เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 03-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากภัยที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 3 - 4 มี.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 8 มี.ค. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น


ข้อควรระวัง

ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 8 มี.ค. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 4 มีนาคม 2564)" ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 03 มีนาคม 2564

ในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2564 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่าบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นโดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้


ในวันที่ 3 มีนาคม 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์


วันที่ 4 มีนาคม 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ และตาก

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 03-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


แตกตื่น! กองทัพ 'เม่นทะเลสีแดง' เกยเกลื่อนหาดป่าตอง

ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยว แตกตื่น หลังเม่นทะเลสีแดงหลายร้อยตัว เกยชายหาดป่าตองภูเก็ต แบบผิดธรรมชาติ งงเกิดมาไม่เคยเจอ หวั่นเกิดเหตุภัยพิบัติรุนแรง



เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ?"Patong-Baywatch-พิทักษ์หาดป่าตองหาดป่าตอง" ได้โพสต์ภาพเม่นทะเลสีแดง ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาดป่าตอง จำนวนหลายร้อยตัว ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในสื่อสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ผิดธรรมชาติของสัตว์ทะเลชนิดนี้ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปมุงดูจำนวนมาก ด้วยความสงสัยและสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณชายหาดป่าตอง ใกล้กับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ป่าตอง จ.ภูเก็ต ตรวจสอบพบว่า ที่บริเวณดังกล่าวเพราะเป็นเม่นทะเลแค่ 2 ตัว เนื่องจากทางเทศบาลเมืองป่าตองได้นำเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บซากเม่นไปไว้ยังเทศบาลเมืองป่าตองหมดแล้ว โดยมีนักท่องเที่ยวกำลังนำเม่นที่อยู่บนชายหาดนำไปกลับในทะเล ส่วนอีกด้านหนึ่งมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบนลงพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์เก็บน้ำทะเลกลับไปยังที่ศูนย์เพื่อตรวจสอบคุณค่าของน้ำเพื่อหาสาเหตุการเกยตื้นของเม่นทะเลจำนวนหลายร้อยตัว



ขณะที่นายสมชาย เตียงน้อย เจ้าหน้าที่บีชการ์ดจุดที่เม่นขึ้นหาด กล่าวว่า ทางศูนย์ได้มีการโทรศัพท์มาให้ช่วยเก็บเม่นที่ชายหาดเพื่อป้องกันอันตรายกับนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นมีหน่วยงานของเทศบาลเมืองป่าตองได้ลงมาช่วยกันเก็บใส่ถุงดำนำไปทิ้งที่เทศบาลเมืองป่าตอง สำหรับตนแล้วตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ ส่วนตัวคิดว่าเม่นชนิดนี้น่าจะเป็นอันตราย ถ้าไปถูกหนามของมัน แต่คิดว่าในน้ำยังคงมีเม่นหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก และจากการสอบถามจากชาวบ้านที่มีอายุและมีประสบการณ์เกี่ยวกับทะเล เม่นชนิดนี้เป็นเม่นที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกไม่ค่อยพบเห็นใกล้ชายหาด นับว่าเป็นเรื่องน่าคิดว่ามาได้อย่างไร น้ำหรือพื้นทะเลลึกเกิดอะไรขึ้น เช่น แผ่นดินแยก จนทำให้มันขึ้นมาอยู่บนแนวชายฝั่ง.


https://www.dailynews.co.th/regional/828616

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 03-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ภูเขาน้ำแข็งขนาดเท่าลอนดอน! แตกออกจากแอนตาร์กติก ต้องลุ้นผลต่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น


ภาพถ่ายจากเครื่องบิน มองเห็นก้อนน้ำแข็งในแอนดาร์กติกที่แยกออกจากกัน (Credit Photo : Bloomberg)

ภูเขาน้ำแข็งขนาดเกือบเท่าลอนดอนได้แยกออกจากแอนตาร์กติกา จุดที่เกิดขึ้นอยู่ห่างจากสถานีวิจัย Halley ของสหราชอาณาจักร เพียง 20 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้นไม่มีคนอยู่ในฐานจึงไม่มีความเสี่ยงต่อชีวิต

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ภูเขาน้ำแข็งขนาด 1,270 ตารางกิโลเมตร (490 ตารางไมล์) ที่มีความหนากว่า 150 เมตร ขนาดใหญ่เกือบเท่ากรุงลอนดอน หรือใหญ่กว่าแมนฮัตตัน 20 เท่า ได้แตกออกจากชั้นน้ำแข็ง Brunt ในแอนตาร์กติก โดยนักวิทยาศาสตร์จาก British Antarctic Survey ตรวจพบรอยแตกนี้มาก่อนหน้านี้ร่วม 10 ปี



Adrian Luckman นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษและศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยาของมหาวิทยาลัยสวอนซีในเวลส์ได้ตรวจสอบภาพความรุนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมคาดการณ์ว่าเมื่อใดที่น้ำแข็งก้อนใหญ่อาจแตกออกจากธารน้ำแข็ง การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และทำให้มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการละลายของแผ่นน้ำแข็งของแอนตาร์กติก


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000020391

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 03-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ครอบครัวประมงพื้นบ้านดวงดี! เจออำพันทะเล7กก. ส่งตรวจแล้วเป็นของจริง



2 มีนาคม 2564 ครอบครัวชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลควนขัน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยนายอัสรี ปูอัด อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 20 ม.6 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ได้นำเอาก้อนไขมันสัตว์ จำนวน 2 ก้อนสีขาวและสีเทาที่มีขนาดไม่เท่ากัน ก้อนแรกก้อนใหญ่มีน้ำหนัก 7 กก. และก้อนเล็กมีน้ำหนัก 600 กรัม

โดย 2 ก้อนนี้ผู้เป็นพ่อเป็นคนเจอหลังได้ออกเรือไปหาอาหารทะเลบริเวณ ตำบลตันหยงโป อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เพื่อจับกั้งในหัวรุ่งสางหรือตอนเช้า จากนั้นขณะล่องเรือกลับเข้าฝั่งเห็นก้อนมีลักษณะคล้ายก้อนอำพันจำนวน 2 ก้อนลอยน้ำทะเลมาจึงนำกลับมาบ้าน และเพื่อความมั่นใจว่าเป็นอำพันหรือไขมันวาฬจริง ญาติแนะนำให้ส่งไปตรวจที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทำการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้แน่ชัด

โดยผลตอบกลับมาว่า มันคือไขมันสัตว์ ที่มีลักษณ์คล้ายอำพันทะเล โดยมีเอกสารจากการตรวจสอบยืนยันเรียบร้อย



ด้านนายอัสรี ปูอัด ลูกชาย บอกว่า ค้นหาข้อมูลพบว่าก้อนไขมันสัตว์นี้ มีค่าและราคาสูง เพราะต่างประเทศ่จะเอาไปทำหัวน้ำหอม และเป็นของธรรมชาติที่หายาก มีราคาสูง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หากจะขอส่งตรวจอีกครั้งก็ได้ หากสนใจยินดีพูดคุยเจรจากันได้ หรือติดต่อมาได้ที่ 094 584 6959

โดยทางครอบครัวก็หวังว่า หากขายอำพันทะเลนี้ได้ก็จะได้นำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการประมงในปัจจุบันก็ไม่ค่อยจะมีรายได้ดีนัก พ่อกับแม่จะได้สบายส่วนราคานั้นให้ติดต่อมาพูดคุยกันเพราะไม่รู้จะตั้งราคาแบบไหนเหมือนกันเพราะไม่เคยขาย


https://www.naewna.com/likesara/556328

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 03-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


"เกาะพรุ่งนี้-เกาะเมื่อวาน" ห่างกันไม่ถึง 4 กม. แต่เวลาแตกต่างกัน 21 ชั่วโมง

รู้จักสถานที่แปลกในโลก กับเกาะสองเกาะที่ถูกคั่นด้วยเส้นแบ่งเวลา



เกิดกระแสไวรัลเมื่อผู้ใช้งาน TikTok แอคเคาต์ชื่อ Content Dropped โพสต์คลิปวิดีโออธิบายสถานที่แปลกประหลาดบนโลก

โดยเขาพูดถึงเกาะ 2 เกาะที่มีชื่อว่า บิ๊กไดโอมีด (Big Diomede) และลิตเติลไดโอมีด (Little Diomede) ที่น่าสนใจคือเกาะบิ๊กไดโอมีด ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าถือเป็นจุดที่อยู่ทางตะวันออกที่สุดในรัสเซีย ส่วนลิตเติลไดโอมีดอยู่ในเขตแดนของสหรัฐอเมริกา

ทั้งสองเกาะอยู่ห่างจากรัฐอลาสกาเพียงประมาณ 40 กิโลเมตรเท่านั้น จึงทำให้เกาะบิ๊กไดโอมีดเป็นเขตแดนรัสเซียที่อยู่ใกล้กับสหรัฐฯ มากที่สุด

ที่น่าสนใจกว่านั้น คือเกาะทั้งสองถูกขั้นด้วย เส้นแบ่งเขตวันสากล (International Date Line; IDL) ทำให้เกาะบิ๊กไดโอมีดเวลาเร็วกว่าเกาะลิตเติลไดโอมีดถึง 21 ชั่วโมง ดังนั้นจึงมีการตั้งชื่อเล่นให้กับเกาะทั้งสองว่า เกาะพรุ่งนี้ (บิ๊กไดโอมีด) และเกาะเมื่อวาน (ลิตเติลไดโอมีด)

เกาะนี้ได้รับการตั้งชื่อตามนักบุญชาวกรีกไดโอมีดโดยนักเดินเรือชาวเดนมาร์ก-รัสเซีย วีตุส เบริง ซึ่งค้นพบเกาะทั้งสองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1728

คลิปนี้มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก คอมเมนต์หนึ่งบอกว่า ในส่วนความคิดเห็นมีคนคนหนึ่งอธิบายว่า: "ลองนึกภาพทำงานบนเกาะทั้งสองแห่ง คุณสามารถทำเข้างาน 2 กะๆ ละ 8 ชั่วโมงในวันเดียวกันได้เลย"

ขณะที่อีกคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า "คุณสามารถอยู่บนเกาะหนึ่งในช่วงปีใหม่ และย้อนกลับไปปีเก่าที่อีกเกาะได้"

ปัจจุบันลิตเติลไดโอมีดมีประชากรถาวรราว 115 คนเท่านั้นตามการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2010 เมืองนี้ตั้งอยู่บนชายหาดเล็ก ๆ ทางด้านตะวันตกของเกาะ ซึ่งหมายความว่าสามารถมองเห็นเกาะบิ๊กไดโอมีดได้จากบ้านของทุกคน


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%A8/143021

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:12


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger