กระดานข่าว Save Our Sea.net
มิถุนายน 15, 2024, 08:00:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2551  (อ่าน 2354 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2008, 12:44:24 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

    บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มมีอากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย ส่วนภาคใต้มีฝนตกลดลงกว่าในช่วงที่ผ่านมา และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา กระบี่ และตรัง  ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกสะสมอยู่ตามแนวเทือกเขา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งต่อไปได้อีก 1-2 วัน ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือระยะนี้ (12-14 พ.ย) ไว้ด้วย

    อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “ไม้สัก” ในทะเลจีนใต้ตอนกลางได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย  อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 31 องศา  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 12-16 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัด ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีจะมีฝนลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง

ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 12-14 และในวันที่ 18 พ.ย. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้จังหวัดชุมพรลงไประมัดระวังอันตราย จากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 พ.ย. ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก



* Forecast2.jpg (40.55 KB, 693x430 - ดู 256 ครั้ง.)

* Earthquake2.jpg (21.62 KB, 450x309 - ดู 240 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2008, 12:53:15 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


กรมขนส่งทางน้ำฯ เร่งสร้างเขื่อนกันทราย-คลื่นอ่างศิลาให้เรือประมงเทียบท่า
 
   

  ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีเร่งก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นบริเวณอ่าวอ่างศิลา มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ให้เรือประมงเทียบท่า พร้อมจัดทำประชาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากส่วนราชการในท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่
       
       วันนี้ (11 พ.ย.) ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์เทศบาลตำบลอ่างศิลา โดยนายธานี สามารถกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี และชาวบ้านบริเวณอ่างศิลา ได้มาร่วมรับฟังโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
       
       นายธานี กล่าวว่า ตำบลอ่างศิลาเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเลในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพประมงและเพาะเลี้ยงน้ำ โดยเรือประมงส่วนใหญ่จะเข้าจอดเทียบเรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่างศิลามากกว่า 100 ลำ และเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นทะเลเปิดไม่มีเกาะกำบังคลื่นลมในช่วงฤดู มรสุม จึงเกิดลมแรง และคลื่นจัด ทำให้เรือที่เทียบท่าอยู่ถูกคลื่นลมซัดกระแทกเข้ากับท่าเทียบเรือจนเกิดความ เสียหายไปหลายลำแล้ว
       
       โครงการดังกล่าวได้มีแผนงานมาตั้งแต่ในปี 2545 และได้รับอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างในช่วงนี้ โดยกรมฯได้ว่าจ้างบริษัท บริษัท ยู.ซี.ดี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาดำเนินการก่อสร้าง โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2551 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 มกราคม 2553 มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 113,800,000 บาท ประกอบด้วยเขื่อนกันคลื่น 3 ตัววาง สลับกัน ซึ่งเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะช่วยให้สามารถป้องกันคลื่นได้ ส่งผลให้พื้นที่ด้านหลังเขื่อนจะมีคลื่นสงบ ทำให้มีเสถียรภาพและความปลอดภัยของการจอดเรือ และเป็นพื้นที่จอดเรือหลบคลื่นลมในฤดูมรสุมได้เป็นอย่างดี
       
       นายธานี กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้ทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาของ พี่น้องชาวประมงในพื้นที่ตำบลอ่างศิลา โดยได้จัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเร่งด่วน โดยเฉพาะพี่น้องที่ประกอบอาชีพด้านประมง ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนชาวอ่างศิลาและจังหวัดชลบุรี
       
       ด้าน นายวิเชียร ประดิษฐ์ ชาวประมงอ่างศิลา กล่าวถึงโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นอ่างศิลานั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อ ชาวประมง เพราะที่ผ่านมาเมื่อถึงหน้าลมตะวันออก ซึ่งตรงในช่วงเดือนนี้คลื่นลมจะแรงมาก โดยเรือไม่สามารถจอดทอดสมอบริเวณดังกล่าวได้ สร้างความเดือดร้อนต่อชาวประมงเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีโครงการนี้ ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป และในอนาคตบริเวณหลังเขื่อนกันคลื่นก็จะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำเพิ่มมาก ขึ้นอย่างแน่นอน
       
       การดำเนินโครงการนี้ ขอให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว และให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ชาวบ้านก็คงไม่คัดค้านอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม หลังโครงการนี้เสร็จเรียบร้อยก็ต้องป้องกันไม่ให้ใครไปครอบครองหรือใช้ พื้นที่บริเวณนั้นอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2008, 01:01:30 AM »

ข่าวสด


"ซีฟู้ด"ตรังยังแพง แม้น้ำมันประมงถูก

ตรัง - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการออกสำรวจบรรยากาศการจำหน่ายอาหารทะเลสด ที่ตลาดสดเทศบาลนครตรัง หลังจากที่ราคาน้ำมันซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักหรือประมาณ 80% ในการทำประมงพาณิชย์ ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับพบว่าอาหารทะเลยังคงขาดแคลนในระยะนี้ เท่าที่มีจำหน่าย คือปลาที่เลี้ยงในกระชังเป็นส่วนใหญ่ จากการสอบถามผู้ขาย กล่าวว่า แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลง แต่เรือประมงยังคงหยุดเดินเรือ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาน้ำมันเพิ่มสูงมาก ทำให้เรือประมงขนาดใหญ่หยุดเดินเรือ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูมรสุม เรือประมงออกหาปลาไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่อาหารทะเลสดขาดตลาด ทำให้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 10 บาท และมีแนวโน้มว่าจะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก เช่น ปลากะพงขาว จากเดิมก.ก.ละ 140 บาท ขึ้นเป็นก.ก.ละ 150 บาท ปลากะพงแดง จากเดิมก.ก.ละ 180 บาท ขึ้นเป็นก.ก.ละ 190 บาท และกุ้งสด ขึ้นเป็นก.ก.ละ 250 บาท ส่วนปลาที่กำลังขาดตลาดอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ ปลาจาละเม็ด ปลาอินทรี และปลากระบอก ซึ่งเป็นปลาที่ต้องจับจากทะเลเท่านั้น


*****************************************************************************************************************************


เรืออวนปูถูกชนจม

เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 11 พ.ย. พล.ร.ท. ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 รับรายงานจากน.อ.เจริญพล คุ้มราษี ผอ.กองยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 ว่ารับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนางลำภา บางแก้ว อายุ 52 ปี เจ้าของเรือโชคสุภาภรณ์ ซึ่งเป็นเรือประมงอวนปู ขนาดความยาว 5 วา 2 ศอก ถูกเรือสินค้าไม่ทราบชื่อและไม่ทราบประเภท พุ่งชนทำให้เรือแตกอับปางจมลงใต้ทะเล ห่างจากเกาะหินฉลามเป้ายิงปืนเรือทหาร ประมาณ 4 ไมล์ทะเล ส่วนลูกเรือและไต๋เรือจำนวน 3 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม

หลังได้รับแจ้ง จึงให้พล.ร.ต.ประทีป สุพินิจ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 ออกให้ความช่วยเหลือ นางลำภา บางแก้ว อายุ 52 ปี เจ้าของเรือโชคสุภาภรณ์ ซึ่งเป็นเรือประมงอวนปู ขนาดความยาว 5 วา 2 ศอก กล่าวว่าขณะที่ลูกน้องของตนกำลังจอดอวนปูอยู่ที่บริเวณทิศเหนือของเกาะสันฉลาม ต.ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ มีเรือบรรทุกสินค้าไม่ทราบชื่อพุ่งเข้าชนอย่างแรง จนเรืออวนปูลำดังกล่าวจมลงที่บริเวณทิศเหนือของเกาะสันฉลาม ซึ่งเป็นเกาะที่กองทัพเรือใช้สำหรับยิงอาวุธในทะเล จนเรืออวนปูลำดังกล่าวจมลงพร้อมลูกเรือ จำนวน 4 คน สูญหายไปในทะเลยังไม่ทราบชะตากรรม โดยมีเรือประมงอวนปูนับ 10 ลำ ที่ทราบข่าวต่างได้ออกระดมค้นหาจนพบลูกเรือที่หายไปแล้ว จำนวน 2 คน ส่วนไต๋เรือและลูกเรือประมงรวม 2 คนที่หายไปยังไม่ทราบชะตากรรมแต่อย่างใด


******************************************************************************************************************************


อควาเรียมหามือมืด พบ"หมึกอ็อตโต้"ตัวการดับไฟ


โฉมหน้าอ็อตโต้

"อ็อตโต้" เป็นหมึกขนาด 2 ฟุต 7 นิ้ว อาศัยอยู่ใน "ซี สตาร์ อควาเรียม" เมืองโคเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

จู่ๆ เจ้าหน้าที่ของอควาเรียมเกิดสงสัยว่า ทำไมเวลากลางคืนถึงเกิดไฟดับบ่อยครั้ง ซึ่งการที่ไฟฟ้าดับนี้อาจทำให้สัตว์ในอควาเรียมจำนวนมากตาย

เจ้าหน้าที่จึงนอนค้างที่อควาเรียมเพื่อหาสาเหตุ จนกระทั่งคืนที่ 3 จึงพบตัวการคือ "อ็อตโต้"  ที่ปีนขึ้นมายังขอบแท็งก์ แล้วพ่นน้ำไปยังสปอตไลต์ดวงที่ใกล้ที่สุด จนเกิดไฟฟ้าขัดข้อง

นาย เอลฟรีด คัมเมอร์ ผู้อำนวยการอควาเรียม กล่าวว่า "อ็อตโต้น่าจะรำคาญแสงไฟ นอกจากนี้ ในช่วงหน้าหนาว อควาเรียมปิด ทำให้มันเบื่อหน่าย มันจึงพ่นน้ำเข้าใส่สปอตไลต์ขนาด 2,000 วัตต์เล่น"

เมื่อพบสาเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ของอควาเรียมจึงติดตั้งสปอตไลต์ให้สูงขึ้นไปกว่าเดิม อ็อตโต้จะได้ฉีดน้ำขึ้นไปไม่ถึง แต่อ็อตโต้ก็ยังอยากได้รับความสนใจอยู่ดี เจ้าหน้าที่จึงให้ของเล่นกับมันมากขึ้น และจับตาหมึกแสนซนตัวนี้อย่างใกล้ชิด

บันทึกการเข้า
@สายน้ำ@
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2008, 01:19:40 AM »

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


ททท.ชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ต

    ททท. เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ตประจำปี โชว์ไฮไลน์จัดแสดงเรือยอร์ชจากประเทศชั้นนำลอยกลางผืนน้ำ คาดมีเงินสะพัดในงานกว่า1,000 ล้านบาท

    นายศุกรีย์ สิทธิวนิช ผู้อำนวยการกองกลยุทธ์การโฆษณา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ต ครั้งที่ 6 ณ ศูนย์จัดนิทรรศการและหอประชุมรอยัล ภูเก็ต มารีน่า ว่า การจัดงานนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลแบบยั่งยืนภายในประเทศ พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ โดยไฮไลท์ของงานในปีนี้จะนำเรือยอร์ชจากประเทศผู้นำจาก 12 ประเทศในแทบยุโรป เอเชีย มาจัดลอยกลางผืนน้ำกว่า 40 ลำ รวมถึงมีจัดแสดงเรือขนาดเล็กบนบก การจัดแสดงดนตรี นอกจากนี้ ยังเตรียมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรจัดจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางทะเลเป็นครั้งแรก รวมถึงอุปกรณ์ทางเรือ ธุรกิจต่อเรือยอร์ช อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นำทาง และยังมีนายหน้าและตัวแทนจำหน่ายรายสำคัญในภาคอุตสาหกรรมพาณิชย์นาวีและการ ล่องเรือมานำเสนอสินค้าของตนเอง ทั้งนี้ ยังมีบอร์ดวอล์คเหมือนกับภาพวาดเป็นทางยาวเลียบกับภัตตาคารริมทะเล และการแข่งขันมหกรรมกีฬาทางน้ำระดับชาติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 5,000 คน และมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท

    ผู้อำนวยการกองกลยุทธ์การโฆษณา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังเชิญชวนให้ประชาชนมาสัมผัสกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลกับงานแสดง เรือนานาชาติภูเก็ตครั้งที่ 6 ที่ ศูนย์จัดนิทรรศการและหอประชุมรอยัล ภูเก็ต มารีน่า จังหวัดภูเก็ตตลอด 4 วันนี้ ตั้งแต่วันที่ 4-7 ธันวาคมนี้

บันทึกการเข้า
chickykai
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2008, 04:33:03 AM »

ข่าวสด

อควาเรียมหามือมืด พบ"หมึกอ็อตโต้"ตัวการดับไฟ


โฉมหน้าอ็อตโต้

"อ็อตโต้" เป็นหมึกขนาด 2 ฟุต 7 นิ้ว อาศัยอยู่ใน "ซี สตาร์ อควาเรียม" เมืองโคเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

จู่ๆ เจ้าหน้าที่ของอควาเรียมเกิดสงสัยว่า ทำไมเวลากลางคืนถึงเกิดไฟดับบ่อยครั้ง ซึ่งการที่ไฟฟ้าดับนี้อาจทำให้สัตว์ในอควาเรียมจำนวนมากตาย

เจ้าหน้าที่จึงนอนค้างที่อควาเรียมเพื่อหาสาเหตุ จนกระทั่งคืนที่ 3 จึงพบตัวการคือ "อ็อตโต้"  ที่ปีนขึ้นมายังขอบแท็งก์ แล้วพ่นน้ำไปยังสปอตไลต์ดวงที่ใกล้ที่สุด จนเกิดไฟฟ้าขัดข้อง

นาย เอลฟรีด คัมเมอร์ ผู้อำนวยการอควาเรียม กล่าวว่า "อ็อตโต้น่าจะรำคาญแสงไฟ นอกจากนี้ ในช่วงหน้าหนาว อควาเรียมปิด ทำให้มันเบื่อหน่าย มันจึงพ่นน้ำเข้าใส่สปอตไลต์ขนาด 2,000 วัตต์เล่น"

เมื่อพบสาเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ของอควาเรียมจึงติดตั้งสปอตไลต์ให้สูงขึ้นไปกว่าเดิม อ็อตโต้จะได้ฉีดน้ำขึ้นไปไม่ถึง แต่อ็อตโต้ก็ยังอยากได้รับความสนใจอยู่ดี เจ้าหน้าที่จึงให้ของเล่นกับมันมากขึ้น และจับตาหมึกแสนซนตัวนี้อย่างใกล้ชิด



  น่าร๊ากกกกก เรียกความสนใจได้เจ๋งมาก
บันทึกการเข้า

***********************************************************************
ไม่สวย แต่เลือกมาก
ทางเลือกเป็นของทุกคน แต่เลือกแล้วต้องยอมรับผลทั้งหมดที่ตามมา
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 19 คำสั่ง