เว็บไซต์เมโทร เผยผู้คนใน Reddit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ประเภทเว็บบอร์ด ถกกันอย่างมากมายว่ามันคือตัวอะไร หลังมีผู้ใช้งานบัญชี Reddit คนหนึ่งโพสต์รูปภาพซากสัตว์ปริศนา รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร

'เจอตัวนี้บนชายหาด มีใครรู้บ้างมั้ยว่ามันคืออะไร?' ผู้ใช้งานบัญชี Reddit โพสต์ภาพพร้อมกับตั้งคำถาม

จากนั้น มีผู้ใช้ Reddit เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย มีตั้งแต่บอกว่า มันเป็นเอเลี่ยน สัตว์ประหลาดจากนอกโลก แต่ส่วนใหญ่แล้ว เชื่อกันว่ามันน่าจะเป็น ปลากระเบน แต่ครีบของมันซึ่งมีลักษณะเหมือนปีกนก ได้ถูกดึงออกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีบางคนบอกว่ามันอาจเป็นลูกตัวเนสซี สัตว์ประหลาดคอยาวที่บางคนเชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อกเนสส์ในสกอตแลนด์


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2573235

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ชาวบ้านผวามาทีเดียว 2 ตัว จระเข้น้ำเค็มขนาด โชคดีชาวบ้านช่วยกันจับได้แล้ว

สุราษฎร์ธานี -ชาวบ้าน ผวา พบจระเข้น้ำเค็ม ขนาดใหญ่ 2 ตัว ยาว 4 เมตร และ 2.1 เมตร ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลคันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนช่วยกับจับ ให้ชุดไกรทอง มารับไปดูแล



นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.65) ได้รับแจ้ง จาก นายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ ว่า มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ จึงได้สั่งการให้จัดเจ้าหน้า ที่ค้นหา และ เฝ้าระวังอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ จนกระทั่งในช่วงสาย ชาวบ้านพบจระเข้ อยู่ในคูน้ำ ข้างถนนซอยตาอุ้ง ใกล้ๆกับ คลองหิต พื้นที่ หมู่ 8 บ้านศรีทอง ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ ซึ่งห่างจากบ้านชาวบ้าน ประมาณ 100 เมตร จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ประสานอำเภอท่าชนะ เพื่อนำเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญมาจับกุม

จากการตรวจสอบข้อมูล กับนางพิไลพร ทองมาก ประมงอำเภอท่าชนะ ทราบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้น้ำเค็ม ความยาวประมาณ 4 เมตร น้ำหนัก ราว 400 กิโลกรัม คาดว่าจะเข้ามาทางปากน้ำคลองคันธุลี ที่ออกสู่ทะเลได้ ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดไกรทอง เข้ามาจับตัว เนื่องจาก จระเข้น้ำเค็มมีนิสัยดุร้าย กว่าจระเข้น้ำจืด และในพื้นที่ดังกล่าว ไม่เคยพบเห็นมานานหลายปี อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีความรู้เรื่องจระเข้ ได้ช่วยกันจับจระเข้ไว้ได้สำเร็จ เพราะกลัวจะหลบหนี

และเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน ชาวบ้านสามารถจับจระเข้น้ำเค็ม ได้เพิ่มอีก 1 ตัว ขนาดความยาวประมาณ 2.1 เมตร น้ำหนักราว 50 - 80 กิโลกรัม ตรวจสอบแล้ว เป็นเพศเมียทั้งคู่ โดยชุดไกรทอง ได้ประสานกรมประมง ขอนำไปดูแลไว้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อไป


https://mgronline.com/south/detail/9650000116891


******************************************************************************************************


มักง่าย! ตัดอวนทิ้งแนวปะการัง คาดคนลอบจับปลา ร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ

กระบี่ - นักดำน้ำ เอกชน สุดทน พบคนมักง่ายตัดข่ายดักปลาทิ้งปกคลุมแนวปะการัง บริเวณเกาะแม่อุไร ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เชื่อมีการลักลอบจับสัตว์น้ำ เนื่องจากมีสัตว์ทะเลอาศัยเป็นจำนวนมาก เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ



นายบัณฑร เสาวรรณ ครูสอนดำน้ำเอกชนแห่งหนึ่ง ของจังหวัดกระบี่ และนักดำน้ำ ได้ช่วยกันเก็บกู้เศษอวน ที่ปกคลุมแนวปะการังบริเวณ เกาะแม่อุไร ใกล้กับเกาะทะเล ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำ ที่มีปะการัง ดอกไม้ทะเล สัตว์ทะเลสวยงามจำนวนมาก พบเศษอวนมีขนาดตาอวน ขนาดเล็กปกคลุมพื้นที่ ประมาณ 100 ตารางเมตร ทำให้ปลาสวยงามติดอวนตายเป็นจำนวนมาก

นักดำน้ำต้องใช้ความระมัดระวัง ในการตัดอวนออก เพื่อไม่ให้ปะการังเสียหาย สามารถเก็บกู้อวนขึ้นมาได้ประมาณ 20 กิโลกรัม ช่วยปลาที่ยังไม่ตาย ออกจากตาข่ายอวนได้จำนวนหนึ่ง ตรวจสอบพบว่า เป็นตาข่ายดักปลา ไม่ใช่เศษอวนดำ ที่พบเห็นบ่อยครั้ง เชื่อว่ามีการลักลอบจับสัตว์น้ำบริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีแนวปะการัง ที่สมบูรณ์ สัตว์ทะเล ปลา อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อข่ายติดกับแนวปะการัง จึงต้องตัดทิ้ง

นอกจากนี้พบว่ามีนักตกปลาเป็นจำนวนมาก ลอยเรือตกปลาบริเวณดังกล่าว จึงเรียกร้องให้ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ตรวจสอบด้วยว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานหรือไม่


https://mgronline.com/south/detail/9650000116896