เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. ? 2 พ.ค. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 1 ? 2 พ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. ? 3 พ.ค. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 1 ? 3 พ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงหนือ และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 30 เม.ย. ? 3 พ.ค. 65 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. ? 3 พ.ค. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. ? 3 พ.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2565)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 28 เมษายน 2565

ในช่วงวันที่ 28 เม.ย. ? 2 พ.ค. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 1 ? 2 พ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงหนือ และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภัยดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


รู้จัก ปูเสฉวน นักทำความสะอาดชายหาดตัวน้อยแห่งทะเลไทย

จากดราม่ายูทูบเบอร์ชื่อดังที่นำปูเสฉวนมาเลี้ยง จนทำให้คนรักสัตว์และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมหลายคนออกมาต่อต้านจนเป็นกระแสในโลกโซเชียล วันนี้เรามาทำความรู้จัก "ปูเสฉวน" ให้มากขึ้น ว่าเจ้าตัวน้อยนี้มีความสำคัญต่อท้องทะเลไทยและระบบนิเวศอย่างไรบ้าง



ปูเสฉวน นักทำความสะอาดชายหาดแห่งท้องทะเลไทย

จำได้ไหมว่า เคยเห็นปูเสฉวนบนชายหาดทั่วไปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20 ปี ที่เราเคยเห็นเจ้าสัตว์ตัวน้อยนี้อยู่บนชายหาดทั่วไปอย่างพัทยา หัวหิน ชะอำ ระยอง แต่ในปัจจุบันเราแทบไม่พบเจอปูเสฉวนบนชายหาดเหล่านั้นแล้ว เว้นเสียแต่ว่าเป็นชายหาดที่เงียบสงบ ยังมีความอุดมสมบูรณ์ และไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เรายังสามารถพบเจอปูเสฉวนได้อยู่

ปูเสฉวน แม้ว่าจะอยู่ในตระกูลเดียวกับปู หรือกุ้ง แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือไม่มีเปลือกแข็งคอยห่อหุ้มป้องกันร่างกาย จึงต้องอาศัยในเปลือกหอยเปล่า โผล่เฉพาะหัวและขา 2 คู่ออกจากเปลือก ส่วนขาอีก 2 คู่ใช้ยึดกับเปลือกหอย ทำหน้าที่เป็นนักทำความสะอาดชายหาด ด้วยการกินซากพืช ซากสัตว์เป็นอาหาร มักอาศัยอยู่ตามหาดทรายชายทะเล บางชนิดอาจอาศัยอยู่ในน้ำลึก แต่บางสกุลก็อาศัยอยู่แต่เฉพาะบนบก

ด้วยเหตุนี้ ปูเสฉวน จึงมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในธรรมชาติเป็นอย่างมาก การที่ปูเสฉวนหายไป หรือสูญพันธุ์ จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร เพราะปูเสฉวนทำหน้าที่เป็นผู้กำจัดซากเน่าเปื่อย แบคทีเรีย และเชื้อโรคตามชายหาด


เปิดสาเหตุ ทำไม ปูเสฉวน จึงหายไป

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ ปูเสฉวน หายไปจากชายหาดทะเลไทย และลดลงอย่างน่าใจหาย ก็เพราะถูกจับไปเลี้ยง หรือจับไปขายทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งความจริงแล้วปูเสฉวนไม่สามารถนำมาเลี้ยง หรือเพาะพันธุ์ได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่บอบบางและมีความซับซ้อนต่อการขยายพันธุ์ อีกทั้งการเติบโตในแต่ละครั้งจะต้องลอกคราบและเปลี่ยนเปลือกหอยใหม่ที่พอดีกับขนาดร่างกาย จึงทำให้การเลี้ยงปูเสฉวนให้อยู่รอดเป็นไปได้ยาก สิ่งที่เหมาะสมที่สุดคือการปล่อยให้อาศัยอยู่ในธรรมชาตินั่นเอง

นอกจากนี้ เรื่องมลภาวะ ธรรมชาติทรุดโทรม มลพิษที่เพิ่มขึ้น น้ำเสีย ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง การสร้างเขื่อนกันคลื่น หรืออื่นๆ ที่ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย ที่อยู่ปูเสฉวนถูกทำลาย สิ่งแวดล้อมแย่ ก็ทำให้ปูเสฉวนหายไปเช่นกัน


กฎหมายคุ้มครอง ปูเสฉวน ยังไม่มี

ด้วยความน่ารักของเจ้าปูเสฉวนจึงทำให้มีการลักลอบจับไปขายเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายหาด ขณะที่ ปูเสฉวน ยังไม่อยู่ในรายชื่อพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 จึงไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย ยกเว้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หากพบว่ามีการจับปูเสฉวนในอุทยานฯ จะมีความผิด จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท

ดังนั้น การอนุรักษ์ปูเสฉวนให้อยู่คู่กับท้องทะเลไทยจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ช่วยกันสอดส่องดูแลและรักษาไม่ให้ปูเสฉวนลดจำนวนลงไปกว่านี้ เพราะการจับมาเลี้ยงก็เหมือนเป็นการฆ่าปูเสฉวนไปแล้ว จากเดิมที่มีอายุตามธรรมชาติได้ 30-60 ปี ก็อาจมีชีวิตเหลือแค่เพียงวันเดียว หรือไม่กี่ปี จากการเลี้ยงที่ไม่ถูกวิธี และไม่ถูกต้องตามธรรมชาติของปูเสฉวน


https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2378806

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


อ.ธรณ์ โพสต์เศร้า เรื่อง บีบหัวใจที่สุด กับ 14 ตัวสุดท้าย โลมาอิรวดีประเทศไทย



วันที่ 27 เมษายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้ช่วยคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ เรื่องน่าตกใจที่หลายคนไม่รู้มาก่อน เรื่องสถานการณ์โลมาอิรวดี ทะเลสาบสงขลา ที่เวลานี้เหลืออยู่เพียง 14 ตัวเท่านั้น เป็น 14 ตัวสุดท้าย ที่เหลืออยู่ในประเทศไทย


โดย เฟซบุ๊ก ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ระบุว่า

โลกนี้มีบางอย่างที่เป็นความหมายของสิ้นหวัง
มีบางเหตุการณ์ทำให้เราเกิดอาการ ?ใจสลาย?
100-86 = 14
สามสิบปี จากร้อยกว่าตัว เหลือเพียงสิบสี่
#14สุดท้าย
เรื่องราวต่อจากนี้คือบันทึกถึงความสิ้นหวังสูงสุดของการอนุรักษ์สัตว์น้ำหายากของไทย
สิบสี่สุดท้ายแห่งทะเลสาบสงขลา
????
โลกนี้มีโลมาอิรวดีอยู่ในน้ำจืดเพียง 5 แห่ง
อินเดีย 140+ อินโด 90 เมียนมา 80 กัมพูชา 90
ไทย = 14
ทะเลสาบสงขลาคือสถานที่แห่งแรกในโลกที่โลมาอิรวดีในน้ำจืดจะสูญพันธุ์
มันไม่มีอะไรจะเถียงได้ด้วยตัวเลขที่เห็น
เพื่อนธรณ์บางคนอาจบอกว่า ลาวสูญพันธุ์ไปก่อนแล้วนะ
ดร.ก้องเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ทะเลหายากของไทย อธิบายให้ผมฟัง
ประชากรโลมาในแม่น้ำโขงของลาว/กัมพูชา เป็นกลุ่มเดียวกัน ว่ายไปว่ายมา
หากเราอนุรักษ์ในกัมพูชาไว้ได้ ในอนาคตยังมีหวังที่โลมาจะกลับเข้าไปในลาว
ผิดจากทะเลสาบสงขลา
ผิดกันที่ว่า ของเราจบแล้ว?จบเลย
ไม่มีมาจากไหนอีก
ปิดฉากสุดท้ายของประวัติศาสตร์ 6,000 ปี
????????
อะไรคือ 6 พันปี ?
นานมาแล้ว ระดับน้ำทะเลในแถบนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงสุดเมื่อ 6 พันปีก่อน
โลมาอิรวดี สัตว์เฉพาะเขตอินโดแปซิฟิก หากินตามชายฝั่งไปทั่ว
โลมาฝูงหนึ่งเข้ามาอยู่ในทะเลเหนือแผ่นดินพัทลุง/สงขลา
ระดับน้ำทะเลเริ่มลดต่ำลง จนทะเลกลายเป็นทะเลสาบ
เหลือเพียงช่องแคบๆ ที่ยังเชื่อมต่ออยู่กับทะเลข้างนอก
แต่โลมายังมีความสุขอยู่ในทะเลสาบ
ที่นี่ไม่มีผู้ล่าลูกๆ ของพวกเธอ ยังมีปลากินเยอะแยะเลย
ทะเลสาบสงขลาในสมัยก่อนที่สมบูรณ์สุดขีด โลมาออกลูกหลานจนเป็นร้อยๆ ตัว
แล้วมนุษย์ก็เข้ามา?
สมัยก่อน ความต้องการไม่มาก โลมายังมีความสุข
พวกเธอว่ายไล่เลาะเลียบเรือลำน้อยของชาวประมง เราอยู่ด้วยกันได้
ทว่า?คนมีมากขึ้น จับปลามากขึ้น
ยังมี?การปล่อยปลาบึกลงในทะเลสาบ เพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ ทำให้เครื่องมือประมงเปลี่ยนไป มุ่งหวังจับปลาบึก
โลมากับปลาบึกขนาดใกล้เคียงกัน
โลมาไม่เคยรู้จักเครื่องมือชนิดใหม่ หลบไม่เป็น หนีไม่รอด
โลมาหายใจด้วยปอด โลมาติดอวนจมน้ำตาย
ข้อมูลสถิติบ่งชี้ชัด ก่อนหน้านี้ โลมาตายเฉลี่ยปีละ 4-5 ตัว
ปล่อยปลาบึกปี 2545-51 พอปลาโต คนเริ่มจับ
ในช่วงปี 2550-2555 โลมาตายเฉลี่ยปีละ 10 ตัว
หลังจากนั้น จำนวนตายเริ่มลดลง
ไม่ใช่เพราะเราแก้ปัญหาได้
แต่เป็นเพราะโลมาลดลง จนไม่มีเหลือให้ตาย
ยังรวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น ปลาที่เป็นอาหารถูกจับจนเหลือน้อย น้ำตื้นมากขึ้นจากตะกอนที่ไหลมาจากการเปิดหน้าดิน ฯลฯ
จนถึงเลือดชิด ประชากรเหลือน้อยมาก ผสมพันธุ์กันเอง
แต่ละปัญหานำพามาสู่เลข 14
14สุดท้าย 14ก่อนจะไม่มีอะไรเหลือ
โลมาที่เคยอาศัยมาตั้งแต่ก่อนยุคผีแมนแห่งแม่ฮ่องสอน ก่อนมนุษย์ในอดีตจะวาดภาพโลมาบนผนังถ้ำในภาคใต้
เหลือเพียง 14สุดท้าย และจะสูญสิ้นไปในรุ่นเรา
ตายเหี้ยน หมดสิ้น สูญพันธุ์ !
????
อีกกี่ปี ? นั่นคือประโยคที่ผมถาม ดร.ก้องเกียรติ
ถ้าตายปีละ 2 ตัว ก็อาจ 10-15 ปี
ถ้าตายปีละ 3 ก็อยู่ที่ 8-10 ปี
ถ้าตายปีละ 4-5 ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว
ทว่า?ถ้าตายปีละตัว จำนวนอาจเพิ่มขึ้น
อย่างช้าๆ แต่ก็เพิ่ม
เพราะฉะนั้น เรายังไม่ถึงหน้าสุดท้าย
บันทึก ?ตำนาน 6 พันปีของโลมาแห่งทะเลสาบสงขลา? ยังไม่อาจเขียนคำว่าจบบริบูรณ์
น้ำตาซึมได้ แต่ยังไม่ต้องร้องไห้โฮ
ร้องไห้โฮค่อยทำตอนสิ้นหวัง
ยังมีหวัง ยังไม่?ร้องไห้โฮ
???????
รอบตัวผมมีคนอีก 3 คน
ก้องเกียรติ ทอม สายป่าน
รอบข้างผม มีคนอีกกว่าสามสิบ
พี่แดง แพง ทีม #thaiwhales
เราอยู่ริมน้ำ ในน้ำหากพูดให้ถูกต้อง
ผู้กำกับ ช่างกล้อง น้องดูแลจิปาถะ พากันยกกล้องยกอุปกรณ์
กล้องใหญ่สี่ กล้องเล็กอีกเพียบ ทีมโปรดักชั่นเทียบเท่าการทำโฆษณาดีๆ สักชิ้น
แต่เราไม่ได้มาทำโฆษณาให้มนุษย์ เรามาทำงานให้โลมา
เรามาเป็นสื่อถ่ายทอดเสียงโหยหวนอันเป็นสุดท้ายให้ TheLast14
เวลาสองวัน งานกลางแดดร้อนจ้า
แสงตะวันสาดส่องแรงจากบนฟ้า ลงมาผิวน้ำก่อนสะท้อนระยิบยับ
ตัวดำกว่าเดิม ดำปิ๊ดปี๋
เวลาที่แทบไม่มีอยู่แล้ว ตารางที่แน่นขนัด ยังถูกเบียดแทรกเข้ามา
แต่ผมไม่สนใจ ไม่สนว่าจะมีคนดูเท่าไหร่ ไม่สนว่าจะทำให้ใครสนใจมากขึ้นบ้างไหม
ไม่สนว่าจะช่วยได้แค่ไหน ไม่สนใจอะไรเลยเฟ้ย
ผมสนเพียงว่า ผมจะทำ
ผมอยากทำให้เสียงโหยหวนในใจมันเงียบลงบ้าง
เสียงที่ตอกย้ำความพ่ายแพ้ของการอนุรักษ์สัตว์หายากของไทย
วาฬบรูด้าในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น พะยูนอยู่รอด โลมาสีชมพูแห่งขนอม/ดอนสัก ไม่ต้องห่วง
แต่เสียงที่บาดลึกกลางใจไม่เคยหาย
สามสิบปี จากร้อยกว่าเหลือสิบสี่
14สุดท้าย
เสียงแผ่วๆ แว่วมาจากทะเลสาบสงขลา
เสียงร้องไห้?
ผมไม่อาจทนฟังพวกเธอร้องจนขาดเสียงไป
โดยไม่มีใครแม้สักคนได้สดับ?ตรับฟัง
????
และสำหรับความหวัง คำถามว่าเราควรทำอย่างไร
คำตอบมีเพียง ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำในสิ่งที่สามสิบปีเราไม่เคยทำได้
การอนุรักษ์สัตว์ที่เหลือเพียง 14 ตัว ให้อยู่รอดต่อไป
มันไม่มีอยู่ในตำราใดๆ
ปาฏิหาริย์ไม่เคยเขียนไว้ในตำรา


https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_3311469

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


วราวุธ ออกโรงเอง จับปูเสฉวนในพื้นที่อนุรักษ์ ผิด!! ชี้บุคคลมีชื่อเสียงควรมีจิตสำนึก-เป็นตัวอย่างกับสังคม

วราวุธ ออกโรงเอง จับปูเสฉวนในพื้นที่อนุรักษ์ ผิด!! ชี้บุคคลมีชื่อเสียงควรมีจิตสำนึก-เป็นตัวอย่างกับสังคม



กรณีเกิด ประเด็นดราม่าร้อนที่ชาวเน็ต พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ที่ยูทูปเบอร์ดัง อู๋จุน-กรณ์ คุณาธิปอภิสิริ ที่ทำคลิปวิดีโอจับ ?ปูเสฉวนบก? มาเลี้ยง และต่อมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก ขยะมรสุม Monsoon Garbage Thailand ได้โพสต์เรื่อง ดังกล่าว โดยตำหนิการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องให้ อู๋จุน นำเอาปูเสฉวนทั้งหมดกลับไปคืนทะเล

ทั้งนี้ ในเพจ TOP Varawut ? ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้โพสต์ล่าสุดว่า

แถลงการณ์ กรณี ยูทูบเบอร์ จับปูเสฉวน มาเลี้ยง และทำ VDO content เผยแพร่ค่านิยมที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ คุกคามทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

เช้าวันนี้ ผมได้รับการแท็กแจ้ง จากเพจ Happy Nancy และเพจ ขยะมรสุม ถึงกรณี Youtuber ท่านหนึ่ง ทำ VDO content จับปูเสฉวน 15 ตัว กลับไปเลี้ยง โดยทาง Youtube มียอดวิวกว่า 7 แสนครั้ง ณ เวลา 11 โมง ของวันที่ 27 เมษายน 2565

ผมขอชี้แจงมาตรการและรายละเอียดต่างๆ ดังนี้ ครับ

1. ปัจจุบัน ปูเสฉวน ยังไม่อยู่ในรายชื่อพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จึงไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย #ยกเว้นในเขตอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น ประเด็นที่ต้องตรวจสอบ Youtuber ท่านนี้ ก็คือ #กระทำการในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือไม่ ? หากเกิดเหตุในอุทยานแห่งชาติ จะมีความผิด จำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท ( อ่านรายละเอียดกฎหมายได้ที่ช่วงท้าย )

2. ในกรณีที่ไม่สามารถสืบหาหลักฐานยืนยันได้ ว่ากระทำในเขตอุทยานแห่งชาติหรือไม่ ? เราจำเป็นต้องมี #มาตรการทางสังคม สำหรับเรื่องนี้ครับ
เนื่องจากปัจจุบัน ปูเสฉวน กำลังถูกคุกคามจากการจับมาซื้อขายเป็นสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก เพราะไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ในฟาร์มได้ และเนื่องจาก ปูเสฉวนค่อนข้างมีความอ่อนไหว เปราะบาง ยุ่งยากในการเลี้ยง ทำให้ปูเสฉวนเลี้ยงส่วนใหญ่ ตายลงก่อนอายุขัยตามธรรมชาติ

ดังนั้น การที่บุคคลที่มีชื่อเสียง มีอิทธิพลในการส่งต่อแนวคิดและพฤติกรรม สู่สังคมและเยาวชน อย่างเช่น Youtuber ท่านนี้ ผมถือว่าควรจะต้องมีจิตสำนึก รับผิดชอบ และใช้ความระมัดระวัง ในการผลิตเนื้อหาเป็นอย่างมาก ที่จะไม่ส่งต่อค่านิยมที่ผิด และเป็นอันตรายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และเนื่องด้วย ผู้ติดตามช่อง Youtube ของ Youtuber ท่านนี้ ส่วนมากเป็นเยาวชน หาก 700,000 คน ที่ดู VDO นี้ แล้วทำตามบ้าง ไปเที่ยวทะเล แล้วเก็บปูเสฉวนกลับมาคนละตัว ก็จะเท่ากับ มีปูเสฉวนต้องเสี่ยงตายจากการถูกพรากมาจากธรรมชาติ เพราะ VDO ชิ้นนี้ ถึง 700,000 ชีวิต

ผมขอตำหนิ Youtuber ท่านนี้ และขอเรียกร้องให้ท่าน โปรดนำปูเสฉวนส่งกลับคืนสู่ธรรมชาติ หรือ ส่งคืน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง / กรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี แก้ไข Endorsement ผิดๆ ที่ท่านได้สร้างออกไปให้แก่สังคม โดยเฉพาะเยาวชนที่ติดตามรับชมช่องของท่านครับ

ผมขอเรียกร้องให้ แบรนด์ธุรกิจ ที่เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการโฆษณาผ่านช่องทาง youtube ได้โปรดพิจารณายกเลิกการจ่ายเงินสนับสนุนเนื้อหา ที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม และเป็นภัยคุกคามต่อทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นสมบัติส่วนรวมของประเทศ ทั้ง VDO ชิ้นนี้ และเนื้อหาอื่นๆที่แบรนด์ของท่านจะใช้งบการตลาดสนับสนุนต่อไปในอนาคตด้วยครับ

สุดท้าย ขอเรียกร้องให้สังคม ผู้รับชม น้องๆเยาวชน เลิกรับชม เลิกติดตาม เลิกสนับสนุน บุคคลใดก็ตามที่ใช้ชื่อเสียง มาสร้างกระแส สร้างรายได้ ด้วยการผลิตเนื้อหาที่สร้างค่านิยมที่เป็นภัยคุกคามต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แบบนี้ทุกช่องทางครับ

Soft Power ของคนมีชื่อเสียง ขอให้ใช้สร้างแต่เรื่องดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เถอะครับ ??

???????????????

ความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 (กรณีเหตุเกิดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ)

มาตรา 19 (2) ห้ามเก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย แก่ทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 19 (3) ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ

มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 40 ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น

ความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (กรณีเหตุเกิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) มาตรา ม.54 วรรคหนึ่ง ห้ามล่า สัตว์ป่า เก็บ หรือทำอันตรายแก่รังของสัตว์ป่า หรือล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

?????????????????

เราจะช่วยปูเสฉวน?.ให้อยู่คู่ชายหาดของเรา ได้อย่างไร

มีความพยายามของภาครัฐในการอนุรักษ์ปูเสฉวน โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์ปูเสฉวน ตามคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ 12/2542 ลงวันที่ 7 มกราคม 2542 ให้มีหน้าที่กำหนดแนวทางจัดทำแผนและดำเนินการอนุรักษ์ปูเสฉวน รวมทั้งศึกษาสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัย จำนวน การแพร่กระจาย และข้อมูลทางวิชาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปูเสฉวน รวมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ปูเสฉวน

ในปี 2563 แฟนเพจของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้โพสรับบริจาคเปลือกหอยเพื่อคืนบ้านให้กับปูเสฉวน ในโครงการ ?คืนบ้านให้ปูเสฉวน? หลังมีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพปูเสฉวนบกขนาดใหญ่ตัวหนึ่งใช้เศษขวดแก้วเครื่องดื่มชูกำลังในสภาพแตกเป็นปากฉลามอาศัยแทนเปลือกหอย

ล่าสุด อู๋จุน ได้โพสต์คลิป ขอโทษ พร้อมทั้งรับปากว่าจะนำเอาปูเสฉวนทั้งหมดไปคืน


https://www.matichon.co.th/social/news_3311954

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


เจอถึง 77 ชิ้น! กรมทรัพยากรธรณี พิสูจน์ฟอสซิลกลางสยาม เผยที่มาจากผู้รับเหมา




เจอถึง 77 ชิ้น! กรมทรัพยากรธรณี พิสูจน์ฟอสซิลกลางสยาม เผยที่มาจากผู้รับเหมา ใช้ตกแต่ง แหล่งที่มาหลายประเทศ มีขายเกลื่อนตามเว็บออนไลน์

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Supatcha Damrongmanee ได้เล่าประสบการณ์การเจอฟอสซิลบนพื้นห้างสยามสแควร์ เป็นพื้นบริเวณส่วนที่เพิ่งทำใหม่ โดยเจอทั้งหมด 37 ตำแหน่ง ขณะที่ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่าเป็นของจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ชาวกรุงฮือฮา! สาวพบฟอสซิลกลางสยาม อ.เจษฎา ยันเป็นของจริง

ล่าสุดวันที่ 27 เม.ย.65 กรมทรัพยากรธรณี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบฟอสซิล ?แอมโมไนต์? โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เมื่อวันที่ 26 เม.ย.65 ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย และสื่อมวลชน กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุพบฟอสซิล แอมโมไนต์ ประดับบนพื้นกลางห้างดังสยามสแควร์ หลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องฟอสซิลสันนิษฐานว่าเป็นของแท้ มาจากแหล่งหินในทวีปอัฟริกา (มาดากัสการ์) มีจำนวนมาก สามารถซื้อขายได้ทั่วโลก ราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นบาทตามขนาดตัว

นายพงศ์บุณย์ ปองทอง อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี มอบหมายให้กองคุ้มคองซากดึกดำบรรพ์ (กคบ.) โดย นายอดุลวิทย์ กาวีระ นักธรณีวิทยาปฏิบัติการและคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบฟอสซิล แอมโมไนต์ ที่ห้างดังสยามสแควร์ ผลการตรวจสอบ พบว่า

1. ฟอสซิลแอมโมไนต์เป็นของจริง แต่พื้นหินเป็นพื้นหินขัด ทำขึ้นมาภายหลัง ไม่ใช่หินจริง เพราะเนื้อหินไม่ได้เกิดจากการสะสมตัวตามธรรมชาติ

2. พบฟอสซิลจำนวน 77 ชิ้น ตลอดสองฝั่งถนนซอยสยามสแควร์ กระจายตัวทางเดินเท้า ระยะทางประมาณ 400 เมตร พบฝั่งซ้าย จำนวน 28 ชิ้น ฝั่งขวา จำนวน 49 ชิ้น

3. ฟอสซิลมีขนาดตั้งแต่ 2-12 เซนติเมตร ส่วนใหญ่พบอยู่ตามหน้าร้านค้า ทางแยก และหน้าบันได

4. แอมโมไนต์ที่พบมีลักษณะหลากหลาย คาดว่ามาจากแหล่งหลายประเทศ แต่แหล่งที่โด่งดังในโลก คือ มาดากัสการ์ ซึ่งเป็นแหล่งที่พบเยอะ และจำหน่ายส่งออกเป็นจำนวนมากในเว็บขายของออนไลน์

5. ฟอสซิลมาจากผู้รับเหมา ซึ่งทางจุฬาฯ เป็นผู้จ้างให้ดำเนินการเมื่อปี 2563 โดยทางผู้รับเหมานำมาตกแต่งเอง โดยไม่ทราบที่มาของฟอสซิล เนื่องจากผู้รับเหมารายย่อยหลายราย


https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7020429

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 28-04-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


"ธรณ์" ชี้ "ปูเสฉวน" ก็มีชีวิต-ไม่ใช่ของเล่น อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก



"ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์" แนะ "ปูเสฉวน" ก็มีชีวิต-ไม่ใช่ของเล่น อย่าจับมาเลี้ยงเพียงเพราะมองว่า "น่ารัก" ชี้ 2 ปัจจัยคุกคามปูเสฉวน ถูกคนจับไปเลี้ยง-ขาย และธรรมชาติทรุดโทรม ในอนาคตหากทะเลไม่มีปูเสฉวน จะกระทบต่อห่วงโซ่อาหารอย่างรุนแรง

จากกรณีกลุ่มอนุรักษ์โพสต์กังวลกรณีคลิปจับปูเสฉวนบกจากธรรมชาติกลับมาเลี้ยงที่บ้าน ขณะที่ยูทูบเบอร์ "อู๋จุน-กร" ปล่อยคลิปขอโทษที่เป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับเด็ก และส่งผลกระทบต่อจิตใจกลุ่มอนุรักษ์ สัญญาจะนำกลับไปคืนทะเลครบทุกตัว

วันนี้ (27 เม.ย.2565) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า กรณีที่เกิดขึ้นแม้จะไม่มีโทษจากกฎหมายคุ้มครองปูเสฉวนโดยตรง แต่หากจับในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562

อย่างไรก็ตาม ดร.ธรณ์ มองว่า การกำหนดโทษตามกฎหมายกับสัตว์ทะเลทุกชนิด โดยเฉพาะปูชนิดต่าง ๆ อาจเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากคอยเฝ้าดูแลทุกตัว ทุกชายหาดคงจะทำไม่ได้ ดังนั้นทางออกที่ง่ายที่สุดคือ การไม่จับปู โดยไม่ต้องรอกฎหมายใดมาควบคุม สิ่งสำคัญคือจิตสำนึก ซึ่งพ่อแม่และผู้ปกครองควรแนะนำลูกหลานตั้งแต่ยังเด็ก

"เราต้องมีจิตสำคัญ อย่าจับมันมาเล่น เพราะเลี้ยงในห้องพักแค่ 1 คืน มันก็ตายแล้ว เนื่องจากปูเป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบาง พ่อแม่ก็ช่วยบอก สิ่งมีชีวิตไม่ใช่ของเล่น ไปจับมันเพราะคำว่า น่ารัก มันสมควรไหม"


ถ้าทะเลไทยไม่มี "ปูเสฉวน"

ดร.ธรณ์ ระบุอีกว่า สำหรับสถานการณ์ปูเสฉวนปัจจุบัน ในเขตอุทยานฯ ยังมีจำนวนปูเสฉวนอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในแถบ จ.ตรัง แต่นอกเขตอุทยานฯ ต้องยอมรับว่า ปูเสฉวนลดน้อยลงพอสมควร โดยมีปัจจัยหลักจากการจับปูมาเลี้ยงหรือจับมาขาย

ปัจจัยอีกส่วนคือ ธรรมชาติทรุดโทรม มลพิษเพิ่มขึ้น น้ำเสีย ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง สร้างเขื่อนกันคลื่น หรืออื่น ๆ ที่ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย ที่อยู่ปูถูกทำลาย สิ่งแวดล้อมแย่ ปูก็หายไปเช่นกัน

ทั้งนี้ ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ หากปูเสฉวนหายไปสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ก็จะหายไปด้วย และจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร เพราะปูเสฉวนเป็นสัตว์พื้นฐานของระบบนิเวศในแง่ผู้กำจัดซากเน่าเปื่อย แบคทีเรีย และเชื้อโรคตามชายหาด

"ในอดีตปูเสฉวนเป็นสิ่งมีชีวิตหลักในหลายชายหาด ยิ่งมีเยอะ ก็ยิ่งดูแลห่วงโซ่เยอะ เมื่อหายไปก็ส่งผลกระทบรุนแรงต่อห่วงโซ่อาหาร โดยเฉพาะในฐานะผู้ทำความสะอาดระบบนิเวศชายหาดชัดเจนอยู่แล้ว"


https://news.thaipbs.or.th/content/314951

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:40


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger