เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 - 30 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 3 เม.ย. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วยตลอดช่วง โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ทะเลสีดำ วอนเร่งแก้ไข! หลังคลิปน้ำเสียทะลัก ไหลลงทะเล นาจอมเทียน พัทยา



โซเชียลฯ วอนเร่งแก้ไขจริงจังหลังพบคลิปน้ำเสียทะลัก ไหลลงทะเล นาจอมเทียน ซอย 8 พัทยา ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีดำเป็นวงกว้าง ล่าสุดเทศบาลตำบลนาจอมเทียนส่งรถดูดท่อระบายน้ำ แก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน เพื่อไม่ให้น้ำเสียแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม

วันนี้ (28 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก "เรารักพัทยา? ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า ?น้ำเสียทะลัก ไหลลงทะเล นาจอมเทียน ซอย 8 วอน จนท.ตรวจสอบแก้ไข #ทะเลสีดำ

ในคลิปวิดีโอพบว่ามวลน้ำสีดำเข้มมหาศาลกำลังระบายไหลออกสู่ชายหาดนาจอมเทียน ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีดำเป็นวงกว้าง สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์กันไปเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา สั่งตรวจสอบกรณีมีน้ำดำไหลลงทะเล เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุนั้นเป็นเขตของเทศบาลนาจอมเทียน อยู่นอกพื้นที่ความรับผิดชอบของเมืองพัทยา แต่ติดกับพื้นที่จอมเทียนของเมืองพัทยานั้น

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเนื่องจากในพื้นที่เทศบาลตำบลนาจอมเทียนนั้นได้รับผลกระทบเรื่องสถานีสูบน้ำเสีย บริเวณนาจอมเทียน 8 ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้น้ำในท่อระบายน้ำบริเวณดังกล่าวล้นออกจากอาคารระบายน้ำไหลลงสู่ทะเล น้ำมีสีดำปนเปื้อนเนื่องจากรับผลกระทบจากฝนตกอย่างหนัก

ล่าสุดเทศบาลตำบลนาจอมเทียนได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์รถดูดท่อระบายน้ำของเมืองพัทยา เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาในระยะเร่งด่วน เพื่อไม่ให้น้ำเสียแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม


https://mgronline.com/onlinesection/.../9670000027388

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


"เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ทรงดำน้ำเก็บกู้ซากอวน อนุรักษ์เเนวปะการังท้องทะเลไทย



เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำน้ำเพื่อสำรวจและอนุรักษ์เเนวปะการัง สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ทรงเก็บกู้ซากอวนที่พันติดปะการังเทียม ภายใต้ "โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัตตานี และนราธิวาส"

จากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม2552 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อต้นปี พ.ศ. 2544 ในช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปทรงงานในภาคใต้ ราษฎร บ.ละเวง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ ให้ทรงพิจารณาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในทะเล เนื่องจากสัตว์น้ำลดลงแทบไม่เหลือ ชีวิตฝืดเคือง มีรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขอพระราชทานคำแนะนำจาก พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งต่อมาได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้จัดตั้ง "โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัตตานี และนราธิวาส" โครงการดังกล่าวจะมีแผนงานการฟื้นฟูระบบนิเวศสัตว์น้ำ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) ซึ่งใช้วัสดุจำพวกคอนกรีต ท่อระบายน้ำ ซากเรือ หรือวัสดุขนาดใหญ่ที่ไม่ใช้งานแล้ววางลงไปในทะเล เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้ฟื้นคืนชีพ กองทัพบกจึงได้นำรถถังปลดประจำการ มาทำเป็น "ปะการังเทียม" ในน่านน้ำ จ.นราธิวาส

การนำรถถังมาเป็นแนวปะการังเทียม ช่วยให้การทำการประมงประเภทอวนรุนและอวนลากไม่สามารถทำได้ เพราะรถถังมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หากลากอวนมาเกี่ยวก็จะได้รับความเสียหายหนัก และความแข็งแกร่งของเนื้อเหล็กก็สามารถทนทานการกัดกร่อนของน้ำทะเลได้อีกนาน นับว่าการสร้างแนวประการังเทียมจากรถถังสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ท้องทะเลไทย

จวบจนปัจจุบัน สภาพของรถถังได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มีปลาจำนวนมากว่ายเข้าออกผ่านช่องว่างของตัวรถถัง พื้นผิวเหล็กที่ว่างเปล่ามีทั้งเพรียงและหอยชนิดต่างๆ มาจับจองพื้นที่จนปกคลุมทั่วไปทั้งคัน ค้นพบปลาชนิดต่างๆ ชุกชุม ไม่ว่าจะเป็นปลาเศรษฐกิจอย่างปลากระมง ปลาสาก ปลาแก้วกู่ หรือปลาสวยงามอย่าง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาผีเสื้อ แม้กระทั่ง ทากเปลือยสีสันสดใส ก็เข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้

หลังจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำน้ำสำรวจเเละเก็บกู้ซากอวนดังกล่าว ทรงประเมินความเสียหายของเเนวปะการัง ซึ่งเศษอวนเหล่านี้ นับเป็นภัยคุกคามระบบนิเวศน์ทางทะเลอย่างร้ายแรง เต่าทะเล วาฬ โลมา และสัตว์ทะเลจำนวนมาก เสียชีวิตจากการกินหรือถูกรัด ในขณะเดียวกัน ปะการังก็ไม่สามารถเติบโตได้ จากการถูกปกคลุมโดยเศษแหอวนเหล่านี้ ทรงวางเเผนดำเนินการเเนวทางการอนุรักษ์เเละฟื้นฟู อาทิ การปลูกปะการังทดแแทน เพื่อรักษาแนวปะการังให้มีสภาพสมบูรณ์ และสวยงามเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยและหากินของเหล่าสัตว์น้ำ ภายใต้กิจกรรมของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

#CelebOnline #celeb #gossip #สิริวัณณวรี #ปะการังเทียม #ท้องทะเลไทย #ระบบนิเวศน์ #อนุรักษ์ #แนวปะการัง #สัตว์ทะเล #ปัตตานี


https://mgronline.com/celebonline/detail/9670000026976

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


ใครปีนเอเวอร์เรสต์ เก็บ 'อึ' ตัวเองลงไปด้วย!!


Photo: AFP

ใครที่ชื่นชอบการผจญภัย ชอบความเสี่ยงท้าทาย ก็น่าจะมี "เอเวอเรสต์" ยอดเขาที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในโลก บนเทือกเขาหิมาลัยในเนปาล เป็นหนึ่งในลิสต์ "จุดหมายปลายทาง" ที่หวังอยากจะพิชิตให้ได้ซักครั้ง

แต่ปีนี้ใครที่มีแผนจะไปตามฝันนี้ มาฟังก่อน เพราะสิ่งที่จะต้องนำติดตัวขึ้นไป นอกจากต้องมีใบอนุญาต ที่มีค่าธรรมเนียมขอ 11,000 ดอลล์ (เหยียบ 4 แสนบาท) อาหาร ชุดอุปกรณ์ต่างๆ ออกซิเจน และ ไกด์เชอร์ปานำทาง รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายตกราว 35,000 ดอลลาร์(เหยียบ 1.3 ล้านบาท) ยังจะต้องมีถุงใส่ ?อึ? ของตัวเอง พกติดตัวขึ้นไปด้วย

หลังทางการเนปาลออกกฎให้ นักปีนเขาทุกคนที่ขึ้นไป จะต้องเก็บอึของตัวเองกลับลงมา เพื่อแก้ปัญหามลพิษ ที่เอเวอเรสต์กำลังเผชิญอยู่

จิเนช สินธุรการ จากสมาคมปีนเขาเนปาล บอกว่า ฤดูปีนเขาเอเวอเรสต์ในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมาราว 1,200 คน

ประมาณว่าแต่ละคนจะขับถ่ายอุจจาระ ตกคนวันละ 250 กรัม ในการใช้เวลาบนแคมป์พักบนเขา ราว 2 สัปดาห์

ลองคำนวนดูละกันว่าฤดูกาลนี้ แต่ละคนจะผลิตอึรวมกันแล้วมากเท่าไร

ด้วยกฎใหม่นี้จะมีการให้ถุงใส่อึ คนละ 2 ใบ ที่คิดค่าใช้จ่ายแล้วแหละ ให้นักปีนเขาติดตัวขึ้นไป ใบหนึ่งใช้เก็บอึได้ 6 ครั้ง ซึ่งในถุงจะมีสารเคมี ที่ทำให้อึแข็งตัวและไม่ส่งกลิ่น

ตอนนี้เขียนลงลึกไปเรื่อยๆ ก็ชักจะเริ่มมวลท้องเองละ ฮ่าฮ่าฮ่า

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ให้พึงระลึกเสมอว่า จงท่องโลกอย่างมีความรับผิดชอบ!!


https://www.matichon.co.th/foreign/news_4495416

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


นักท่องเที่ยว 4 คน ถูกคลื่นทะเลดูด ดับ 1 ราย หน้าหาดแหลมปะการัง จ.พังงา

นักท่องเที่ยว 4 คน ถูกคลื่นทะเลดูด ขณะวางอวนบริเวณแหลมปะการัง พังงา จมทะเล 4 คน ช่วยตัวเองขึ้นมาได้ 3 คน เสียชีวิต 1 ราย



28 มี.ค.2567 - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดพังงา( ศคท.จว. พง.ฯ) ได้รับการแจ้งจาก ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศปก.ศรชล.ภาค 3) เวลา 14.30 น. ว่า เกิดเหตุนักท่องเที่ยวประสบเหตุจมน้ำ บริเวณหน้าหาดแหลมปะการัง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก เจ้าหน้าที่ กู้ภัยเพชรเกษมพังงา เขตเขาหลัก แพทย์จากศูนย์การแพทย์เขาหลัก พบว่า ผู้ประสบเหตุได้เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว

โดยเวลาประมาณ 14.00น ผู้ประสบเหตุจำนวน 4 คน ได้ลงไปวางอวนทับตลิ่งในพื้นที่หน้าชายหาดเเหลมปะการัง ในขณะกำลังวางอวนเกิดเหตุคลื่นทะเลดูด ทำให้ทั้ง 4 คนถูกกระแสน้ำดูดจมลงไปในทะเล โดยในจำนวน 3 คนสามารถช่วยเหลือตัวเองกลับขึ้นสู้ฝั่งได้ ส่วนตัวผู้ประสบเหตุอีก 1 คน ได้ถูกกระแสน้ำดูดและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ต่อมาเวลาประมาณ 15.30น. ได้พบร่างผู้ประสบเหตุคนดังกล่าวเสียชีวิตใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่ง ทราบชื่อในภายหลัง คือ นายสมประสงค์ รัตรานุสรณ์ เพศชาย สัญชาติไทย อายุ 53 ปี โดยแพทย์จากศูนย์การแพทย์เขาหลัก ได้ทำการสรุปสาเหตุและยืนยันการเสียชีวิตว่าเกิดจากการจมน้ำ รวมทั้งได้เเจ้งญาติให้ไปดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เขาหลัก จังหวัดพังงา ไว้เป็นหลักฐาน ต่อไป


https://www.thaipost.net/district-news/561073/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ปิดอันดามัน! กรมประมงประกาศปิดอ่าว3เดือนในฤดูวางไข่ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ



กรมประมงประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ปิดอ่าว 3 เดือนในฤดูวางไข่ ฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2567 เผยผลใช้มาตรการพบสัตว์น้ำมีความสมบูรณ์เพศสูง สัตว์น้ำวัยอ่อนมีความชุกชุม และแพร่กระจายหนาแน่นในพื้นที่ ส่งผลให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้น 6.5 เท่าตัว

28 มีนาคม 2567 ที่ท่าเทียบเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2567 โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่กรมประมง สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ และชาวประมงภูเก็ต ตรัง พังงาและ กระบี่ เข้าร่วมพิธีกว่า 500 คน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมงเผยว่า เดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่สัตว์น้ำในบริเวณฝั่งทะเลอันดามัน เริ่มมีการผสมพันธุ์วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และคงความสมดุลทางธรรมชาติและระบบนิเวศให้ยั่งยืน ที่ผ่านมากรมประมงจึงได้มีการกำหนดและประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันมาตั้งแต่ปี 2528 ในช่วง เม.ย.-มิ.ย. ของทุกปี เป็นระยะเวลา 90 วัน กำหนดเงื่อนไขการทำประมงในเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ตั้งแต่ ปลายแหลมพันวา อ.เมืองภูเก็ต ลงไป ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตร.กม. สำหรับปีนี้จะเริ่มใช้มาตรการ ระหว่าง 1 เมษายน ? 30 มิถุนายน 2567

อธิบดีกรมประมง ยังได้เผยถึงผลการศึกษาทางวิชาการของกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล ปี 2566 พบว่า ในช่วงเวลาที่ใช้ มาตรการ สัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปลาผิวน้ำ อาทิ ปลาทู ปลาลัง ปลาสีกุนบั้ง และปลาหลังเขียว มีความสมบูรณ์เพศสูงถึงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สัตว์น้ำวัยอ่อนทั้งหมดมีความชุกชุมและการแพร่กระจายหนาแน่นสูงในพื้นที่และช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่มีความหนาแน่นของสัตว์น้ำวัยอ่อนทั้งหมดสูงสุด 5,161 ตัวต่อ 1,000 ลูกบาศก์เมตร และเมื่อพิจารณาอัตราการจับสัตว์น้ำทั้งหมด เฉลี่ยจากเรือสำรวจประมงที่ทำการสำรวจ ในเขตมาตรการ พบว่า ช่วงก่อนมาตรการระหว่าง มาตรการ และหลังมาตรการ มีอัตราการจับสัตว์น้ำทั้งหมดเฉลี่ยเท่ากับ 48.117 กิโลกรัม/ ชั่วโมง 114.925 กิโลกรัม/ชั่วโมง และ 316.600 กิโลกรัม/ชั่วโมง ตามลำดับ

