เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 14-08-2015
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default หมึกสายวงฟ้า หรือหมึกบลูริง Blue-ringed octopus

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ระวัง! "ปลาหมึกบลูริง" ตัวเล็กนิดเดียวแต่พิษแรงกว่างูเห่า 20 เท่า โดนตกได้ที่หมู่เกาะอ่างทอง


ภาพจากเฟซบุ๊ก Nattawut Chotsuwan

วานนี้ (12 ส.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อบัญชี Nattawut Chotsuwan โพสต์ภาพจำนวน 2 ภาพและข้อความลงเผยแพร่ในโลกออนไลน์ระบุ ถึงอันตรายที่อาจเกิดจาก "ปลาหมึก" สายพันธุ์หนึ่งที่มีชื่อว่า ปลาหมึกสายวงฟ้า หรือ ปลาหมึกบลูริง (Bluering octopus) ซึ่งมีผู้ตกได้บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่า โชคดีที่ปลาหมึกตัวดังกล่าวถูกปล่อยกลับลงสู่ทะเลไปแล้ว และไม่มีใครไปจับหรือโดนกัด เพราะปลาหมึกชนิดนี้ถูกจัดว่าเป็นหมึกที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

เมื่อสักครู่ มีรุ่นน้องที่รู้จักกันคนนึง Inbox มาถาม พร้อมกับรูปปลาหมึกตัวเล็กๆชนิดนึง สีสันสวยงาม ได้ความว่าติดเบ็ดขึ้นมาจากแถวๆหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี

โชคดีที่ปลาหมึกตัวนั้นถูกปล่อยกลับลงน้ำไปแล้วโดยที่ไม่มีใครไปจับมันและไม่มีใครโดนมันกัด เพราะมันคือ ปลาหมึกสายบลูริง (Bluering octopus) ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

ว่ากันว่าพิษของหมึกบลูริง รุนแรงกว่าพิษของงูเห่า 20เท่า และผู้ถูกกัดจะตายภายใน 2-3 นาที และพิษของปลาหมึกเพียง 1 ตัวสามารถฆ่าคนได้มากกว่า 20 คน

ในประเทศไทย หมึกบลูริงสามารถพบได้ทั้งทางฝั่งอันดามันและอ่าวไทยนะครับ ถึงแม้จะพบได้ค่อนข้างน้อยมากก็ตาม หากพบเจอ แม้ว่าจะเป็นในน้ำหรือบนบก ห้ามจับ ห้ามแตะต้อง โดยเด็ดขาด ดูได้ แต่รักษาระยะห่างให้เหมาะสมครับ ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลให้กับคนที่ไม่ทราบด้วยนะครับ เท่าที่รู้ในประเทศไทยยังไม่เคยมีประวัติว่ามีคนโดนหมึกบลูริงกัดตาย ยังไม่อยากให้มีรายแรกครับ

ให้เรียนรู้ ให้ระมัดระวัง แต่ไม่อนุญาตให้ตื่นตระหนกนะครับ ความเป็นจริงไม่ได้มีอะไรน่ากลัวขนาดนั้น หมึกบลูริงมีประวัติการพบในประเทศไทยน้อยมาก และปกติเป็นสัตว์รักสงบ ไม่จู่โจมมนุษย์ หากไม่โดนจับมาเล่นหรือโดนมนุษย์ไปรบกวนก่อน ก็ยากที่จะมีโอกาสทำร้ายมนุษย์ได้ครับ

### ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจากคุณ อนุพงศ์ ไมยวงษ์ และคุณ Uthen Uthansai ซึ่งเป็นผู้ตกได้ และถ่ายภาพหมึกบลูริงจากหมู่เกาะอ่างทองตัวนี้ครับ

ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena ในอันดับหมึกยักษ์ จัดเป็นหมึกขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง มีจุดเด่น คือสีสันตามลำตัวที่เป็นจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ตัดพื้นลำตัวสีขาวหรือเขียว แลดูสวยงามมาก แต่ทว่า หมึกสายวงน้ำเงินนั้นมีพิษที่ผสมอยู่ในน้ำลายที่มีความร้ายแรงมาก ซึ่งร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า ผู้ที่ถูกกัดจะตายภายใน 2-3 นาที ทั้งสามารถฆ่าคนได้ 26 คนในคราวเดียว นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก (อ่านเพิ่มเติม : หมึกสายวงน้ำเงิน)


http://www.manager.co.th/HotShare/Vi...=9580000091607
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-08-2015
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ไขพิษสง "บลูริง" หมึกเพชฌฆาตที่ใครหลายคนตื่นกลัว!


ภาพจากเฟซบุ๊ก Nattawut Chotsuwan

นักวิชาการด้านระบบนิเวศทางทะเลเผย หมึกสายวงฟ้า หรือหมึกบลูริง มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พบได้ทั่วทะเลไทย อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเล มีพิษลักษณะเดียวกับปลาปักเป้า ทำให้เป็นอัมพาต ระบบหายใจล้มเหลว คนทั่วไปแทบไม่มีโอกาสถูกกัด เพราะมันไม่เข้าท่าตื้น ย้ำไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนกัดในไทย

หลังจากมีภาพ และข้อมูลของ "ปลาหมึกบลูริง" ซึ่งมีผู้ตกได้บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี โดยระบุว่า โชคดีที่ปลาหมึกตัวดังกล่าวถูกปล่อยกลับลงสู่ทะเลไปแล้ว และไม่มีใครไปจับหรือโดนกัด เพราะปลาหมึกชนิดนี้ถูกจัดว่าเป็นหมึกที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านระบบนิเวศทางทะเล และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat โดยให้ความรู้เกี่ยวกับ "บลูริง" หมึกเพชฌฆาต ไว้ดังนี้

1. นี่คือหมึกสายวงฟ้า blue-ringed octopus เป็นหมึกทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

2. หมึกทะเลกลุ่มนี้มี 3 ชนิด (อีกชนิดยังเป็นที่สงสัย) ขนาดเล็ก ความยาวไม่เกิน 20 เซนติเมตร เจ้าตัวที่เห็นในภาพขนาดเต็มวัย ลักษณะเด่นคือวงสีฟ้าที่จะแสดงสีเข้มจัดในยามหมึกโกรธหรือต้องการป้องตัวเอง เช่น หมึกที่เห็นในภาพ

3. หมึกสายวงฟ้าพบได้ทั่วทะเลไทย ส่วนใหญ่อยู่ตามพื้นท้องทะเล ติดมากับเรืออวนลาก ฯลฯ สำหรับหมึกสายวงฟ้าที่พบในแนวปะการัง เป็นชนิดที่ไม่พบหรือมีน้อยมากในเมืองไทย

4. หมึกชนิดนี้จะกัดเพื่อปล่อยพิษเท่านั้น พิษเป็นลักษณะเดียวกับพิษปลาปักเป้า ทำให้เป็นอัมพาตและระบบหายใจล้มเหลว ไม่มียาแก้พิษ ต้องช่วยในลักษณะเดียวกับปลาปักเป้า นั่นคือช่วยหายใจและรักษาตามอาการ หากพ้น 24 ชั่วโมงได้ อาการจะดีขึ้นตามลำดับ

5. หมึกชนิดนี้ไม่เหมือนแมงกะพรุนกล่อง โอกาสที่คนทั่วไปโดนกัดแทบไม่มีเลย หมึกไม่เข้าท่าตื้นมากัดคนเล่นน้ำ ไม่ไล่กัดนักดำน้ำ โอกาสโดนกัดคือเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วนำมาเล่น หรือตกได้แล้วไม่รู้จึงปลดเบ็ด (ไม่ค่อยติดเบ็ด) ไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนหมึกชนิดนี้กัดในประเทศไทย

6. กรมประมงห้ามนำเข้าหมึกสายวงฟ้าเป็นสัตว์เลี้ยงมาระยะหนึ่งแล้ว (เคยเป็นข่าวเมื่อ 5-6 ปีก่อน) ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีผู้นิยมเลี้ยงครับ

7. คณะประมงเคยทำการศึกษาเรื่องนี้ รวมถึงนำหมึกมาเลี้ยงหลายตัว หมึกชอบออกหากินกลางคืน กลางวันแอบในเปลือกหอยหรืออะไรก็ได้ที่แอบได้ ตัวเมียเก็บไข่ไว้จำนวนหลายร้อยฟอง

8. หมึกสายวงฟ้าตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็มีพิษทั้งนั้น อย่าไปยุ่งกับมันดีที่สุด

"ส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนกัดนะครับ ถามว่าในทะเลไทยเจอได้ที่ไหนบ้าง พบได้ทั่วท้องทะเลไทย และเจอได้ตลอดทั้งปี โดยตัวมันจะเล็กๆ แอบอยู่ตามหิน เปลือกหอย ส่วนตอนกลางคืนก็จะออกมาหากิน คนเล่นน้ำทั่วไปไม่ต้องกลัวครับ เพราะมันไม่เข้าที่ตื้น ส่วนพิษของมันเป็นพิษในลักษณะเดียวกันกับปลาปักเป้า หากโดนพิษก็ต้องรีบขึ้นจากน้ำ ช่วยหายใจ รักษาตามอาการ" นักวิชาการด้านระบบนิเวศทางทะเลให้สัมภาษณ์ ก่อนจะย้ำด้วยความเป็นห่วงว่า "ถ้าเจอมันแล้ว อย่าไปยุ่งกับมันดีที่สุดครับ"


http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...=9580000091841


*********************************************************************************************************************************************************


เมืองไทยยังไม่พบคนตายจาก “หมึกบลูริง” แต่แนะอย่าเข้าใกล้

จากกรณีการแชร์ภาพหมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) หรือหมึกสายวงสีน้ำเงินว่าพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่าและทำให้ถึงตาย ทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบไปยัง นายอุกฤต สตภูมินทร์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งระบุว่า หมึกดังกล่าวมีพิษร้ายแรงจริงและกัดคนตายจริง แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีพิษร้ายแรงกว่างูเห่าหรือไม่

นายอุกฤตอธิบายแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ว่า พิษของหมึกสายวงสีน้ำเงินนั้นมีชื่อว่า เปปโทรโดทอกซิน (peptrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษเหมือนพิษปลาปักเป้า โดยจะปล่อยพิษออกมาจากปากที่อยู่บริเวณด้านล่างของหัวที่เป็นศูนย์กลาง

“พบมากแถวแนวปะการังทั้งอันดามันและอ่าวไทย ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเมื่อก่อนคนฮิตเลี้ยงด้วยซ้ำ ทางที่ดีเห็นแล้วอย่าไปยุ่ง เพราะไม่มียารักษา รักษาได้แค่ตามอาการ ถ้าโดนมากๆ อาจตายได้เลยแต่ไม่เคยมีใครวิจัยไว้ว่าจะตายภายในกี่นาที บ้านเรายังไม่มีเคสคนตาย” นายอุกฤตกล่าว

ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าปกติจะพบหมึกชนิดนี้ได้ที่ออสเตรเลีย นายอุกฤตให้ความเห็นว่า เป็นไปได้ยากที่หมึกชนิดนี้จะอพยพหรือข้ามมาจากออสเตรเลีย เนื่องจากไม่ใช่สัตว์ใหญ่ที่ว่ายน้ำข้ามทวีปได้ และหมึกบลูริงก็เป็นสัตว์ประจำถิ่นที่พบได้ในไทย แต่ไม่ใช่โอกาสง่ายๆ ที่จะพบ นานๆ จึงจะเจอสักตัว และเท่าที่ทราบเคยมีพ่อค้าหมึกย่างติดขึ้นมาเสียบไม้ แต่โชคดีที่มีคนมีความรู้เข้าไปพบก่อน จึงไม่มีใครเป็นอะไร และเขาเองยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ แต่ทางที่ดีอย่าเข้าไปใกล้ แม้หมึกดังกล่าวจะมีสีสันสวยงามดึงดูด


http://www.manager.co.th/Science/Vie...=9580000091739
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:53


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger