สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกลดน้อยลงในระยะนี้ สำหรับประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ใกล้ลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำสาขาต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่นจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลันในระหว่างวันที่ 16-18 ส.ค. 51 นี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

 ในช่วงวันที่ 16-18 ส.ค.ร่องความกดอากาศต่ำกำลังอ่อนพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนด้วย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีปริมาณและการกระจายของฝนลดน้อยลง

สำหรับในช่วงวันที่ 19-22 ส.ค.ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มน้ำสาขาต่างๆ รวมทั้งพื้นที่ที่ทำการเกษตรในภาคตะวันออก- -เฉียงเหนืออาทิ เช่น นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ส.ค.ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ อาทิเช่น จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


ลุ้นฟ้าเปิด ชมจันทรุปราคาเช้ามืด 17 ส.ค. นี้



       นักดาราศาสตร์และคนรักดาว ต่างลุ้นให้ท้องฟ้าใสแจ่ม ไร้เมฆบดบังการสังเกตจันทรุปราคา ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของวันที่ 17 ส.ค. นี้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ครั้งสำคัญ และน่าสนใจมากอีกปรากฏการณ์หนึ่ง อีกทั้งเป็นอุปราคาครั้งสุดท้ายของปีนี้ด้วย
       
       ฤดูฝนไม่เข้าใครออกใคร ฝนจะตกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะน่าเสียดายมาก ถ้าหากฝนเกิดมาตกในช่วงที่พวกเรา กำลังเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อยู่อย่างใจจดใจจ่อ
       
       ในช่วงเวลา 01.20 น. ของวันที่ 17 ส.ค.51 เป็นต้นไป จะเกิดปรากฎการณ์จันทรุปราคาบางส่วน โดยดวงจันทร์จะถูกบดบังมากที่สุดประมาณ 81% ในช่วงเลา 04.10 น. ซึ่งนักดาราศาสตร์ และประชาชนจำนวนไม่น้อย ต่างหวังที่จะได้ชมปรากฏการณ์อุปราคานี้ นับเป็นอุปราคาครั้งสุดท้ายของปี 2551
       
       ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ ได้ติดต่อสอบถาม ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รอง ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ถึงการสังเกตปรากฎการณ์ครั้งนี้ โดย ดร.ศรัณย์บอกว่า ทาง สดร. ไม่ได้จัดกิจกรรมใดเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าไม่ใช่จันทรุปราคาเต็มดวง และเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ ก็เป็นช่วงเวลากลางดึกจนถึงเช้ามืด จึงไม่สะดวกต่อการจัดกิจกรรม อีกทั้งช่วงนี้เป็นหน้าฝน ซึ่งไม่แน่ว่าท้องฟ้าจะปิดจนไม่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาได้
       
       อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัว ดร.ศรันย์ ก็จะเฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้ อยู่ที่บ้าน จ.เชียงใหม่ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าช่วงเวลานั้นท้องฟ้าจะเปิดหรือไม่
       
       ด้านนายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดูดาวเจ้าของหอดูดาวบัณฑิต อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา บอกกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า จะเฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ดังกล่าว และบันทึกภาพอยู่ที่หอดูดาวบัณฑิต ซึ่งนายวรวิทย์ก็หวังเช่นกันว่า ท้องฟ้าจะเปิดให้เห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้ได้โดยตลอด
       
       สำหรับผู้ที่หวังจะชมจันทรุปราคาในเช้ามืดวันที่ 17 ส.ค. นี้ ควรศึกษาข้อมูลพยากรณ์อากาศไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ผิดหวัง ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ก็ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังสำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ข้อมูลว่า ช่วงนี้ประเทศไทยมีแนวโน้มว่า จะมีฝนตกเสียส่วนใหญ่ จึงนำมารายงานให้ทราบกัน โดยข้อมูลสภาพอากาศของประเทศไทยในเว็บไซต์ของอุตุนิยมวิทยา มีดังนี้
       
       ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 15-17 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
       
       ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15-17 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 18-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
       
       ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 15-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
       
       ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วน ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
       
       ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ตะวันออก) ในช่วงวันที่ 15 - 21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2
       
       ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ตะวันตก) ในช่วงวันที่ 15–18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19–21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
       
       สำหรับ กรุงเทพมหานคร ในช่วงวันที่ 15-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย 30-40 ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
       
       เมื่อรู้แนวโน้มสภาพอากาศล่วงหน้าอย่างนี้แล้ว ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ก็หวังว่าทุกคนจะเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม และสนุกกับการสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้กันทุกคน

[สายน้ำ]

มติชน


รายงานพิเศษ : ชายฝั่งโซมาเลีย "แดนอันตรายแห่งโจรสลัด" กับชะตากรรม 28 ลูกเรือไทย

"...โจรสลัดในปัจจุบันจะแตกต่างกับโจรสลัดในอดีตที่มีลักษณะเฉพาะคือจะมีผ้าคาดหัว ใช้ดาบใบกว้าง หรือปืนพก และเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ ในปัจจุบันโจรสลัดนิยมใช้เรือเร็ว และใช้ปืนกลแทนที่ดาบ เป้าหมายส่วนใหญ่ที่โจรสลัดเลือกคือเรือสินค้าและเรือโดยสาร..."

แล้วไหนแต่ไหนมา เรื่องของอาชญากรรมโจรสลัดเคยเป็นเรื่องไกลตัวคนไทย เพราะความไม่เคยสัมผัสหรือเห็นแต่เฉพาะในหนังซึ่งออกแนวเฮฮาเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับวันนี้ เรื่องของโจรสลัดกลายเป็นเรื่อง ''ระทึกใกล้ตัว" เราไปแล้ว หลังจากสำนักข่าวต่างประเทศซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ "ข่าวร้าย" ว่า โจรสลัดนอกชายฝั่งโซมาเลีย ได้เข้ายึดเรือและจับกุมลูกเรือคนไทย 28 ชีวิต ท่ามกลางชะตากรรมระทึกของคนไทยเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องข่าวร้ายไม่คาดฝันสำหรับชาวไทยโดยปริยาย พร้อมคำถามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาทางช่วยเหลือลูกเรือคนไทยเหล่านี้ ภายใต้เงื้อมมือโจรสลัดกลุ่มดังกล่าวได้อย่างไร

ตามความหมายแล้ว "โจรสลัด" คือบุคคลที่ปล้นหรือโจรกรรมในทะเล หรือบางครั้งตามชายฝั่งหรือท่าเรือต่างๆ โจรสลัดในปัจจุบันจะแตกต่างกับโจรสลัดในอดีตที่มีลักษณะเฉพาะคือจะมีผ้าคาดหัว ใช้ดาบใบกว้าง หรือปืนพก และเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ ในปัจจุบันโจรสลัดนิยมใช้เรือเร็ว และใช้ปืนกลแทนที่ดาบ

เป้าหมายส่วนใหญ่ที่โจรสลัดเลือกคือเรือสินค้าและเรือโดยสาร สำหรับรูปแบบที่ใช้ในการบุกเข้าปล้นมีทั้งชูธงหลอกล่อเป้าหมายว่าเป็นเรือสินค้าบ้าง เรือของกองทัพหรือของศาสนจักรบ้าง หรือแม้กระทั่งใช้กำลังบุกเข้าโจมตีโดยตรงเลยก็มี

ในปัจจุบันชายฝั่งและทะเลในอเมริกาใต้ และทะเลเมดิเตอเรเนียน ยังคงมีโจรสลัดที่ปล้นผู้อื่น โดยชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา และชายฝั่งของทะเลแคริบเบียน เริ่มลดน้อยลงเนื่องจากมีการป้องการจากกองกำลังรัฐบาล ค่าเสียหายที่เกิดจากโจรสลัดปล้นในปัจจุบัน คาดว่าประมาณ 5 - 6.5 แสนล้านบาทต่อปีทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย จุดที่อยู่ระหว่างช่องแคบมะละกา และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเรือพาณิชย์ผ่านประมาณ 50,000 ลำต่อปี

ในประเทศไทยฝั่งบริเวณทะเลอันดามัน ยังคงมีโจรสลัดอยู่ ซึ่งใช้เรือเร็วปล้นเรือสินค้าของผู้คนที่แล่นเรือผ่าน โดยในบางครั้งจะเก็บค่าคุ้มครอง หรือจ่ายเงินค่าผ่านทางแทน

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า อาชญากรรมโจรสลัดยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับโลกยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ เพราะประเมินว่า ปีหนึ่งอาชญากรโจรสลัดทั่วโลกจะปล้นปล้นสะดมสินค้าได้เป็นมูลค่ากว่า 13,000-16,000 ต่อปี โดยเฉพาะในทะเลแปซิฟิก, ทะเลอินเดีย และนอกชายฝั่งโซมาเลีย (ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ลูกเรือไทยประสบเหตุ) รวมทั้งบริเวณช่องแคบมะละกา และสิงคโปร์ โดยปฎิบัติการของกลุ่มที่มักจะประสบความสำเร็จเพราะการที่มีเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ผ่านน้ำ และจะถูกโจมตีโดยเรือโจรสลัดขนาดเล็กกว่า ซึ่งหลายครั้งใช้ประเภทเรือเร็ว โดยเฉพาะในช่วงที่เรือจะต้องผ่านช่องแคบเล็ก ๆ อย่างคลองสุเอซ,คลองปานามา,และช่องแคบมะละกา ทำให้เรือพาณิชย์ต้องลดความเร็ว เสี่ยงที่จะถูกเรือโจรสลัดบุกเข้าปล้น

จุดประสงค์ของปฎิบัติการปล้นเรือโจรสลัดในยุคปัจจุบัน มักมีหลายประเภท ได้แก่ ลักพาตัวผู้คนไปเรียกค่าไถ่, ปล้นปล้นสะดมสินค้า, ฆาตกรรม, ยึดสินค้าหรือยึดเรือ และบุกเข้าปล้นขณะที่เรือกำลังจม อย่างไรก็ตาม ยุคนี้ก็ปรากฎว่า โจรสลัดมักปล้นเรือด้วยวัตถุประสงค์ด้านการเมืองด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับการใช้เทคโนโลยีสูง เช่น ใช้โทรศัพท์มือถือ (เป็นเครื่องมือติดต่อสมาชิกกลุ่ม) ใช้เรือเร็ว, ใช้ปืนไรเฟิล, ปืนสั้น ปืนกล หรือแม้กระทั่งใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจีด้วย

สำหรับเหตุการณ์โจรสลัดปล้นเรือล่าสุดที่โลกเพิ่งประสบไปหมาดๆ ที่ตกเป็นข่าวดังนั้น อุบัติขึ้นเมื่อปี 2005 โดยเรือสำราญหรู The Seabourn Spirit  ถูกโจมตีนอกชายฝั่งโซมาเลีย โดยมีลูกเรือบาดเจ็บหนึ่งราย และเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2007 ใกล้ชายฝั่งโซมาเลีย โจรสลัดเข้าปล้นเรือสินค้าใหญ่ Danica White โดยเรือรบยูเอสเอสคาร์เตอร์ ฮอลล์ ของสหรัฐพยายามเข้าช่วยเหลือ โดยยิงกระสุนปืนเข้าโจมตีแต่ล้มเหลว และล่าสุดหมาดๆ  เมื่อเดือนเม.ย.เรือยอร์ช Le ponant ของฝรั่งเศส บรรทุกลูกเรือ 30 ราย ถูกกลุ่มโจรสลัดบุกปล้นนอกชายฝั่งโซมาเลีย ก่อนที่ลูกเรือจะถูกปล่อยตัวด้วยการจ่ายเงินเรียกค่าไถ่ และกองทัพฝรั่งเศสได้จับกุมสมาชิกบางรายของกลุ่มได้

ทั้งสามเหตุการณ์ล้วนเป็น'เหตุที่เกิดขึ้นในนอกชายฝั่งโซมาเลียทั้งสิ้น แม้กระทั่งเหตุระทึกยึดเรือสินค้า TTA ของไทย พร้อมลูกเรือ 28 ชีวิตครั้งนี้ด้วย


**********************************************************************************************


กทม.รับมือน้ำทะเลยกตัว "สตอร์ม เซิร์จ"

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า วันที่ 17 สิงหาคมนี้ กทม.จะจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมการรับมือภัยพิบัติน้ำทะเลยกตัวสูง (Storm Surge) ที่กองบัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก เขตบางนา หลังจากนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยืนยันโดยเอาตำแหน่งเป็นประกันเตือนภัยปรากฏการณ์ดังกล่าว นายสมิทธทำนายว่า อาจเกิดช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ มีความรุนแรงไม่แพ้พายุนาร์กีสในพม่า ประเมินว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบทันทีประกอบด้วย เขตบางนา เขตบางขุนเทียน เขตทุ่งครุ เขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง คาดว่าพื้นที่จะจมอยู่ใต้น้ำ 50-100 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ จ.สมุทรปราการ คาดว่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าโดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร


*********************************************************************************************


แจ้งจับรุกป่าชายเลนสตูลผลาญแล้วกว่า 20 ไร่

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายสุวัฒก์ หิรัญตระการ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 หัวหน้าหน่วยคุ้มครองป้องกันป่าชายเลนที่ 9 (สตูล) และเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 36 ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเลน จ.สตูล ตอนที่ 2 บริเวณเกาะกลาง หมู่ที่ 4 ต.สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูล พบป่าชายเลนถูกบุกรุกแผ้วถาง 2 แห่ง รวมเนื้อที่ 20 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน จากการสืบทราบพบว่าเป็นการกระทำของคนใน ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จึงยึดพื้นที่ทั้งหมดไว้พร้อมแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแพ จ.สตูล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


**************************************************************************************************


ห้ามรถทัวร์ขึ้นเขาใหญ่ ตั้งแต่ 1ก.ย.เป็นต้นไป

นายณรงค์ มหรรณพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไปจะห้ามรถบัส รถทัวร์ หรือ รถบรรทุกโดยสาร สูงเกิน 3 เมตรครึ่ง หรือมีที่นั่งเกิน 45 ที่นั่ง และแรงม้าไม่ต่ำกว่า 250 แรงม้า ขึ้น-ลงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเด็ดขาด แต่จะอนุญาตให้ขึ้นลงได้เฉพาะด้าน จ.ปราจีนบุรี ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เท่านั้น

[สายน้ำ]

สยามรัฐ


วัยใส : ท้าพิสูจน์วิกฤตมหันตภัย



กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ชวนเยาวชนและผู้สนใจเปิดประสบการณ์ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ในงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2551”  ตั้งแต่วันนี้ - 22 สิงหาคม 2551 เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการไบเทค บางนา   

ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย”  ในสัปดาห์วิทยาศาสตร์  และพลาดไม่ได้ก็คือ ! หนึ่งในไฮไลท์เด็ดจาก ห้อง 4D animation  ในนิทรรศการ “เรียนรู้...สู้โลกร้อน Global Warming & Climate Change” ซึ่งได้แนวคิดมาจากการรบรวมสถิติ ของภัยธรรมชาติจะก่อตัวรุนแรงขึ้น กลายเป็นวิกฤตมหันตภัย ในช่วง 10 – 20 ปี  เช่น การเกิดพายุลูกใหญ่ที่มีความเร็วมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการทำลายล้างและนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมากมาย  อาทิ พายุนาร์กิสถล่มพม่า  แผ่นดินไหวที่จีน  ฝนตกกระหน่ำ  น้ำท่วม  และแผ่นดินไหวทั่วโลก  ฯลฯ 



ตื่นตาตื่นใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์จำลองพายุกระหน่ำ กับภาพความหายนะที่ตามมาในภายหลัง  ที่ต้องการสื่อให้ทุกคนต้องหันมาร่วมมือกัน และตระหนักถึงที่มาของปัญหา ช่วยกันลดขยะโลก ลดการใช้พลังงานโดยสิ้นเปลือง เพื่อป้องกันมหันตภัยทั้งโลก  ... สัมผัสวิกฤตมหันตภัยเสมือนจริง ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นได้  .. ที่นี่ ... แห่งเดียว !!

[แมลงปอ]

ว้าว....คืนนี้แล้วซินะ...ชมจันทรุปราคาเช้ามืด 17 ส.ค....

จะนอนลุ้น หรือ ตื่นลุ้น ดีหล่ะค่ะเนี่ย 

ขอบคุณค่ะ

[Bluefin]

  ...มะได้ดู