#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 3 - 5 ส.ค. 65 ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 6 ? 8 ส.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7 ? 8 ส.ค. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 10-11 ส.ค. 65 ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
ลูกเต่าแรกเกิดในฟลอริดาส่วนใหญ่เป็นตัวเมีย เพราะอากาศที่ร้อนกว่าเดิม เต่าทะเลในรัฐฟลอริดา กำลังประสบปัญหาความไม่สมดุลทางเพศ ซึ่งเลวร้ายลงเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยคลื่นความร้อนในช่วงที่ผ่านมาทำให้ทรายบนชายหาดบางแห่งร้อนมาก จนลูกเต่าเกิดใหม่เป็นเพศเมียเกือบทุกตัว เครดิตภาพ : REUTERS สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองมาราธอน รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่า นางเบตตี ซีร์เคลบัค ผู้จัดการโรงพยาบาลเต่า "เทอร์เทิล ฮอสพิทอล" ในเมืองมาราธอน บนฟลอริดาคีย์ส กลุ่มหมู่เกาะเขตร้อนทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวคือ ช่วงฤดูร้อนของ 4 ปีล่าสุด ร้อนระอุที่สุดเป็นประวัติการณ์ "นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาตัวอ่อนและไข่ของเต่าทะเลพบว่า ไม่มีเต่าทะเลเพศผู้ และมีเพียงเต่าทะเลเพศเมียตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา" ซีร์เคลบัค กล่าว เมื่อเต่าตัวเมียทำรังบนชายหาด อุณหภูมิของทรายจะเป็นตัวกำหนดเพศของลูกเต่า ทั้งนี้ ซีร์เคลบัคกล่าวเสริมว่า ผลการศึกษาของออสเตรเลียแสดงถึงสถิติที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ "ลูกเต่าทะเลเกิดใหม่ในสัดส่วน 99% เป็นเพศเมีย" นอกจากนี้ ข้อมูลขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (โนอา) ยังระบุว่า เพศของเต่าทะเลและจระเข้น้ำจืด จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของไข่ที่กำลังเจริญพันธุ์ แทนการกำหนดเพศในระหว่างการปฏิสนธิ หากไข่เต่าฟักตัวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 27.7 องศาเซลเซียส ลูกเต่าจะเป็นตัวผู้ แต่ถ้าฟักตัวที่อุณหภูมิสูงกว่า 31 องศาเซลเซียส ลูกเต่าจะเป็นตัวเมีย "ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นจำนวนประชากรเต่าทะเลที่ลดลงอย่างมาก เพราะพวกเราไม่มีความหลากหลายทางพันธุกรรม" นางเมลิสซา โรซาเลส โรดริเกซ เจ้าหน้าที่ดูแลเต่าทะเล จากโรงพยาบาลเต่าที่เพิ่งเปิดบริการในสวนสัตว์ไมอามี กล่าว "เราไม่มีอัตราส่วนระหว่างเต่าตัวผู้ต่อเต่าตัวเมียตามที่ต้องการ เพื่อให้สามารถผสมพันธุ์พวกมันได้สำเร็จ". https://www.dailynews.co.th/news/1316294/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
งานเข้า! 'น้องอุ้ม' อินฟลูฯจีน จ่อคุก 10 ปี หลังโชว์กินฉลามขาวสุดพิสดารจนได้เรื่อง สำนักข่าวจีนรายงาน กรณีถีจื่อหรือที่คนไทยรู้จักกันในนามว่า น้องอุ้ม อินฟลูเอนเซอร์สาวสายกินคนดัง ซึ่งเคยทานอาหารแปลก ๆ หายาก เช่น ซาลาแมนเดอร์ จระเข้ นกยูง และนกกระจอกเทศ ต่อมาได้โพสต์คลิปทานฉลามพันธุ์หนึ่งในโต่วอิน ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน โดยแบ่งเป็นส่วนหัวปรุงเป็นซุปฉลามหม่าล่า กับส่วนหางนำไปย่างกับเครื่องเทศพริกเกลือ พร้อมระบุว่า ฉลามเลี้ยงที่สามารถรับประทานได้ ทำให้เกิดกระแสดราม่าจนสมาคมผู้ประกอบการด้านสัตว์น้ำแห่งประเทศจีน ออกมาแถลงว่าฉลามดังกล่าวมีลักษณะคล้ายฉลามขาว ที่ใกล้สูญพันธุ์ในระดับนานาชาติและเป็นสัตว์เทียบเท่ากับสัตว์คุ้มครองประเภทที่ 2 ของประเทศจีน เจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตอาหารทะเลยังชี้แจงอีกว่าน้องอุ้มเพียงยืมสถานที่เท่านั้น ทางตลาดไม่ได้จำหน่ายฉลามแต่อย่างใด ทางบริษัทออกมายืนยันกับสื่ออย่างเสียงแข็งว่า ปลาฉลามในคลิปไม่ใช่ฉลามขาว แต่เป็นฉลามพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่สัตว์คุ้มครองและทางบริษัทซื้อขายจากแหล่งที่ได้มาอย่างถูกกฎหมาย พร้อมกำลังปรึกษากับทนายกำลังปรึกษาทนายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง ล่าสุด กรมตำรวจ เมืองหนานชอง มณฑลเสฉวนเปิดเผยผลการสืบสวนพร้อมยืนยัน น้องอุ้มได้ซื้อและทานฉลามขาวจริง ทำให้ตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้บริหารบริษัท น้องอุ้ม และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อมารับทราบข้อหาระหว่างรอการสอบสวนเพิ่มเติมและส่งเรื่องดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวจีนทำการสอบถามทนายจากสำนักงานกฎหมายเจ้อเจียง เบื้องต้นตามกฎหมายจีน ผู้ที่ซื้อขาย บริโภค และครอบครองสัตว์คุ้มครองและสัตว์ป่าสงวนมีแนวโน้มจะถูกตัดสินโทษตามกฎหมายและดำเนินคดีอาญา ตามบทบัญญัติของวรรค 1 ของมาตรา 341 ของกฎหมายอาญาประเทศจีน ใครก็ตามที่ซื้อสัตว์ป่าและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์โดยผิดกฎหมาย ถือเป็นอาชญากรรมในการทำลายสัตว์ป่า โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000 หยวน (ราว 266,361 บาท) หรือถูกคุมขังทางอาญา หากศาลพิจารณาว่าเป็นความผิดขั้นร้ายแรง จำคุก 5 -10 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนหยวน (ราว 532,722 บาท) หรือริบทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม หากผู้กระทำผิดไม่รู้ตัวว่าวัตถุดิบที่ซื้อเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ไม่มีเจตนาทางอาญา และความประมาทไม่ถือเป็นอาชญากรรม อีกทั้งทนายยังกล่าวอีกว่า "มูลค่าโดยรวมของสัตว์ป่าน้ำที่โตเต็มวัยคำนวณโดยการคูณค่าเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องด้วยค่าสัมประสิทธิ์ระดับการป้องกัน ดังนั้นมูลค่าโดยประมาณของปลาฉลามที่โตเต็มวัยจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 หยวน(ราว 532,722 บาท)" พร้อมเน้นย้ำว่าคดีนี้ยังต้องให้ความสนใจกับการสอบสวนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ชาวเน็ตบางคนยังกล่าวว่า ถ้าไม่มีการซื้อ-ขายจะไม่มีการฆ่าสัตว์เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หวังว่าตำรวจจะใช้โอกาสนี้เพื่อขจัดห่วงโซ่อุตสาหกรรมในการค้าขายฉลามขาว ในขณะเดียวกันก็ลงโทษผู้เข้าร่วมทั้งหมดที่ซื้อและขายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างรุนแรง ด้วยวิธีนี้ ประเทศจีนจึงสามารถปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นพื้นฐานได้ https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_7192733
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|