รายงานผลการปล่อยหอยมือเสือ และ เก็บขยะ ที่พัทยา เดือนสิงหาคม 2552

[สายชล]

หมดเวลาดำน้ำแล้ว.....เราลอยตัวขึ้นไปพักน้ำเหนือหอสะพานเดินเรือที่ไร้กระแสน้ำกันอย่างมีความสุข....

[สายชล]

ดำน้ำที่เรือครามครั้งนี้ ไม่มีอวนหรือแม้แต่เอ็นสายเบ็ดให้เราเก็บหรือตัด....


เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า....เรือครามจะคงความงามอยู่คู่ท้องทะเลไทยไปอีกนานแสนนาน...


เมื่อกลับขึ้นมาบนเรือมารีน....น้องดู๋และน้องบ๊วยมีความสุขสนุกสนานกับการดำน้ำที่เรือครามมาก


น้องดู๋บอกกับเราว่า...."เชื่อแล้วครับ....ว่าเรือครามเป็นเรือจมที่สวยที่สุดในไทย"

[สายชล]

หลังจากดำน้ำที่เรือครามแล้ว....เรากลับเข้าฝั่งพัทยากันอย่างมีความสุข


ทีมงานเจาะใจได้ร่ำลาพวกเราเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมกับได้นำเงินใส่ซองจำนวน 5,000 บาท เพื่อสมทบเป็นค่าใช้จ่ายในการร่วมดินทางไปทำงานกับเราในครั้งนี้ ซึ่งสายชลรับไว้เพื่อนำเข้าสมทบในเงินกองกลางของพวกเราต่อไป


หมายเหตุ....อ่านเรื่อง "เรือคราม....ภาพจากอดีตจนถึงปัจจุบัน" ได้ที่ http://www.saveoursea.net/boardapr20...hp?topic=226.0

[สายชล]

เช้าวันที่ 30 กันยายน 2552


มองออกไปจากระเบียงห้องพักที่คอนโดฯ ริมหาดวงศ์อำมาตย์ สายชลเห็นท้องฟ้าขมุกขมัวด้วยเมฆหนาสีคล้ำ ลมแรงพัดพาละอองฝนมาต้องใบหน้า...


ที่กลางทะเลด้านตะวันตกของหาดเมืองพัทยา.... รุ้งตัวอ้วนกลมทอดร่างพาดผ่านในแนวเหนือ-ใต้....

[สายชล]

มองไกลออกไปทางด้านที่ตั้งของเกาะริ้น ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ของอ่าวพัทยา...

ฟ้าอย่างนี้....ลมแรงอย่างนี้......เห็นทีวันนี้เราจะต้องผจญกับคลื่นลมแรงขณะออกเรือไปเก็บขยะและตัดอวน ที่เกาะริ้นเป็นแม่นมั่น....

[admin]

จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้วที่เรือครามจม มีปะการังขึ้นเยอะมากเลยครับ

[สายชล]

หลังจากเดินทางไปถึงท่าเรือและลงเรือไปประกอบอุปกรณ์ดำน้ำกันเรียบร้อยทุกคนแล้ว กัปตันทูนก็นำเรือออกจากท่าเรือมารีน...


จริงดังคาด....เมื่อเราออกเรือจากท่ามารีนเพื่อมุ่งหน้าไปเกาะริ้นได้พักเดียว เราก็เผชิญกับคลื่นที่สูงเกือบสองเมตร และความยาวของคลื่นก็ถี่มากไม่เกิน 2 เมตร



เราตัดสินใจให้กัปตันหันหัวเรือมุ่งไปที่เกาะสากด้านเหนือ ซึ่งเป็นจุดเดียวที่เรือจะหลบคลื่นที่เกิดจากลมตะวันตกเเฉียงใต้หรือลมใต้ได้


เรือแล่นเอียงซ้ายเอียงขวา จนไปจอดทิ้งสมอที่หน้าอ่าวเกาะสากด้านเหนือ ที่สงัดคลื่นลม


หลังการสรุปถึงแผนการดำน้ำและวิธีการดำน้ำเก็บขยะและตัดอวนอย่างถูกวิธีแล้ว เราไม่รอช้าให้เสียเวลา..รีบแต่งตัวและกระโดดลงดำน้ำเก็บขยะตัดอวนกันทันทีตามแผนที่วางไว้

[สายชล]

เนื่องจากจุดดำน้ำด้านตะวันออกของเกาะสากที่มีขยะมากมายให้เราเก็บนั้น มีคลื่นลมแรง ในไดฟ์แรกของวันนี้ เราจึงวนเวีนเก็บขยะในอ่าวด้านเหนือของเกาะสาก ซึ่งขยะส่วนมากเป็นขยะประเภทขวดแก้ว เศษแก้ว เชือก และสายเบ็ด ส่วนเศษอวนนั้นมีเพียงเล็กน้อย

[สายชล]

การตัดอวนและเศษเชือกมีให้เราทำไปตลอดทาง.....

[สายชล]

กว่าเราจะขึ้นจากน้ำ....ถุงตาข่ายของพวกเราแต่ละกลุ่มก็เต็มไปด้วยขยะ....


เมื่อนำขึ้นมาแยกขยะแล้ว พบว่าในไดฟ์แรกของวันนี้ เราเก็บขยะประเภทขวดแก้วและกระป๋องชนิดต่างๆมีน้ำหนักราว 30 กิโลกรัม และเป็นเศษขยะชนิดอื่นๆราว 20 กิโลกรัม