กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 28, 2025, 11:43:08 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 24 กันยายน 2551  (อ่าน 2350 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 12:35:40 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับคลื่นในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (24 ก.ย. 51) พายุไต้ฝุ่น “ฮากุปิต” ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนแล้ว คาดว่าพายุจะอ่อนกำลังลง เป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศจีนตอนล่าง เกาะฮ่องกง และประเทศเวียดนามตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีกำลังแรงขึ้น ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฮากุปิต (Hagupit)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทิศตัวตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งสู่ประะเทศจีนตอนใต้ใกล้ เกาะฮ่องกงประมาณวันที่ 24 ก.ย. และจะอ่อนกำลังลงเป็นตามลำดับ


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือเนื่องจากคลื่นลมมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้



* Forecast2.jpg (39.31 KB, 693x430 - ดู 315 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 12:49:16 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


นักตกปลาหาดบางแสนตะลึงฝูงปลาใหญ่ไล่ฮุบเบ็ดมากผิดปกติ  
 
   
 
  ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักตกปลาทะเลบางแสนตะลึงปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เกี่ยวเหยื่อหย่อนเบ็ดยังไม่ทันถึงพื้นเจอปลากินเบ็ดทุกคัน กระเบน กะพง ปลาคุด ปลาสละ ตัวใหญ่ผิดปกติ สุดท้ายเจอปลาใหญ่เกินกว่าจะดึงขึ้นมาได้ใช้เวลานานนับชั่วโมง ต้องกระโดดลงทะเลใช้ฉมวกแทงยกขึ้นเรือน้ำหนัก 30 กิโลฯ ต้องรีบถอนสมอเผ่นหนีกระเจิงเห็นฝูงปลาใหญ่กำลังตามกลิ่นเลือด
       
       วันนี้ (22 ก.ย.) จ.ส.ต.ประวิทย์ อุตถจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแสนสุข เผยว่า ตนเป็นคนชอบตกและได้มาตกปลากที่หาดบางแสนเป็นประจำหลังออกเวร ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 21กันยายนที่ผ่านมาได้มีปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในอ่าวหาดบางแสน คือหลังจากได้นำเรือเร็ว เครื่องติดท้ายออกไปในทะเลพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน เพื่อไปตกปลาบริเวณแหล่งปะการังเทียม เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินโครงการไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เรือประมงเข้ามาลากปลา และพวกอวนรุนเข้ามาจับปลายังบริเวณ อ่าวบางแสน
       
       ปรากฏว่า ได้มีปลาขนาดใหญ่กินเบ็ดอย่างมากผิดปกติ มีทั้งปลากะพงขาว น้ำหนักถึง 30 กิโลกรัมกินเบ็ด ขณะที่ใช้ฉมวกแทงปลาแล้วโดดลงไปจับปลาขึ้นเรือ เพราะเกรงว่าปลาจะดิ้นหลุดหรือสายเอ็นขาด คาดว่าฝูงปลาขนาดใหญ่ได้กลิ่นคาวกรูกันเข้ามาหาเรือ จึงได้รีบขึ้นเรือ บอกเพื่อนให้รู้ จนทำให้ทุกคนหวาดกลัวพากันถอนสมอติดเครื่องยนต์เผ่นหนีกระเจิงออกมา เพราะไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
       
       โดยทาง จ.ส.ต.ประวิทย์ ได้โชว์ถ่ายภาพพร้อมยืนยันว่า เป็นปลาที่ตกมาได้เมื่อวันที่ 21 กันยายนมีปลากระเบน ปลากะพง ปลาคุด ปลาสละ และปลาชนิดอื่นๆ อีกหลายตัว และมีปลากะพงขาวขนาดใหญ่สุดน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ซึ่งถ้าเป็นชาวประมงคงดีใจที่มีปลากินเบ็ดจำนวนมากอย่างนี้ แต่ว่าตัวเองและเพื่อนเห็นเป็นเรื่องแปลกมากเพราะไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนว่ามีปลาขนาดใหญ่ชุกชุมขนาดนี้
       
       ที่น่าแปลกสุดๆ ก็คงไม่พ้นเป็นช่วงที่ได้มีปลาวาฬยักษ์ 4 ตัว เข้ามาวนเวียนว่ายน้ำเล่นอยู่บริเวณหน้าชายหาดบางแสน ใกล้กับแหล่งปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติ คาดว่าปลาและสัตว์ทะเลจำนวนมากนี้เปลี่ยนหรือย้ายถิ่นฐานมาพร้อมกับปลาวาฬอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นในทะเล เพราะฝูงปลาที่เปลี่ยนแหล่งหากินเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก หรืออาจจะเป็นสัญญาณเตือนภัยว่าทะเลแปรปรวนทำให้ปลาเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ หรือเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับแม่เหล็กโลก
       
       จ.ส.ต.ประวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาได้ใช้วันหยุดราชการ พาเพื่อนตำรวจด้วยกันไปตกปลา และถือโอกาสดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวที่เล่นเรือในทะเล ถ้าเกิดเหตุก็จะสามารถออกไปช่วยเหลือได้ทัน เป็นพรานล่าปลาในทะเลมานาน แต่ไม่เคยตกได้ปลาขนาดใหญ่มาก่อนเลย ปลากะเบนมีน้ำหนักกว่า 5 กิโลกรัม ปลาอื่นก็ตัวใหญ่ผิดปกติ เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากกว่าดีใจ เพราะปลาเหล่านี้เข้ามาพร้อมกับปลาวาฬยักษ์ 4 ตัว ที่โผล่ชายหาดบางแสน ถ้าเป็นปรากฏการณ์ปลาเปลี่ยนถิ่นก็จะสร้างผลดีให้ชาวประมงท้องถิ่นที่ยึดอาชีพตกปลา แต่ถ้าเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ส่งสัญญาณการเตือนภัยในเรื่องพายุในทะเล ก็ถือว่าเป็นโชคร้ายของประชาชน


*************************************************************************************************************************


นักท่องเที่ยวจมน้ำดับที่หาดกะรนภูเก็ต

       ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำหาดกะรน เป็นตะคริว จมดิ่งลงสู่ก้นทะเลดับคาชายหาด
       
       วันนี้ (23 ก.ย.) พ.ต.ท.สงวน เมืองถ้ำ สารวัตรเวร สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ สวป.พบศพ นายไมเคิล สเตเฟ่น จอห์น อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกา ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงนำศพชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ต่อไป
       
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เดินทางมาลงเล่นน้ำเพียงลำพัง และในระหว่างที่กำลังเล่นน้ำอยู่นั้นได้ ถูกคลื่นซัดไปกลางทะเล พยายามที่จะว่ายน้ำขึ้นมาชายฝั่ง แต่หมดเรี่ยวแรง ร่างจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลหายไป จากนั้นชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้นำเรือเร็วออกค้นหา เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็พบศพห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นตะคริว แล้วถูกคลื่นซัดจมดิ่งลงสู่ก้นทะเล เสียชีวิตดังกล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 01:57:42 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


คนภูเก็ตต้าน'มังกี้แลนด์'ฮุบที่สาธารณะผวาโรคระบาด

เครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต ต้านกลุ่มทุนรุกคืบ แปลงพื้นที่เกาะสาธารณะ 2 แห่งเนรมิตโครงการเกาะลิงหรือมังกี้แลนด์ โดยองค์การสวนสัตว์ร่วมกับกลุ่มทุนแอฟริกา ใช้ลิงไทยและนำเข้าจากต่างประเทศมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม   ระบุขั้นตอนอยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบข้อดีข้อเสีย

นายโสภณ  ดำนุ้ย  ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (อสส.) เปิดเผยว่า อสส.ร่วมกับบริษัท  ไพรเมทส์  รีสอร์ท  (พีทีวาย) กลุ่มทุนแอฟริกา จะดำเนินงานโครงการเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าภายใต้ชื่อ  มังกี้แลนด์  (Monkey land) หรือเกาะลิง บนพื้นที่เกาะทะนาน  ต.วิชิต  และเกาะแอล ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่จัดแสดงลิงสายพันธุ์ต่างๆ  ทั้งในประเทศไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจะสร้างเป็นสะพานสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ยืนชมลิงและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเกาะ   รวมทั้งเป็นแหล่งอนุบาลลิงที่นำมาโชว์เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่   ตลอดจนการศึกษาค้นคว้าวิจัยสายพันธุ์ลิง โดยไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ บนเกาะ

นายโสภณกล่าวว่า  ขณะนี้นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบประเมินความเป็นไปได้โครงการมังกี้แลนด์   เพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและประชุมหาผลดีและผลเสียว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่   แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้า  ทั้งนี้ ในส่วนขององค์การฯ ได้ประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติในการเข้าไปใช้พื้นที่เกาะทะนานและเกาะแอล   เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถ้าหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยหรือคัดค้าน โครงการนี้ก็ต้องยุติแน่นอน

"โครงการสร้างเกาะลิงเป็นการทำเพื่ออนุรักษ์และวิจัยสัตว์ป่า  โดยเจ้าของโครงการไพรเมทส์  มังกี้แลนด์ของแอฟริกาเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด  ส่วนองค์การสวนสัตว์ฯ ดำเนินการนำเข้าลิงสายพันธุ์ต่างๆ   ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจสอบและออกใบรับรองจากหน่วยงานปศุสัตว์ทั้งในต่างประเทศและประเทศไทยเพื่อตรวจดูว่าโรคระบาดหรือไม่" ผอ.อสส.กล่าว

นายสุธา   ประทีป   ณ  ถลาง  ประธานเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง  จ.ภูเก็ต แสดงความเห็นต่อโครงการมังกี้แลนด์ว่า  ขอคัดค้านเนื่องจากมีปัญหาด้านกฎหมายคือ  ที่ดินบนเกาะทั้ง   2   แห่งเป็นเกาะสาธารณะ มีเอกสารสิทธิป้องกันการบุกรุกที่ดินเพื่อให้ชุมชนใช้ประโยชน์พื้นที่ร่วมกัน  แต่ถ้าภาครัฐปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็จะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้านที่มีอาชีพประมงและใช้เป็นแหล่งพักผ่อนของส่วนรวม  ซึ่งชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมี  3 ตำบล คือ ต.วิชิต ต.ฉลองและ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

"โครงการสร้างเกาะลิง  จะมีการสร้างสะพานเทียบเรือและร้านค้า ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมทั้งเกาะทะนาน ซึ่งเป็นต้นแบบของการอนุรักษ์โดยใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน มีการปล่อยหอยมือเสือและปลาการ์ตูนเพื่อเป็นแหล่งอนุบาลแนวปะการัง  ส่วนเกาะแอล  ปัจจุบันห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปเพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังและหญ้าทะเลในเขตรักษาพันธุ์พืช ประกาศโดย จ.ภูเก็ต เมื่อปี  2512 เพื่อช่วยฟื้นฟูและขยายพันธุ์ปะการังให้กระจายตัวไปตามหมู่เกาะรอบๆ ภูเก็ต" นายสุธากล่าว

เขากล่าวอีกว่า  ในส่วนของโรคระบาดยังเป็นข้อวิตกกังวลของคนในชุมชนว่าจะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดโรคระบาดติดต่อมาสู่คน   และมีแนวทางป้องกันลิงผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์หรือไม่   ทั้งนี้ บริษัทผู้ลงทุนสร้างเกาะลิงยังไม่มีความจริงใจที่จะจัดประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชุมชน อีกทั้งยังไม่เปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสต่อชาวบ้านอีกด้วย

ด้านนายไพโรจน์   เฮงแสงชัย   ผู้อำนวยการสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์  ให้ข้อมูลว่า  เมื่อใดที่มีการนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ กรมปศุสัตว์จะตรวจสอบจากแหล่งที่มาของสัตว์ชนิดนั้นๆ ว่ามีถิ่นอาศัยหรือเพาะเลี้ยงอยู่ในเขตแพร่เชื้อโรคหรือไม่ โดยตรวจสอบข้อมูลได้ที่องค์กรโรคระบาดสากล (โอไออี) ซึ่งระบุข้อมูลว่าพื้นที่ใดมีโรคแพร่ระบาดเกิดขึ้นบ้าง  จากนั้นก็จะดูใบรับรองจากสัตวแพทย์ของประเทศต้นทางที่ส่งสัตว์เข้ามายังประเทศไทยว่า ผ่านการตรวจโรคเรียบร้อยแล้ว

"ขั้นตอนการนำเข้าสัตว์ป่าเช่นลิง  เรามีเงื่อนไขว่า จะต้องอยู่ในพื้นที่ปลอดโรคสำคัญในสัตว์ตระกูลลิง  เช่น  โรค  Yellow Fever โรคอีโบล่าและโรคพิษสุนัขบ้า ก็อนุญาตให้นำเข้ามาได้   และยังต้องผ่านการตรวจสอบตามอนุสัญญาไซเตสว่าด้วยสัตว์ป่าห้ามแลกเปลี่ยนหรือซื้อขาย เป็นต้น" นายไพโรจน์กล่าว.


***********************************************************************************************************************



ปลามีนิ้ว                                   :                                คอลัมน์โลกน่ารู้

นักวิทยาศาสตร์ได้สืบสาววิวัฒนาการของนิ้วมือนิ้วเท้าย้อนไปถึงสัตว์คล้ายปลาชนิดหนึ่ง ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในท้องทะเลเมื่อ 380 ล้านปีก่อน

ผลวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร  Nature ชิ้นนี้ สวนทางทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของนิ้วของสัตว์ ซึ่งเชื่อกันว่าสัตว์ชนิดแรกที่มีนิ้ว  คือ  เทตทราพ็อด สัตว์ซึ่งได้คลานจากทะเลขึ้นมาอยู่บนบกเมื่อ 10-20 ล้านปีให้หลัง

ทฤษฎีบอกว่า  เดิมปลามีครีบที่เหมาะสำหรับการแหวกว่าย แต่เมื่อจำเป็นต้องปรับตัวขึ้นมาอยู่ตามที่ชุมน้ำและพื้นดิน กระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติได้แปรเปลี่ยนให้ครีบปลาเป็นแขนขาสำหรับรับน้ำหนักตัวและมีข้อต่อเป็นปล้องๆ

แต่รายงานนี้บอกว่า  ครีบของสัตว์ที่เรียกว่า  แพนเดอริชไธ  สัตว์ตัวยาวหนึ่งเมตรที่อาศัยตามแหล่งน้ำตื้น ซึ่งเป็นสัตว์ในระยะเปลี่ยนผ่านจากน้ำสู่บก มีลักษณะคล้ายปลามากกว่าเทตทราพ็อด มีนิ้วในขั้นแรกเริ่มอยู่ภายในครีบของพวกมันอยู่ก่อนแล้ว

เพอร์  อัลเบิร์ก  นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอัพซาลาในสวีเดน  บอกว่า  มือกับเท้าได้พัฒนามาจากครีบซึ่งมีการเปลี่ยนรูปไป ข้อค้นพบนี้ไม่ได้มาจากการพบฟอสซิลชิ้นใหม่ แต่ได้จากการนำของเดิมมาศึกษาซ้ำอีกครั้ง งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้มองข้ามสิ่งมีอยู่แล้ว

นักวิทยาศาสตร์ยังได้ถูกคัดค้านด้วยการก่อรูปของสัตว์อีกชนิดหนึ่งจากยุคดีโวเนียน ระหว่าง 360-416 ล้านปีก่อนอีกด้วย

สัตว์ที่เรียกว่า  ทิคทาลิก  ดูคล้ายกับเทตทราพ็อดซึ่งขึ้นบกก่อนแพนเดอริชไธ  แต่ครีบของมันยังคล้ายของปลาอยู่เลย ซึ่งแสดงว่านิ้วแบบแรกเริ่มนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่สัตว์ได้เปลี่ยนจากการอาศัยอยู่ในน้ำมาขึ้นบก นิ้วไม่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น

งานวิจัยด้านพันธุกรรมเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่า  นิ้วในยุคแรกเริ่มอาจเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น  ยีนตัวหนึ่งที่มีบทบาทจัดรูปมือและเท้าในหนู  มีลักษณะเหมือนในปลายุคปัจจุบันชนิดหนึ่ง  ซึ่งเป็นญาติห่างๆ แต่เป็นญาติสายตรงของเทตทราพ็อดซึ่งคลานขึ้นจากทะเลเป็นชนิดแรก

อัลเบิร์กกับเพื่อนจึงลงมือศึกษาเจ้าแพนเดอริชไธ โดยนำตัวอย่างซึ่งยังฝังอยู่ในโคลนมาเข้าเครื่องซีทีสแกน  ทีมวิจัยได้มองเห็นโครงกระดูกภายในอย่างชัดเจน  ภาพที่ได้แสดงถึงท่อนกระดูกสั้นใหญ่ที่ปลายครีบเรียงตัวเหมือนนิ้ว 4 นิ้ว ไม่มีข้อต่อ

นั่นแสดงว่านิ้วยุคแรกเริ่มมีอยู่ก่อนแล้วในบรรพบุรุษของเทตทราพ็อด

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.028 วินาที กับ 19 คำสั่ง