เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 29-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวมทั้งระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันมากขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง และมีการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 66 ? 1 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น

ส่วนส่วนในช่วงวันที่ 2 ? 3 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง

ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 66 ? 1 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2 ? 3 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเริ่มมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

ในช่วงวันที่ 29 ? 30 ธ.ค. 66 ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 29-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


สลด ฉลามขย้ำหนุ่มวัยรุ่นดับคาหาดออสเตรเลีย



หนุ่มวัยรุ่นถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต ที่ชายหาดซึ่งเป็นสถานที่โต้คลื่นยอดนิยมในภาคใต้ของออสเตรเลีย โดยเจ้าหน้าที่ยังตามหาฉลามที่ก่อเหตุไม่พบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มวัยรุ่นถูกฉลามจู่โจมในทะเลนอกหาด เอเธล บีช (Ethel Beach) ในอุทยานแห่งชาติ อินเนส (Innes) บริเวณคาบสมุทรยอร์ค (Yorke) ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค. 2566 โดยเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ศพของเขากลับมาได้สำเร็จแล้ว

ตามแถลงการณ์ของสำนักงานตำรวจรัฐ เซาท์ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุฉลามทำร้ายคนในเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยตำรวจยืนยันว่าผู้ตายเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่ไม่ได้เปิดเผยอายุของเขาแต่อย่างใด

ด้านนาย มาร์ตี กูดี ชาวบ้านท้องถิ่นซึ่งมาเล่นโต้คลื่นที่หาดเอเธล บีช มานานหลายทศวรรษแล้ว บอกกับสำนักข่าว เอบีซี นิวส์ ว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ห่างจากชายฝั่งราว 30-40 ม. เขาเผยด้วยว่า ทะเลแถบนี้มีฉลามให้เห็นอยู่เป็นประจำ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันเริ่มปรากฏตัวบ่อยขึ้นมาก

ทั้งนี้ เอเธอล บีช เป็นหาดที่มีความยาว 400 ม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะสำหรับนักโต้คลื่น เนื่องจากทะเลแถบนี้มีคลื่นสูงเฉลี่ยถึง 1.5 ม.

ชาวบ้านท้องถิ่นบอกด้วยว่า นี่นับเป็นเหตุฉลามทำร้ายคนจนเสียชีวิตครั้งแรกที่เกิดขึ้นที่หาดเอเธล บีช แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการลักษณะนี้ขึ้นในรัฐเซาท์ออสเตรเลียหลายครั้งแล้ว โดยในเดือนพฤษภาคมมีนักโต้คลื่นถูกฉลามทำร้ายเสียชีวิตที่คาบสมุทรเอร์ (Eyre) และก่อนหน้านั้นในเดือนกุมภาพันธ์ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกฉลามขย่ำในแม่น้ำของเมืองเพิร์ธ


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2751353
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 29-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


2023 ปีที่ร้อนเร็วที่สุดของประวัติศาสตร์อาร์กติก ผลกระทบที่รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ



จากรายงานของ Seung Ki Min ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์โพฮัง ประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้เผยแพร่ในวารสารออนไลน์ Nature communications ว่า น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ?เขตอาร์กติก? อาจหายไปหมดภายในปี 2030 นี้ เพราะผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้เกิดภาวะโลกร้อนจนสภาพอากาศในพื้นที่เขตอาร์กติกไม่สามารถสร้างน้ำแข็งเองได้ และถึงแม้มนุษย์จะหยุดปล่อยมลพิษทันที ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ในปี 2023 นี้ หน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโคเปอร์นิคัสของสหภาพยุโรป C3S (Copernicus Climate Change Service) ได้เผยข้อมูลว่า ฤดูร้อนปี 2023 ทั่วโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติไว้ ช่วงเวลาสามเดือนระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมปี 2023 นี้ อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 16.8 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่ามัธยฐานราว 0.66 องศาเซลเซียส และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อุนหภูมิความร้อนยังสร้างสถิติใหม่เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นการทำลายสถิติใหม่สามเดือนติดต่อกัน หลังจากที่เดือนมิถุนายนและกรกฎาคมต่างทำสถิติเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดทั้งสองเดือน

สภาพอากาศที่ร้อนของปี 2023 ยังส่งผลให้เป็นหนึ่งในปีที่อุ่นที่สุดอันดับ 6 ของพื้นที่เขตอาร์กติก หรือ บริเวณขั้วโลกเหนือ และในการเก็บข้อมูลสภาพอากาศในปีนี้ ได้มีการเผยข้อมูลว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดของขั้วโลกเหนือ นักวิทยาศาสตร์ประเมินกันว่าภูมิภาคนี้มีอุณหภูมิสูงขึ้นเร็วกว่าที่อื่นๆ ของโลกถึง 4 เท่า ทำให้ปีนี้กลายเป็นปีที่ร้อนเร็วที่สุดของประวัติศาสตร์อาร์กติกเท่าที่มีการบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1900

นักวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของอุณหภูมิในเขตขั้วโลกเหนือเป็นตัวบ่งชี้เบื้องต้น เมื่อดาวเคราะห์มีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น รายงาน Arctic Report Card ของ NOAA เผยว่าจุดร้อนที่สุดในเขตอาร์กติกนั้นแตกต่างกันไปตลอดทั้งปี โดยเมื่อต้นปีทะเลทางตอนเหนือของนอร์เวย์และรัสเซียสูงขึ้นถึง 5?C ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีระหว่างปี 1991-2020 ขณะที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดาก็ร้อนขึ้น 5?C เช่นเดียวกัน

อุณหภูมิที่สูงในช่วงฤดูร้อนจะทำให้หิมะและน้ำแข็งละลาย ข้อมูลดาวเทียมสำรวจชี้ให้เห็นว่า ปี 2023 ขอบเขตของน้ำแข็งปีในทะเลนั้นต่ำสุดเป็นอันดับ 6 นับตั้งแต่เริ่มบันทึกในปี 1979 และการละลายในปัจจุบันนั้นมีปริมาณที่มากกว่าการเกิดขึ้นใหม่

Rick Spinrad ผู้อำนวยการของ NOAA กล่าวว่า .... "อาร์กติกมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์มากขึ้น แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดในพื้นที่ขั้วโลก แต่ก็สามารถส่งผลกระทบเป้นวงกว้างไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกได้ ไม่จำกัดอยู่แค่ในอาร์กติกเท่านั้น"

นอกจากการละลายของน้ำแข็งแล้ว ความร้อนยังส่งผลให้พืชและดินในพื้นที่ถัดมาจากเขตขั้วโลกมีความแห้งมากขึ้น ส่งผลให้เกิดไฟป่าได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้ ประเทศแคนาดา หนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่อยู่ในเขตอาร์กติก ถูกไฟป่าเผากว่า 25 ล้านไร่ ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพ อีกทั้งควันไฟป่าก็สร้างมลพิษลงไปถึงตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ฤดูไฟป่าของประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง :www.ethz.ch , www.npr.org FB : Environman


https://mgronline.com/science/detail/9660000116584

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 29-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


ระทึกอีก! ทะเลสตูล กระแสน้ำแรง พัดนักท่องเที่ยวหายจากจุดดำน้ำ 6 คน



28 ธ.ค.2566 - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล(ศรชล.จว.สต.) ว่า วันนี้ เวลา 11.30 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.จว.สต.)/หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3 (นก.พตต.ศรชล.ภาค 3) ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าของเรือหัวโทง ซึ่งนำนักท่องเที่ยวดำน้ำลึก บริเวณหัวแหลมทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ (แลต. 06.28.48ลิปดาเหนือ ลอง. 99.17.20ลิปดาตะวันออก) ว่านักท่องเที่ยวดำน้ำลึก หายไปจากจุดดำน้ำ จำนวน 6 คน

ในการนี้ นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล /ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ผอ.ศรชล.จว.สต./ผวจ.สตูล) มอบหมายให้ น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สต./ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค ๓ สั่งการให้ เรือ ศรชล.2906 พร้อมเจ้าหน้าที่ ชปพ.นสร.กร. พร้อมทั้งประสาน น.ท.น้ำน่าน บุญนาค ผบ.นป.สอ.รฝ.491 นำกำลังพลพร้อม เรือยางท้องแข็ง และบูรณาการกำลังกับ อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา (อช.ตะรุเตา )ร่วมในการค้นหาผู้สูญหาย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.10น. จึงพบนักท่องเที่ยวที่สูญหายทั้ง 6 คน ห่างจากจุดดำน้ำ ประมาณ 1ไมล์

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทั้ง 6 คนปลอดภัย สาเหตุที่พลัดหายจากจุดดำน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำแรง ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


https://www.thaipost.net/district-news/509184/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:50


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger