สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

     ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด   ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งอาจเกิดซ้ำขึ้นได้อีกเนื่องจากสภาวะฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองยังคงมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย.51ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร

สำหรับในช่วงวันที่ 21-23 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดน้อยลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น บริเวณจังหวัด อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ลพบุรีและสระบุรี ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก และชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

[สายน้ำ]

เดลินิวส์


โจรสลัดโซมาเลียอาละวาดอีกปล้นเรือฮ่องกง

 เจ้าหน้าที่สำนักงานการเดินเรือระหว่างประเทศ (ไอเอ็มบี) เผยว่า กลุ่มโจรสลัดติดอาวุธก่อเหตุปล้นเรือบรรทุกสารเคมีของฮ่องกงที่มีลูกเรือ 22 คน ในอ่าวเอเดนใกล้กับโซมาเลีย ถือเป็นเรือลำที่ 12 ที่ถูกโจรสลัดยึดในน่านน้ำแห่งนี้นับแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกองทัพฝรั่งเศสช่วยเหลือ 2 ตัวประกันชาวฝรั่งเศส ที่ถูกโจรสลัดจับตัวไปเป็นเวลา 2 สัปดาห์
 
นายโนเอล ชูง หัวหน้าศูนย์รายงานโจรสลัดของไอเอ็มบี ระบุว่า เรือดังกล่าวถูกโจมตีระหว่างเดินทางสู่เอเชียในเส้นทางเดินเรือที่ปลอดภัย โดยมีกองกำลังระหว่างประเทศลาดตระเวนอยู่ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ ของการโจมตีครั้งนี้
 
นายชูง กล่าวว่า การก่อเหตุของกลุ่มโจรสลัดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นแม้จะเพิ่มความพยายามรักษาความปลอดภัย โดยไอเอ็มบี ได้เรียกร้องให้เรือทุกลำเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดขณะเดินทางเข้าไปในเส้นทางนี้ เหตุโจมตีครั้งล่าสุดทำให้เหตุโจมตีเรือนอกชายฝั่งโซมาเลียในปีนี้พุ่งเป็น 54 ครั้งแล้ว โดยส่วนมากเกิดขึ้นในน่านน้ำอ่าวเอเดน
 
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศเมื่อวันอังคารว่า กองทัพฝรั่งเศสช่วยเหลือตัวประกันชาวฝรั่งเศส 2 คนในการยิงต่อสู้กันกับโจรสลัดโซมาเลีย ซึ่งโจรสลัดถูกยิงดับไป 1 คน และอีก 6 คนถูกจับกุมตัว ทั้งนี้ ชาวฝรั่งเศส 2 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ปลอดภัยและยังแข็งแรง แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ระบุว่า ประธา  นาธิบดีสั่งให้ปฏิบัติการเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 01.00 น. ของเช้าตรู่วันอังคารตามเวลาในไทย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความช่วยเหลือดังกล่าว
 
ชาวฝรั่งเศสทั้ง 2 คน ซึ่งมาจากเฟรนซ์ โพลีเนเซีย กำลังแล่นเรือของเพื่อนลำหนึ่งจากออสเตรเลียไปยังฝรั่งเศสเมื่อพวกเขาถูกจับตัวไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมาโดยโจรสลัดโซมาเลีย ที่เฝ้ารออยู่ในอ่าวเอเดน
 
โจรสลัดโซมาเลียกลายเป็นภัยคุกคามเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยปฏิบัติการโจมตีทั้งเรือประมงและเรืออื่น ๆ ชาวฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายในการถูกจับเป็นตัวประกันแล้วหลายครั้ง.


********************************************************************************************************************************


วิธีต้มปลาให้ก้างยุ่ย



 บ้านไหนที่ชอบทานปลา แล้วเบื่อกับการต้องเอาก้างออก วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีต้มปลาให้ก้างยุ่ยมาบอก....

วิธีต้มปลาให้เนื้อแข็งแล้วก้างอ่อนยุ่ยเหมือนก้างปลากระป๋อง คือ นำอ้อยมาปอกเปลือกข้างนอกออกแล้วตัดเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ นำมาวางเรียงในหม้อที่จะใช้ต้มปลา จากนั้นนำปลามาวางทับแล้วเติมน้ำลงไปพอประมาณนำไปตั้งไฟสัก 40 นาที เราจะสังเกตได้ว่าปลานั้นตัวแข็งอยู่เหมือนเดิม เนื้อไม่เละ แล้วยังเก็บไว้ได้นานอีกด้วย

ถ้าอยากทานปลาอร่อย ๆ ก็ลองนำวิธีนี้ไปทำทานกันได้.

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


สลด! โลมาอิรวดีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ติดอวนชาวประมงตายอีก 1 ตัว



พัทลุง - สุดสลดพบโลมาอิรวดีติดอวนปลาบึกของชาวประมง สิ้นใจตายกลางทะเลสาบสงขลา นับตัวที่ 17 ในรอบ 2 ปี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างพบซากโลมาอิรวดี ลอยตายอยู่กลางทะเลสาบสงขลาบริเวณหน้าเกาะใหญ่ ห่างจากทะเลสาบลำปำ ออกไป 9 กิโลเมตร พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดพัทลุงและสงขลา สภาพศพบริเวณลำตัวมีร่องรอยของอวนกดรัด หน้าท้องแตก ลำไส้ทะลัก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน


       
       นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงศูนย์วิจัยฯ กล่าวว่า โลมาอิรวดี ตัวดังกล่าวเป็นโลมาเพศเมียขนาดความยาว 1.9 เมตร อายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี และเป็นการพบซากโลมาตายตัวที่ 17 ในรอบ 2 ปีของศูนย์วิจัย เชื่อว่าสาเหตุการตายเกิดจากความอ่อนเพลียและช็อก หลังจากชาวประมงปลดออกจากอวนปลาบึกที่โลมาว่ายไปติด
       
       สำหรับโลมาอิรวดีน้ำจืด ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบสงขลาเป็น 1 ใน 5 แห่งทั่วโลก คาดว่าจะมีฝูงสุดท้ายประมาณ 20 – 25 ตัว และอยู่ในภาวะที่ใกล้สูญพันธุ์ เพราะการผสมเลือดชิด บวกกับความเสื่อมโทรมของทะเลสาบ และติดอวนปลากบึกของชาวประมง

[สายน้ำ]

มติชน


สิ้น"ดร.จารุจินต์" อพวช.ขอสานต่อพจนานุกรมสัตว์ไทย


ดร.จารุจินต์ นภีตะภัฏ
 
นายธัญญา จั่นอาจ ผู้อำนวยการกองพิพิธภัณฑ์อ้างอิง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. เปิดเผยว่า หลังจาก ดร.จารุจินต์ นภีตะภัฏ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสียชีวิตด้วยวัย 58 ปี วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญด้านธรรมชาติวิทยา และงานด้านอนุกรมวิธานสัตว์ของประเทศไทยครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากเป็นผู้ที่ค้นหาองค์ความรู้ทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด งเช่น เก็บตัวอย่างสัตว์ไม่ต่ำกว่า 5,000 ชนิดมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ได้ร่วมเขียนหนังสือคู่มือผีเสื้อประเทศไทย และหนังสือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมทั้งยังให้ความสำคัญต่อภูมิปัญญาชาวบ้าน บันทึกความรู้และมุมมองของชาวบ้านที่เกี่ยวข้องกับพืชหรือสัตว์แต่ละชนิด

นายธัญญากล่าวว่า ภาครัฐและผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพพร้อมให้การสนับสนุนงานดังกล่าวมากขึ้น เพื่อสนองความต้องการของ ดร.จารุจินต์ สำหรับงานที่ ดร.จารุจินต์ ได้ทำค้างไว้อย่างเช่นหนังสือพจนานุกรมสัตว์ไทย ทีมงานจะดำเนินการสานต่องานให้สำเร็จ เพื่อเป็นองค์ความรู้ทางด้านธรรมชาติวิทยาให้แก่คนรุ่นต่อไป


*******************************************************************************************************************************


เศร้า!โลมาอิรวดีถูกอวนรัดตายกลางทะเลสาบสงขลา



ซากปลาโลมาอิรวดี ที่ถูกอวนปลาบึกชาวบ้านทอดเอาไว้พันตามร่างกาย จนช็อกตาย ลอยอยู่กลางทะเลสาบสงขลา เผยเหลือโลมาดังกล่าวไม่ถึง 25 ตัวในทะเสาบแห่งนี้ เนื่องจากความเสื่อมโทรม.

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างพบซากโลมาอิรวดีลอยตายอยู่กลางทะเลสาบสงขลาบริเวณหน้าเกาะใหญ่ พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดพัทลุงและสงขลา สภาพศพบริเวณลำตัวมีร่องรอยของอวนปลาบึกกดรัด และหน้าท้องแตก ลำไส้ทะลัก  คาดว่า ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

นายสันติ  นิลวัตน์  นักวิชาการประมงศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กล่าวว่า  โลมาอิรวดีตัวดังกล่าวเป็นโลมาเพศเมียขนาดความยาว 1.9 เมตร อายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี โดยซากโลมาตัวนี้ เป็นตัวที่ 17 ในรอบ 2 ปี ที่พบโดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัย ส่วนซากโลมา ที่ชาวบ้านพบรอบ ๆ ทะเลสาบสงขลา ยังไม่สามารถประมาณการตัวเลขได้  และสำหรับตัวที่พบล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวประมง 3 วัน ก่อนพบซาก ว่ามีโลมาเข้ามาติดอวนปลาบึก และได้ช่วยกันพยายามปลดโลมาออกจากอวนเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ ซึ่งน่าจะมาจากความอ่อนเพลียของโลมาจนเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตดังกล่าว 

สำหรับโลมาอิรวดีน้ำจืด พบเพียง 5 แห่งทั่วโลก คือ ทะเลสาบสงขลา ,แม่น้ำอิรวดี ประเทศพม่า ,แม่น้ำโขง ประเทศลาว, ทะเลสาชิลิก้า ประเทศอินเดีย และแม่น้ำมะหะขาม ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งโลมาอิรวดีน้ำจืด อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลก ในขณะที่โลมาอิรวดี ในทะเลสาบสงขลา คาดว่ายังคงมีเหลือไม่เกิน 25 ตัว สาเหตุมาจากความเสื่อมโทรมของทะเลสาบสงขลา และติดอวนปลาบึก

[สายน้ำ]

ข่าวสด


เกาะช้างเฮนักท่องเที่ยวเปลี่ยนเป้า หนีกระบี่-ภูเก็ต-เหตุปิดสนามบินหยุดเดินรถไฟ

ตราด - นางมุกดา ตระกูลเดิม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ก่อเหตุยึดสนามบินภูเก็ต กระบี่ และหยุดเดินรถไฟ ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในภาคใต้ และทำให้นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ได้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวจากภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สงขลา และพังงา เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะช้าง จ.ตราด เนื่องจากเห็นว่า เกาะช้างมีความสงบทางการเมือง และไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ และการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่จะสร้างกระแสต่อต้านในพื้นที่ และมีความเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะช้าง มีความเงียบสงบเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมทั้งภูมิทัศน์ของทะเลเกาะช้าง ป่าไม้บนเกาะช้าง มีความสวยงามและมีความอุดมสมบูรณ์

"ในขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพดี เปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวจากภาคใต้ เดินทางมาสู่หมู่เกาะช้าง จ.ตราด เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการคมนาคม อาทิ สนามบิน ในมุมมองของนักท่องเที่ยวแล้วถือว่า จ.ตราด มีความงดงามของทะเลอ่าวไทยที่หลากหลาย รูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีที่พักหลากหลาย และที่สำคัญ มีความสะดวกและง่ายที่จะเดินทางมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินหรือทางรถยนต์ ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก และได้เริ่มเดินทางมาในกลางเดือนก.ย.เป็นต้นไป" นางมุกดา กล่าว

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด กล่าวว่า แม้ความเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวของเกาะช้าง จะไม่เติบโตสูงเหมือนปี 2550-2551 แต่ก็ไม่ลดลง ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพ เดินทางมาเกาะช้าง ทางสมาคมได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน หรือกรีน ซีซั่น ไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งในช่วงฤดูฝนผลที่ได้รับดีเกินคาดหมาย มีนักท่องเที่ยวจองและเดินทางเข้ามาสู่ จ.ตราด ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ประมาณรายได้กว่า 2 ล้านบาท และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงฤดูฝนนี้ของตราดไม่เงียบเหงาเท่าปีก่อน

[สายน้ำ]

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


เกิดคลื่นสูงซัดกระหน่ำชายฝั่งของบังกลาเทศทำให้มีผู้สูญหายนับร้อยคน

เกิดคลื่นสูงซัดกระหน่ำชายฝั่งของบังกลาเทศ ทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิต 2 คน ชาวประมงสูญหายประมาณ 400 คนและประชาชนอีกหลายพันคนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ทั้งนี้น้ำทะเลจากอ่าวเบงกอล ทำให้เมืองอย่างน้อย 2 แห่งจมอยู่ใต้น้ำ ส่งผลให้ชาวบ้านต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัยท่ามกลางลมแรงและฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศระบุว่า คลื่นลมแรงครั้งนี้เกิดจากพายุดีเปรสชั่นทางตอนเหนือของอ่าวเบงกอล และดูเหมือนว่า ประชาชนในบริเวณนี้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศดังกล่าวต่อไปอีก 2 วัน ก่อนที่พายุจะข้ามฝั่งไปยังรัฐโอริสสา ของอินเดีย.