เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 19-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศต่ำบริเวณกำลังแรงบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้และจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ในขณะที่ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมลงมาปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 20-24 ธันวาคม 2563 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และจะทำให้พายุนี้อ่อนกำลังก่อนที่จะเข้าสู่อ่าวไทย ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 18 ?19 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด

ส่วนในช่วงวันที่ 20 ?22 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23 ?24 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 19 - 23 ธ.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 19-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ขุดพบซากมังกรทะเลชนิดใหม่ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ บนชายหาดดอร์เซ็ต


ภาพ Credit : Journals.plos.org

หนึ่งในชื่อแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในอังกฤษ ต้องมีชื่อของชายหาดดอร์เซ็ต ในเทศมณฑลดอร์เซ็ตอยู่ด้วยเสมอ เพราะนอกจากจะเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของคนโบราณ ที่นี่มักจะพบหลักฐานทางโบราณคดีหลากหลาย รวมถึงซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิสสัตว์โลกล้านปี ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ ดร.สตีฟ เอ็ทช์ส นักล่าซากฟอสซิลมือสมัครเล่น ได้ขุดพบสัตว์ในวงศ์อิกทิโอซอร์ (Ichthyosaur) ชนิดใหม่บนชายหาดดอร์เซ็ต

อิกทิโอซอร์ที่พบใหม่มีความยาว 2 เมตร ถูกขนานนามว่า "Etches sea dragon" ตามชื่อ ดร.เอ็ทช์ส ผู้ที่พบว่าซากฟอสซิลของมันถูกฝังอยู่ในหินปูนใกล้อ่าวคิมเมอริดจ์ และที่เรียกว่าอิกทิโอซอร์ว่ามังกรทะเล (sea dragon) ก็เพราะว่าพวกมันมีฟันและดวงตาที่ใหญ่มาก ดร.เอ็ทช์สคิดว่าฟันของอิกทิโอซอร์ตัวนี้ผิดปกติ เขาจึงส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธนำไปศึกษาต่อเพื่อระบุว่ามันเป็นชนิดใดกันแน่ ล่าสุด นักวิจัยตรวจสอบจนระบุได้ว่ามันเป็นสกุลและสายพันธุ์ใหม่ได้รับการตั้งชื่อว่า Thalassodraco etchesi มีชีวิตอยู่เมื่อ 150 ล้านปีก่อน

นักวิจัยเผยว่า อิกทิโอซอร์ดังกล่าวถูกธรรมชาติอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามด้วยการถนอมเนื้อเยื่ออ่อนทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อิกทิโอซอร์จัดเป็นสัตว์นักล่าทางทะเลที่มีการดัดแปลงทางร่างกายอย่างมาก เพื่อให้คล่องตัวสำหรับการว่ายน้ำ ดวงตาขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นดีขึ้น ส่วนกรามยาวเต็มไปด้วยฟันรูปกรวยหลายร้อยซี่ก็เหมาะต่อการจับเหยื่ออย่างปลาและปลาหมึก.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1996745


*********************************************************************************************************************************************************


อนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ



นอกจาก บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะมีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศไทยแล้ว ยังตั้งเป้าหมายในการดำเนินงานโครงการเพื่อสังคมภายใต้กลยุทธ์ "ทะเลเพื่อชีวิต" (Ocean for Life) ในแผนระยะยาว 10 ปี (ปี 2563-2573) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทยอีกด้วยครับ

ผมศึกษากรอบการดำเนินงานของ ปตท.สผ.แล้ว เห็นว่าน่าสนใจมาก โดยเฉพาะกรอบการดำเนินงาน 3P ซึ่งประกอบด้วย PROTECT คือ การปกป้องท้องทะเล ด้วยการบริหารจัดการขยะทะเลเพื่อป้องกันมลภาวะจากบนบกลงสู่ทะเล PRESERVE คือ การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้สามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกป่าชายเลน และพัฒนาศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก และ PROVIDE คือ การสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เพื่อให้ชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลรอบอ่าวไทยมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่แนวคิดนะครับ เพราะเขาลงมือปฏิบัติจริง ทำโครงการจริงๆ หลักๆที่ผมเห็น มีอยู่หลายโครงการครับ เช่น โครงการบริหารจัดการขยะทะเล (Ocean Waste Management) กำหนดเป้าหมายในการลดปริมาณขยะร้อยละ 50 ในปี 2573 อีกโครงการหนึ่ง คือ โครงการปลูกป่าชายเลน (Mangrove Forestation) มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล (Biodiversity) ด้วยการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมเพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำชายฝั่งของประเทศไทย โดยกำหนดเป้าหมายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลน จำนวน 5,000 ไร่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ให้กลับมาเป็นระบบนิเวศป่าชายเลนที่สมบูรณ์ โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ (Aquatic Animal Hatchery Learning Center) มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล และส่งเสริมวิถีการทำประมงอย่างยั่งยืนเพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ในพื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย




นอกจากนี้ ยังมี โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล (Turtle Conservation) นอกจากนี้ ยังมี โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล, โครงการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลและบ้านปลา (Coastal Conservation Area and Fish Home), โครงการเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล (Seafood Product Value Enhancement), โครงการตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทรและความหลากหลายทางชีวภาพ (Ocean Health & Biodiversity Monitoring)

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งระดับชาติและนานาชาติ ตามเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 14 การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล (Life below water) และยังช่วยขับเคลื่อนดัชนีสุขภาพของมหาสมุทร (Ocean Health Index) ของประเทศไทยและของโลกในภาพรวมอีกด้วยครับ.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1997341
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 19-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'ลูกเต่ามะเฟือง'รังแรกชายหาดบางขวัญ? ลืมตาดูโลกแล้ว?!!



เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา-ระนอง) ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง จ.พังงา ของศูนย์เฝ้าระวังฯ หาดบางขวัญ ได้ตรวจพบลูกเต่ามะเฟืองได้ฟักตัวและขึ้นมาบริเวณปากหลุมฟักไข่ที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงได้นำลูกเต่าไปใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้? จำนวน 72 ตัว จากนั้นได้ปล่อยให้ลูกเต่าทั้งหมดคลานลงสู่ทะเลตามธรรมชาติทั้งหมด? ก่อนที่นักวิชาการจะทำการตรวจสอบหลุม โดยพบว่ามีลูกเต่ามะเฟืองรังแรกแข็งแรงดีมาก มีที่ฟักออกมา? จำนวน? 72 ฟอง? ไข่ที่ไม่ได้รับการผสม จำนวน 13 ฟอง? เป็นไข่ที่?ไม่ได้รับการพัฒนา? จำนวน 19 ฟอง? และไข่ลม? 10? ฟอง? รวมทั้งสิน? จำนวน? 114? ฟอง



ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าวว่า ในวันนี้มีลูกเต่าขึ้นมาจากหลุม จำนวน 49 ตัว และไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมได้ จำนวน 8 ตัว ส่วนที่เหลือเป็นไข่ที่ไม่มีการผสม โดยพบอัตราการฟักอยู่ที่ 63?% โดยเต่าหลุมนี้ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาฟักจำนวน 58 วัน

ส่วนหาเหตุที่ไม่ทำการอนุบาลลูกเต่าก่อนจะทำการปล่อยลงสู่ทะเลนั้น สืบเนื่องจากผลการทดลองอนุบาลและเพาะฟักทั่วโลกยังไม่มีใครทำสำเร็จ เนื่องจากพฤติกรรมการกินอาหาร หรือพฤติกรรมการว่ายน้ำ ประกอบกับเต่ามะเฟืองเป็นสัตว์ที่มีหนังหุ้มเกร็ดจึงทำให้ง่ายต่อการเสียชีวิต ซึ่งหากเทียบกับการปล่อยลงสู่ธรรมชาติจะทำให้ลูกเต่ามีโอกาสรอดสูงส่วนหลุมฟักที่ 2 คาดว่าจะอีกไม่เกิน 10 วัน ลูกเต่าจะเริ่มคลานออกมาจากหลุม ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปรับพื้นที่เพื่อให้ลูกเต่าที่เกิดสามารถคลานกลับลงสู่ทะเลด้วยตัวเอง


https://www.naewna.com/local/539646


*********************************************************************************************************************************************************


จับแล้ว! 'ต้นเรือสปีดโบ๊ท-ไกด์นำเที่ยว'ทิ้งสมอ สร้างความเสียหายแนวปะการัง

จับแล้ว! "ต้นเรือสปีดโบ๊ท-ไกด์นำเที่ยว"ทิ้งสมอ สร้างความเสียหายแนวปะการัง ที่เพาะปลูกในเขตอุทยานฯพีพี ถูกแจ้ง2ข้อหา



จากกรณี ดร.นลินี ทองแถม นักวิชาการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) โพสต์เฟซบุ๊ก Nalinee Thongtham ว่าเรือเข้ามาทิ้งสมอในแนวปะการังอุทยานพีพีอีก ขนาดอุทยานฯ กั้นทุ่นราวไว้ น้ำก็ใส และตื้นเห็นปะการังชัด และปะการังที่เสียหายเป็นปะการังที่อาสาสมัครพยายามฟื้นฟู หลังจากที่ปะการังธรรมชาติแถวนี้ฟอกขาวตายเกือบหมด ต้องใช้แรงงานอาสาสมัครในการอนุบาล ดูแล ย้ายปลูกจากกิ่งที่เล็กกว่านิ้วก้อย ใช้เวลารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี กำลังขึ้นสวยเต็มพื้นที่ แต่ก็ถูกผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัวทำลายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เมื่อไหร่คนพวกนี้จะถูกลงโทษให้เข็ดหลาบ ทั้งในแง่กฎหมายและกฎของสังคม พยาน หลักฐานมี ฝากผู้เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย

ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ทีมงานอนุรักษ์ปะการังที่เกาะพีพีแจ้งข่าวมา มีเรือทิ้งสมอทำให้ปะการังที่ปลูกไว้แตกหักเสียหาย เรือยังฝ่าทุ่นกั้นเขตห้ามเข้าที่หาดด้วย การกระทำดังกล่าว น่าจะมีความผิดตามนี้ 1.ทำอันตรายต่อปะการังที่เป็นสัตว์คุ้มครอง มีบทลงโทษตามพ.รบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2.ฝ่าฝืนระเบียบอุทยาน นำเรือเข้าไปในสถานที่ห้ามเข้า และยังอาจมีข้ออื่นๆ อีก เช่น คนเรือขออนุญาตถูกต้องหรือเปล่า

ทั้งนี้ ดร.ธรณ์ ระบุว่า เพิ่งโพสต์เรื่องการลงโทษที่เกาะพงัน หวังว่าคงตรวจสอบติดตามด้วยมาตรฐานเดียวกัน และอันที่จริงควรมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะที่นี่เป็นอุทยาน และมีภาพปะการังหักชัดเจนทางอุทยานทราบแล้ว และคงรีบดำเนินการ พรุ่งนี้ผมเข้าพบท่านอธิบดีกรมอุทยาน จะรายงานท่านอีกครั้งแต่เชื่อมือหัวหน้าพีพีคนใหม่ จะจัดการได้อย่างรวดเร็วและเรียบร้อย ดังที่ท่าน รมต.ประกาศอยู่เสมอ เราจะไม่ยอมให้การท่องเที่ยวทำร้ายทะเล

ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สามารถติดตามเรือสปีดโบ๊ทได้แล้ว พบว่าเป็นเรือนำเที่ยวจาก จ.ภูเก็ต พร้อมจับกุม นายพิชิตชัย ใจเหล็ก กัปตันเรือ และนายพีรพัฒน์ มีปลอด ไกด์นำเที่ยวประจำเรือ เป็นชาวภูเก็ตทั้งคู่ โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา19 (2) ทำอันตรายต่อระบบนิเวศ และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยเตรียมดำน้ำตรวจสอบความเสียหายของแนวปะการัง

นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้า ที่ลาดตระเวนตรวจสอบ ป้องกันการฝ่าฝืน พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ทั้งการลักลอบทำประมง การทิ้งสมอเรือในจุดห้ามจอดเรือ

ก่อนหน้านี้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การกระทำของเรือนำเที่ยวดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดชัดเจน เพราะปะการังถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ การทำให้ปะการังเกิดความเสียหาย ทั้งการจับ ดัก ล่อทำลายถือว่ามีความผิด ซึ่งเรื่องนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดอย่างถึงที่สุด


https://www.naewna.com/local/539644

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 19-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ตัดปมล่า "ตัดเขี้ยว" พะยูนแม่ลูก-มีแผลลึกคาดสมอเรือกระแทก

อธิบดีทช.เผยผลชันสูตรซากพะยูนตัวเมีย มีลูกตายคาท้องที่ทะเลตรัง เจอร่องรอยบาดแผลลึกกลางหลังถึงอวัยวะภายในลึก 15 เซนติเมตร คาดเป็นสมอเรือกระแทกรุนแรงเสียเลือดมาก ส่วนเขี้ยวข้างซ้ายหายไป คาดชาวประมงตัดเก็บเป็นเครื่องรางของขลัง ยังไม่ใช่ขบวนการล่า


กรณีพบพะยูนตัวเมียลอยอยู่ในทะเลระหว่างเกาะแหวนกับเกาะกระดาน หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง และพบร่องรอยถูกตัดเขี้ยวข้างซ้ายออกไป 1 ข้าง วันนี้ (18 ธ.ค.2563) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ค่อนข้างสะเทือนใจเนื่องจากสัตวแพทย์ที่ผ่าชันสูตรเจอลูกพะยูนตัวเมียน้ำหนัก 9.2 กิโลกรัม ความยาว 82 เซนติเมตร อยู่ภายในช่องท้อง และมีลักษณะของการกลับหัว ประกอบกับตัวแม่พบช่องคลอดขยายตัว เริ่มมีน้ำนมไหลออกมาบ่งชี้ว่าในอีกไม่กี่วันลูกพะยูนจะคลอดออกมาถ้าไม่ตายเสียก่อน จึงถือเป็นความสูญเสียพะยูนถึง 2 ตัว

อธิบดีทช.กล่าวอีกว่า ทีมสัตวแพทย์รายงานว่าจากการผ่าชันสูตร ทำให้พบบาดแผลรอยบาดจากของมีคมบริเวณด้านหลังส่วนท้าย ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร และพบลักษณะแผลจากการถูกของมีคมและเป็นวัตถุแข็งกระแทกอย่างแรงบริเวณส่วนท้ายของลำตัวด้านขวา ทำให้พบรอยช้ำบริเวณรอบบาดแผล ผิวหนังลอกหลุดบริเวณกว้าง และพบกล้ามเนื้อมีรอยช้ำ เกิดการฉีกขาดอย่างรุนแรง


ภาพ: เฟซบุ๊ก ทิพย์อุสา จันทกุล


บาดแผลลึกคาดเจอสมอเรือทิ้งโดนตัว

นายโสภณ กล่าวว่า บาดแผลที่พบทะลุเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อจนถึงอวัยวะภายใน ความยาวขอบบาดแผลประมาณ 7 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ความลึกจากชั้นผิวหนังถึงอวัยวะภายในประมาณ 15 ซม.บ่งชี้ถึงการได้รับบาดเจ็บจากของมีคมและเป็นวัตถุแข็งกระแทกอย่างรุนแรง คาดว่าน่าจะเป็นสมอเรือ แต่ไม่ชัดว่าเป็นเรือประเภทไหน แต่เป็นลักษณะของปีกสมอเรือ

เบื้องต้นสรุปสาเหตุการตาย คาดว่าเกิดจากการถูกของมีคมแทงทะลุ จนถึงอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลให้พะยูนเสียเลือดมาก และส่งผลกระทบต่อลูกสัตว์ภายในท้อง ร่วมกับพะยูนอยู่ในภาวะใกล้คลอด ทำให้ลูก และแม่พะยูนตายอย่างฉับพลัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเและชายฝั่ง ได้ทำการเก็บตัวอย่างอวัยวะภายใน เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและฝังซากในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว


ภาพ: เฟซบุ๊ก ทิพย์อุสา จันทกุล


ตัดปมล่าเอาเขี้ยว

"เขี้ยวของพะยูนข้างซ้ายบางส่วน มีรอยตัดจากของมีคมตัด คาดว่าถูกเลาะออกไปภายหลังตาย ไม่พบรอยช้ำของบาดแผล จึงอาจจะตัดประเด็นการล่าพะยูนเพื่อตัดเขี้ยวออกไป"

เมื่อถามว่าทำไมถึงตัดประเด็นล่าเอาเขี้ยวพะยูน นายโสภณ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะตัดเอาเขี้ยวพะยูนแบบจงใจ เพราะด้วยรูปร่างน้ำหนักที่มีขนาดใหญ่ถึง 200-300 กิโลกรัม และการล่า เพื่อฆ่าต้องตีบริเวณหัวพะยูน เพราะเป็นจุดตาย เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของระบบประสาททั้งหมด แต่คาดว่าอาจจะเป็นลักษณะที่เจอพะยูนตายแล้ว คนที่เจอน่าจะตัดเอาเขี้ยวไปเพียงข้างเดียว เพื่อเป็นเครื่องรางของขลัง เพราะตัดไปข้างเดียว

"มั่นใจว่าไม่ใช่การล่า เพราะเอาเขี้ยวข้างเดียว เป็นความเชื่อเครื่องรางของขลังของชาวประมง แต่ไม่ปฏิเสธว่ายังมีการค้าขายเขี้ยวพะยูน และอวัยวะอื่นๆในโซเชียล แต่บางครั้งผู้ค้าก็หลอกเอาเขี้ยวอื่นมาขาย เช่นที่เคยเจอเป็นเขี้ยวหมู และเรซินบ้าง จึงขอเตือนว่าอย่ามีความเชื่อที่ผิดๆ เพราะพะยูนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในบัญชีสัตว์ป่าสงวน"

อธิบดีทช.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางทช.ยังได้จัดทำพื้นที่อนุรักษ์พะยูน และแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ อ.ย่านตาขาว อ.กันตัง และอ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยการประกาศพื้นที่คุ้มครองพะยูน ออกภายใต้พ.ร.บ.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่วนกรณีแม่พะยูนตายตัวล่าสุด ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อหาคนที่ทำผิดแล้ว

สำหรับพะยูน เป็นสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ ถูกขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองพ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535


https://news.thaipbs.or.th/content/299328

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:22


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger