เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ไห่ขุย" (HAIKUI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในช่วงวันที่ 4?5 กันยายน 2566 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยโดยตรง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 4 ? 5 ก.ย. 66 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 6 ? 9 ก.ย. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ในช่วงวันที่ 4 ? 6 ก.ย. 66 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.ย. 66 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ย. 66









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ดร.ธรณ์ เสนอ 7 ประเด็นใหญ่ ฝากรัฐบาลใหม่ ดูแลปัญหาทะเลไทย

อ.ธรณ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ฝากถึงรัฐบาลใหม่เข้ามาดูแล
ข้อเสนอ 7 ประเด็นใหญ่ในทะเลไทย ตั้งแต่ปัญหาปะการังฟอกขาว ปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี โลกร้อน หรือแม้แต่การรับมือเอลนีโญ



วันนี้ (3 ก.ย.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ระบุข้อความว่า "รัฐบาลใหม่เข้าทำงาน จึงขอเสนอ 7 ประเด็นใหญ่ในทะเลไทยให้เพื่อนธรณ์ลองคิดตาม

1.คือปะการังฟอกขาวที่อาจแรงในต้นปีหน้า ต้องเร่งเตรียมพร้อมสำรวจติดตามและออกมาตรการให้ทันท่วงที รวมถึงมีทางเลือกหากจำเป็นต้องปิดท่องเที่ยวในแนวปะการังบางแห่งที่ฟอกขาวรุนแรง

2.คือปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (น้ำเขียว) ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องชายฝั่งทะเล เราต้องหายกระดับการเก็บข้อมูลเพื่อการเตือนภัย รวมถึงหาแนวทางในการแก้ต้นเหตุที่เกิดจากมนุษย์

3.คือการส่งเสริมสนับสนุนระบบนิเวศทางทะเลเพื่อดูดซับ/กักเก็บคาร์บอน เป็นประเด็นใหม่และละเอียดอ่อน ต้องทำความเข้าใจให้ดีและมีมาตรฐานที่ยอมรับได้ รวมถึงกระจายการมีส่วนร่วมไปหาชุมชนให้มากที่สุด

4.คือการใช้เทคโนโลยีและแนวทางใหม่ๆ ในการสำรวจติดตาม ลาดตระเวนปกป้องธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ เช่น Smart Patrol ทั้งในทะเลและบนบก

5.คือความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายาก เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฏกติกาของโลดในการส่งออกสินค้าประมง อีกทั้งยังเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อการพัฒนาต่างๆ เช่น โลมา/สะพานทะเลสาบสงขลา

6.คือการสนับสนุนอันดามันมรดกโลก ติดค้างมาเกือบ 20 ปี ตอนนี้ต้นเรื่องเข้าไปที่ยูเนสโกแล้ว รอแค่เขามาเช็ค เราเตรียมพร้อมแค่ไหน

นี่จะเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญ และจะเกี่ยวข้องตรงๆ กับการท่องเที่ยวที่รัฐบาลตั้งเป้าจะยกระดับเพื่อหารายได้เข้าประเทศ

7.คือโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ที่เราคิดจะลงทุน ผลกระทบจะมีมากไหม ? คุ้มค่าหรือเปล่า ? เป็นเรื่องที่ต้องมีข้อมูลเพียงพอและใช้เหตุผลในการตัดสินใจ

ยังมีอื่นๆ อีกมากมาย แต่ขอเน้นย้ำไว้แค่ 7 เรื่องใหญ่ไว้ก่อน

2 ผลงานที่ชี้วัดในระยะ 3-6 เดือนคือบทบาทของไทยในการประชุมโลกร้อน COP28 ธันวาคมปีนี้ และการรับมือเอลนีโญที่มาแล้วและจะแรงขึ้นไปจนถึงสิ้นปี/ปีหน้า

ผมไม่ทราบว่าเขาตัดเกรดกระทรวงกันตรงไหน ? แต่ถ้าวัดจากประเด็นที่ทั่วโลกพูดกันในตอนนี้ นี่คือกระทรวงเกรด A แน่นอน

จึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เข้ามารับงานดูแลทรัพยากร/สิ่งแวดล้อมของประเทศชาติ เพื่อทำผลงานเกรด A ครับ"


https://mgronline.com/onlinesection/.../9660000079474

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 04-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


พบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ที่ภูเก็ต พิษร้าย อันตราย เตือนดังๆ ไม่ควรสัมผัส



ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เผย พบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกสจำนวนมากที่จังหวัดภูเก็ต เผยข้อมูล มีพิษร้าย อันตราย พิษของมันอาจทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน ในบางรายที่มีอาการแพ้มากอาจทำให้มีอาการหนัก หลีกเลี่ยงโดยไม่ควรสัมผัสใดๆ ทั้งสิ้น

เป็นอีกกระแสที่สังคมออนไลน์ แห่แชร์ภาพแมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ซึ่งพบที่บริเวณหาดฝั่งตะวันตก จ.ภูเก็ต และมีการเตือนให้ระวังถึงพิษของแมงกะพรุนชนิดนี้

ทางด้าน คุณสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เผยว่า ได้มีการลงพื้นที่บริเวณหาดกระรนพบ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส ซึ่งมีอีกชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แมงกะพรุนหัวขวด ซึ่งในเบื้องต้นพบแมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกสจำนวนไม่มาก พิษของมันอาจทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน ในบางรายที่มีอาการแพ้มากทำให้มีอาการหนัก ซึ่งได้มีการเตือนบรรดานักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ห้ามสัมผัสเพื่อป้องกันอันตรายจากพิษ

พิษของแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสมีอันตราย ซึ่งพิษของมันอยู่ตรงระยางสีน้ำเงินจึงห้ามสัมผัส นอกจากนี้ สัตว์อีกชนิดพึงระวังคือ blue dragon หรือ ทากเปลือย ซึ่งตัวมันเองไม่มีอันตรายอะไร แต่เนื่องจากอาหารของ blue dragon คือแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสจึงทำให้ตัวมันเอง absorb พิษไว้ โอกาสที่จะระคายเคืองจึงมีมาก และห้ามจับโดยเด็ดขาด

จากการตรวจสอบการพบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส คาดว่าอาจมาจากคลื่นลมพัดเข้ามา ซึ่งปกติแล้วเราจะไม่เจอที่บริเวณหาดเท่าไร แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงอาจพัดแมงกะพรุนชนิดนี้เข้ามา โดยปกติแล้วจะพบในช่วงหน้าร้อนซึ่งจะมีมากกว่านี้ ตอนนี้หน้าฝนพัดลมแรงอาจพัดพวกมันเข้ามา จึงได้มีการเตือนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงและห้ามสัมผัส

หากใครบังเอิญสัมผัสและได้รับพิษ ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่โดนพิษประมาณ 30 วินาที โดยปกติแล้วหากโดนพิษจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน ซึ่งก็ต้องเฝ้าระวังเพราะบางคนอาจมีอาการแพ้มาก อันตรายของพิษแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ขึ้นอยู่กับอาการแพ้ของแต่ละคนซึ่งอาจมากน้อยต่างกันและปริมาณพิษที่ได้รับ


ขอขอบคุณที่มา : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง / เพจขยะมรสุม


https://www.nationtv.tv/gogreen/378928868


******************************************************************************************************


ฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมา เดือดร้อนหนัก ปลาตายกว่าล้านตัว เหตุน้ำทะเลร้อนขึ้น



ธุรกิจฟาร์มปลาและอาหารทะเล ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมาในจังหวัดช็อลลาใต้ ต้องปวดหัวหนัก เมื่อพบว่าปลาตายมากกว่า 1.05 ล้านตัว เนื่องจากอุณหภูมิน้ำในทะเลสูงขึ้น 5 องศาฯ จากภาวะโลกร้อน

สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change กำลังรุนแรงและน่ากลัวขึ้นทุกขณะ UN ได้ประกาศว่ายุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว เข้าสู่ยุคโลกเดือด และเมื่อโลกอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้มหาสมุทรต้องดูดซับความร้อนถึง 90% และทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ซึ่งการที่ทะเลเดือดหรือมหาสมุทรร้อนขึ้นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีกับโลกและสิ่งมีชีวิต

จากภาวะโลกร้อน น้ำในมหาสมุทรอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลและแน่นอนว่าธุรกิจฟาร์มปลาและอาหารทะเล ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมาในจังหวัดช็อลลาใต้ต้องปวดหัวเมื่อพบว่าปลาตายมากกว่า 1.05 ล้านตัว เนื่องจากอุณหภูมิน้ำในทะเลสูงขึ้น 5 องศาเซลเซียส

เจ้าของฟาร์มปลา เปิดเผยว่า

จากการทำฟาร์มปลามา 20 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำทะเลร้อนขนาดนี้ เครื่องวัดอุณหภูมิของน้ำระบุอุณหภูมิสูงถึง 28.2 องศาเซลเซียส ขณะที่ปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันอุณหภูมิอยู่ที่ 23.1 องศาเซลเซียส และจากที่อุณหภูมิน้ำทะเลร้อนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดกันหลายวันทำให้ปลาปรับสภาพไม่ได้และตายเป็นจำนวนมาก

ส่วนของประเทศไทยเองก็พบกับเหตุการณ์ปลาในกระชังปลาตายเกลื่อนอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนเช่นกัน ซึ่งนักวิชาการประมงได้เผยว่า

เมื่อน้ำอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้ออกซิเจนในน้ำต่ำลง ส่งผลกับกระบวนการเผาผลาญอาหารและการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ

ข้อมูลของ "เบย์เลอร์ ฟอกซ์ เคมเปอร์" ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลก สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ มหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวว่า

ร้อยละ 90 ของความร้อนบนโลกที่มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สามารถพบได้ในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น และจากการสำรวจ พบว่า มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์


ขอขอบคุณที่มา : World Forum


https://www.nationtv.tv/gogreen/378928870

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger