#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง มากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 2 มิ.ย. 65 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 29 ? 30 พ.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3 ? 4 มิ.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 29 - 30 พ.ค. 65 ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 31 พ.ค. - 1 มิ.ย. 65 ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉลับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ทุ่นหุ่นยนต์ลอยน้ำ ปกป้องวาฬจากการถูกเรือชน - วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ มีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ในปี 2019 พวกมันเคยมีจำนวน 366 ตัวและลดลงเหลือ 336 ตัว ในปี 2020 สมาคมวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ บอกว่า นี่เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ - ถิ่นอาศัยของวาฬที่สามารถหนักได้ถึง 60 ตัน คือน่านน้ำที่มีการเดินเรือคับคั่ง จนเรือใหญ่กลายเป็นภัยคุกคามและทำร้ายพวกมันโดยไม่ได้ตั้งใจ - นักวิทยาศาสตร์จึงจับมือกับบริษัทเรือเดินสมุทรเพื่อออกแบบและติดตั้งทุ่นหุ่นยนต์ที่สามารถบอกตำแหน่งวาฬได้แบบเรียลไทม์มากที่สุด เชื่อหรือไม่ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้จำนวนวาฬบางชนิดลดลงอย่างน่าใจหาย จนอยู่ในระดับเฝ้าระวังการสูญพันธุ์ คือการถูกเรือชน ทำให้สถาบันวิทยาศาสตร์ต้องร่วมมือกับบริษัทเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ในโครงการใช้ทุ่นหุ่นยนต์ลอยน้ำ ทำหน้าที่ปกป้องวาฬจากการถูกเรือชน สถาบันสมุทรศาสตร์ วูดส์โฮล (Woods Hole Oceanographic Institution) ได้พัฒนาเทคโนโลยีการใช้ทุ่นและเครื่องร่อนใต้น้ำเพื่อบันทึกเสียงวาฬแบบเรียลไทม์ มาร์ค บอมการ์ตเนอร์ (Mark Baumgartner) นักนิเวศวิทยาทางทะเล บอกว่า ทุ่นหุ่นยนต์นี้จะส่งข้อมูลตำแหน่งของวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือให้ทั้งนักวิทยาศาสตร์รู้ เช่นเดียวกับเป็นข้อมูลให้เรือเดินสมุทรหลบเลี่ยง เพื่อไม่ให้ไปปะทะกับวาฬขนาดใหญ่ชนิดนี้ วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Right Whale) มีน้ำหนักมากกว่า 60 ตัน นักอนุรักษ์ให้ความสนใจวาฬสายพันธุ์นี้มานาน เนื่องจากพวกมันมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงครึ่งศตวรรษหลัง ไม่นานมานี้ ในปี 2019 พวกมันเคยมีจำนวน 366 ตัว และลดลงเหลือ 336 ตัว ในปี 2020 สมาคมวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ บอกว่า นี่เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ โชคไม่ดี ถิ่นอาศัยของมันคือน่านน้ำที่มีการเดินเรือคับคั่ง จนเรือใหญ่กลายเป็นภัยคุกคามและทำร้ายพวกมันโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ขณะนี้ CMA CGM บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งสัญชาติฝรั่งเศส ทำงานร่วมกับสถาบันวูดส์โฮลในการติดตั้งทุ่นหุ่นยนต์เพื่อบอกตำแหน่งวาฬที่นอกชายฝั่งนอร์ฟอล์ก เวอร์จิเนีย และซาวันนาห์ จอร์เจีย นอกจากนี้ CMA CGM ยังเตรียมให้งบสนับสนุนการติดตั้งทุ่นในพื้นที่อื่นๆ นอกชายฝั่งตะวันออกอีก วาฬไรต์แอตแลนติกเคยมีจำนวนมากนอกชายฝั่งตะวันออก แต่จากยุคของการล่าวาฬเชิงพาณิชย์เพื่อเอาน้ำมัน การใช้อุปกรณ์ทำการประมงผิดกฎหมาย และอุบัติเหตุการถูกเรือชนจนเสียชีวิต ทำให้จำนวนประชากรวาฬลดลงอย่างรวดเร็ว แม้มีความพยายามสร้างพื้นที่คุ้มครองที่มีข้อจำกัดด้านการเดินเรือขนส่ง แต่ทะเลเป็นพื้นที่เปิด ไม่มีใครสามารถกักบริเวณวาฬให้อยู่เฉพาะที่ได้ การบันทึกเสียงวาฬไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความใหม่ที่อยู่ในทุ่นหุ่นยนต์นี้คือการให้ข้อมูลวาฬค่อนข้างเรียลไทม์ โดยข้อมูลนี้ตำแหน่งวาฬจะพร้อมใช้ทุก 2 ชั่วโมง โดยข้อมูลชุดนี้จะใช้เพื่อกำหนดเขตวาฬไรต์ ซึ่งผู้เดินเรือจะต้องลดความเร็วลงเหลือประมาณไม่ถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไดแอนน์ บอร์กการ์ด (Diane Borggaard) และ เจเนวีฟ เดวิส (Genevieve Davis) สองนักวิทยาศาสตร์จาก องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration: NOAA) หน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า ข้อมูลจากทุ่นหุ่นยนต์ "ช่วยให้เราสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้เดินเรือได้อย่างรวดเร็ว เพื่อชะลอความเร็ว หรือหลีกเลี่ยงพื้นที่ ลดความเสี่ยงที่เรือจะพุ่งชนวาฬ ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อประชากรวาฬที่ใกล้สูญพันธุ์" นอกจากวาฬไรต์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่แห่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ กลุ่มอนุรักษ์และนักวิชาการยังเตรียมใช้ข้อมูลที่รวบรวมโดยทุ่นหุ่นยนต์ไปใช้กับวาฬสายพันธุ์อื่นๆ ในน่านน้ำอื่นๆ อีกด้วย https://plus.thairath.co.th/topic/futurism/101578
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|