![]() |
#1
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ประเทศไทยมีปริมาณฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ก.ค. 62 ประเทศไทยมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 12 ก.ค. 62 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมทะเลอันดามันมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตรตลอดช่วง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 8? 12 ก.ค. 62 ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
"แก่งกระจาน" ฝ่าปมชาติพันธุ์ ลุ้นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย ![]() คนไทยทั้งประเทศต้องลุ้นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะผ่านพิจารณาหรือไม่? ในการขึ้นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติประจำปี 2562 ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมพิจารณารอบ 2 ในกรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 6 ก.ค. หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและไม่สนับสนุน โดยฝ่ายสนับสนุนมี 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย จีน บราซิล และคิวบา ส่วนออสเตรเลีย และนอร์เวย์ แสดงความกังวลปัญหาสิทธิมนุษยชนของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่ จึงให้ตั้งคณะทำงานหารือของคณะกรรมการรัฐภาคีสมาชิกอนุสัญญาฯ จำนวน 6 ประเทศจาก 21 ประเทศ ประกอบด้วยอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย นอร์เวย์ คิวบา ตูนิเซีย และคูเวต ไปหาข้อสรุปกลับมาเสนอที่ประชุมใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ระหว่างการประชุมเวทีย่อย ทางด้านตัวแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยนางสุนีย์ ศักดิ์เสือ ผู้อำนวยการส่วนมรดกโลกทางธรรมชาติ กองการต่างประเทศ ได้นำเสนอความก้าวหน้าของประเทศไทย ในการแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงผิดกฎหมาย ที่เกิดขึ้นในมรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ในช่วงปี 2557 ถึงปัจจุบัน รวมถึงการใช้มาตรการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ส่งผลให้สถิติคดีเกี่ยวกับไม้พะยูงลดลงอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการฟื้นตัวของถิ่นอาศัยและประชากรสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือโคร่ง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศ ทั้งนี้ปัจจุบันมีแหล่งมรดกโลกอยู่ 1,092 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นทางวัฒนธรรม 800 กว่าแห่ง และทางธรรมชาติ 209 แห่ง โดยมีแหล่งมรดกโลกที่ถูกถอดถอนแล้ว 2 แห่ง ส่วนประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ 2 แห่ง เริ่มจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ได้รับการประกาศเมื่อปี 2534 ภายหลังสืบ นาคะเสถียร เสียชีวิตไปได้ 1 ปี ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นผลักดันนำเสนอขึ้นมา จากนั้นในปี 2540 ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ผลักดันอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า กระทั่งเพิ่มเติมเป็นกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติปางสีดา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ รวม 5 พื้นที่ จนในที่สุดได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแหล่งที่ 2 ของไทยในปี 2548 ล่าสุดในปี 2562 ต้องมาลุ้นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พื้นที่ครอบคลุม อ.หนองหญ้าปล้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะได้รับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแหล่งที่ 3 ของไทยหรือไม่? ภายหลังมีความพยายามผลักดันมานานหลายปี โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นกลุ่มชาติพันธ์ุ และการปักปันเขตแดนกับเมียนมา ซึ่งสิ่งสำคัญชุมชนในพื้นที่ต้องเห็นด้วยในการเข้ามามีส่วนร่วม จะต้องไม่มองข้ามผู้คนในพื้นที่ ก่อนได้รับการพิจารณาขึ้นเป็นมรดกโลก อย่างมีศักดิ์มีศรี มีรายงานล่าสุดจากการประชุมขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปไปในทางใดทางหนึ่งแต่อย่างใด คาดช่วงหัวค่ำตามเวลาท้องถิ่นของสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน จะทราบผล. https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1608661
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
ตลาดวาฬญี่ปุ่นคึกคักหลังกลับมาล่าอย่างเปิดเผย บรรยากาศของการประมูลเนื้อวาฬและรายการอาหารจากเนื้อวาฬกลับมาเป็นกระแสในญี่ปุ่นอย่างคึกคัก หลังรัฐบาลลาออกจากการเป็นสมาชิกคณะกรรมการล่าวาฬระหว่างประเทศ และกลับมาล่าวาฬในเขตน่านน้ำของตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ ![]() เครดิตภาพ : AFP,AP สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ว่าตลาดค้าส่งปลาทั่วญี่ปุ่นจัดการประมูลเนื้อวาฬกันอย่างคึกคัก นับตั้งแต่ญี่ปุ่นกลับมาออกเรือล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์ ในเขตน่านน้ำของตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาโดยรัฐบาลโตเกียวลาออกจากการเป็นสมาชิกคณะกรรมการล่าวาฬระหว่างประเทศ ( ไอดับเบิลยูซี ) เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว และตั้งเป้าการล่าวาฬไว้ถึง 227 ตัวจนหมดฤดูกาลช่วงสิ้นปีนี้ โดยแบ่งเป็นวาฬบรูด้ามากถึง 150 ตัว ส่วนที่เหลือเป็นวาฬมิงค์ 52 ตัว และวาฬเซย์ 25 ตัว ![]() ทั้งนี้ ในการประมูลเนื้อวาฬที่ตลาดค้าส่งปลาในเมืองเซนได ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อวันศุกร์ โดยได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 15,000 เยน ( ราว 4,257.29 บาท ) ซึ่งถือเป็น "ราคาเฉลิมฉลอง" ต้อนรับการกลับมาล่าวาฬเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ ขณะที่บรรยากาศที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ซึ่งเจ้าของคือเชฟมิตสึโอะ ทานิ วัย 64 ปี ซึ่งมีประสบการณ์ในการปรุงอาหารจากเนื้อวาฬมานานถึง 24 ปี กล่าวว่าตอนนี้อาหารขายดีที่สุดในร้านคือเซตอาหารกลางวันสเต็กเนื้อวาฬราคา 980 เยน ( ราว 278.14 บาท )? ที่ประกอบด้วยเนื้อวาฬชุบแป้งทอด รับประทานคู่กับข้าวสวย สลัด และซุปมิโสะ พร้อมเครื่องดื่มเป็นชาเขียวร้อนหรือเย็น นอกจากนี้ยังมีซาชิมิวาฬ ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการรับทานส่วนเนื้อ หนังหรือตับวาฬ ![]() อนึ่ง ญี่ปุ่นถือว่าการล่าวาฬคือ "กิจกรรมประจำปี" ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมานานหลายศตวรรษ และอาหารจากวาฬถือเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ แะสะท้อนภูมิปัญญาของชนในชาติ ซึ่งเชฟทานีกล่าวด้วยว่า สำหรับเขาแล้วถือว่าชนชาติใดที่ไม่รักษาวัฒนธรรมอาหารของตัวเองไม่ต่างอะไรกับการไม่มีอนาคต. https://www.dailynews.co.th/foreign/718845
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ชื่นใจ! ชาวบ้านพบเต่ามะเฟืองกลางอ่าวไทย ดร.ธรณ์ แนะ ชาวประมงหากพบต้องรีบปล่อยคืนทะเล เผยคลิป เต่ามะเฟืองกำลังกินแมงกะพรุนกลางทะเลอ่าวไทย ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เผย ควรรักษาความสะอาดหากมีถุงพลาสติกเป็นขยะในทะเลมาก เต่ามะเฟืองเผลอกินเข้าไปอาจส่งผลกระทบได้ พร้อมแนะชาวประมงหากพบติดอวนต้องรีบปล่อยคืนสู่ทะเล ![]() วันนี้ (6 ก.ค.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat"หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แชร์คลิปวิดีโอจากเฟซบุ๊ก "ไต๋ช้าง บางปูปราณ" ซึ่งเป็นคลิปขณะเต่ามะเฟืองปรากฎตัวในทะเลอ่าวไทย กำลังกินแมงกะพรุน โดยทาง ดร.ธรณ์ เผยว่า รายงานเต่ามะเฟืองล่าสุด คือแม่เต่าขึ้นมาวางไข่ที่พังงา เมื่อปีที่แล้ว หลังจากไม่มีรายงานมา 5 ปี ครั้งนี้เป็นเต่ามะเฟืองในอ่าวไทย ถือเป็นรายงานแรกในรอบหลายปี เต่ามะเฟืองแทบไม่มีรายงานการพบเห็นหรือวางไข่ในอ่าวไทย อาจมีเมื่อนานมาแล้ว จนไม่มีบันทึกไว้ชัดเจน ดูจากขนาดแล้ว น่าจะเป็นเต่าเข้าวัยผสมพันธุ์แล้ว ยาวเมตรเศษ ซึ่งเต่ามะเฟืองเป็นเต่าใหญ่ที่สุดในโลก ยาวได้เกิน 3 เมตร การดูแลทะเลที่ดีขึ้น การดูแลเรื่องการประมงให้เหมาะสม การเริ่มหันมาดูแลขยะทะเลอย่างจริงจัง ฯลฯ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราพบสัตว์หายากหลายชนิดตั้งแต่ต้นปี เช่น วาฬนำร่อง วาฬเพชฌฆาตเทียม ฯลฯ แต่ไม่มีรายใดสุดๆ เท่าเต่ามะเฟือง ในอ่าวไทย คลิปนี้แสดงให้เห็นชัดเลยว่า เต่ากำลังกินแมงกะพรุน อย่างที่เคยบอกไว้ เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุนเป็นอาหารหลัก หากมีถุงพลาสติกเป็นขยะทะเลมาก เต่ามะเฟืองเผลอกินเข้าไปมีปัญหาแน่ เพราะฉะนั้น อยากช่วยเต่าสุดหายากรายนี้และเพื่อนๆ ช่วยกันลดขยะพลาสติกให้มากที่สุด นอกจากนี้ เมื่อเต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวนแล้ว ตามกม.ต้องดูแลไม่ให้เป็นอันตราย เมื่อขยะทะเลเป็นภัยคุกคามเต่ามะเฟืองโดยตรง หน่วยงานภาครัฐคงต้องเร่งหาทางออกมาตรการอย่างแข็งขันเต็มร้อย ปัจจุบัน เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวนตามพรบ.ใหม่ครับ ฝากพี่ๆ ชาวประมงแถวนั้น ระวังกันไว้นิด หากติดอวนรีบปล่อยเลยนะฮะ แล้วรบกวนรายงานกรมทะเล ฯลฯ การติดโดยบังเอิญแล้วรีบปล่อย ไม่ถือเป็นการทำผิดครับ การรายงานยังมีประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งต่อการศึกษาและการระมัดระวังช่วยกันดูแล ขอบคุณเจ้าของคลิป โชคดีจริงจัง เฮงๆ แน่นอน ถือเป็นรายงานที่มีคุณค่ามาก นอกจากเป็นครั้งแรกในอ่าวไทยในรอบหลายปีจนจำไม่ได้ ยังเป็นการเจอกลางทะเลที่ปรกติแทบไม่มีโอกาส แม้แต่ในเมืองนอกก็ยังยากมาก สงสัยเธอมาฉลองได้เป็นสัตว์สงวน แล้วมาบ่อยๆ นะจ๊ะ ชวนเพื่อนมาด้วย มาวางไข่ยิ่งดีใหญ่เลย เราจะช่วยกันดูแล https://mgronline.com/onlinesection/.../9620000064332 ********************************************************************************************************************************************************* หาดูยาก! หนุ่มโพสต์คลิปโลมาสีชมพูเกือบ 100 ตัว ว่ายทักทายกลางทะเลม่วงงาม ฝูงปลาโลมาจำนวนมากแหวกว่ายทักทายชาวประมง ทะเลม่วงงาม จ.สงขลา ผู้โพสต์ระบุเป็นภาพปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากยิ่ง ![]() เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "สงสัย หัยถาม" ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 4 นาที พร้อมกับระบุข้อความว่า "ฝูงโลมาเกือบร้อยตัวครับ ทะเลม่วงงามบ้านเรา" โดยภายในคลิปวิดีโอจะเผยให้เห็นฝูงปลาโลมา คาดว่าเป็นปลาโลมาสีชมพูจำนวนมากกำลังว่ายน้ำภายในทะเลม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ถือเป็นเหตุการณ์ที่หาดูได้ยาก โลมาสีชมพู หรือปลาโลมาเผือกหลังโหนก มีรูปร่างยาว ปากผอมยาว ยิ่งอายุมากปากจะจางลงเรื่อยๆ โคนครีบหลังเป็นฐานกว้างโค้งลงด้านหลัง บางครั้งอาจมีฐานครีบกว้างถึงหนึ่งในสามของความยาวลำตัว มีอายุประมาณ 40-50 ปี ชอบอาศัยตามชายฝั่งปากแม่น้ำตลอดอ่าวขนอม ลักษณะเด่นของโลมาชนิดนี้คือ การมีสีเฉพาะตัว ในตอนเกิดมีสีเทาเหมือนโลมาทั่วไป แต่เมื่ออายุมากเม็ดเลือดกระจายมาชิดผิวหนังมากขึ้นจึงทำให้เห็นเป็นสีชมพู อาหารส่วนใหญ่ ได้แก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก มีการวิเคราะห์กันว่าสาเหตุที่พบโลมาชนิดนี้ในอ่าวขนอม เนื่องจากต้องการหลบมรสุมจากพื้นที่อื่นมาสู่บริเวณที่มีคลื่นลมสงบกว่า และต้องการติดตามกลุ่มอาหาร ได้แก่ ปลากด หรือปลาดุกทะเล อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังจะพบว่ามีสัตว์ทะเลจำนวนมากเสียชีวิตกลางทะเลจากการกินถุงพลาสติก จึงทำให้มีนักวิชาการและเจ้าหน้าที่จากภาครัฐร่วมกันรณรงค์ในการลดใช้ถุงพลาสติก จากสถิติการเสียชีวิตของสัตว์ทะเล ระหว่างปี พ.ศ. 2558-2560 พบเต่าทะเล โลมา วาฬ พะยูน 1,257 ตัว เฉลี่ยปีละ 419 ตัว แบ่งเป็นเต่าทะเล 57% โลมาและวาฬ 38% และพะยูน 5% เเน่นอนว่าสาเหตุที่โลมาเกยตื้นหรือเสียชีวิตนั่นเกิดมาจากสภาพเเวดล้อมของธรรมชาติ เครื่องมือประมงเเละขยะในทะเล https://mgronline.com/onlinesection/.../9620000064373
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก บ้านเมือง
นักอนุรักษ์เฮ! พบเต่ามะเฟือง หากินในทะเลอ่าวไทยที่ประจวบฯในรอบ 20 ปี ![]() วันที่ 6 กรกฎาคม 62 นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก. นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดัง เปิดเผยว่า จากรณีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก "ไต๋ช้าง บางปูปราณ" โพสต์ภาพ เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุนตามธรรมชาติในทะเลอ่าวไทยพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มนักวิชาการและนักอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธ์ เนื่องจากปกติจะพบเพียงซากเต่ามะเฟืองหรือพบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดที่ จ.พังงาเมื่อปี 2561 หลังจากไม่มีรายงานนาน 5 ปี ขณะที่ทะเลอ่าวไทยไม่มีรายงานว่าพบเต่ามะเฟืองในธรรมชาติอย่างน้อยนานกว่า 20 ปี "ครั้งนี้เป็นเต่ามะเฟืองในอ่าวไทย ถือเป็นรายงานแรกในรอบนานมาก เต่ามะเฟืองแทบไม่มีรายงานการพบเห็นหรือวางไข่ในอ่าวไทย ดูจากขนาดแล้วจะเป็นเต่าเข้าวัยผสมพันธุ์ยาวเมตรเศษ สำหรับเต่ามะเฟืองเป็นเต่าใหญ่ที่สุดในโลก ยาวได้เกิน 3 เมตร จากการดูแลทะเลที่ดีมากขึ้น การดูแลเรื่องการประมงให้เหมาะสม การดูแลขยะทะเลอย่างจริงจัง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พบสัตว์หายากหลายชนิดตั้งแต่ต้นปี เช่น วาฬนำร่อง วาฬเพชฌฆาตเทียม แต่ไม่มีรายใดสุดๆเท่าเต่ามะเฟืองในอ่าวไทย และในคลิปพบว่าเต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุนเป็นอาหารหลัก หากมีถุงพลาสติกเป็นขยะทะเลมากขึ้น หากเต่ามะเฟืองกินเข้าไปก็จะมีปัญหาปัจจุบันเต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวนตาม พ.ร.บ.ฉบับใหม่ หากชาวประมงที่ จ.ประจวบฯ พบเห็นควรแจ้งเจ้าหน้าที่กรมประมง หากพบติดอวนรีบปล่อยทันที จะไม่ถือว่าเป็นการกระทำความผิด ส่วนตัวขอขอบคุณเจ้าของคลิป เพราะถือเป็นรายงานที่มีคุณค่ามาก นอกจากเป็นครั้งแรกในอ่าวไทยในรอบหลายปีจนจำไม่ได้ ยังเป็นการเจอกลางทะเลที่ปกติแทบไม่มีโอกาส แม้แต่ในต่างประเทยังหายากมาก" นายธรณ์ กล่าว ด้านนายพิษณุพงษ์ เหล่าลาภผล แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ทะเลและชายหาดปากน้ำปราณ จ.ประจวบฯ กล่าวว่า พิกัดที่พบเต่ามะเฟืองอยู่บริเวณแนวปะการัง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 ไมล์ทะเลในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกสำรวจเพื่อติดตามการหากินในธรรมชาติแล้วโดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เจ้าหน้าที่อุทยานเขาสามร้อยยอดดูแลอย่างใกล้ชิด. ขอบคุณคลิปภาพจากเฟซบุ๊ก "ไต๋ช้าง บางปูปราณ" https://www.banmuang.co.th/news/region/156273
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
โลมาเกือบร้อยตัวเล่นน้ำโชว์ในทะเลสาบสงขลา สงขลา 6 ก.ค.- โลมาฝูงใหญ่นับร้อยตัวกระโดดเล่นน้ำกลางทะเลสาบสงขลา บางกลุ่มมาเล่นกับเรือให้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "สงสัย หัยถาม" ได้โพสต์ภาพวีดีโอ ความยาว 4.19 นาที เป็นภาพฝูงโลมาทั้งขนาดใหญ่และเล็ก กระโดดเล่นน้ำกลางทะเลอย่างสวยงามและยังมีบางกลุ่มที่มาเล่นกับเรือ ให้ได้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด นายอานันท์ สิงหาด ผู้ถ่ายคลิปนี้เล่าว่า ขณะออกเรือประมงตามปกติ ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 35 ไมล์ทะเล และในช่วงขากลับได้พบกับภาพตื่นตาตื่นใจ มีฝูงโลมา ที่คาดว่าเป็นร้อยตัว กระโดดเล่นน้ำโชว์ความน่ารัก และเหมือนล้อมวงเพื่อกินปลาทะเลขนาดเล็กกันอยู่ ซึ่งตามปกติทะเลในพื้นที่นี้ก็มักจะมีผู้พบเห็นโลมา มากระโดดเล่นน้ำกันอยู่ แต่ก็เพียง ครั้งละ 2-3 ตัวเท่านั้น แต่ครั้งนี้พวกตนซึ่งออกประมงกัน 4 คน ได้พบเห็นเป็นฝูงใหญ่ นับร้อยตัวเป็นครั้งแรก เป็นเพราะทะเลแถบนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญขออย่าได้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และร่วมกันอนุรักษ์โลมา และสัตว์น้ำหายากอื่นๆ เอาไว้ ซึ่งพื้นที่ที่พบฝูงโลมาก็เป็นเขตที่ไม่มีการวางเครื่องมือประมง จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบกับวิถีของฝูงโลมา. https://tna.mcot.net/view/5d20cd9ee3f8e40a9d6f23b5
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#7
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
"Law of the Jungle" ขอโทษอย่างเป็นทางการ ปมจับหอยมือเสือ รายการ "Law of the Jungle" ของเกาหลีใต้ ขอโทษอย่างเป็นทางการ ปมจับหอยมือเสือมาประกอบอาหารระหว่างถ่ายทำรายการในเขตอุทยานฯ ประเทศไทย พร้อมลบคลิปวิดีโอตอนดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ออฟฟิเชียลของรายการแล้ว ![]() จากกรณีรายการเกาหลี "Law of the Jungle" ที่ได้มาถ่ายทำในประเทศไทย และออกอากาศทางช่อง SBS เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอี ยอลอึม นักแสดงสาวชาวเกาหลี หนึ่งในผู้ร่วมรายการ ได้จับหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมาประกอบอาหารที่บริเวณเกาะมุก ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากจนนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมาย ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.2562) สำนักข่าวเกาหลีใต้ รายงานว่า ทางรายการ "Law of the Jungle" ได้นำคลิปวิดีโอของรายการขณะจับและนำหอยมือเสือมาประกอบอาหารออกจากช่องทางออนไลน์และหน้าเว็บไซต์ออฟฟิเชียลของรายการแล้ว และทางทีมงานก็ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ ว่า "เราต้องขอโทษเป็นอย่างมากถึงความผิดพลาดในการรับทราบข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีหอยมือเสือในประเทศไทยที่ไม่ครบถ้วน และในอนาคตทางทีมงานจะระมัดระวังการกระทำต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น" ทั้งนี้ รายการ Law of the Jungle ยืนยันว่า ได้รับการอนุญาตให้เข้าถ่ายทำในพื้นที่ โดยได้ให้บริษัทแห่งหนึ่งประสานงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช เพื่อเข้าถ่ายทำในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะแหวน และเกาะมุก ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้อธิบายว่าเป็นการยากที่จะติดตามทีมงานระหว่างถ่ายทำรายการ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะถ่ายทำบริเวณไหนในเขตอุทยานบ้าง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังทีมงานทางเกาหลีเพื่อให้รับทราบถึงการกระทำความผิดและการดำเนินการทางกฎหมายแล้ว https://news.thaipbs.or.th/content/281459
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|