โดยจะเห็นได้ว่าในระหว่างใช้มาตรการ อัตราการจับสัตว์น้ำทั้งหมดเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.3 เท่า และหลังมาตรการอัตราการจับสัตว์น้ำทั้งหมดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 6.5 เท่าของช่วงก่อนมาตรการ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า มาตรการปิดอ่าว สามารถทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่มาตรการมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น แสดงให้เห็นว่าพื้นที่และช่วงเวลามาตรการ ที่กำหนดขึ้น มีความถูกต้อง เหมาะสม และสอดคล้องกับช่วงเวลาสัตว์น้ำที่มีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน เพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและคงความสมดุลทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน" นายบัญชา กล่าวสรุป

กรมประมง ขอให้พี่น้องชาวประมงทุกคน ที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐในการปฎิบัติตามกฎหมายในมาตรการปิดอ่าวทะเลอันดามัน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนและเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป


https://www.naewna.com/local/795908

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #7  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


Sea Cucumber Hunting for Export



TRANG, March 28 (TNA) Koh Sukorn, an island in Trang province, boasts several treasures, one of which is sea cucumbers which are either processed into delicacies or dried for export, fetching good prices.

During the lowest tides, villagers venture out along the rocky shores to find sea cucumbers, especially the black-colored ones known locally as "Dorthet", which are the most sought after. Some can reach lengths of 1 to 1.20 feet.

Upon harvesting, they are gutted, cleaned, and boiled for about 2-3 hours before being sun-dried for 1-2 days. They are then sold to traders at 500 baht per kilogram for export to countries like China, Hong Kong, and Taiwan. The price of fresh sea cucumbers drops to 25 Baht per kilogram. Villagers collect varying amounts each day, ranging from 2-3 kilograms to as much as 10 kilograms.

Researches from various institutions have found that sea cucumbers are rich in medicinal properties and beneficial nutrients. They are high in protein, aiding in alleviating knee pain and osteoporosis in the elderly. They contain proteins similar to those found in cuttlefish, horseshoe crabs, and scallops but with much lower fat content. Thus, they are a healthy option for those watching their fat intake.

Additionally, there?s another type of sea cucumber called "Gamard" (Stichopus horrens) which is harder to find but commands a higher price. They are sold at 160 baht per kilogram. When dried, 10-12 kilograms of these sea cucumbers yield only 1 kilogram of dried product, sold at a high price of 3,500 baht per kilogram.

They also have high medicinal value and are used for cosmetics, honey pickling, wound healing, and bone and joint nourishment. They can be used in various dishes. The most popular dish among tourists is the sea cucumber salad with toasted coconut.

Aree Chumkong, 72 is the sole person on the island who processes and sells both sea cucumbers, earning a supplementary income of no less than 10,000 baht per month.

People come to her to buy because some don?t know how to prepare them, resulting in a less than desirable taste. Some may even spoil them by pickling too long, causing a foul odor.


https://tna.mcot.net/english-news-1342004

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #8  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


มติ กมธ. เห็นชอบนิยาม 'ประมงพื้นบ้าน' ตามที่เครือข่ายฯ เสนอ



เครือข่ายประมงพื้นบ้าน ชี้สัญญาณดี เชื่อสกัดนายทุนแทรกแซง แต่ไม่ประมาท จับตาแก้กฎหมายประมง ม.32 ใกล้ชิด ขณะที่ ตัวแทน กมธ. ไม่กลัว EU ขู่ให้ใบเหลือง มั่นใจแก้กฎหมายสอดคล้องอนุสัญญาระหว่างประเทศ

วันนี้ (28 มี.ค. 67) ตัวแทนประมงพื้นบ้าน 18 จังหวังชายทะเล ในนามสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อตัวแทนกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ระบุถึงข้อกังวลต่อการพิจารณาแก้ไข พ.ร.ก.ประมง

โดยเฉพาะการนิยาม ประมงพื้นบ้าน ที่เป็นประเด็นสำคัญในวาระการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายดังกล่าว ซึ่งพวกเขามองว่านิยามใหม่ ไม่ต้องมีการสนับสนุนประมงท้องถิ่นประมงขนาดเล็ก และอาจเปิดช่องเอื้อให้กลุ่มประมงที่มีประสิทธิภาพสูง เข้ามาทำประมงในเขตชายฝั่งทะเล เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมในการทำประมง และมากไปกว่านั้นคืออาจกระทบต่อฐานทรัพยากรความยั่งยืนทางทะเลด้วย

ตัวแทนประมงพื้นบ้าน ยังได้จัดเสวนาออนไลน์ที่รัฐสภา สะท้อนข้อกังวลต่อการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 พวกเขา ย้ำว่าเห็นด้วยในหลักการที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประมงเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำของประเทศซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี ให้เกิดความยั่งยืน

แต่เป็นไปได้ว่าการแก้ไข อาจทำให้นิยามประมงพื้นบ้าน ถูกบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ด้วยการลบวัตถุประสงค์เพื่อการคุ้มครองชาวประมงพื้นบ้าน และชุมชนประมงท้องถิ่นออกไป ดังนั้นจึงขอให้ทบทวนเรื่องนี้ พร้อมด้วยข้อกังวลอื่น ๆ รวม 5 ประเด็นสำคัญ

1. ข้อกังวลที่มีการยกเลิก ข้อกำหนดวัตถุประสงค์ "เพื่อปกป้องคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนชาวประมงพื้นบ้าน และชุมชนประมงท้องถิ่น" ถือเป็นการลดความสำคัญในการช่วยเหลือการประมงพื้นบ้าน หรือการประมงขนาดเล็กลง

2. การกำหนดให้สามารถลดเขตทะเลชายฝั่งลงได้อีก ให้น้อยกว่า 1.5 ไมล์ทะเล ซึ่งเท่ากับ เปิดให้ประมงพาณิชย์สามารถเข้ามาทำการประมงใกล้เขตทะเลชายฝั่งมากขึ้น และการแก้ไขเขตทะเลชายฝั่งให้หดแคบลงน้อยกว่า 1.5 ไมล์ทะเล เป็นการถดถอยล้าหลัง ยิ่งกว่า ปี พ.ศ. 2515

3. การกำหนดให้กรรมการภาคประชาชนในคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด มาจากการแต่งตั้ง โดยให้เป็นอำนาจโดยตรงของผู้ว่าราชการจังหวัด ทำให้ไม่มีหลักประกันว่า จะมีการสรรหาคัดสรรอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้จริง

4. การเปิดช่องให้กลุ่มทุนประมงพาณิชย์ สามารถแทรกแซงครอบงำ "ประมงพื้นบ้าน" ได้ โดยฝ่ายบริหารไม่สามารถกำกับควบคุม หรือปกป้องสิทธิประโยชน์ของชุมชนประมงท้องถิ่นได้อีก ปัจจุบันได้เปิดช่องให้ "อวนลากคู่ อวนลากเดี่ยว อวนล้อมจับ อวนปั่นไฟจับปลากะตัก อวนล้อมจับกะตัก เรือคราดทุกชนิด ที่ใช้กับเรือต่ำกว่า 10 ตันกรอส ซึ่งเดิม เป็นประมงพาณิชย์ กลายเป็น "ประมงพื้นบ้าน" แทน

5. ร่างกฎหมาย มีลักษณะ เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่ต้องการละเมิดกฎหมาย ทำลาย กอบโกยทรัพยากรธรรมชาติ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยนอกจากยกเลิกการจำคุกแล้ว ยังลดอัตราค่าปรับในการทำผิดให้น้อยลง และให้ประกันเรือออกไปทำประมงผิดได้ซ้ำอีก

ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน ย้ำทั้งน้ำตา หวังว่า ฝ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะกรรมาธิการฯ จะนำข้อกังวลเหล่านี้ไปประกอบการพิจารณาทบทวน เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่จะส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำทางทะเล และฐานทรัพยากรทางทะเลที่อาจถูกทำลายมากขึ้น


มติ กมธ. ย้ำให้นิยาม 'ประมงพื้นบ้าน' ตามที่ภาคประชาชนเสนอ

ล่าสุด The Active ได้รับรายงานว่า กรรมาธิการฯ เสียงส่วนใหญ่ มีมติให้นิยาม ประมงพื้นบ้าน ตามที่เครือข่ายประมงพื้นบ้านเสนอ โดยให้ หมายความว่า "การทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และทะเลนอกชายฝั่ง ไม่ว่าจะใช้เรือประมง หรือใช้เครื่องมือโดยไม่ใช้เรือประมง ในกรณีที่ใช้เรือประมง บุคคลในครอบครัว จะต้องเป็นผู้ลงเรือประมงด้วยตนเอง ทั้งนี้ที่มิใช่เป็นการประมงพาณิชย์"

ตัวแทนประมงพื้นบ้าน มองว่า มติดังกล่าวถือเป็นสัญญานที่ดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเข้ามาแทรกแซงกลุ่มนายทุน ที่จะมาทำประมงพื้นบ้านแทน แต่ก็ต้องติดตามการพิจารณาแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการพิจารณา มาตรา 32 ในการขออนุญาตเรือประมงพื้นบ้าน ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ออกมาล่าสุด ให้เรือต่ำกว่า 10 ตันกลอส ที่ติดเครื่องมือประมงประสิทธิภาพสูง เช่น อวนลากคู่, อวนล้อมจับ, เรือคราดทุกชนิด และการให้นิยามประมงพาณิชย์ ที่ยังให้อำนาจฝ่ายบริหารสามารถกำหนดให้เรือขนาดต่ำกว่า 10 ตันกลอส ที่เคยเป็นประมงพาณิชย์ เปลี่ยนมาเป็นประมงพื้นบ้าน ซึ่งจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการทำประมง และส่งผลกระทบต่อการทำประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และฐานทรัพยากรทางทะเลที่อาจถูกทำลาย

ขณะเดียวกัน ปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 พ.ศ?.. ได้พบกับกลุ่มประมงพื้นบ้าน พร้อมยืนยันว่า พื้นที่การทำประมงไม่ควรมีข้อจำกัด ควรเปิดกว้าง และการดูแลความปลอดภัยซึ่งกันและกัน ควรเปิดโอกาสให้กับทุกคน ว่าแต่ละคนทำได้แค่ไหน ให้คำนึงถึงความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพประมง และการใช้พื้นที่

ส่วนกรณีความขัดแย้ง มองว่า ไม่ควรทะเลาะกันโดยมีความแข่งขันกันได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ให้มีความประนีประนอมซึ่งกันและกัน ทั้งเรือประมงพาณิชย์ และประมงชาวบ้าน

สำหรับการแก้ไขกฎหมายประมง (ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 255) ไม่เพียงแต่คนไทยที่จะต้องจับตามอง นานาชาติเองก็กำลังจับตามองอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะสหภาพยุโรป หรือ EU ที่ขู่ให้ใบเหลือง หรือ มาตรการคว่ำบาตรอื่น ๆ ต่อประมงไทย เพราะกังวลว่าการแก้กฎหมาย จะไปลดการควบคุมประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่มีการจัดทำรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing


'ก้าวไกล' ไม่กังวล EU เล็งให้ใบเหลืองประมงไทย

วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ตัวแทนจากฝ่ายค้าน ระบุว่า ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เพราะว่า กฎหมายที่แก้ไขนี้ในสภาฯ ทุกพรรคการเมืองต่างโหวตเห็นชอบทั้งหมด เนื่องจากเห็นตรงกันว่ากฎหมายฉบับเก่ามีปัญหาจริง ๆ เช่น บทลงโทษที่มีความรุนแรง หากมีเรือประมงทำผิด 1 ลำ เรือลำอื่น ๆ ที่มีในครอบครองก็จะถูกลงโทษด้วย ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม

"ยืนยันว่าทุกพรรครวมถึงก้าวไกล ไม่ได้มีเจตนาย้อนกลับไปในช่วงก่อนปี 2558 ที่ไม่มีการควบคุมการทำประมงที่ดีพอ ดังนั้นการแก้ไข เพื่อทำให้มีความเหมาะสมมากขึ้น"
วรภพ วิริยะโรจน์

ส่วนที่นานาชาติกังวลเรื่อง IUU นั้น วรภพ ยืนยันว่า การแก้กฎหมายนี้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยทำข้อตกลงไว้ในเรื่องการประทำประมง ซึ่งอนุสัญญานั้นยังคงให้สิทธิไทยในการออกแบบบทลงโทษกับการกระทำความผิดร้ายแรง

"มั่นใจว่าการแก้กฎกมายจะไม่ทำให้กลับไปโดนใบเหลือง IUU การควบคุมการขึ้นทะเบียนเรือ การป้องกันการค้ามนุษย์ ยังมีอยู่ครบถ้วน"
วรภพ วิริยะโรจน์


'สมาคมการประมงฯ' โต้แก้กฎหมาย ริดรอนสิทธิ 'ประมงพื้นบ้าน'

ด้าน มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ ตัวแทนจากฝ่ายเอกชน กล่าวถึงข้อกังวลของชาวประมงพื้นบ้าน ว่า ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว เรื่องการการลดเขตชายฝั่ง ซึ่งมีปัญหาเพียง 2 จังหวัดเท่านั้น เพราะมีเกาะติดกันที่ไม่สามารถประกาศเขตได้ และมีประมงขนาดเล็กใช้เครื่องมือประมงพาณิชย์เข้าไปทำประมงจึงทำให้เกิดปัญหา กรมประมงจึงเสนอออกข้อยกเว้นไว้ แต่ชาวบ้านกลัวว่าจะนำไปใช้เป็นการทั่วไป โดยได้หารือกับกรรมาธิการฯ ชุดก่อนแล้ว ไม่ได้มีปัญหา เพียงต้องระบุพื้นที่ให้ชัดเจนว่าตรงไหน

สำหรับข้อกล่าวหาการริดรอนสิทธิประมงพื้นบ้าน ก็ไม่เป็นความจริง ในกฎหมายเก่ามาตรา 34 ที่ให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถทำประมงได้เฉพาะเขตชายฝั่ง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศแล้วว่าอนุญาตให้ออกนอกเขตชายฝั่งได้

ทั้งนี้ข้อกังวลคำนิยามประมงพื้นบ้าน ถ้าหากชาวประมงไม่เห็นด้วย ก็จะนำไปพูดคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่าพยายามช่วยเหลือประมงพื้นบ้านให้ประกอบอาชีพได้ เพียงแต่กฎหมายเดิมยังไม่มีมาตราไหนที่บังคับใช้กับประมงพื้นบ้าน และในคำนิยาม ตามมาตรา 4 ที่ตัดคำว่าชุมชนประมงพื้นบ้านออกไป ความจริงเขียนว่าคุ้มครองทั้งหมดทั้งประมงพื้นบ้าน และพาณิชย์ที่ถูกกฎหมาย

"ร่างกฎหมายที่แก้ไขอยู่นี้ จะช่วยปลดล็อกให้กับประมงพื้นบ้าน อย่างมองว่าทำเพื่อใคร เราทำเพื่อภาพรวมประเทศ ปัญหาเก่าสะท้อนเรื่องเอกสารต่าง ๆ เพราะเราไปดูงานมาเจอว่า ประมงพื้นบ้าน จะขายสินค้าไม่ได้ถ้าไม่ทำเอกสารการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งเป็นเรื่องยาก แต่ในกฎหมายใหม่ เราต้องทำให้ง่ายต่อชาวบ้านมากขึ้น"
มงคล สุขเจริญคณา

ส่วนประเด็นที่ EU จะให้ใบเหลืองไทยนั้น มงคล มองว่า ยุโรปไม่ได้เข้าใจกฎหมายไทยอย่างแท้จริง และไทยก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว อีกทั้งร่างกฎหมายนี้ไม่มี สส. คนไหนคัดค้านในสภาฯ เชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เข้าใจประมงไทยดีกว่ารัฐบาลก่อน และสามารถชี้แจงให้ยุโรปเข้าใจได้

พร้อมทั้งมั่นใจว่าไทยจะไม่โดนใบเหลือง เพราะไทยไม่ได้แก้หลักการ IUU เพียงแต่ต้องตีความให้ชัดเจน เนื่องจากกฎหมายฉบับเก่า ตีความบทลงโทษเรือประมงให้มีความร้ายแรงทั้งหมด


https://theactive.net/news/lawrights-20240328/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #9  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


หลายเมืองในสหรัฐฯ เสี่ยงจมน้ำ โลกร้อนระดับน้ำทะเลสูงขึ้น


SHORT CUT

- เมืองหลายแห่งบนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กำลังจมเนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

- พื้นดินบริเวณ New York, Baltimore และ Norfolk ในรัฐ Virginia จมลงระหว่าง 1-2 มิลลิเมตรต่อปี

- การทรุดตัวบางส่วนเป็นผลมาจากการสูบน้ำบาดาลออกไปเพื่อเป็นแหล่งน้ำหรือก๊าซธรรมชาติ




การทรุดตัวของเมืองหรือพื้นดินในสหรัฐฯ มีความเชื่อมโยงกับการใช้น้ำใต้ดินและก๊าซธรรมชาติมาใช้ ประกอบกับน้ำหนักของอาคารที่กดลงสู่พื้นดินอ่อน

เมืองหลายแห่งบนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กำลังจม เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

ระหว่างปี 2550-2563 พื้นดินบริเวณ New York, Baltimore และ Norfolk ในรัฐ Virginia จมลงระหว่าง 1-2 มิลลิเมตรต่อปี สถานที่อื่นๆ จมลง 2 เท่าหรือ 3 เท่าของอัตรานั้น และเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา จมเร็วที่สุดที่ 4 มิลลิเมตรต่อปี ในเมืองหนึ่งเหนือระดับน้ำทะเลไม่เกิน 3 เมตร
การทรุดตัวบางส่วนเป็นผลมาจากการสูบน้ำบาดาลออกไปเพื่อเป็นแหล่งน้ำหรือก๊าซธรรมชาติ แต่นิวยอร์กและเมืองอื่นๆ กำลังจมอยู่ใต้น้ำหนักที่แท้จริงของอาคารที่กดทับลงสู่ดินอ่อน

มันเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งมีหลายปัจจัยที่มีบทบาท หลังจากที่แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ละลายในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง พื้นดินก็ค่อยๆ เอียง โดยพื้นที่ทางตอนเหนือที่อยู่ใต้น้ำแข็งจะลอยขึ้นด้านบน ในขณะที่พื้นที่ทางตอนใต้ที่ปราศจากน้ำแข็งจะเอียงลง

หากพื้นดินกำลังจมและระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสี่ยงที่น้ำทะเลจะท่วมตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาก็จะเพิ่มขึ้น

อาคาร ถนน ทางรถไฟ พื้นที่เพาะปลูกและอื่นๆ อีกมากมายกำลังตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม โดยมีความเสี่ยงที่น้ำทะเลจะแทรกซึมเข้าสู่แหล่งน้ำและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เสี่ยงต่อการทรุดตัวคือพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องเมืองหลายแห่งจากคลื่นพายุในช่วงพายุเฮอริเคน

ที่มา : The Guardian


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/849032

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #10  
เก่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,242
Default

ขอบคุณข่าวจาก Environman


Eternal Reefs



ที่ผ่านมา มีนวัตกรรมการจัดการร่างกายของเราหลังตายเพิ่มมากขึ้นมากมาย อย่างเช่นการจัดการให้ร่างกายกลายเป็นปุ๋ยด้วยโลงศพจากเห็ดราที่ย่อยสลายตามธรรมชาติ ให้ผู้คนได้กลับคืนสู่ธรรมชาติจริง ๆ ล่าสุด ก็มีนวัตกรรมหนึ่งก็คือการให้ร่างกายของเรากลายเป็นแนวปะการังเทียมคืนสู่ท้องทะเล เป็นนวัตกรรมของบริษัท Eternal Reefs ที่เกิดจากการที่ผู้ก่อตั้งของ Eternal Reefs ไปดําน้ํา และเห็นการเสื่อมสภาพของแนวปะการัง ที่มาจากการที่น้ำทะเลอุ่นขึ้นเอย น้ำทะเลกลายเป็นกรดเอย หรือมลพิษทางทะเลอื่น ๆ

ตอนแรกเขาเลยทำ Reef Ball หรือแนวปะการังเทียมปกติก่อน เขาพยายามผลิตให้มันไม่ขยับไปไหนเมื่อคลื่น กระแสน้ำ หรือพายพัดผ่าน และก็ต้องทำให้ลูกบอลนี้เป็นมิตรต่อระบบนิเวศใต้น้ำด้วย มันจะต้องทําจากวัสดุธรรมชาติที่จะดึงดูดและกระตุ้นให้สิ่งมีชีวิตมาตั้งรกรากและแพร่กระจายบนแนวปะการังใหม่นี้ คอนกรีตที่ใช้ทําต้องมีค่า pH เป็นกลางเหมือนกับปะการังจริง เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ลอยอยู่ในกระแสน้ําที่กําลังมองหาบ้าน มาลงจอด และเติบโตที่นี่

หลังจากนั้น เมื่อมีคนต้องการใส่เถ้ากระดูกลงไปในคอนกรีตเหล่านี้ เขาจึงลองและเกิดเป็น Eternal Reef Ball ซึ่งสถานที่ ๆ เอาไปวางครอบครัวของผู้เสียชีวิตสามารถเลือกได้ แต่สถานที่เหล่านั้นจะเป็นแค่ในพื้นที่แนวปะการังที่คนจะมาดำน้ำและมาตกปลาเท่านั้น สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ (US Environmental Protection Agency - US EPA) ก็ได้รับรองแล้วว่าปะการังเทียมนี้ปลอดภัย สามารถขี้เถ้ากระดูกคนผสมได้ หรือแม้แต่เถ้ากระดูกของสัตว์เลี้ยงที่เรารัก บางครอบครัวก็ใช้ขี้เถ้าทั้งหมดหรือแค่บางส่วนเท่านั้น

ซึ่งคนก็ให้การตอบรับดีมาก ในปี 2023 มีการเอาแนวปะการังเทียมขี้เถ้าคนนี้ไปวางกว่า 2,500 อันที่ 25 จุดห่างออกไปจากชายฝั่งฟลอริดา สหรัฐอเมริกา คนให้ความสนใจมากขึ้นเพราะมองว่าเป็นการจัดการร่างกายของตัวเองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้การทำแนวปะการังนี้ยังคงต้องมีการเผาศพ แต่ท้ายที่สุดก็นำไปเป็นโครงสร้างที่ช่วยฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเลได้

จะเรียกว่าเป็นการ "ให้กำเนิดชีวิตหลังจากที่ชีวิตหนึ่งจากไป" ก็ว่าได้

ที่มา
https://www.theguardian.com/.../reef...urials-the-new...
https://www.eternalreefs.com/the.../...-eternal-reef/
https://inhabitat.com/eternal-reefs-can-turn-your.../



https://www.facebook.com/environman....XPngcvKyZ6TrZl

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:59


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger