|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 6-10 มิ.ย. 63 โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 6 - 10 มิ.ย. 63 อนึ่ง ในช่วงวันที่ 6 - 10 มิ.ย. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ทุนมาเฟีย vs ประมงถิ่น "ศึกชิงลูกหอยแครง" อ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ฯ https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000058208 ********************************************************************************************************************************************************* เต่าตนุกลับมาวางไข่ที่ "หาดม่วงงาม" ในรอบ 50 ปีก่อนการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งได้ไม่นาน ศูนย์ข่าวภาคใต้ ? พบเต่าตนุ สัตว์ป่าคุ้มครอง กลับมาวางไข่ที่หาดม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ในรอบ 50 ปี เผยคลิปลูกเต่า 68 ตัวคืนกลับทะเลไทย ติดแฮชแท็ก #saveม่วงงาม #saveหาดม่วงงาม คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tonchirat Songsurin ได้โพสต์คลิประบุว่า เต่าตนุ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้กลับมาวางไข่ที่หาดม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ในรอบ 50 ปี และเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ลูกเต่าตนุจำนวน 68 ตัว กำลังถูกปล่อยลงทะเล พร้อมใส่แฮชแท็ก #saveม่วงงาม #saveหาดม่วงงาม ซึ่งหมายถึงการคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมชายหาดม่วงงาม อ.สิงหนคร ระยะทาง 710 เมตร เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและปรับปรุงภูมิทัศน์ริมชายหาดม่วงงาม ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sayan Thongsri ได้โพสต์เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ว่า เช้าวันนี้ 10 เมษายน 2563 บันทึกไว้ว่า ชายหาดจังหวัดสงขลาได้พบการวางไข่ของเต่าตนุ ณ บริเวณชายหาด หน้าสำนักสงฆ์บ้านในไร่ หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) ม่วงงาม (กะยะห์) ได้รับการแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน นายวรพล ใสสะอาด ได้พบร่องรอยของเต่าขึ้นมาวางไข่ จึงประสานไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เพื่อมาตรวจสอบและให้คำแนะนำในการเฝ้าระวังการฟักไข่ในระยะฟักพบไข่ประมาณ 50-60 ฟอง ด้านเพจ Beach for life ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sayan Thongsri ดังกล่าว โดยระบุว่า "เต่าตนุวางไข่บนชายหาดม่วงงาม ในขณะที่กรมโยธาธิการฯ กำลังเตรียมสร้างกำเเพงกันคลื่นริมชายหาดม่วงงาม" https://mgronline.com/south/detail/9630000058113
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ดินถล่มสูบบ้านหลายหลัง หายลงทะเล นอร์เวย์ไม่เคยเจอใหญ่ขนาดนี้ ดินถล่มสูบบ้านหลายหลัง - ซีเอ็นเอ็น รายงานเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. เกิดดินถล่มไหลลงทะเลสูบเอาบ้านบริเวณนั้นหายวับไปกับตาที่เทศบาลเมืองอัลตา ทางเหนือของประเทศนอร์เวย์ เหตุการณ์ดังกล่าวมีภาพวิดีโอบันทึกไว้ พร้อมกับนายแอนเดอร์ส ยอร์ดัล วิศวกรสำนักงานน้ำและพลังงานนอร์เวย์ที่เล่าเหตุการณ์ที่เห็นกับตาตนเองว่า ดินสไลด์กินพื้นที่ใหญ่มาก ช่วงเวลา 4 โมงเย็นของวันพุธที่ 4 มิ.ย. นายยอร์ดัลได้รับแจ้งจากตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รุดไปดูเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อจะได้แนะนำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ต่อมา เจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย พบว่าดินสไลด์เป็นระยะกว้าง 650 เมตร ลึก 150 เมตร สูบทำลายบ้านเรือน 8 หลัง เคบินสำหรับเป็นที่พักช่วงสุดสัปดาห์อีก 4 ตู้ แต่โชคดีว่า ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะอพยพออกไปทัน นายยอร์ดัล กล่าวว่า เหตุการณ์ดินโคลนถล่มที่กินพื้นที่กว้างขนาดนี้แทบไม่เกิดขึ้นในนอร์เวย์ ปีหรือสองปีจะมีสักครั้ง และสำหรับเทศบาลเมืองอัลตาแล้ว ไม่เคยเกิดใหญ่ขนาดนี้มาก่อน อัลตาเป็นเทศบาลเมืองที่อยู่เหนือสุดของประเทศ มีชื่อเสียงว่าอุดมไปด้วยป่าเขา มีทิวทัศน์ชายฝั่ง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ชมแสงเหนือ จากนี้ไป เจ้าหน้าที่จะจับตาว่าดินจะเคลื่อนตัวอย่างไรในสองสามวันข้างหน้า เช่นเดียวกับทะเล และระดับพื้นทะเล จากนั้นสัปดาห์หน้าจึงจะสำรวจดิน https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_4256537
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
รัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉิน ดีเซล20,000ตันรั่วใกล้อาร์กติกเซอร์เคิล รัสเซียประกาศภาวะฉุกเฉิน ดีเซล20,000ตันรั่วใกล้อาร์กติกเซอร์เคิล เหตุนี้เกิดขึ้น 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ผู้นำรัสเซียเพิ่งได้รับรายงาน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมระดับประเทศที่เมืองโนริลสค์ เมืองเขตอุตสาหกรรมอันห่างไกลในแถบไซบีเรีย หลังได้รับรายงานว่าคลังเก็บน้ำมันดีเซลของบริษัท Norilsk Nickel ผู้ประกอบการเหมืองแร่และโลหะรายใหญ่ของรัสเซีย เกิดพังทลายลงมาเป็นเหตุให้มีน้ำมันดีเซลล็อตใหญ่ไม่น้อยกว่า 20,000 ตัน รั่วไหลลงแม่น้ำใกล้เคียงหลายสายแถบเขตอาร์ตติกเซอร์เคิลส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม่น้ำดังกล่าวมีปลายทางไหลลงทะเลคาราของมหาสมุทร์อาร์กติก รายงานระบุว่า ผู้นำรัสเซียได้ตำหนิผู้บริหารโรงไฟฟ้านี้ รวมถึงหน่วยงานในท้องถิ่นถึงการรับมือที่ล่าช้า เนื่องจากเหตุดังกล่าวคาดว่าเกิดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ผู้นำรัสเซียเพิ่งได้รับรายงานเหตุใน 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ โดยไม่ชัดเจนว่าจะมีการดำเนินคดีต่อผู้บริการดังกล่าวหรือไม่ ภาพจากหน่วยงานท้องถิ่นแสดงให้เห็นสภาพของแม่ในสายสำคัญใกล้เคียง แปรสภาพเป็นสีแดงจากน้ำมันที่รั่ว นาย Yevgeny Zinichyev รัฐมนตรีกระทรวงบริการเหตุฉุกเฉินของรัสเซียกล่าวว่า เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แล้ว 100 คนเพื่อรับมือสถานการณ์ในการกักกันน้ำมันที่รั่วลงแหล่งน้ำ แต่ยอมรับว่าอาจต้องพึ่งการสนับสนุนจากหน่วยงานของกองทัพในการรับมือด้วย เนื่องบริเวณที่ได้รับผลกระทบกินวงกว้างมาก โดยเฉพาะแม่น้ำ Ambarnaya และ Daldykan ซึ่งไหลลงสู่ทะเล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาจต้องใช้สารเร่งปฏิกิริยาให้น้ำมันระเหย แต่สิ่งสำคัญคือการกักกันน้ำมันไม่ให้น้ำมันไหลออกทะเลให้มากที่สุด https://www.posttoday.com/world/625220
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก บ้านเมือง
สลด! โลมาเกยตื้นหาดซันไรซ์ เมืองคอน เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.63 นายสุพงษวิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากโลมาเกยตื้นนอนตาย ริมชายหาดซันไรซ์ พื้นที่หมู 9 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยงานด้านประมงที่เกี่ยวข้องและจนท.กู้ภัยต่างในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบซากโลมาสีดำ ลักษณะโตเต็มวัย ไม่ทราบเพศจำนวน 1 ตัว วัดความความยาวได้ 150 เซนติเมตร น้ำหนัก 33 กิโลกรัม ตรวจสอบบริเวณลำตัวพบว่ามีบาดแผลหลายแห่งคล้ายกับติดอวนดักปลาของชาวประมง เบื้องต้นเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพลำตัวยังไม่เน่าเปื่อย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะนำไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป สอบถามชาวบ้านที่แจ้ง ทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านเห็นโลมาสีดำตัวหนึ่ง แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นตัวเดียวกันหรือไม่ ว่ายเล่นน้ำวนเวียนอยู่ในทะเล ห่างจากริมฝั่งจุดที่พบซากประมาณ 100 เมตร กระทั้งช่วงเย็น มีชาวบ้านพบซากโลมาลอยเกยตื้นตายดังกล่าว https://www.banmuang.co.th/news/region/194794
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ปะการังอ่อน 7 สีฟื้นตัว หลังปิดตะรุเตา 2 เดือน สตูล 4 มิ.ย.- หลังจากปิดการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เจ้าหน้าที่พบว่าทรัพยากรธรรมชาติฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแนวปะการังอ่อน 7 สี และปะการังเขากวาง ที่เจริญเติบโตดี สีสันสวยงาม และเป็นแหล่งอาศัยของฝูงปลาสวยงามที่หาดูยาก นี่เป็นภาพหมู่ปะการังใต้ท้องทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งนักวิทยาศสตร์ทางทะเลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำน้ำลงไปสำรวจสภาพทรัพยากรธรรมชาติ หลังมีคำสั่งให้ปิดแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่าผ่านมา 2 เดือนเศษๆ สภาพทรัพยากรมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะแนวปะการังที่เคยเป็นแหล่งดำน้ำและจุดท่องเที่ยวสำคัญในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีการฟื้นฟูเกือบ 100% นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บอกว่า นับเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจากการสำรวจพบว่าปะการังส่วนใหญ่ได้ฟื้นตัว และกลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มปะการังอ่อน เช่น ปะการังอ่อน 7 สี ซึ่งเป็นปะการังที่มีสีสันสวยงาม อยู่บริเวณร่องน้ำจาบัง เห็นชัดเจนถึงการเจริญเติบโตและเปล่งสีเป็นประกายสายรุ้งงดงาม รวมถึงปะการังเขากวาง ก็กลับมางอกงามสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังพบฝูงปลานานาชนิด โดยเฉพาะปลาสวยงามแหวกว่ายมาอาศัยในหมู่ปะการัง ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่กำลังกลับมาอีกครั้ง และเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในอนาคต อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเตรียมความพร้อม ทั้งปรับปรุงบ้านพัก เส้นทางชมธรรมชาติ และเตรียมจัดระบบการท่องเที่ยวที่เหมาะสม เพื่อให้การท่องเที่ยวหลังจากนี้เป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่คำนึงถึงความปลอดภัย และสอดคล้องกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย. https://www.mcot.net/viewtna/5ed90cbfe3f8e40af9451441 ********************************************************************************************************************************************************* แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟฟอกขาวครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ ออสเตรเลีย 4 มิ.ย.- สภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟในออสเตรเลีย เกิดภาวะปะการังฟอกขาวครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ บรรดานักวิทยาศาสตร์หวั่นจะไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปเหมือนเมื่อ 5 ปีก่อนได้ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาแนวปะการัง มหาวิทยาลัยเจมส์ คุก ในออสเตรเลีย ระบุว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวตามแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟในออสเตรเลีย เป็นครั้งที่ 3 ในช่วง 5 ปี ส่งผลให้บรรดานักวิทยาศาสตร์วิตกว่าแนวปะการังแห่งนี้จะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ แทรี ฮิวส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแนวปะการัง ระบุว่า นับวันปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้นจากปัญหาโลกร้อน และเขามั่นใจว่าสภาพของแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟจะไม่สามารถฟื้นฟูจนกลับไปอยู่ในสภาพเหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 2443 ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำตลอดแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ครอบคลุมพื้นที่ถึง 348,000 ตารางกิโลเมตร ถูกจัดเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2524. https://www.mcot.net/viewtna/5ed90c78e3f8e40af844d395
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|