เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 28-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนจะมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28 - 30 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4 - 8 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3 ? 5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ในวันที่ 2 ก.พ. 66 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 28 ? 30 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย



******************************************************************************************************



ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 19 (40/2566) (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 28-30 มกราคม 2566)

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย รวมทั้งประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนห่างฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรงไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 28-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


คลื่นลมแรงซัดหาดชลาทัศน์ เซาะทรายจนตะแกรงเหล็กโผล่ วอนผู้เกี่ยวข้อง

ทะเลสงขลาคลื่นลมแรง ชายหาดชลาทัศน์โดนคลื่นกัดเซาะทรายลงทะเล จนทำให้ตะแกรงเหล็กที่ใช้กันคลื่นฝังอยู่บริเวณนี้โผล่มาให้เห็น ด้านชาวบ้านเกรงอันตราย วอนผู้เกี่ยวข้องและเทศบาลฯ แก้ไขด่วน



จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (26 ม.ค. 66) สภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดสงขลาคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ส่งผลทำให้คลื่นลมกระหน่ำพัดชายหาดชลาทัศน์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยคลื่นได้กัดเซาะชายหาดเข้ามาจนถึงแนวทิวสนริมชายหาด และพัดเอาทรายบริเวณชายหาดชลาทัศน์กลับลงทะเลไปตลอดแนวชายหาดชลาทัศน์เป็นบริเวณกว้าง

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณชายหาดชลาทัศน์ เนื่องจากในวันนี้ คลื่นลมลดความรุนแรงลง ทำให้ได้เห็นความเสียหายของชายหาดชลาทัศน์อย่างชัดเจน โดยชายหาดชลาทัศน์คลื่นพัดพาทรายกลับลงทะเลไป ทำให้ชายหาดชลาทัศน์กลายเป็นชายหาดที่มีหน้าผาทรายสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งหมายถึงระดับเดิมที่คลื่นพัดพาทรายหายไปจากบริเวณชายหาดตลอดแนวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดเป็นหน้าผาขึ้นริมชายหาดชลาทัศน์ตลอดแนว

ส่งผลทำให้ตะแกรงเหล็กที่ใช้กันคลื่นฝังอยู่บริเวณชายหาดชลาทัศน์โผล่ขึ้นมาเป็นแนวยาวเป็นช่วงๆ ฝังอยู่ในทรายกลางชายหาด เสี่ยงต่อผู้ที่เข้ามานั่งพักผ่อนบริเวณชายหาด และมีรากต้นสนตามแนวชายหาดที่ถูกคลื่นซัดนำทรายออกไป โผล่ออกมาตามแนวชายหาด ส่งผลทำให้การเดินขึ้นลงชายหาดชลาทัศน์ จะต้องใช้ความระมัดระวังจากที่เคยเดินลงชายหาดอย่างสะดวกสบายก็ต้องก้าวลงมาจากหน้าผาที่สูงประมาณเกือบ 1 เมตรและจะต้องคอยระมัดระวังเขื่อนตะแกรงเหล็กที่ฝังตัวอยู่ในทรายและกระจัดกระจายไปทั่วชายหาดเนื่องจากตะแกรงเหล็กที่ฝังทรายเป็นสนิมทั้งหมดและเป็นอันตรายสำหรับบุตรหลานที่มาวิ่งเล่นบริเวณชายหาดหากพลาดพลั้งอาจจะถูกตะแกรงเหล็กตำเท้าได้

จากการเดินสำรวจ ผู้สื่อข่าวพบว่า เขื่อนตะแกรงเหล็กที่โผล่พ้นพื้นทรายชายหาดชลาทัศน์ จะมีกระจายฝังทรายอยู่หลายจุด จึงอยากจะขอเตือนนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ที่นิยมมานั่งพักผ่อนโดยเฉพาะในช่วงเย็นที่นำครอบครัวพาบุตรหลานมาวิ่งเล่นบริเวณชายหาดชลาทัศน์ให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดและใช้ความระมัดระวังในการเดินเล่นบริเวณชายหาดชลาทัศน์เพื่อความปลอดภัยจากตะแกรงเขื่อนที่ฝังตัวอยู่ในทรายรวมทั้งระวังการเดินลงชายหาดเนื่องจากชายหาดชลาทัศน์ขณะนี้มีความสูงต่างระดับกันเกือบ 1 เมตรในการเดินลงชายหาด เพราะหากไม่ระมัดระวังบุตรหลานอาจ พลัดตกลงมาได้รับบาดเจ็บได้

ชาวบ้านในพื้นที่ฝากถึงนายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ส่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลชายหาดชลาทัศน์ เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขบริเวณชายหาดชลาทัศน์เป็นการด่วนด้วย เนื่องจากชายหาดชลาทัศน์บริเวณคนอ่านหนังสือบริเวณนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวสงขลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็น จะมีนักท่องเที่ยวและชาวสงขลาเดินทางนำครอบครัวมานั่งพักผ่อนบริเวณชายหาดชลาทัศน์แห่งนี้เป็นจำนวนมากทุกวัน.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2614403

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 28-01-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


คุมปะการัง "เกาะหลีเป๊ะ" หลังพบนักท่องเที่ยวเดินย่ำตอนน้ำลด



กรมอุทยานฯ ห้ามนักท่องเที่ยวล้ำเขตแนวปะการัง อุทยานฯ หมู่เกาะตะรุเตา หลังชาวโซเชียลตั้งคำถามไร้ป้ายประชาสัมพันธ์-เจ้าหน้าที่คอยเตือน หลังน้ำลดปะการังโผล่ นักท่องเที่ยวเดินย่ำ

กรณีนักท่องเที่ยวบันทึกภาพปะการังน้ำตื้น บริเวณเกาะหลีเป๊ะ และโพสต์ภาพในลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก "ทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ และทะเล อันดามัน powered by Lipe Lovers" พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินย่ำบนปะการัง

วันนี้ (27 ม.ค.2566) นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณโรงแรมไอดีลิค ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เนื่องจากทางอุทยานฯ ไม่ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ดำน้ำตื้น จึงไม่ได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ทุ่นกั้นเขตดำน้ำตื้นไว้

ล่าสุดนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้สั่งการให้กรมอุทยานฯ เร่งดำเนินติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ และติดตั้งทุ่น พร้อมกำชับให้ต้องประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวให้ดี ถึงกฎระเบียบการเยี่ยมชมธรรมชาติ เพื่อรักษาแนวปะการังนี้เอาไว้ให้สวยงาม มีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ

สำหรับกรณีดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ตั้งคำถามว่า เดี๋ยวนี้ไม่มีป้ายแจ้งเตือนหรือเจ้าหน้าที่บอกห้ามเดินหรือเหยียบปะการังหน้าโซนแถวโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะตุรุเตา

"ตอนเช้าหลังน้ำลดลง พบเห็นนักท่องเที่ยวจีนเดินย่ำบนปะการัง เพราะอาจคิดว่าเป็นหิน จึงต้องตะโกนบอกเขาถึงจะหยุด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เหลืออะไรไว้ให้ชม"


https://www.thaipbs.or.th/news/content/323973


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:08


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger