เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5 - 7 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อนถึงร้อนจัด ในช่วงวันที่ 5 ? 8 มี.ค.67

โดยในช่วงวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ชีวิตหมีขั้วโลกเหนือ : บททดสอบแห่งการอยู่รอด

หมีขั้วโลก หรือ หมีขาว (อังกฤษ : polar bear ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Ursus maritimus) สัตว์นักล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนน้ำแข็ง ถูกขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งอาร์กติก"



หมีขั้วโลก หรือ หมีขาว (อังกฤษ : polar bear ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Ursus maritimus) สัตว์นักล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนน้ำแข็ง ถูกขนานนามว่าเป็น ?ราชาแห่งอาร์กติก? อาศัยอยู่ในเขตอาร์กติก บนแผ่นน้ำแข็งทะเลที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน พวกมันมีขนสีขาวหนาเพื่อเก็บกักความร้อน ร่างกายอ้วนกลมช่วยให้ลอยน้ำได้ดี และอุ้งเท้าขนาดใหญ่ช่วยกระจายน้ำหนักบนพื้นน้ำแข็ง สามารถว่ายน้ำได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อวัน เพื่อตามหาอาหารซึ่งอาหารหลักของมันคือแมวน้ำ

ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งทะเลละลาย พื้นที่หากินของมันแคบลงส่งผลต่อจำนวนแมวน้ำทำให้มันขาดแคลนอาหาร ส่งผลให้มันผอมโซ อ่อนแอ ลูกหมีขั้วโลกตายก่อนโตเต็มวัย ตัวเมียไม่มีน้ำนมเพียงพอที่จะเลี้ยงลูก ปัจจุบันประมาณการว่า ประชากรหมีขั้วโลกทั้งหมดทั่วโลกมี 22,000?31,000 ตัว อาศัยอยู่ในโซนประเทศแถบขั้วโลกเหนือ นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ประชากรหมีขั้วโลกจะลดลง 30% ภายในปี 2050 หากอุณหภูมิโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยเหลือหมีขั้วโลก อนาคตของพวกมันจึงขึ้นอยู่ในมือมนุษย์ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้อง ?ราชาแห่งอาร์กติก? ให้ยังคงมีชีวิตอยู่รอดต่อไปบนโลกใบนี้


https://www.dailynews.co.th/articles/3226186/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


เมืองเซี่ยเหมินใช้ "เรือไฟฟ้าไร้คนขับ" ลาดตระเวนพิทักษ์โลมาขาว

เมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เริ่มใช้งานเรือลาดตระเวนไร้คนขับพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี 5จี เพื่อภารกิจคุ้มครองโลมาขาวในจีน



สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า โลมาขาวจีนหรือ ?แพนด้ายักษ์แห่งท้องทะเล? จัดเป็นสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดและสัตว์คุ้มครองระดับสูงสุดของจีน ส่วนเซี่ยเหมินเป็นเมืองแห่งเดียวของจีน ซึ่งประชาชนสามารถพบเห็นโลมาสายพันธุ์ดังกล่าวได้ตามแนวชายฝั่ง

นายหวัง ไห่ลี่ ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการเดินเรือวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน กล่าวว่า เรือไร้คนขับลำนี้มีขนาดเล็ก สามารถลาดตระเวนพื้นที่ตามคำสั่ง เช่น อ่าวถงอัน พื้นที่หลักของเขตอนุรักษ์โลมาขาวในเซี่ยเหมิน

ทั้งนี้ เรือไฟฟ้าสร้างเสียงรบกวนเบามาก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อโลมาขาว รวมถึงสามารถปฏิบัติงานได้ทุกเวลาและท่ามกลางทุกสภาพอากาศ นำไปสู่การคุ้มครองโลมาขาวได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA


https://www.dailynews.co.th/news/3228018/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ช่วยด่วน! ภูเขาไฟระเบิดบน "เกาะกาลาปากอส" ลาวาแดงร้อนไหลท่วมเกาะเสี่ยงต่อชีวิต "เต่ายักษ์กาลาปากอส" ไม่เห็นมานานกว่า 100 ปี



เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ ? ภูเขาไฟลากุมเบร์( La Cumbre )บนหนึ่งในหมู่เกาะกาลาปากอสของเอกวาดอร์เกิดปะทุขึ้นในคืนวันเสาร์(2 มี.ค) ส่งลาวาร้อนแดงฉานไหลท่วมลงทะเล เสี่ยงเป็นภัยต่อเต่ายักษ์กาลาปากอสเพศเมียชื่อ เฟอร์นานดา อาศัยอยู่ตามลำพังพบตั้งแต่ปี 2019 หลังไม่เคยปรากฎมานานกว่า 1 ศตวรรษ

ยูโรนิวส์รายงานวันจันทร์(4 มี.ค)ว่า ภูเขาไฟลากุมเบร์ (La Cumbre) ที่อยู่บนเกาะเฟอร์นานดินา( Fernandina) หนึ่งในหมู่เกาะกาลาปากอสที่มีชื่อเสียงของเอกวาดอร์เกิดปะทุในคืนวันเสาร์(2) ลาวาแดงฉานพุ่งขึ้นฟ้าทำสว่างจ้าไปทั่วระหว่างที่ลำธารลาวาร้อนไหลมุ่งหน้าลงทะเล

เกาะเฟอร์นานดินาเป็นบ้านของเต่ายักษ์ปาลาปากอสเพศเมียชื่อ เฟอร์นานดา(Fernanda)ที่ค้นพบเมื่อปี 2019 ในบริเวณที่มีพืชขึ้นอยู่ใต้ภูเขาไฟ เต่าเฟอร์นานดาหรือชื่อย่อคือ "เฟิร์น" ตามการรายงานพบว่าอาศัยอยู่บนเกาะตามลำพังตัวเดียว

เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ถึงแม้ว่าการระเบิดของภูเขาจะไม่ทำให้มนุษย์ตกอยู่ในอันตรายเพราะเป็นเกาะที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ทว่าเกาะที่ว่านี้กลับเป็นที่อยู่ของสัตว์นานาพันธุ์รวมไปถึง อิกัวนา เพนกวิน และนกกาน้ำที่บินไม่ได้

ในปี 2019 บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างตื่นเต้นที่ค้นพบว่าบนเกาะกลับมีเต่ายักษ์กาลาปากอสที่ไม่ได้พบเห็นนานกว่า 100 ปี หรือเป็นการพบครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1906 และเกรงว่าอาจสูญพันธุ์

เจ้าหน้าที่สถาบันธรณีฟิสิกส์ของเอกวาดอร์เปิดเผยว่า การปะทุล่าสุดนี้อาจเป็นการปะทุครั้งใหญ่ที่สุดของภูเขาไฟลากุมเบร์ นับตั้งแต่ปี 2017

ลากุมเบร์มีความสูง 1,476 เมตรถือเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่คุกรุ่นมากที่สุดของหมู่เกาะกาลาปากอสและเกิดปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2020


https://mgronline.com/around/detail/...19698?tbref=hp

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


"พาณิชย์" ขึ้นทะเบียน GI รายการใหม่ "ปลิงทะเลเกาะยาว" จ.พังงา



กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ "ปลิงทะเลเกาะยาว" จ.พังงา เป็นสินค้ารายการที่ 4 ของจังหวัด เผยเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งการบริโภค และเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาและอาหารเสริม คาดดันรายได้ให้ชุมชนเพิ่มขึ้นจากปกติปีละกว่า 3.3 ล้านบาท

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ ปลิงทะเลเกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นสินค้า GI ลำดับ 4 ของจังหวัด ต่อจากสินค้าทุเรียนสาลิกาพังงา ข้าวไร่ดอกข่าพังงา และมังคุดทิพย์พังงา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีมูลค่าประมาณปีละ 3.3 ล้านบาท และยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค

สำหรับปลิงทะเลเกาะยาว จะเพาะเลี้ยงในบ่อดินที่มีลักษณะเป็นดินเลนปนทราย โดยมีการทำประตูน้ำหรือต่อท่อน้ำให้น้ำทะเลไหลเข้าออกหมุนเวียนในบ่อได้ พื้นที่เพาะเลี้ยงปลิงทะเลเกาะยาวครอบคลุมพื้นที่อำเภอเกาะยาวที่ตั้งอยู่ในอ่าวพังงา ซึ่งเป็นอ่าวกึ่งปิด เพราะถูกล้อมรอบด้วยแผ่นดิน มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีแนวหญ้าทะเล และแนวปะการังกระจายตัวอยู่ทั่วไป ที่มีความหลากหลายของแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ สาหร่าย และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ

พื้นที่เพาะเลี้ยงบริเวณเกาะยาวจึงเป็นแหล่งอาศัยที่เหมาะสมและเป็นแหล่งอาหารคุณภาพดี ประกอบกับการเลี้ยงปลิงทะเลรวมกับสัตว์น้ำเศรษฐกิจอื่นๆ ทำให้ปลิงทะเลดูดกินอาหารจากหน้าดินในบ่อ รวมถึงอาหารและของเสียจากการเลี้ยงสัตว์น้ำ

นอกจากนี้ ปลิงทะเลที่เลี้ยงในบ่อจะอาศัยบริเวณก้นบ่อ ไม่เคลื่อนไหวร่างกายมากเท่ากับปลิงที่อยู่ในทะเล จึงไม่เกิดภาวะเครียดที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทำให้ปลิงทะเลเกาะยาวมีขนาดตัวใหญ่ เนื้อแน่น และตัวหนากว่าปลิงทะเลที่เลี้ยงด้วยวิธีอื่นๆ หรือจากแหล่งผลิตอื่น ส่งผลให้ปลิงทะเลเกาะยาวเป็นที่รู้จัก จนนับได้ว่า ปลิงทะเลเกาะยาว เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดพังงา ที่นำมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริโภคและเป็นวัตถุดิบในการผลิตยาและอาหารเสริม มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นที่ต้องการของหลายประเทศทั้งแบบสดและแบบแห้ง

ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่าสร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือโทร.สายด่วน 1368


https://mgronline.com/business/detail/9670000019527

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 05-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,310
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


รายงานเตือนสายพันธุ์ปลา 1 ใน 5 ของแม่น้ำโขงเสี่ยงสูญพันธุ์



เอเอฟพี - รายงานฉบับใหม่จากกลุ่มสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ระบุว่า สายพันธุ์ปลา 1 ใน 5 ในลุ่มแม่น้ำโขงเผชิญกับภัยคุกคามต่อการสูญพันธุ์

แม่น้ำโขงเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก ที่เป็นรองเพียงแค่แม่น้ำแอมะซอนและแม่น้ำคองโก เป็นที่อยู่อาศัยของปลาราว 1,148 สายพันธุ์ โดยผู้คนหลายล้านชีวิตพึ่งพาแหล่งน้ำแห่งนี้เพื่อเลี้ยงชีพ

แต่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ปลาในลุ่มน้ำโขงเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย ที่รวมถึงการสร้างเขื่อน การทำเหมืองขุดทราย การทำประมงที่จัดการไม่ดี การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย และการนำสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามาในพื้นที่

รายงานระบุว่า 19% ของสายพันธุ์ปลาในแม่น้ำถูกคุกคามอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเน้นย้ำว่าจำนวนปลาที่ลดน้อยลงจะส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านที่การดำรงชีวิตต้องพึ่งพาแม่น้ำสายนี้อย่างไร

"การลดลงอย่างน่าตกใจของประชากรปลาในแม่น้ำโขงเป็นการปลุกกระตุ้นให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เราต้องดำเนินการทันทีเพื่อหยุดยั้งแนวโน้มหายนะนี้ เนื่องจากชุมชนและประเทศต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขงไม่สามารถสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไปได้" ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ WWF กล่าว

รายงานจากกลุ่มภูมิภาคและระหว่างประเทศ 25 กลุ่ม ได้ตรวจสอบผลกระทบในส่วนต่างๆ ของแม่น้ำความยาว 4,900 กิโลเมตร ที่เป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงทะเลสาบโตนเลสาบของกัมพูชา ที่พวกเขากล่าวว่าประชากรปลาลดลง 88% ระหว่างปี 2546 และปี 2562

ผู้เขียนรายงานระบุว่า ปลา 74 สายพันธุ์ได้รับการประเมินว่ามีสถานะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และมี 18 สายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง

"สิ่งนี้หมายความว่าประมาณ 19% ของสายพันธุ์ปลาแม่น้ำโขงที่รู้จักกำลังถูกคุกคาม" รายงานระบุ

อย่างไรก็ตาม รายงานยังระบุอีกว่าสายพันธุ์ปลาที่กำลังหายไปอาจทำให้การตัดไม้ทำลายป่าในภูมิภาครุนแรงขึ้น เนื่องจากผู้คนหลายล้านคนที่เคยอาศัยแม่น้ำถูกบังคับให้ต้องไปทำการเกษตร

"เห็นได้ชัดว่าเรากำลังเสี่ยงต่อวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพครั้งใหม่สำหรับลุ่มแม่น้ำโขง แต่ยังไม่สายเกินไป" เฮอร์แมน แวนนิงเกน กรรมการผู้จัดการมูลนิธิ World Fish Migration Foundation ที่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานระบุ

ในข้อเสนอแนะของรายงานได้เรียกร้องให้ประเทศในลุ่มน้ำโขงให้คำมั่นต่อโครงการฟื้นฟูแม่น้ำ และปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศของแม่น้ำ

การเพิ่มการไหลเวียนตามธรรมชาติของแม่น้ำ การปรับปรุงคุณภาพน้ำ การปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยและสายพันธุ์ที่สำคัญ และการขจัดสิ่งกีดขวางแม่น้ำที่ล้าสมัย เป็นหนึ่งใน 6 เสาหลักที่รายงานแนะนำเพื่อช่วยฟื้นฟูแม่น้ำโขง.


https://mgronline.com/indochina/detail/9670000019568

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:46


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger