เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 - 3 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. 64 คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ไปปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบน อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวบริเวณภาคเหนือ

ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 6 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากระเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ และบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


"เจ้าท่า" ลุยปรับปรุงท่าเรือเกาะสมุย บูมเที่ยวทะเลอ่าวไทย

กรมเจ้าท่า เร่งปรับโฉมใหม่ท่าเรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี คาดแล้วเสร็จปี 67 รองรับการท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยเพิ่มสูงขึ้น-ยกระดับมาตรฐานท่าเรือให้ปลอดภัย



นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการตามแผนด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ เพื่อยกระดับท่าเรือให้ได้มาตรฐานและความปลอดภัย ซึ่งท่าเทียบเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือสำคัญที่จะรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่าเรือเกาะสมุย เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางไปยังเกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน และเกาะม้า จ.สุราษฎร์ธานี ในอนาคตอาจมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายวิทยา กล่าวต่อว่า กรมเจ้าท่า จึงดำเนินการปรับปรุงรื้อถอนท่าเทียบเรือเดิมบางส่วน และปรับปรุงท่าเรือดังกล่าว ได้แก่ ปรับปรุงโครงสร้างท่าเทียบเรือเพื่อส่งเสริมหน้าท่าพื้นที่ 864 ตารางเมตร และเพิ่มพื้นที่สะพานทางเดิน 2,340 ตารางเมตร สร้างอาคารพักคอยรองรับผู้โดยสารเรือครุยส์ ขนาด 1,800 ตารางเมตร และอาคารพักคอยด้านหลังท่าเทียบเรือ 182.25 ตารางเมตร และงานก่อสร้างด้านอื่นๆ ด้วยรูปแบบที่ทันสมัย และได้มาตรฐานความปลอดภัย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จปี 67

นายวิทยา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การปรับปรุงท่าเรือเกาะสมุยจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในอนาคต หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจฝั่งอ่าวไทยในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดี ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกด้วย


https://www.dailynews.co.th/economic/822510

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 01-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ชาวประมงญี่ปุ่นจับถ่วงน้ำดับ วาฬมิงค์ติดอวน ตอกย้ำช่องโหว่กฎหมายล่าวาฬ .............. ถอดความจาก รายงาน ของ ฟลอรา ดูรี ผู้สื่อข่าวบีบีซี



วิดีโอที่เผยช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่ทารุณของชะตากรรม วาฬมิงค์ ในมือของชาวประมงญี่ปุ่น สร้างความสะเทือนใจผ่านสื่อต่างประเทศ แต่เหล่านักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์บอกว่า วิดีโอดังกล่าวเผยวาฬถูกทำให้จมน้ำอย่างช้าๆ หลังติดอวน เป็นการตอกย้ำช่องโหว่กฎหมายอย่างสิ้นเชิง ที่ใช้ฆ่าวาฬหลายสิบตัวในแต่ละปี

นายมาร์ก ซิมมอนด์ส นักวิทยาศาสตร์ทะเลอาวุโส แห่งองค์การสิทธิสัตว์ สมาคมมนุษยธรรมสากล (Humane Society International: HSI) ออกแถลงการณ์ถึงวิดีโอดังกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์พิเศษหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่เป็นกระบวนการทั้งหมดเหล่านี้ที่มีคนเห็นและบันทึกเพื่อให้ทั่วโลกเห็น"

ที่จริงแล้ว การตายของวาฬมิงค์ตัวนี้เป็นอีกครั้งที่เผยช่องว่างระหว่างญี่ปุ่นและโลกกว้างถึงการล่าวาฬ ซึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์มองว่าเป็นการตายที่โหดร้ายและสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่กลุ่มชาวประมงมองว่าเป็นของขวัญจากท้องทะเล

ญี่ปุ่น เป็นเช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ทั่วโลก ที่มีประเพณีการล่าวาฬมายาวนานหลายร้อยปี และหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เนื้อวาฬกลายเป็นวัตถุดิบหลักบนโต๊ะอาหารญี่ปุ่น ขณะที่ญี่ปุ่นพยายามคงประชากรวาฬไว้

แต่สำหรับกลุ่มผู้สนับสนุนการล่าวาฬ ประเพณีดังกล่าวเป็นมากกว่าอาหารธรรมดาในจาน นั่นคือที่มาของความภาคภูมิใจในชาติ

อย่างไรก็ตาม ชาวประมงไม่ได้รับอนุญาตล่าวาฬนอกชายฝั่งญี่ปุ่นเป็นเวลาอีก 30 ปี โดยรัฐบาลญี่ปุ่นลงนามใน คณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ (IWC) หลังจับปลามากเกินไปมาหลายสิบปีที่เร่งให้ประชากรวาฬใกล้สูญพันธุ์

ทว่าเมื่อเดือนก.ค.2562 เรือล่าวาฬออกเดินทางอีกครั้ง ทั้งที่ความต้องการเนื้อวาฬจะลดลง หลังญี่ปุ่นกำหนดโควตาอย่างเข้มงวดเพื่อล่าวาฬอย่างรับผิดชอบเป็นปีแรก ทำให้ผู้สนับสนุนการล่าวาฬกล่าวในเวลานั้นว่า รู้สึกโล่งใจที่วัฒนธรรมและวิถีชีวิตจะถูกส่งผ่านคนรุ่นต่อไป

ปีแรก (2562) ออกโควตาอนุญาตล่าวาฬทั้งหมด 227 ตัว ในช่วงฤดูล่าวาฬ ได้แก่ วาฬมิงค์ (ไม่ใช่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์) 52 ตัว ตลอดจน วาฬบรูด้า 150 ตัว และ วาฬเซย์ 25 ตัว

ส่วนในปี 2563 และ 2564 โควตาเพิ่มเป็น 383 ตัว ซึ่งแบ่งที่มาออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ จากเรือล่าวาฬจากทางการ จากรัฐบาล และ จากการจับสัตว์น้ำแบบพลอยได้ (by-catch) ที่วาฬว่ายเข้ามาผิดเอง

เฉพาะในปี 2564 ชาวประมงชำแหละและขายวาฬมากถึง 37 ตัว จากที่มาจากการจับแบบพลอยได้ รวมถึงวาฬมิงค์ที่ตายและปรากฏในวิดีโอด้วย

นายเรน ยาบูกิ หัวหน้า Life Investigation Agency (LIA) องค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อสิทธิสัตว์ญี่ปุ่น เป็นคนแรกที่เห็นวาฬมิงค์ตัวนี้ซึ่งติดอวนนอกเมืองไทจิ ภูมิภาคคันไซ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ปีที่แล้ว ย้อนเหตุการณ์นั้นว่า ตอนแรกหวังว่า ชาวประมงจะยกอวนและปล่อยวาฬมิงค์ออกไป โดยชายประมงคนหนึ่งพยายามทำดังกล่าวอยู่ 10 นาที แต่พวกชาวประมงก็หยุดช่วย

นายยาบูกิสงสัยว่าพวกชาวประมงไม่ต้องการยกอวนออกเนื่องจากภายในอวนมีปลาหลายตัว จึงเป็นที่มาของ 20 วัน ทั้งวิ่งเต้นสมาคมเจ้าของอวนจับสัตว์น้ำเพื่อช่วยกันปล่อยวาฬมิงค์ตัวนั้น และเริ่มอัพโหลดวิดีโอเหตุการณ์ที่เจ้าตัวใช้โดรนบันทึกในแต่ละวัน เพื่อให้คนทั่วโลกเห็นชะตากรรมวาฬมิงค์ที่ดิ้นไปมาและพยายามฝ่าอวนออกไปหลายครั้งอย่างสิ้นหวัง

กลายเป็นพาดหัวไปทั่วโลกและคนเรียกร้องปล่อยวาฬมิงค์ตัวนี้มากขึ้นๆ แต่แล้ว เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายยาบูกิเห็นเรือสองลำขนาบวาฬมิงค์ตัวนั้นทั้งสองข้าง ก่อนจับหางวาฬมิงค์ผูกกับเสาตอม่อบนเรือ ลำหนึ่ง บังคับให้หัววาฬมิงค์อยู่ใต้น้ำเป็นเวลา 20 นาที กระทั่งจมน้ำในที่สุด เรือเต็มไปด้วยเลือดวาฬมิงค์ที่ตายเพราะบาดเจ็บขณะพยายามดิ้นรนเพื่อเป็นอิสระ

หลายวันจากเหตุการณ์วันนั้น มีวิดีโอลับเผยเนื้อวาฬที่บรรจุหีบห่ออย่างดี ขายที่ราคา 398 เยน ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ในซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น แต่นั่นอาจไม่ใช่วาฬมิงค์ตัวเดียวกับที่ตายในเมืองไทจิก็ได้

สำหรับผู้สนับสนุนการล่าวาฬ ไม่มีอะไรผิดปกติกับเหตุการณ์วันนั้น นายฮิเดกิ โมโรนูกิ ผู้อำนวยการเจรจาการประมง สำนักการประมงญี่ปุ่น กล่าวว่า คนญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งรู้สึกเห็นใจต่อสัตว์ชนิดนี้ที่ติดอยู่ในแหและต้องการให้มันถูกปล่อยหากเป็นไปได้ แต่ว่า

"ขณะเดียวกัน มีหลายคนถือว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นของขวัญจากมหาสมุทรและจะนำมาใช้อย่างเต็มที่อย่างรู้คุณค่า" นายโมโรนูกิกล่าว

สำหรับชาวประมง วาฬที่ติดอวนถือเป็นของแถมจากทะเล จึงจับเอาไว้ เพราะในปัจจุบันปกติไม่มีใบอนุญาตจับและขายวาฬแล้ว แต่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์บอกว่า นี่คือความล้มเหลวของระบบการกำหนดโควตาล่าวาฬ เนื่องจากไม่เอื้อให้ชาวประมงปล่อยวาฬ

นายซิมมอนด์ส แห่ง HSI ชี้ว่า การจับสัตว์น้ำแบบพลอยได้เกี่ยวข้องกับการจับสัตว์ที่ไม่ต้องการโดยอุบัติเหตุหรือไม่ตั้งใจระหว่างการทำประมง

การจับวาฬติดอวนในญี่ปุ่นไม่ใช่การจับแบบพลอยได้ แต่เป็น การจับที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้และวางแผนอย่างรอบคอบ และ การที่วาฬติดอวนไม่ใช่เป็นเพียงเหตุผลที่วาฬจะต้องตาย

นอกจากนี้ วาฬมิงค์ตัวที่เป็นข่าวแล้ว เรือล่าวาฬลำเดียวกันนั้นจับวาฬอีก 2 ตัว ตัวแรกเป็น วาฬมิงค์ จับได้เมื่อปลายเดือนพ.ย. แต่ปล่อยเป็นอิสระในอีกวันให้หลัง ส่วนวาฬมิงค์ที่ตายเป็นตัวแรกที่สอง และตัวที่สามเป็น วาฬหลังค่อม ถูกพบลอยตายติดอวน ในวันที่ 25 ธ.ค. หรือ 1 วัน หลังวาฬมิงค์ตัวที่สองตาย

ด้านสมาคมการประมงเมืองไทจิออกแถลงการณ์โต้แย้งในเวลานั้นว่า ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฆ่าวาฬมิงค์ตัวที่สอง เนื่องจาก "กระแสน้ำแรงและยากต่อการปล่อยวาฬมิงค์ตัวนั้น" สอดคล้องกับที่นายโมโรนูกิ ผู้อำนวยการเจรจาการประมง กล่าวว่า สภาพทะเลรุนแรงเกินกว่าจะใช้วิธีอื่นเพื่อฆ่าวาฬมิงค์

"ผมเชื่อว่า สำหรับเหตุผลเหล่านี้ คนญี่ปุ่นถือว่าเป็นวิธีการเป็นจริงและปฏิบัติได้จริงเพียงวิธีเดียว และไม่ได้ใช้อารมณ์และความวุ่นวายใดๆ ในการลงมือ" นายโมโรนูกิกล่าว

แต่สำหรับนายยาบูกิ นี่เป็นความโหดร้ายของชะตากรรมสัตว์ที่ต้องตายที่ยังอยู่ "มือของผมด้วยความเสียใจ น่าเศร้ามาก ผมโกรธมาก ผมต้องการช่วยเหลือวาฬเพื่อนำไปปล่อย แต่ทำไม่ได้"

เช่นเดียวกับนายซิมมอนด์สที่บอกว่า การบังคับให้ส่วนหัวของวาฬที่วิวัฒนาการมาใต้น้ำต้องกลั้นหายใจเป็นเวลานานๆ เพื่อให้ออกซิเจนหมดไปอย่างช้าๆ เป็นวิธีการฆ่าที่โหดร้ายอย่างยิ่งจากทุกมาตรฐาน


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_5855353

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 01-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


มหาสมุทรแอตแลนติกกำลังขยายตัว มีขอบเขตกว้างใหญ่ขึ้นทุกปีเพราะอะไร


รูปคลื่นยักษ์สีฟ้าที่มาของภาพ .... GETTY IMAGES

แม้นักวิทยาศาสตร์จะทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า มหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งกั้นกลางระหว่างทวีปอเมริกากับแผ่นดินยุโรปและแอฟริกานั้น กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นปีละกว่า 4 เซนติเมตร จนเบียดให้มหาสมุทรแปซิฟิกค่อย ๆ แคบลงไปด้วย แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าปรากฏการณ์นี้มาจากสาเหตุใดกันแน่

ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากอิตาลี ออสเตรีย และสหราชอาณาจักร ตีพิมพ์ผลการศึกษาทางธรณีวิทยาที่ได้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลมาหลายปีลงในวารสาร Nature โดยระบุว่าความเคลื่อนไหวที่ผิดคาดของแผ่นเปลือกโลกใต้ผืนน้ำ บริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นต้นเหตุที่นำมาซึ่งการขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งของผืนมหาสมุทรในครั้งนี้

ย้อนไปเมื่อปี 2016 มีการใช้เรือสำรวจหย่อนอุปกรณ์ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว (seismometer) รวม 39 ตัว ลงไปที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา เพื่อทราบถึงความเคลื่อนไหวของหินหลอมละลายหรือแมกมาในชั้นเนื้อโลก (mantle) ได้ชัดเจนขึ้น

ตามทฤษฎีดั้งเดิมที่ว่าด้วยการแปรสัณฐานของแผ่นธรณีภาค หรือทฤษฎีความเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก เชื่อว่าบริเวณใต้เทือกเขากลางมหาสมุทรนั้นสงบนิ่ง ไม่สู้จะมีบทบาทต่อพลวัตความเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยามากนัก

แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์กลับได้พบกับเรื่องน่าประหลาดใจ เมื่อผลการตรวจวัดล่าสุดชี้ว่า แมกมาที่ไหลเวียนในชั้นเนื้อโลกซึ่งจะเอ่อล้นขึ้นมาด้านบนและกลับจมลงไปด้านล่างครั้งแล้วครั้งเล่า มีแรงดันมากพอที่จะทำให้แผ่นเปลือกโลกบริเวณเทือกเขากลางมหาสมุทรขยายตัวและเคลื่อนห่างออกจากกันได้


เรือสำรวจหย่อนอุปกรณ์ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนลงไปที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก
ที่มาของภาพ ..... UNIVERSITY OF SOUTHAMPTON


ทีมผู้วิจัยบอกว่า ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับกระบวนการที่ทำให้เกิดเกาะภูเขาไฟอย่างฮาวายหรือไอซ์แลนด์ แต่การไหลเวียนของแมกมาที่เป็นตัวการขยายพื้นก้นสมุทรให้กว้างขึ้นนี้ กลับไม่มีการระเบิดปะทุของแมกมาออกมาจากชั้นเนื้อโลก เปรียบเสมือนกับไขมันและหนองที่ดันหัวสิวให้โป่งนูนขึ้น แต่ยังไม่แตกออก


แผนที่แสดงตำแหน่งของอุปกรณ์ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือน 39 ตัว (จุดสีแดง) ที่นอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา ..... ที่มาของภาพ UNIVERSITY OF SOUTHAMPTON

การค้นพบดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องทบทวนความรู้เดิมด้านธรณีวิทยาเสียใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อที่ว่ามหาสมุทรแอตแลนติกนั้นสงบนิ่ง ไม่สู้มีความเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกมากเท่ากับมหาสมุทรแปซิฟิกที่มี "วงแหวนแห่งไฟ" (Ring of Fire)


https://www.bbc.com/thai/international-55876489

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:45


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger