พฤศจิกายน 28, 2025, 11:05:10 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551 (อ่าน 2315 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551
«
เมื่อ:
พฤศจิกายน 03, 2008, 12:38:07 AM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และร่องความกดอากาศต่ำกำลังอ่อนพาดผ่าน ภาคใต้ ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ซึมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอน บน ส่งผลให้ร่องความกดอากาศต่ำเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ต่อไปอีก ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนืออากาศอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือใต้บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมหาสารคามให้ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
Forecast2.jpg
(40.09 KB, 693x430 - ดู 323 ครั้ง.)
Earthquake2.jpg
(22.27 KB, 450x306 - ดู 326 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551
«
ตอบ #1 เมื่อ:
พฤศจิกายน 03, 2008, 12:58:52 AM »
มติชน
พบอีก! โลมาตายเกยตื้นที่เกาะช้าง ท้องแตก ไส้ไหล
พลเมืองดีแจ้งกับชุดกู้ภัยเกาะช้าง เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 2 พ.ย. ว่า ได้มีโลมามาเกยตื้นนอนตายอยู่ที่บริเวณซอกผาด้านหลังท็อปรีสอร์ท บ้านทรายชาวเกาะช้าง จังหวัดตราด จึงเดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง ซึ่งต้องเดินลงไปในซอกผาด้านล่าง พบปลาโลมาขนาดความยาวประมาณ 1 เมตรเศษ เกยอยู่บนหาดหิน มีบาดแผลที่ปากและหัว และท้องแตกไส้ไหลออกมา ส่งกลิ่นเหม็นคาวและเริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่า คาดว่าน่าจะตายมาแล้ว 1 วัน ไม่สามารถระบุชนิดพันธ์และเพศของโลมาได้เพราะไม่มีเจ้าหน้าจากหน่วยงานรับ ผิดชอบร่วมตรวจสอบ เมื่อบันทึกภาพแล้วจึงได้ห่อผ้านำไปส่งยังสำนักงานของกรมประมงที่บ้านธาร มะยมเพื่อฝังเก็บไว้รอการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่มีซากโลมาลอยมาเกยหาดที่เกาะช้างครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี โดยเข้าใจว่าการตายของโลมาน่าจะมีมากกว่านี้แต่ไม่มีผู้พบเห็นหรือแจ้งหน่วยงาน อย่างไรก็ตตาม การตายเกยตื้นของโลมานั้น สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุซึ่งอาจจะเกิดได้จาก ถูกฟันจากใบพัดเรือหรือสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและอาจมีสาเหตุมาจากการกิน อาหารเป็นพิษรวมทั้งกรณีนำทะเลเน่าเสีย
******************************************************************************************************************************
เกิดแผ่นดินไหว 5.1 ริกเตอร์ ที่เกาะกวม
ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง 5.1 ริกเตอร์ ที่เกาะกวมในวันนี้ (2 พ.ย.)
รายงาน เบื้องต้นระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.34 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และอยู่ลึกใต้พื้นดิน 38 กิโลเมตร โดยมีศูนย์กลางห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงอากานาราว 25.75 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไซปัน 203 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจ กล่าวว่า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้เล็กน้อย แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บที่กวม
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
ออฟไลน์
กระทู้: 190
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551
«
ตอบ #2 เมื่อ:
พฤศจิกายน 03, 2008, 02:24:39 AM »
ไทยรัฐ
นํ้าท่วมหนัก แพร่เจออ่วม โคราชล้นเขื่อนท่วมถนน
จากเหตุพายุฝนถล่มหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่หลายจังหวัดในภาคกลาง อีสาน และภาคเหนือ ล่าสุด ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เย็น วันที่ 1 พ.ย. จนถึงเช้าวันที่ 2 พ.ย. ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ได้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรใน อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร โดยที่ ต.วังควง ได้รับความเสียหายมากที่สุด ไร่นาเสียหายราว 3,000 ไร่ โดยเฉพาะหมู่ 4 บ้านวังตาปลั่ง และหมู่ 12 บ้านลานทองน้อย น้ำท่วมถนนรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน รวม 80 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ส่วนที่ ต.ท่าไม้ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 2,500 ไร่ ที่ ต.ถ้ำกระต่ายทอง น้ำป่าทะลักท่วมไร่นาชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1, 2, 4, 9, และ 10 ทำให้คราบดินโคลนเกาะติดรวงข้าวเสียหาย 1,000 ไร่ และในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย น้ำท่วมพื้นที่หลายชุมชนจนต้องขนข้าวของหนีน้ำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายวุฒิชัย โชคถนอมทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพรานกระต่าย สั่งพนักงานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถแบ็กโฮขุดร่องระบายน้ำตลอดทั้งคืน และนำสัญญาณไฟติดตั้งบนถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร ซึ่งมีน้ำท่วมยาว 500 เมตร เพื่อเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทาง
ขณะที่ จ.แพร่ น้ำป่าที่ไหลมาตามห้วยรากปืน ห้วยแม่พวก ห้วยช่วงบุก ไหลมาบรรจบกันที่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย ทำให้น้ำล้นทะลักท่วมพื้นที่หมู่ 2, 3 และ 4 อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านห้วยไร่น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร สนามกีฬา อาคารเรียน โรงอาหาร ได้รับความเสียหาย ซึ่งทหารจากกองพันทหารม้าที่ 12 อ.เด่นชัย จำนวน 50 นาย ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและสูบน้ำที่ท่วมขังโรงเรียนบ้านห้วยไร่ออกหมดแล้ว
นอกจากนี้ น้ำป่ายังกัดเซาะทางรถไฟ หลัก กม.ที่ 519/13/16 หมู่ 2 ต.ห้วยไร่ ทรุดเสียหาย ทำให้รถด่วนสายเชียงใหม่-กรุงเทพฯ และขบวนรถสินค้าที่ 4110 จากเชียงใหม่ติดอยู่ที่สถานีเด่นชัย ส่วนรถด่วนขบวนที่ 51 จากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ ติดอยู่ที่สถานีย่อยบ้านเด่น จ.อุตรดิตถ์ ต้องวิ่งย้อนกลับไปที่สถานีศิลาอาสน์ เพื่อขนถ่ายผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมทางรถไฟที่เสียหาย 2 จุด จนสามารถเปิดเส้นทางให้รถขบวนสินค้าออกเดินทางต่อแล้ว คาดว่าจะสามารถซ่อมแซมจนเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติภายในเวลา 18.00 น. ขณะที่ว่าที่ ร.ต.พงษ์ศักดิ์ พลายเวช ผวจ.แพร่ ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้ ลำห้วยแม่น้ำสาขาต่างๆ ให้ระวังน้ำป่า เนื่องจากฝนตกหลายวัน อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้
ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ที่น้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่ทั้งอำเภออย่างรวดเร็วและรุนแรงนั้น ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ฝนตกลงมาไม่หนัก ทำให้ระดับน้ำไหลลงแม่น้ำเมย จนเข้าสู่สภาวะปกติในเย็นวันเดียวกันชาวบ้านทั้งในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด และพื้นที่รอบนอก ต่างวุ่นวายกับการเก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดบ้านเรือน นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ตาก พร้อมด้วยนายเชิดศักดิ์ ชูศรี รอง ผวจ.ตาก ได้นำถุงยังชีพไปแจกชาวบ้านที่ชุมชนสองแควหนึ่ง และชุมชนสองแควสอง ในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด ก่อนจะเดินทางไปแจกถุงยังชีพที่ ต.แม่ตาว และ ต.แม่กุ ให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน
จากนั้นนายเชิดศักดิ์ ชูศรี รอง ผวจ.ตาก เปิดเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองแม่สอดทั้งหมด 18 ชุมชน และย่านธุรกิจการค้า พื้นที่รอบนอก ต.พระธาตุผาแดง ต.แม่กุ ต.มหาวัน ต.แม่กาษา ต.แม่ปะ ต.แม่ตาว อ.แม่สอด ได้รับความเสียหาย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพียง 4 ชั่วโมง มากถึง 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำไหลล้นออกจากทางระบายน้ำฉุกเฉินอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ต.พระธาตุผาแดง วินาทีละ 50 คิว ประกอบกับทางอ่างเก็บน้ำต้องรีบระบายน้ำออก ทำให้ น้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองแม่สอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชลประทานประจำอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด ก็ไม่คาดคิดว่าปริมาณน้ำฝนจะมากมายขนาดนี้ ทำให้การแจ้งเตือนชาวบ้านล่าช้า
ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา น้ำป่าได้ทะลักท่วมถนนสายสีคิ้ว-ชัยภูมิ กม.38 หน้าปั๊ม ปตท. เขตเทศบาลตำบลด่านขุนทด สูง 1.20 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแนะให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น โดยขาเข้ากรุงเทพฯให้เลี่ยงไปทาง อ.ขามทะเลสอ ส่วนขาเข้า จ.ชัยภูมิให้อ้อมไปทางตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งระดับน้ำบนถนนสายดังกล่าวได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นายวัลลภ เทพภักดี ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 ได้นำเรือท้องแบน 4 ลำ พร้อมรถยนต์ไฮดรอลิกส์ บรรทุกคน และรถจักรยานยนต์ ข้ามฟาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกัน 2-3 วัน ในด้านทิศตะวันตกของ อ.ด่านขุนทด ทำให้น้ำล้นเขื่อนลำเชียงไกรตอนบนไหลลงมาด้านล่าง ซึ่งเป็นการท่วมครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ และถือว่าหนักกว่าครั้งก่อนๆมาก
ต่อมานายชาญวิทย์ วศยางกูร รอง ผวจ.นครราชสีมา เดินทางไปตรวจสภาพน้ำท่วม เปิดเผยว่า สาเหตุที่น้ำท่วมตรงบริเวณนี้บ่อยครั้ง เนื่องจากถนนไปขวางทางน้ำ ขณะนี้ได้พยายามหาทางระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด ส่วนที่มีข่าวว่าเขื่อนลำเชียงไกรทรุดนั้น คงไม่ถึงกับทรุด แต่สาเหตุเกิดจากเดิมทีเขื่อนแห่งนี้จุน้ำได้ 4.5 ล้านลูกบาศก์ เมตร ทางกรมชลประทานเห็นว่าน้ำมีจำนวนมากกว่านั้น จึงได้สร้างคันดินบริเวณปากกระโถนเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร เพื่อให้กักเก็บน้ำได้ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำมากถึง 20 ล้านลูกบาศก์เมตร จนคันดินพังทำให้น้ำทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว ส่วนความเสียหายของนาข้าวของราษฎร ได้ให้ทางอำเภอด่านขุนทดเร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เกิดน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่ตำบลหนองโพรง 5 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 25 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 615 ไร่ ถนน 5 สาย ตำบลศรีมหาโพธิ 1 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 30 ไร่ ตำบลท่าตูม 1 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 18 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 30 ไร่ และตำบลกรอกสมบูรณ์ 1 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน ฟาร์มไก่ 1 แห่ง ถนน 2 สาย ซึ่งระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว คาดว่าไม่เกิน 3 วัน จะเข้าสูภาวะปกติ ซึ่งตอนสายวันเดียวกันนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาการเกิดอุทกภัย จากนั้นได้นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยจำนวน 94 ชุด ที่หมู่ 10 บ้านคลองรั้ง ตำบลกรอกสมบูรณ์
ที่ จ.อุทัยธานี ตอนสายวันเดียวกัน นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ในฐานะประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทานมอบช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้น แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในเขต อ.สว่างอารมณ์ จำนวน 1,000 ชุด จากนั้นเดินทางไปมอบแก่ราษฎร อ.หนองฉาง และ อ.หนองขาหย่าง อำเภอละ 500 ชุด รวม 2,000 ชุด ทั้งนี้ เป็นน้ำพระทัยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยราษฎรในจังหวัดอุทัยธานี ที่ประสบอุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหายในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดอุทัยธานี ล่าสุด ยังพบพื้นที่ถูกน้ำท่วมใน 4 อำเภอ คือ อ.สว่างอารมณ์ หนองฉาง หนองขาหย่าง และ อ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งส่วนใหญ่มีระดับลดลงบ้างแล้ว จากการสำรวจพบพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้ง 87 อำเภอของจังหวัด พบพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 54,000 ไร่ ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 15,000 ครัวเรือน
ตอนสายวันเดียวกัน ศ.นพ.ดำรง เหรียญประยูร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก เป็นผู้แทนพระองค์มอบถุงยังชีพพระราชทานของมูลนิธิฯ ให้ผู้ประสบภัยในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง โดยนายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ.ระยอง กล่าวรายงานสรุปเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดวาตภัยในพื้นที่ชุมชนตะกวน อ่าวประดู่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 209 หลัง ราษฎรเดือดร้อน 529 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ต่อมาเกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ชุมชนบ้านบน ชุมชนวัดมาบตาพุด ชุมชนมาบยา ชุมชนอิสลาม และชุมชนบ้านล่าง ต.มาบตาพุด ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีก 216 ครอบครัว พระสงฆ์ 31 รูป ซึ่งทางจังหวัดจะให้การช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
pic_8.jpg
(23.34 KB, 250x260 - ดู 309 ครั้ง.)
pic_9.jpg
(21.37 KB, 250x260 - ดู 294 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...