ท่านประธานที่เคารพ กระผมขอใช้สิทธิพาดพิงตามกระทู้ ของพี่สายชล
ส่วนเรื่องเพาะได้มากแล้ว จะมีการจับในธรรมชาติน้อยลงนั้น ไม่ค่อยจะเชื่อเลยค่ะ เพราะที่เห็นๆอยู่ว่าปลาการ์ตูนเพาะได้แล้วมากมาย ก็ยังเห็นไปจับในทะเลมามากมายเช่นกัน เขาว่า.... ปลาที่จับจากทะเลนั้นสีสวยกว่าที่เพาะเลี้ยงและถูกกว่าที่จะซื้อจากแหล่งเพาะเลี้ยง เรื่องนี้ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ต้องรอให้น้องสามารถมาเล่าให้ฟัง
ผมอยากเรียนให้ท่านประธานได้ทราบว่า มันมีทั้งจริงและไม่จริง และส่วนที่เคยจริงตอนนี้ก็เริ่มไม่จริง ท่านประธานงงมั๊ยครับ ผมยังงงเลยครับ
ที่ว่าจริงคือ ถึงจะมีปลาเพาะแต่ต้นทุนก็สู้ปลาจับไม่ได้ เพราะแค่ชุบมือเปิบ ไม่ต้องลงทุนมากมายเหมือนคนทำโรงเพาะ เพราะยังมีคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เหมือนกับที่ลงทุนไปแล้วเมื่อได้มานั่งในที่นี้ก็ต้องถอนทุนคืนกันบ้าง มันเป็นยุคการค้าเสรีครับ แม้แต่อดีต น-ยก ยังพูดเลยว่า "นี่เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง" ลงทุนแล้วไม่เอากำไรเขาเรียก นักบุญ ครับ ไม่ใช่พ่อค้าในยุคการค้าเสรีแบบผูกขาด
แต่ใช่ว่าจะเป็นเหมือนกันหมด มีหัว....ก็มีก้อย ผู้เลี้ยงปลาส่วนหนึ่งยอมซื้อปลาจากการเพาะที่มีราคาแพงกว่า แต่ไม่ยอมซื้อปลาราคาถูกที่จับจากธรรมชาติ ขอให้เจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พลัง ....สา......ธุ
ท่านประธานที่เคารพ ผมคงใช้เวลาไม่มาก แต่ขออภัยที่ต้องกินเวลาเพื่อน สส.คนอื่นอีกสักหน่อย มีอะไรผมกินได้หมดและครับ ผมเป็นคนไม่เรื่องมาก
ต่อเลยนะครับ ที่ว่าเคยจริงแต่ต่ออาจไม่จริงคือ ปลาที่จับจากธรรมชาติสีสวยกว่าปลาเพาะ
เมื่อก่อนอาจจะจริง แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ เมื่อก่อนนักเพาะเลี้ยงยังไม่เข้าใจ หรือยังไม่ได้ศึกษาถึงเรื่องความต้องการสารสีในอาหารปลา แค่ให้เพาะออกเป็นตัวก็ใช้ได้ จึงไม่ได้เน้นเรื่องสี แต่ปัจจุบัน วิธีการเพาะให้ได้ลูกปลาแค่คิดก็ติดแล้ว (โม้- - สูญ) ปัจจุบันเรามีความรู้เรื่องสารสีมากขึ้น เอาเข้าจริงปลาที่เพาะสีจะจัดกว่าปลาธรรมชาติซะแล้ว
ขอบอก แต่ยังอยู่ระยะเริ่มต้น ต้องรอเวลาอีกนิด
แต่ถึงเป็นปลาจากธรรมชาติ ทุกท่านที่เป็นนักประดาน้ำก็คงรู้กันอยู่แล้วว่า ปลาแต่ละสถานที่ อย่างปลาการ์ตูน จะมีสีที่แตกต่างกัน ขึ้นกับสารสีที่มีอยู่ในอาหารธรรมชาติที่ปลาได้รับ ดังนั้นเมื่อความลับถูกเปิดเผย ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ยกเว้น หน่อไม้ ที่แสนจะอร่อยเมื่อเอามาแกงส้มปักษ์ใต้
ขอบคุณท่านประธาน