เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 29-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ขยายเข้าปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ในเวลาต่อไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ประกอบกับในช่วงวันที่ 29 - 31 ม.ค. 64 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดเป็นบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. ? 1 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 29-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


บ้านสาหร่ายทะเล เทคโนโลยี 300 ปี ของชาวชายฝั่งซานตง


บังกะโลสาหร่ายทะเล ซึ่งที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอันไม่เหมือนใคร ในหรงเฉิงเวยไห่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน (ภาพซินหัว)

ซินหัว (28 ม.ค.) - ชมภาพบังกะโลสาหร่ายทะเล ซึ่งที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอันไม่เหมือนใคร ในหรงเฉิงเวยไห่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน

บ้านสาหร่ายทะเลที่เก่าแก่ที่สุดนั้น มีอายุย้อนไปกว่า 300 ปี โดยทำจากสาหร่ายทะเลแห้งที่เติบโตในน้ำตื้นตามชายฝั่งของคาบสมุทรเจียวตง



ภูมิปัญญาในการสร้างบ้านโดยใช้ส่วนประกอบต่าง ๆ จากธรรมชาติ เป็นความรู้ที่สืบทอดกันมานาน การสร้างหลังคาบ้านด้วยสาหร่ายธรรมชาติก็เป็นหนึ่งในลักษณะพิเศษของบ้านชายฝั่ง (พบเห็นได้ในหลาย ๆ ที่ของโลก รวมถึง เกาะแลร์เซอ ประเทศเดนมาร์ก) เนื่องจากสาหร่ายมีเกลือ หลังคาจึงไม่ผุพังง่ายและสามารถอยู่ได้นานหลายร้อยปี เมื่อหลังคามีอายุมากขึ้นจะแข็งตัวเป็นมวลแข็งก้อนเดียวที่ไม่เพียงแต่กันน้ำ แต่ยังกันไฟได้อีกด้วย มีความแข็งแรงสามารถเหยียบทับได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย

ผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าวว่า ศิลปะการมุงหลังคาจากสาหร่ายทะเลประมาณการว่าต้องใช้สาหร่าย 300 กิโลกรัมในการมุงหลังคาเพียงหนึ่งตารางเมตร


https://mgronline.com/china/detail/9640000008728


*********************************************************************************************************************************************************


คึกคัก! ชาวท้ายเหมือง จ.พังงา แห่จับ "จักจั่นทะเล" นำมาประกอบเมนูเด็ด

พังงา - ชาวบ้านแห่จับ "จักจั่นทะเล" ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา คักคัก! นำมาประกอบเมนูเด็ด ขายร้านอาหาร ทำรายได้งาม



หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากออกมาเล่นน้ำ และจับสัตว์ทะเลที่เรียกกันว่า "จักจั่นทะเล" เพื่อนำไปประกอบอาหารและขายเป็นรายได้เสริม หลังจากก่อนหน้านี้ ชายหาดดังกล่าวเงียบเหงาไร้เงานักท่องเที่ยวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด

โดยชาวบ้านจะออกไปยืนเรียงหน้าที่ริมทะเลหันหน้าขึ้นหาชายหาดรอจังหวะคลื่นซัดน้ำทะเลขึ้นมาและม้วนกลับลงไป ก็มีการใช้มือคุ้ยลงไปในผืนทรายเพื่อจับ "จักจั่นทะเล" ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาด โดยจักจั่นทะเล มีรูปร่างคล้ายปูและกุ้ง นับเป็นสัตว์ทะเลเฉพาะถิ่นมีมากในพื้นที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต ช่วงที่คลื่นซัดน้ำทะเลขึ้นมาจักจั่นจะออกจากผืนทรายหากินสาหร่ายและแพลงก์ตอน เมื่อคลื่นม้วนกลับก็จะรีบมุดลงไปซ่อนตัวในผืนทรายทันที คนที่จับจะต้องอาศัยความชำนาญจึงจะจับได้ม ซึ่งช่วงนี้กำลังเป็นฤดูกาลที่จักจั่นทะเลขึ้นมาวางไข่และหากินตามริมชายหาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียงมาจับจักจั่นทะเลเพื่อนำไปประกอบอาหารกินนเอง และนำไปจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมกันเป็นจำนวนมาก โดยเมนูเด็ดที่นำไปประกอบอาหารคือ เมนูจักจั่นทะเลชุบแป้งทอด ซึ่งจะนำตัวจักจั่นไปล้างด้วยน้ำจืด จากนั้นก็แกะกระดองออกนำไปชุบแป้งลงทอดในน้ำมันร้อนๆ แล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูด

นายรวยชัย กิตติพรหมวงศ์ ชาวอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า จักจั่นทะเลเป็นสัตว์ทะเลประจำถิ่น พบได้มากในพื้นที่ชายหาดท้ายเหมือง จ.พังงา และหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี จะเป็นช่วงที่จักจั่นขึ้นมาริมทะเลเป็นจำนวนมาก จึงมีชาวบ้านในพื้นที่ชักชวนกันออกมาจับจักจั่นทะเลไปประกอบอาหาร บางคนก็ทำเป็นอาชีพ โดยนำไปขายให้แก่ร้านอาหารได้ตัวละ 1 บาท ส่วนในร้านอาหารได้ซื้อตัวสดไปทำเป็นเมนูเด็ดประจำร้านกันเกือบทุกร้าน

นายรวยชัย กล่าวว่า การที่มีตัวจักจั่นขึ้นมามากนั้นบ่งชี้ถึงความอุดสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ของหาดท้ายเหมือง จึงอยากจะวิงวอนให้ ช่วยกันอนุรักษ์ไว้อย่านำเครื่องมือที่สามารถจับจักจั่นได้ครั้งละมากๆ มาใช้ สำหรับตัวจักจั่นทะเลเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ในวงศ์ของปู โดยใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hippoidea มีรูปร่างคล้ายจักจั่นที่เป็นแมลงบนบก มีขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ มีกระดองไม่แข็งมากคล้ายปู มีขาทั้งหมด 10 ขา แบ่งเป็น 5 คู่ ขาทั้งหมดไม่ได้ใช้ในการว่ายน้ำเนื่องจากจักจั่นทะเลจะอยู่ในทรายที่มีน้ำขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ขาจึงใช้ในการขุดคุ้ยทรายเพื่อพยุงตัวหรือมุดลงไปซ่อนตัวในทราย หัวมีกรีแต่ไม่แหลมและแข็งเหมือนกุ้ง ไม่มีก้ามหนีบเหมือนปู เป็นสัตว์ที่กินแพลงก์ตอน สัตว์น้ำขนาดเล็ก และพืชน้ำจำพวกสาหร่ายที่ลอยมากับกระแสน้ำเป็นอาหาร


https://mgronline.com/south/detail/9640000008901

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 29-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


คมนาคมเปิดแผนศึกษาแลนด์บริดจ์เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน



29 ม.ค.2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานผ่านการประชุมระบบทางไกล VDO CONFERENCE เรื่องแนวทางและแผนการดำเนินงาน โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องตัน ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดล การพัฒนาการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ว่าการดำเนินโครงการได้คำนึงถึงความหมาะสมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมต่อการดำเนินโครงการ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในปี 2564 นี้ จะดำเนินการศึกษา 6 ส่วน คือ 1.งานคัดเลือกที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ที่ จ.ชุมพร และจ.ระนอง 2.งานศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกโครงการในรูปแบบต่างๆ 3.งานออกแบบแนวคิดโครงการแลนด์บริดจ์ ประกอบด้วย ท่าเรือ ทางรถไฟ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 4.งานศึกษาความเหมาะสมโครงการทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 5.งานศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจ และทางเลือกการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP)

และ 6.ส่วนร่วมของภาคประชาชน ตลอดระยะเวลาโครงการ เพื่อจะนำไปสู่การทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market sounding) ในขั้นต่อไป นอกจากนี้จะทำการออกแบบเบื้องต้นท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตลอดจนจัดทำรายงานการวิเคราะห์โครงการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2562 เพื่อให้มีรายละเอียดเพียงพอสำหรับการดำเนินการประกวดราคาในลำดับต่อไป

ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการบริหารจัดการท่าเรือแบบอัตโนมัติ (Fully Automate Port) รวมทั้งให้ สนข. จัดทำรายละเอียดของเนื้องาน โดยเฉพาะการคัดเลือกทำเลที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก และงบประมาณที่จะดำเนินงานใน 64 ให้ชัดเจน และศึกษาหน่วยงานหลักที่จะรับผิดชอบพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการในขั้นต่อไปเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ รวมทั้งประสานกับกระทรวงพลังงาน เพื่อศึกษาแนวทางเรื่องการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อต่อไปด้วย


https://www.thaipost.net/main/detail/91315

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 29-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


กรมประมงจัดระเบียบการเก็บลูกหอยแครงจังหวัดชลบุรี

กรุงเทพฯ 28 ม.ค.- รองอธิบดีกรมประมงเตรียมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรือประมงหอยแครง ย้ำต้องไม่มีการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้มีทรัพยากรใช้อย่างยั่งยืน



นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่า วันนี้ (28 ม.ค.) จะเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรีเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่มีกลุ่มเรือประมงผิดกฎหมายจากพื้นที่คลองตำหรุหลายสิบลำเข้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าตรวจการประมง ด้วยการล้อมเรือ และขับเรือพุ่งชน ขณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชลบุรีกำลังตรวจสอบเหตุลักลอบทำการประมงหอยแครงบริเวณกลางอ่าวบางปะกง เป็นเหตุให้เรือตรวจการประมงเสียหาย และเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย

ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ หน่วยงานของกรมประมงได้รับรายงานว่า มีเรือประมงกว่า 20 ลำ กำลังทำการประมงลูกหอยแครง บริเวณเขตทะเลชายฝั่งด้วยเครื่องมือผิดกฎหมาย ทั้งเครื่องมือคราดลูกหอยแครง อวนลากคานถ่างที่ใช้มุ้งทำถุงอวนลากเก็บลูกหอยแครง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบ และแจ้งให้เรือหยุดทำการประมง แต่เรือเหล่านั้นกลับไม่ยอมหยุด และพยายามขับเรือพุ่งชนเรือของเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เรือตรวจการประมง 106 ได้รับความเสียหาย น้ำรั่วเข้าภายในตัวเรือ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

หลังจากนั้น ศูนย์ประสานการปฏิบัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล. ภาค 1) ได้ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 268 พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งพบกลุ่มเรือประมง ประมาณ 40 ? 50 ลำ ทั้งจากพื้นที่คลองตำหรุ จังหวัดชลบุรี แสมขาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม หลายสิบลำ พร้อมลูกเรือกว่า 100 คนที่พยายามขับไล่และล้อมเรือของเจ้าหน้าที่ และพยายามขอเจรจาทำประมงต่อ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันให้หยุดทำการประมงดังกล่าว เนื่องจากเป็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และยังเป็นการทำประมงที่สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรสัตว์น้ำหน้าดินอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณกลางอ่าวบางปะกง จังหวัดชลบุรีนี้ เป็นพื้นที่ชุกชุมของลูกหอยแครง เพราะดินบริเวณชายฝั่งทะเลมีสภาพเป็นหาดโคลนหรือพื้นดินเลนละเอียด ซึ่งเป็นแหล่งที่หอยแครงชอบฝังตัว

นายบัญชากล่าวต่อว่า จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า หอยแครงสามารถวางไข่ได้ตลอดปี แต่ช่วงที่วางไข่มากจะอยู่ระหว่างช่วง ต.ค. ? ธ.ค. และช่วง มี.ค. ? ส.ค. ซึ่งเมื่อวางไข่แล้วลูกหอยแครงจะมีโอกาสแพร่กระจายไปตามกระแสน้ำที่พัดพาในรัศมี 10 กิโลเมตรจากปากแม่น้ำ และจะตกลงพื้นเคลื่อนตัวเพื่อหาแหล่งอาหารหรือสภาพที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตเพื่อเติบโตเป็นหอยแครงเต็มวัยต่อไป

ปัจจุบัน ชาวประมงพื้นบ้านจะเก็บรวบรวมลูกหอยแครงขนาด 18,000 ? 20,000 ตัว/กิโลกรัม ขายเพื่อนำไปเลี้ยงต่อ 8 เดือน ? 1 ปี จนตัวเต็มวัยแล้วจึงส่งขายตลาด โดยราคาลูกหอยแครง จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 800 ? 1,000 บาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การทำประมงลูกหอยแครงจึงเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนด โดยมาตรการในการอนุรักษ์หอยแครง เดิมเป็นมาตรการที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ได้กำหนดห้ามมิให้ทำการประมงคราดหอยประกอบเรือกล ในเขต 3,000 เมตร นับจากฝั่ง และห้ามจับลูกหอยแครง ที่มีขนาดต่ำกว่า 6 มิลลิเมตรไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ต่อมาเมื่อมี พ.ร.ก. การประมง พ.ศ. 2558 ออกมาบังคับใช้ กำหนดให้สามารถทำการประมงหอยแครงในเขตทะเลชายฝั่งได้โดยการจับด้วยมือหรือเครื่องมือที่ไม่ใช้ประกอบเรือกล แต่ ยังคงห้ามเครื่องมืออวนลากหรือคราดหอยในเขตทะเลชายฝั่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำลายล้างสูงเช่นเดิม

ส่วนในเขตทะเลนอกชายฝั่งให้ใช้คราดหอยประกอบเรือกลได้ แต่ต้องได้รับใบอนุญาตทำการประมงประมงพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งเป็นการผ่อนผันให้มีความสอดคล้องกับวิถีประมงในปัจจุบัน และสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการในการบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำของลูกหอยแครง ที่จำเป็นต้องมีวิธีการกระจายปริมาณลูกหอยแครงไปยังแหล่งต่างๆ จึงจะก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากลูกหอยแครงได้อย่างสูงสุด โดยใช้กฎหมายควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรทำให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้ทรัพยากรอย่างทั่วถึง

เบื้องต้นได้หารือกับชาวประมงที่มีส่วนได้ส่วนเสีย แล้วเห็นร่วมกันว่า จะมีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรหอยแครงอย่างยั่งยืน โดยใช้รูปแบบการขับเคลื่อนของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดในการกำหนดมาตรการต่างๆ เช่น การกำหนดเครื่องมือ วิธี และพื้นที่ทำการประมงให้เหมาะสม ภายใต้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 อีกทั้ง จะมีการส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในชุมชน และประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมาย พ.ร.ก.ประมง 2558 เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรลูกหอยแครงในธรรมชาติซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเหมาะสมต่อไป .


https://tna.mcot.net/latest-news-626464

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger