กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 29, 2025, 12:32:34 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2551  (อ่าน 3176 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2008, 01:15:45 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย ส่วนภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และตรัง ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะ 1-2 วันนี้ และชาวเรือควรระมัดระวังในการเดินเรือ สำหรับเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2551

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “ไม้สัก” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเล


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ส่วนร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร สำหรับพายุดีเปรสชัน “ไม้สัก” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และจะสลายตัวในทะเล

ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนกำลังปานกลางจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศ ไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตอนล่างทำให้ ภาคใต้มีฝนตกชุกต่อไปอีก


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้บริเวณภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ยังคงต้องเฝ้าระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยและในทะเลอันดามันขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือโดย เฉพาะเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง



* Forecast2.jpg (41.78 KB, 693x430 - ดู 422 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2008, 01:20:30 AM »

เดลินิวส์


ภูเก็ตจมฝูงบินทำปะการังเทียม โลกแห่งใหม่ใต้ทะเลอ่าวบางเทา

นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าฯ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต ได้ร่วมกับ อบต.เชิงทะเล สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.ภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ ทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.ภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ตสมาคมดำน้ำ TDA (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพื่อทะเล ได้จัดการสร้างปะการังเทียม เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำ จ.ภูเก็ต (ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล) โดยนำซากเครื่องบินซึ่งปลดประจำการจำนวน 10 ลำ จมทะเลบริเวณอ่าวบางเทา เพื่อเป็นแหล่งดำน้ำใหม่ ลดการใช้และฟื้นฟูแหล่งปะการังธรรมชาติ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอีกทางหนึ่ง ซึ่งเดิมกำหนดที่จะนำซากเครื่องบินลงจมทะเลเมื่อประมาณต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ในครั้งนั้นไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเกิดมรสุม จึงได้มีการกำหนดวันจมซากเครื่องบินใหม่ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2551 แทน


**********************************************************************************************************************************


พิทักษ์สัตว์น้ำทางทะเลและชายฝั่ง ดึงประมงพื้นบ้านร่วมป้องประโยขน์ส่วนรวม

จ.สตูลเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรประมงอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงร้อยละ 80 ดังนั้นเพื่อให้ชาวบ้านได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำไว้ใช้อย่างยั่งยืน สร้างรายได้ตลอดไป ทางจังหวัดจึงได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดยุทธศาสตร์พิทักษ์สัตว์น้ำทางทะเลและชายฝั่ง จัดระเบียบการทำประมง ที่ถูกต้อง โดยลักษณะการดำเนินงาน เน้นการบูรณาการระหว่างจังหวัดกับกรมทรัพย์ฯ และขอความร่วมมือจากประชาชน ที่เรียกว่า เครือข่ายของชุมชนชายฝั่ง ซึ่งได้ฝึกอบรมและจัดตั้งเป็นอาสาสมัคร รสทช. หรือราษฎรอาสาพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทั้งกลางวันกลางคืน โดยทางจังหวัดให้การสนตับสนุนเรือตรวจการณ์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อดูแลการลักลอบทำประมงที่ผิดกฏหมาย


*********************************************************************************************************************************


กรมทรัพยากรทางทะเลฯค้านเอกชนเช่า อาดัง ผุดรีสอร์ทหวั่นธรรมชาติ   

จากกรณีที่กรมธนารักษ์ได้เปิดโอกาสให้บริษัทภาคเอกชน เข้าสัมปทานเช่าที่ดินบนเกาะอาดัง จ.สตูล รวมเนื้อที่ 5 ไร่ เพื่อก่อสร้ารีสอร์ท ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติในทะเล ทำให้ผู้ว่าฯ จ.สตูล ต้องเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้าน อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้สัมปทานนี้ เนื่องจากจะกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สวยงาม เพราะพื้นที่เกาะอาดังมีประการังน้ำตื้นเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่รอบเกาะ

บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2008, 01:25:37 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


อินโดนีเซียวางระบบเตือนภัยสึนามิสุดทันสมัย

 นายสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เป็นประธานในพิธีเปิดตัวระบบเตือนภัยล่วงหน้าคลื่นสึนาม ที่จัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา
       
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การวิจัยแห่งเยอรมนีเพื่อภูมิศาสตร์วิทยา หรือ จีเอฟซี ที่ได้ค้นคว้าและออกแบบระบบเตือนภัยให้เหมาะสมกับสภาพชายฝั่งของหมู่เกาะ ราว 17,000 เกาะทั่วอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดในโลก เบื้องต้นจีเอฟซีจะดูแลระบบนี้จนถึงปี 2553 จากนั้นระบบจะอยู่ในความดูแลของรัฐบาลอินโดนีเซีย
       
รายงานของนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า แผ่นดินไหวในอินโดนีเซียมักเกิดขึ้นนอกชายฝั่งในบริเวณที่เรียกว่า แนวโค้งซุลดร้า ดังนั้นเมื่อเกิดคลื่นสึนามิคลื่นจะซัดเข้าฝั่งภายใน 20 นาที ทำให้มีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก แต่ด้วยระบบใหม่ที่มีเซนต์เซอร์เชื่อมต่อกับสถานีตรวจจับคลื่น 120 แห่ง จะทำให้การตรวจจับทำได้เร็วและเชื่อถือได้มากกว่าระบบเดิม ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิได้

บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2008, 01:34:30 AM »

คม ชัด ลึก


ทุ่ม 500 ล.ผุดกระเช้าข้ามทะเลสาบ เชื่อมทน.สงขลา-เขาแดงอ.สิงหนคร

สงขลา-อบจ.สงขลาลุยแผนบูมท่องเที่ยวสู่สากล เร่งรัดโครงการกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสงขลาเชื่อมเขาตังกวน-เขาแดงงบ 500 ล้านบาท หวังอวดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่

นาย นวพล บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวจังหวัดทั้งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่และพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม เพื่อสร้างจุดขายใหม่ๆ ล่าสุดได้สนับสนุนงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนสร้างอควาเรียมของวิทยาลัยประมงจังหวัดสงขลา ที่ใช้งบกว่าพันล้านบาทเพื่อสร้างให้ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ พร้อมทั้งอนุมัติงบอีก 250 ล้านบาท สร้างศูนย์จำหน่ายสินค้า และพัฒนาเป็นศูนย์กลางค้าเพื่อสนับสนุนอีกทางหนึ่งในการสร้างจุดขายด้านการ ท่องเที่ยว

 โดยเฉพาะการเร่งรัดโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าข้าม ทะเลสาบสงขลาระหว่างเขาตังกวน เขตเทศบาลนครสงขลา ไปยังเขาแดง ต.เขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยจะสร้างข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นโครงการหลักของ อบจ.สงขลา ที่สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสงขลาในด้านการท่องเที่ยว ที่มีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สู่ความเป็นสากลมากขึ้น

 "การ สร้างกระเช้าลอยฟ้าจะเป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้สัมผัสทัศนียภาพและบรรยากาศที่งดงามเป็นธรรมชาติของทะเลสาบสงขลา รวมถึงต่อยอดการสานต่อโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเทศบาลนครสงขลาที่ได้ พัฒนาเขาตังกวน และก่อสร้างลิฟต์ไฟฟ้าขึ้นเขาตังกวนไว้รองรับการท่องเที่ยว" นายนวพลกล่าว

 นายก อบจ.สงขลากล่าวอีกว่า สำหรับเงื่อนไขการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้า ใช้วิธีการให้เอกชนสัมปทานพื้นที่ระยะเวลา 30 ปี งบประมาณ 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ 15 ปีแรกให้เอกชนผู้สัมปทานดำเนินการ และ 15 ปีหลังให้ อบจ.มีส่วนร่วมการบริหารจนครบกำหนดแล้ว โครงการทั้งหมด อบจ.จะดูแล 100% โดยความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวอยู่ระหว่างการเจรจากับเอกชนเพื่อศึกษา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

 ขณะเดียวกัน ในช่วงที่รอ อบจ.ได้พยายามเข้าไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกัน เพื่อนำร่องการพัฒนารองรับความเจริญในอนาคต โดยเฉพาะที่บนเขาแดงได้อนุมัติงบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อให้กรมศิลปากรเข้าไปบูรณะแหล่งโบราณสถานสำคัญๆ ก่อนการเปิดตัวเป็นทางการ

บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2008, 01:39:02 AM »

แนวหน้า


ผู้ว่าฯสตูลลบุกหลีเป๊ะ ลุยแก้สารพัดปัญหาเกาะ รองรับนักท่องเที่ยวปี ’52

สตูล:นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยภายหลังนำคณะทำงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาเกาะหลีเป๊ะเพื่อรองรับนักท่อง เที่ยวประจำปี 2552 ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เพื่อรับฟังปัญหาของชาวเกาะหลีเป๊ะและผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ ว่าจากการรับฟังปัญหาความเดือดร้อนบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะนั้น ได้ตั้งไว้ 2 แนวทางควบคู่กันไป คือ แนวทางในการส่งเสริมและแนวทางในการพัฒนา โดยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นก็จะเน้นการประชาสัมพันธ์โดยอาศัยพื้นที่ ที่เป็นจุดขายอยู่แล้วในจังหวัดสตูล ส่วนแนวทางในการพัฒนานั้นต้องดูว่าการท่องเที่ยวในขณะนี้มีปัญหาอะไรบ้างที่ มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวก็จะนำปัญหาเหล่านั้นมาแก้ไขตามความเร่งด่วนโดยจะ ทำคู่กันไประหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิง คุณภาพ

สำหรับปัญหาหลักบนเกาะหลีเป๊ะนั้น เป็นปัญหาเรื่องของน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและ ต้องหาแหล่งน้ำจากพื้นที่อื่นขนส่งเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ต้องเข้ามาดูและทำให้เพียงพอ เรื่องที่สอง คือ เรื่องของระบบไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ไฟของผู้ประกอบการเองและของชาวบ้านเองซึ่งยังไม่สะดวก มากนักเมื่อถึงเวลาก็ต้องปิดไฟ เรื่องต่อมาคือปัญหาขยะ เนื่องจากยังไม่มีระบบคัดแยกและกำจัดขยะที่ได้มาตรฐานบนเกาะ เพราะฉะนั้นก็จะนำมาซึ่งขยะต่างๆที่มีปริมาณมากขึ้น และส่งผลกระทบในเรื่องของการเกิดมลภาวะ น้ำเสีย ของเสียรวมถึงปัญหาสุขภาพ ทั้งนี้คิดว่าเป็นปัญหาหลักๆ ที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุด

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.021 วินาที กับ 19 คำสั่ง