เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 24-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 24 ? 26 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนคลายความร้อนลง

ส่วนช่วงในวันที่ 27 - 29 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น ในช่วงวันที่ 25 - 28 เม.ย. 63 กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 24 ? 26 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 25 - 29 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 26 เมษายน 2563)" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 24 เมษายน 2563

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และทะเลจีนใต้ คาดว่าจะแผ่เข้าปกคลุมภาคกลางในวันนี้ (วันที่ 24 เมษายน 2563) ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ซึ่งจะมีผลกระทบถึงวันที่ 26 เมษายน 2563 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันที่ 25-26 เมษายน 2563 โดยมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ และคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


วันที่ 24 เมษายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


ในช่วงวันที่ 25-26 เมษายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์

ภาคกลาง: จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 24-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อดีตอ่าวมาหยากำลังกลับมา พบฝูงฉลามหูดำกว่า 70 ตัวโผล่หากิน

กระบี่ - อดีตอ่าวมาหยากลับมาแล้ว หลังไร้นักท่องเที่ยวรบกวน พบฝูงฉลามหูดำกว่า 70 ตัว โผล่หากินแนวปะการังน้ำตื้น ระบุมากที่สุดตั้งแต่มีการปิดอ่าว เชื่อเกิดจากสภาพธรรมชาติฟื้นตัว ทำให้มีสัตว์น้ำเข้ามาหากินมาก



วันนี้ (23 เม.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน อ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้บันทึกภาพฝูงฉลามหูดำ หรือฉลามครีบดำ จำนวนมากกว่า 70 ตัว แต่ละตัวมีขนาดความยาว 1-1.5 เมตร ขณะโผล่หากินบริเวณแนวปะการังน้ำตื้น หน้าหาดอ่าวมาหยา สร้างความตื่นเต้นแก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการสำรวจพบอยู่บ้าง หลังกรมอุทยานฯ ปิดอ่าวหมาหยาเมื่อกลางปี 2561 แต่เนื่องจากวันนี้พบจำนวนมากกว่าทุกครั้ง คาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 ตัว

ด้านนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากดูภาพฝูงฉลามหูดำที่เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานอ่าวมาหยาบันทึกไว้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะมีจำนวนมากกว่าทุกครั้ง คาดว่าไม่ต่ำกว่า 70-100 ตัว โดยเมื่อวานนี้ก็พบเช่นกัน แต่มีไม่มาก นับว่าวันนี้มีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยพบมาก่อนหน้านี้ ภายหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดอ่าวมาหยา ห้ามทำกิจกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นมา เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและบนบกได้มีการฟื้นตัว



ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ฝูงฉลามหูดำเข้ามาหากินบริเวณอ่าวมาหยาจำนวนมากกว่าทุกครั้ง เนื่องจากสภาพธรรมชาติบริเวณอ่าวมาหยา ปะการังก็มีการฟื้นตัวได้ดีทำให้มีแหล่งอาหารของสัตว์น้ำมากขึ้น และประกอบกับในช่วงนี้ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวงดการเดินทาง ทำให้ทะเลเงียบสงบไม่มีเรือวิ่งผ่านบริเวณอ่าวด้านหน้าและด้านหลังอ่าวมาหยา จึงทำให้ฝูงฉลามหูดำเข้ามาอาศัยมากขึ้น และเชื่อว่าหลังจากนี้สภาพธรรมชาติของอ่าวมาหยาจะฟื้นฟูกลับมามีสภาพที่สวยงามอีกครั้งเหมือนในอดีต


https://mgronline.com/south/detail/9630000042694


*********************************************************************************************************************************************************


ตื่นเต้น! พบวาฬเพชฌฆาตดำฝูงใหญ่โผล่ทะเลกระบี่ครั้งแรก หลังปิดท่องเที่ยวจากโควิด-19

กระบี่ - โควิด-19 ทำทะเลเกาะลันตาฟื้น พบฝูงวาฬเพชฌฆาตดำขนาดใหญ่ กว่า 10-15 ตัว ที่อ่าวหินงาม เกาะรอก อ.เกาะลันตา กระบี่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นครั้งแรก คาดจากการประกาศปิดการท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไม่ถูกรบกวนจากการท่องเที่ยว



วันนี้ (23 เม.ย.) นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ นำเรือตรวจการณ์ออกไปลาดตระเวนตามปกติ บริเวณอ่าวหินงาม เกาะรอก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งห่างจากฝั่งเพียง 400 เมตร ได้พบฝูงวาฬเพชฌฆาตดำ ฝูงใหญ่ 10-15 ตัว แต่ละตัวความยาวประมาณ 3-4 เมตร โดยฝูงวาฬเพชฌฆาตดำที่ปรากฏตัวขึ้นมาฝูงใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพและวิดีโอ ขณะที่ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำเล่นน้ำอยู่บริเวณดังกล่าวนานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการพบเจอวาฬเพชฌฆาตดำในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่

คาดว่าเนื่องจากการประกาศปิดการท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ธรรมชาติเริ่มมีการฟื้นตัว ไม่ถูกรบกวนจากการท่องเที่ยว



สำหรับวาฬเพชฌฆาตดำเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลชนิดหนึ่ง ในวงศ์โลมามหาสมุทร (Delphindae) เป็นวาฬมีฟัน จัดเป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Pseudorca ที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน

มีลักษณะลำตัวยาวสีดำคล้ายกันมากกับวาฬนำร่องครีบสั้น (Globicephala macrorhynchus) ต่างกันที่ลักษณะครีบหลังตั้งอยู่กึ่งกลางลำตัว (วาฬนำร่องครีบสั้นจะตั้งเยื้องมาทางส่วนหัว) และส่วนหัวไม่โหนกมากปลาวาฬนำร่องครีบสั้น สีดำทั้งตัว ส่วนท้องจะเทาจางเล็กน้อย ครีบข้างโค้งหักข้อศอกเรียวยาวค่อนข้างแหลม หน้าผากกลมมนไม่มีจะงอยปาก มีจำนวนฟันทั้งหมด 7-12 คู่ ในปาก ซึ่งอาหารของวาฬเพชฌฆาตดำ คือ ปลาและหมึก มีขนาดโตเต็มที่ยาวถึง 6 เมตร ลูกแรกเกิดยาว 1.5-2 เมตร การตั้งท้องใช้เวลา 12-14 เดือน เป็นโลมาที่พบกระจายพันธุ์ทั่วทั้งโลก โดยมากจะอยู่รวมเป็นฝูงในทะเลใกล้ชายฝั่ง ในประเทศไทยมีรายงานพบในหลายจังหวัดทั้งในอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน และจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง


https://mgronline.com/south/detail/9630000042692

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 24-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


จำคุก "ดีเจภูมิ" กับพวก 6 คน ล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติ จ.ชุมพร คนละ 4 ปี รอลงอาญา 2 ปี

พิพากษาจำคุก "ดีเจภูมิ" กับพวก 6 คน ล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร คนละ 4 ปี ปรับ 40,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง และให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมทำคลิปรักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เผยแพร่ช่องยูทูป หรือเฟซบุ๊ก 2 คลิป



จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นายภูมิใจ หรือ ดีเจภูมิ ตั้งสง่า อายุ 41 ปี ได้ลงคลิปเปิดเผยภาพที่ดีเจภูมิ และพวกเดินทางไปฟังคำพิพากษา กรณีช่วงเดือน ส.ค. 2562 ดีเจภูมิและพวกได้ไปตกปลาในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้โพสต์คลิปวิดีโอช่องทาง DJPOOM CHANNEL จนถูกตั้งข้อหา และศาลมีคำพิพากษาในวันดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.) นางวิไล สารประดิษฐ์ ผู้อำนวยการศาลจังหวัดชุมพร ได้เปิดเผยว่า คดีนี้ พนักงานอัยการจังหวัดชุมพรได้ยื่นฟ้อง นายภูมิใจ หรือ ดีเจภูมิ ตั้งสง่า กับพวกรวม 5 คน เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2563 เป็นจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติรวม 2 กระทง ศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งหมด กระทำความผิดจริง จำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท จำเลยให้การสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 2 ปี และให้จำเลยทั้งหมดรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุกระยะ 2 เดือนต่อครั้ง มีกำหนดคนละ 1 ปี กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคม หรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ให้จำเลยจัดทำสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเผยแพร่ต่อสาธารณชน เช่น ช่องยูทูป หรือ เฟซบุ๊ก เป็นต้น อย่างน้อย 2 คลิปความยาวแต่ละคลิปไม่น้อยกว่า 10 นาที ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งหมด ละเว้นการกระทำใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันนี้อีก หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา


https://mgronline.com/crime/detail/9630000042652

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 24-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


ศาลชุมพรพิพากษาคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่น 'ดีเจภูมิ-พวก' ตกปลาในเขตอุทยาน

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ดีเจภูมิ หรือ นายภูมิใจ ตั้งสง่า อายุ 41 ปี ได้ลงคลิปเปิดเผยภาพที่ดีเจภูมิและพวกเดินทางไปฟังคำพิพากษา กรณีช่วงเดือน ส.ค. 2562 ดีเจภูมิและพวกได้ไปตกปลาในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรโดยไม่ได้รับอนุญาต จนถูกตั้งข้อหา และศาลมีคำพิพากษาในวันดังกล่าว



ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.) นางวิไล สารประดิษฐ์ ผู้อำนวยการฯศาลจังหวัดชุมพร ได้เปิดเผยรายงานคดีที่ประชาชนสนใจ ระบุว่า วันที่ 18 มี.ค. 2563 พนักงานอัยการจังหวัดชุมพรได้ยื่นฟ้องนายภูมิใจ หรือ ดีเจภูมิ ตั้งสง่า กับพวกรวม 5 คน ความผิดต่อพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติรวม 2 กระทง ศาลพิพากษาจำเลยทั้งหกมีความผิด จำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 40,000 บาท จำเลยทั้งหกรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 2 ปี



ให้จำเลยทั้งหกไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุกระยะ 2 เดือนต่อครั้ง มีกำหนดคนละ 1 ปี กับให้จำเลยทั้งหกกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งหกเห็นสมควร เป็นเวลา 36 ชั่วโมง ให้จำเลยทั้งหกจัดทำสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเผยแพร่ต่อสาธารณชน เช่น ช่องยูทูป เฟซบุ๊ก เป็นต้น อย่างน้อย 2 คลิป ความยาวแต่ละคลิปไม่น้อยกว่า 10 นาที ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ให้จำเลยทั้งหกละเว้นการกระทำใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันนี้อีก หากจำเลยทั้งหกไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30


https://www.thaipost.net/main/detail/64046

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:41


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger