เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 07-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มของการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เนื่องจากมีฝนเกิดขึ้นในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 7 ? 12 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ กับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดพาความหนาวเย็นจากที่ราบสูงทิเบตและประเทศเมียนมาเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิลดลง 2 ? 5 องศาเซลเซียส สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 07-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


สะเทือนใจ! คนมักง่ายทิ้งเศษอวนแนวปะการัง นักดำน้ำ จิตอาสาช่วยเก็บกู้

อยากให้มีจิตสำนึก.. หนุ่มโพสต์อวน 100 เมตร หนัก 30 กก. ติดคลุมปะการังใต้ทะเลตรัง บริเวณอ่าวเนียง "เกาะกระดาน" นักดำน้ำ จิตอาสา ร่วมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ช่วยเก็บกู้เสร็จเรียบร้อย พบปะการังเสียหาย ถ้าปล่อยไว้นานไม่ส่งผลดี



เมื่อวันที่ 6 ก.พ. จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความว่า "ต้องการความช่วยเหลือด้วยครับ ก่อนที่จะสูญเสียมากไปกว่านี้ ขอบอกเลยว่าช่วงนี้ที่บริเวณเกาะกระดาน ทะเลตรัง เจอแบบนี้เยอะมาก และวางอวนใกล้หน้าที่ทำการอุทยานฯ เลย ได้เหรอครับ ผมไม่ต่อต้านคนทำมาหากินทางทะเลนะ แต่อยากให้มีจิตสำนึกในสิ่งที่ทำ และอยากให้อุทยานฯ ช่วยดูแลตรงนี้หน่อย ช่วงนี้บ่อยเหลือเกิน ขอวอนผู้เกี่ยวข้องครับ" พร้อมกันนี้ได้มีการโพสต์ภาพเศษอวนที่คลุมปะการังเป็นแนวยาว ทั้งยังมีภาพที่สะเทือนใจขณะที่ปลาปักเป้ากำลังพองตัว และปลาอีกหลายชนิดติดอยู่ในอวน พร้อมทั้งมีการแท็กชื่ออุทยานหาดเจ้าไหม หลังจากมีการโพสต์ออกไปก็มีการแชร์และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง

ความคืบหน้าล่าสุด นักประดาน้ำจิตอาสาจาก Trang Pro dive และ Laytrang Diving อบต.เกาะลิบง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกันเก็บกู้เครื่องมือประมงที่อยู่ใต้ทะเล บริเวณอ่าวเนียง เกาะกระดาน หมู่ 2 บ้านเกาะมุก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง

สำหรับบริเวณพื้นที่ที่พบเศษอวนอยู่บริเวณอ่าวเนียง ทิศใต้ ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่ จม.3 (เกาะกระดาน) โดยจมอยู่ที่ระดับความลึก 8 เมตร ตรวจสอบพบมีเศษอวนคลุมแนวปะการังเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร นักประดาน้ำจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันเก็บกู้ โดยใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายกับแนวปะการัง โดยใช้เวลาดำน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถเก็บกู้ได้ เบื้องต้นพบเป็นเครื่องมือประมงชนิดอวนลอย มีความยาวประมาณ 100 เมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม

นายโสภณ คิ้วงาม หรือ ครูทัช อายุ 45 ปี จาก Trang Pro dive ผู้โพสต์ข้อความ กล่าวว่า วันนี้ตนและทีมนักประดาน้ำจิตอาสา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และ อบต.เกาะลิบง ได้ร่วมกันเก็บกู้ซากอวนที่ลอยมาติดแนวปะการัง ตนได้นำนักเรียนดำน้ำมาฝึกดำน้ำแถวอ่าวเนียง ซึ่งขณะที่อยู่ใต้น้ำดูแนวปะการังนั้นเองก็เห็นมีเศษอวนไปคลุมแนวปะการังและมีปลาหลายชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นต่างก็ติดอวนไปไหนไม่ได้ ตนและนักเรียนจึงช่วยกันแกะอวนบางส่วนออกมาก่อน

นายโสภณ กล่าวต่อว่า จากการประเมินด้วยสายตาแนวปะการังอาจจะได้รับความเสียหายบ้าง ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานย่อมไม่ส่งผลดี จึงพูดคุยกับทีมงานจัดทีมลงเก็บกู้ครั้งนี้โดยใช้ทุนส่วนตัวและผู้มีจิตอาสาที่ช่วยกันมา อย่างไรก็ตาม ฝากนักท่องเที่ยวและหลายๆ คน ให้ช่วยกันลดใช้ขยะให้น้อยลง อย่าทำลายทรัพยากรตัวเอง เพราะถ้าถูกทำลายไปเรื่อยๆ อนาคตก็จบ


https://www.dailynews.co.th/news/1968790/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 07-02-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


กรมประมงชี้ "ปลาเก๋าหยก" ยังไม่ครบขั้นตอนวิจัย-สั่งปลดทุกเมนู



อธิบดีกรมประมง ยัน "ปลาเก๋าหยก" ของซีพียังไม่ครบขั้นตอนการวิจัยเฟส 2 ในระบบปิดเพิ่งเริ่มต้นปี 2565-2567 ตอบความเสี่ยงต่อระบบนิเวศ ชี้ผิดเงื่อนไขนำสต็อกปลาเก่าเฟสแรก นำปลาแช่แข็งมาขายแปรรูป เรียกแจงบอร์ด IBC ส่อพักใบอนุญาต

กรณีบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ขออนุญาตกรมประมงนำเข้าปลาเก๋าหยก (Jade perch) ซึ่งล่าสุดพบมีการจำหน่าย และโฆษณาปลาเก๋าหยก เพื่อแปรรูปอาหารในงานเกษตรแฟร์เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา

วันนี้ (6 ก.พ.2566) นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า กรมประมง ไม่ได้มีการอนุญาตให้ CPF นำผลิตภัณฑ์ปลาเก๋าหยกแบบแช่แข็ง หรือแปรรูปมาขายในงานเกษตรแฟร์ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เปิด นอกเหนือข้อตกลงในการวิจัยเฟสนี้ (2565-2567) เพราะยังอยู่ระหว่างทาง เพื่อหาคำตอบว่าปลาเก๋าหยกจากที่อนุญาตให้ 40 คู่จากเฟสแรกเมื่อปี 2561-2564 จะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศหากหลุดไปในสิ่งแวดล้อมหรือไม่

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ปลาหยก ยังไม่เคยทดลองในพื้นที่เลี้ยงจริง ยังเลี้ยงในระบบปิดภายใต้การควบคุมของกรมประมง รู้แค่พฤติกรรมการออกลูกอายุเท่าไหร่ และประชากร การกินอาหารกี่รูปแบบ เป็นการประเมินความเสี่ยงในระบบทดลองเท่านั้น บริษัทรายงานครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ธ.ค.2565 ว่าเพิ่งเพาะชุดลุกพันธุ์ชุดแรก

โดยผู้ประกอบการอ้างว่าเป็นปลาสต็อกแช่แข็งที่หลงเหลือจากการทดลองในเฟสแรกที่มีเงื่อนไขให้ชำแหละปลาแช่แข็งจำหน่ายในช่องทางของบริษัท แต่กลับมาโปรโมทขาย

"ไม่อนุญาตให้นำปลาแช่แข็งและแปรรูปมาจำหน่ายที่เกษตรแฟร์ ตั้งแต่แรก เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ได้สั่งเก็บบูททั้งหมด ห้ามโฆษณาและสั่งให้ปลดทุกเมนูที่จะนำไปขายตรงในภัตตาคาร ร้านอาหารทั้งหมด เพราะถือทำผิดเงื่อนไขชัดเจน"


ทำไมถึงอนุญาตนำเข้ามาเพาะเลี้ยงย้อนแย้งกม.

อธิบดีกรมประมง ยอมรับว่าปลาหยก เป็นหนึ่งใน 13 ชนิดหรือสัตว์น้ำเอเลียนสปีชีส์ที่มีกฎหมายห้ามนำเข้ามาเพาะเลี้ยงเมื่อปี 2564 เพราะเป็นปลาที่มีความเสี่ยงจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหากหลุดรอดในระบบนิเวศ

แต่เส้นทางของปลาชนิดนี้ ตั้งแต่ปี 2558 ซีพี มีการขออนุญาตนำเข้าปลาหยกเพื่อการวิจัย พบว่าปลาชนิดนี้มีความเสี่ยงกระทบต่อระบบนิเวศปานกลาง สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีค่าความเค็ม 10 PPT กินสัตว์น้ำ พืชแพลงก์ตอนได้ทุกชนิด

จากนั้นในปี 2561-2564 บริษัทซีพี ขอนำเข้าทดลองเลี้ยงผ่านระบบปิด ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด IBC ออกระเบียบท้ายใบอนุญาตว่าการเลี้ยงต้องควบคุมอย่างระมัดระวังห้ามหลุดรอด และหากหลุดรอดโทษความผิดปรับ 2 ล้านบาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี

ต่อมาในปี 2565 กรมประมงให้ทางซีพี สรุปโครงการเฟสแรก การทดลองชำแหละเนื้อปลาทั้งหมดที่เฟสแรกเป็นแบบแช่แข็ง และตอนนี้ 2565-2567 ซีพี ขออนุญาตทดลองเลี้ยงโดยมีพ่อพันธุ์แค่ 40 คู่จากที่อนุญาตในเฟสแรกมาเลี้ยงในระบบปิด ได้ลูกปลาอายุประมาณ 3-6 เดือนราว 10,000 ตัว ภายใต้การควบคุมกรมประมงอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เพื่อตอบว่ามีศักยภาพในการเพาะเลี้ยง และผลกระทบต่อนิเวศหรือไม่ ในพื้นที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้

"ประเมินแล้วอนุญาตให้ศึกษาประชากรจากพ่อแม่แค่ 40 คู่รวมทั้งการอนุบาล และศึกษารูปแบบ และการตลาดระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงลูกปลาทุกเดือน และรายงานผลการศึกษาทุก 3 เดือนให้กับ IBC "


ปลาเศรษฐกิจตัวใหม่เพื่อใคร-ความคุ้มทุน สวล.

ส่วนประเด็นที่ว่าปลาหยก พร้อมจะเป็นปลาเศรษฐกิจหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องถามว่าถ้าเป็นปลาเศรษฐกิจชนิดใหม่ของไทย ต้องประเมินให้รอบคอบคุ้มค่าหรือไม่ ที่จะทำให้มีความเสี่ยงต่อสภาพแวดล้อม และเกษตรกรต้องมีรายได้จากปลาตัวนี้

แต่หากเป็นแค่ของบริษัทต้องดูว่าจะมีระบบควบคุมอย่างไร ยังเร็วไปที่จะไปถึงขั้นนั้น เพราะตอนนี้ยังไม่มีคำตอบเรื่องผลกระทบต่อนิเวศ เรื่องที่เกิดขึ้นจะเรียกซีพีเข้ามาชี้แจงกับบอร์ด IBC ในสัปดาห์นี้

"ตอนนี้พักระงับโฆษณาแล้ว เพราะทำผิดเงื่อนไขนอกเหนือการอนุญาต ส่วนใบอนุญาต ไม่จำเป็นต้องรอถึงปี 2567 ถ้าเขาไม่ทำตามเงื่อนไข และฝ่าฝืนสามารถพักใช้ หรือเพิกถอนโครงการวิจัย ถ้ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกินที่จะป้องกัน"

ทั้งนี้ยังมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายติดตามตรวจสอบสถานที่เลี้ยงในระบบปิด และมอนิเตอร์ปัญหาการเล็ดรอดของลูกปลาในสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป โดยยืนยันกรมประมงไม่ได้ละเลย ซึ่งในสัปดาห์นี้จะทำให้รู้ว่าสต็อกปลาแช่แข็งที่อ้างว่านำออกมาขายและแปรรูปไปทั้งหมดเท่าไหร่


https://www.thaipbs.or.th/news/content/324275

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:04


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger