เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองลดลง แต่ยังคงมีลมกระโชกแรงเป็นพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 3 - 4 พ.ค. 64 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฟ้าคะนองลดลงแต่ยังคงมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 9 พ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น กับมีลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 5 - 9 พ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก รวมถึงฟ้าผ่า ที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือให้ระวังน้ำไหลหลากไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"ศักดิ์สยาม" เร่งออกแบบท่าเรือ "แลนด์บริดจ์" วางแนวทางรถไฟเชื่อม 2 ฝั่งทะเลต้อง "สั้นและตัดตรง"

"ศักดิ์สยาม"เร่งออกแบบ ท่าเรือน้ำลึก ฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน และทางรถไฟเชื่อมแลนด์บริดจ์ กำชับใช้ประโยชน์ทรัพยากรในพื้นที่ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อประโยชน์กับท้องถิ่น และจัดตั้งพื้นที่เป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผลักดันเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาค



วันที่ 3 พ.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge) ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้นโครงการ ซึ่งได้มีการกำหนดกลยุทธ์ในการศึกษาแนวทางการพัฒนาของโครงการออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย

1. ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม มีการออกแบบท่าเรือให้มีความลึก 16 เมตร ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน แนวเส้นทางสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางรถไฟ และทางหลวงสายหลักได้ สามารถรองรับ ทั้งการขนส่งสินค้าและการขนส่งผู้โดยสาร พร้อมทั้งรองรับระบบขนส่งทางท่อ

2. ด้านการพัฒนาพื้นที่หลังท่า จะมีการจัดตั้งพื้นที่หลังท่าเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมหลังท่าตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

3. ด้านการส่งเสริมการขนส่ง มีการศึกษาปรับปรุงกฎระเบียบ เพื่อลดขั้นตอน และเอกสาร ในการขนส่งสินค้า ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ให้สิทธิพิเศษทางภาษี เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง

4. ด้านสิ่งแวดล้อมและการยอมรับของมวลชน โดยในการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และต้องเกิดประโยชน์กับท้องถิ่น เช่น กำหนดโควต้าการรับสมัครเข้าทำงานในโครงการให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบพื้นที่ จัดทำและดำเนินโครงการ/แผนงานความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้โครงการสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน



ซึ่งนอกจากพัฒนากลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการแล้ว การศึกษานี้ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกทำเลที่ตั้งท่าเรือตามแนวทางที่เป็นสากล ตามแนวทางของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา Port Planning Handbook (UNCTAD,1984) และ สมาคมโลกเพื่อการขนส่งทางน้ำ PIANC Outline master planning process for greenfield ports (PIANC 185) โดยมีปัจจัยและสัดส่วนที่ใช้ในการพิจารณา 4 ด้าน ประกอบด้วย ปัจจัยด้านวิศวกรรม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเงิน และปัจจัยด้านสังคมโดยยึดแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ผสานกับเทคโนโลยี และความได้เปรียบทางกายภาพ รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่วยสร้างโอกาส สร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น



ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สนข. รับข้อสังเกตและประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งในการคัดเลือกแนวเส้นทางนั้นให้คำนึงถึงการลดระยะวลาในการขนส่งจากท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง ที่สั้นและตรงที่สุด รวมถึงพิจารณาเรื่องการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในพื้นที่บริเวณโดยรอบโครงการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ และเกิดการกระจายการพัฒนาไปสู่ท้องถิ่น และการเปรียบเทียบโครงการในทุกมิติเพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ของโครงการต่อการพัฒนาประเทศชาติ รวมทั้งให้พิจารณาประเด็นการสร้างพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับการร่วมพัฒนาโครงการ โดยให้ครอบคลุมทั้งภายในประเทศ ประเทศในภูมิภาค และจากประเทศต่างๆ ในเวทีโลก


https://mgronline.com/business/detail/9640000042326

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 04-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก


นักวิจัยเซอร์ไพรส์ ปล่อยฉลามมาโกลงทะเล วกกลับมากัดเรือ



เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นในน่านน้ำห่างจากหมู่เกาะ เอาเทอร์ แบงก์ส รัฐนอร์ท คาโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 เมษายน นักวิจัยจากแลบอนุรักษ์และฉลามซูลิคาวสกี (Sulikowski Shark and Fish Conservation Lab) มหาวิทยาลัยแอริโซนา สเตท เพิ่งปล่อยฉลามมาโกตัวหนึ่งลงทะเล จากคลิปแสดงให้เห็นว่า มันวกกลับมากัดแทะลำเรืออยู่ราว 30 วินาทีเลยทีเดียว ก่อนล้มเลิกไปโดยไม่ได้ก่อความเสียหายอะไร

เจมส์ ซูลิคาวสกี นักวิจัย กล่าวกับ McClatchy News ว่าพวกเราตื่นเต้นที่เห็นฉลามถูกปล่อยลงทะเลในสภาพที่ดีมาก จากนั้นมันหันกลับมาตามธรรมชาติของฉลามมาโก และการกัดเรือก็เป็นภาพที่่ตื่นตาตื่นใจ ราวกับประกาศว่า "แกจับฉัน ตอนนี้ ฉันจะจับแกบ้าง ดังนั้น เราเสมอกัน" นักวิจัยกล่าวว่าฉลามมาโกไม่ใช่สัตว์ดุร้ายต่อมนุษย์ เขาสันนิษฐานว่าการกัดเรือคือการเตือนเชิงป้องกันตัว ทำให้พวกเรารู้ว่ามันมีคมเขี้ยวและอย่าไปยุ่งกับมัน

ฉลามมาโกตัวนี้ยังเป็นฉลามรุ่น ความยาวประมาณ 1.2 เมตร เป็นหนึ่งในฉลามมาโก 19 ตัวที่ถูกจับขึ้นมาและติดแทก เพื่อบันทึกการเคลื่อนไหวของมันในระยะ 28 วัน ตัวใหญ่สุดยาว 2.4 เมตร โดยทั้ง 19 ตัว เป็นฉลามที่ติดมากับเบ็ดราวของการทำประมงเชิงพาณิชย์ที่ตั้งใจดักปลากระโทง และปลาทูน่า แนวเบ็ดราวที่กินความยาวหลายกิโลเมตร สร้างความวิตกว่าฉลามมาโกอาจล้มตายจำนวนมากเพราะติดแนวดักปลาโดยไม่ตั้งใจ นักวิจัยกำลังศึกษาว่ามีฉลามมาโกถูกจับโดยไม่ตั้งใจมากน้อยแค่ไหน และรอดตายหรือไม่ ก่อนนำข้อมูลไปใช้พิจารณาว่าควรขึ้นบัญชีฉลามมาโกเป็นสัตว์ถูกคุกคามหรือใกล้สูญพันธ์ในน่านน้ำสหรัฐหรือไม่

ปลาฉลามมาโก จัดเป็นปลาฉลามที่มีความปราดเปรียวว่องไว ว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลก โดยทำความเร็วได้ถึง 50-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นผลจากการขยับหางที่เว้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วได้ในช่วงระยะเวลาเสี้ยววินาที เพื่อใช้ในการล่าเหยื่อประเภทต่าง ๆ เช่น โลมา, แมวน้ำ หรือเต่าทะล จากการจู่โจมจากด้านล่าง อีกทั้งยังสามารถกระโดดได้พ้นน้ำได้สูงถึง 9 เมตรอีกด้วย


https://www.komchadluek.net/news/foreign/465638

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 04-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


สุดประทับใจ! 'ลูกเต่าตนุ'ฟักออกจากไข่ 50 ตัว ปล่อยทะเลคืนสู่ธรรรมชาติ



เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 น.อ.ไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หน.ศคท.จว.ปข.) ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก (ศวบต.) ว่า เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันนี้ พบลูกเต่าตนุฟักออกจากไข่ บริเวณชายหาดวัดถ้ำเขาไม้รวก ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสัตวแพทย์ ศวบต. จึงได้ประสานงาน และให้รายละเอียดเรื่องวิธีการปล่อยลูกเต่าคืนสู่ธรรมชาติอย่างปลอดภัย และการจัดการหลุมไข่เต่าผ่านทางโทรศัพท์ โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ร่วมกับ นายเกริกเกียจ ลาภอาภารัตน์ ประธานองค์กรประมงชุมชนพื้นบ้านโคกตาหอม นายอิทธิพล ยังผ่อง และ น.ส.ศิรประภา เกษมสุข เจ้าของเกษมสุขรีสอร์ท รวมทั้งชาวบ้านตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบหลุมไข่เต่า



พบว่า มีไข่เต่าตนุทั้งหมด 88 ฟอง ลูกเต่าตนุฟัก 50 ตัว ลูกเต่าตนุตาย 1 ตัว ไข่ติดเชื้อรา และเน่าเสีย 26 ฟอง ไข่ยังไม่พร้อมฟัก 11 ฟอง ได้ฝังกลบไว้ในหลุมตามเดิม โดยได้ปล่อยลูกเต่าตนุกลับคืนสู่ทะเล จำนวน 50 ตัว ซึ่งเป็นภาพที่สุดประทับใจเป็นอย่างยิ่ง


https://www.naewna.com/local/570365

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:03


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger