กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 28, 2025, 06:27:59 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2551  (อ่าน 3260 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 12:35:49 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2551 จึงขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา โดยมีอากาศเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีกประมาณ 1 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง เว้นแต่ในช่วงวันที่ 22-23 พ.ย.จะมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 20-21 และ 25-26 พ.ย. นี้ ประกอบกับในวันที่ 25-26 พ.ย. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงเคลื่อนตัวจากอ่าวไทยตอนล่างผ่านภาคใต้ตอนล่างและมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่ ส่วนอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตรในช่วงวันดังกล่าว


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ขอให้ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรักษาสุขภาพ และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ควรระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 20-21 และ 25-26 พ.ย. นี้ไว้ด้วย



* Forecast.jpg (22.58 KB, 232x382 - ดู 260 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 12:43:30 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


รัสเซียส่งเรือรบเพิ่มเติมในแหลมแอฟริกาเพื่อปราบปรามโจรสลัดโซมาเลีย

รัสเซียจะส่งเรือรบเข้าไปในแหลมแอฟริกา ความพยายามปราบปรามโจรสลัดซึ่งมีฐานอยู่ในโซมาเลีย ที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาออกอาละวาดอย่างหนัก ผู้บัญชาการกองทัพเรือเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี(20)
       
เรือรบนูสตราชิมีของรัสเซียได้ประจำการอยู่ในน่านน้ำดังกล่าวอยู่ ก่อนแล้วและเคยช่วยเหลือขับไล่โจรสลัดจากความพยายามโจมตีเรืออย่างน้อย 2 ลำ พลเรือเอก วลาดิมีน์ วีซอตสกี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่าทางราชนาวีรัสเซียจะส่งเรือรบเข้าไปร่วมปฏิบัติภารกิจเพิ่มเติม เร็วๆนี้
       
"หลังจากนูสตราชิมี รัสเซียจะส่งเรือรบจากกองเรือรบอื่นๆไปยังภูมิภาคนี้" วีซอตสกี ระบุแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
       
กองเรือรบนานาชาติที่นำโดยนาโต ได้มีความพยายามปรามปราบโจรสลัดอย่างเต็มที่ โดยเมื่อวันอังคาร(18) เรือไอเอ็นเอส ทาบาร์ เรือรบของอินเดียได้ปะทะกับเรือโจรสลัดลำหนึ่งในอ่าวเอเดน จนทำให้เรือลำหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นเรือบัญชาการของโจรสลัดเกิดระเบิดและจมลง
       
มีเรือมากกว่า 90 ลำถูกโจรสลัดโจมตีในแหลมแอฟริกาในปีนี้ ทั้งนี้โจรสลัดซึ่งส่วนใหญ่ลงมือปล้นบริเวณน่านน้ำนอกกฎหมายโซมาเลีย ยังคงควบคุมเรือไว้ 17 ลำ -- ในจำนวนนั้นรวมไปถึงเรือบรรทุกน้ำมันยักษ์ ซิริอุส สตาร์ ของซาอุดีอาระเบีย ที่ถือว่าเป็นเรือลำใหญ่ที่สุดที่โจรสลัดปล้น

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 12:50:49 AM »

แนวหน้า


รุมประณามสลัดโซมาเลีย ประชาคมโลกเรียกร้องหาทางรับมือ

หลายประเทศรุมประณามเหตุการณ์โจรสลัดปล้นเรือสินค้า ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันซาอุดีอาระเบียที่ถูกปล้นไปนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง ด้านสหภาพแอฟริกาเผย ปัญหาโจรสลัดนอกชายฝั่งโซมาเลียที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นผลมาจากนักการเมือง โซมาเลียที่มีความขัดแย้งกัน

เตหะราน/ไนโรบี (เอพี) - นายฮัสซัน คาสกาวี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ประณามเหตุการณ์ปล้นเรือสินค้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในอ่าวเอเดน และมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งล่าสุดมีเรือสินค้าของอิหร่านพร้อมลูกเรือ 25 คน ตกเป็นเหยื่อโจรสลัดไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เรือสินค้าชื่อ ดีไลท์ ที่ดำเนินการโดยบริษัทของอิหร่าน พบว่า ถูกปล้นไปจอดไว้ในทะเลใกล้กับเมืองเฮอเรนวิก ของเยอรมนี นายคาสกาวี ระบุว่า ปัญหาโจรสลัดเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการแก้ไขทั้งในระดับประเทศและระดับ ภูมิภาค ด้านกองทัพเรืออินเดียอ้างว่า สามารถจมเรือขนาดใหญ่ที่ต้องสังสัยเป็นของกลุ่มโจรสลัดได้เมื่อวันอังคารที่ ผ่านมา ภายหลังเรือดังกล่าวไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือ และโจมตีเรือของกองทัพเรืออินเดียก่อน

ส่วนความคืบหน้ากรณีเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของซาอุดีอาระเบียที่ถูกปล้นยึดไปเมื่อวันเสาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า บริษัทเจ้าของเรือกำลังเจรจาต่อรองเรื่องเงินค่าไถ่กับกลุ่มคนร้าย ซึ่งขณะนี้เรือซีริอุส สตาร์ พร้อมลูกเรือ 25 คน ยังถูกยึดอยู่ที่นอกชายฝั่งของเคนยา ซาอุดีอาระเบียย้ำด้วยว่า พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการปราบปรามโจรสลัด ขณะที่นายเดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ปัญหาโจรสลัดเป็นเรื่องสำคัญที่ทั่วโลกจะต้องตระหนัก เพราะเป็นภัยคุกคามต่อการค้าและความมั่งคั่ง ซึ่งอังกฤษจะเป็นผู้นำของยุโรปในการปราบปรามโจรสลัด โดยจะเริ่ม ปฏิบัติการในเดือนหน้าเป็นต้นไป ส่วนรัสเซียระบุว่า จะส่งเรือรบไปปราบปรามโจรสลัดในน่านน้ำรอบโซมาเลียเพิ่มขึ้น

ด้านประธานคณะกรรมการสหภาพแอฟริกา ระบุวันนี้ว่า ปัญหาโจรสลัดนอกชายฝั่งโซมาเลียที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากนักการ เมืองโซมาเลียที่มีความขัดแย้งกัน พร้อมวอนให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพเข้าไปในพื้นที่โดยเร็ว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 12:53:46 AM »

สยามรัฐ


กรมขนส่งทางน้ำฯ ไฟเขียวงบ 113 ล. สร้างเขื่อนกั้นคลื่น   

นายธานี สามรถกิจ รอง ผวจ.ชลบุรี เปิดเผยว่า กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีอนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่อน มูลค่า 113,800,000 บาท ที่ ต.อ่างศิลา จ.ชลบุรี เพื่อช่วยเหลือชาวประมงที่เดือดร้อน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ชายทะเล ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเรือประมงส่วนใหญ่เข้าจอดเทียบเรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่างศิลามากกว่า 100 ลำ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นทะเลเปิดไม่มีเกาะกำบังคลื่นลมในช่วงมรสุมจึง เกิดลมแรงและคลื่นจัด ทำให้เรือเทียบท่าอยู่ถูกคลื่นลมซัดกระแทกเข้ากับท่าเทียบเรือจนเกิดความ เสียหายไปแล้วหลายลำแล้ว  การก่อสร้างครั้งนี้ ประกอบด้วย เขื่อนกันคลื่น 3 ตัววางสลับกันสร้างเสร็จแล้วจะช่วยให้สามารถป้องกันคลื่นได้ส่งผลให้พื้นที่ ด้านหลังเขื่อนจะมีคลื่นสงบ ทำให้มีเสถียรภาพและความปลอดภัยการจอดเรือ และเป็นพื้นที่จอดเรือหลบคลื่นลมในฤดูมรสุมได้เป็นอย่างดี เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ได้

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 12:58:36 AM »

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น


ประมงไทยแจ้งเรือ 6 จว.ใต้ เข้าฝั่งช่วงนี้

    สมาคมประมงไทย วิทยุสั่งการ เรือประมง 6 จว.ใต้ กลับเข้าฝั่งทันที หลังกรมอุตุเตือนคลื่มลมทะเลมีกำลังแรง เพื่อความปลอดภัย

    สมาคมประมงแห่งประเทศไทยประสานไปยังสมาคมประมงในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกทุกจังหวัด ให้วิทยุสั่งการเจ้าของเรือประมง รีบให้เรือประมงทุกประเภทที่ทำการประมงอยู่ในทะเล ทั้งในและนอกน่านน้ำอ่าวไทย กลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ออกมาประกาศเตือน ฉบับที่ 3 แจ้งเตือนภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักและคลื่นลมในทะเล มีกำลังแรงทั้งทะเลอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 พ.ย. อาจเกิดอันตรายกับเรือประมง

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ราบ ลุ่ม ริมฝั่งแม่น้ำต่าง ๆ โดนเฉพาะ ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ คือ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 01:03:51 AM »

เนชั่นทันข่าว


ทช.รับสนองพระราชดำริพระเทพ เร่งเพิ่มป่าชายหาด

จากการเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพฯทรงรับสั่งตอนหนึ่งว่าการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ส่วนใหญ่หน่วยงานต่างๆ จะมุ่งปลูกป่าชายเลนเป็นหลัก แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจการเพิ่มป่าชายหาด ทั้งที่เป็นระบบนิเวศน์ที่สำคัญมาก อีกทั้งปัจจุบันป่าชายหาดก็ถูกบุกรุกและหายไปเยอะ ดังนั้นทาง ทช.จึงรับสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ อย่างเร่งด่วน โดยนางอนงค์วรรณ มอบหมายให้ทช. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งกรมป่าไม้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกันเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จ พระเทพฯ และช่วยแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วย

นายสำราญ กล่าวอีกว่า โดยเบื้องต้นจะรื้อฟื้นการปลูกป่าชายหาด อาทิ ต้นจิกทะเล สนทะเล ผักบุ้งทะ เล และไม้ชนิดอื่น และเพาะขยายพันธุ์กล้าไม้ดังกล่าวเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กัยชาวบ้าน โดยเฉพาะจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ และเจ้าของรีสอร์ทและที่พักนำกล้าไม้ป่าชายหาดไปปลูก เนื่องจากพื้นที่หน้าหาดส่วนใหญ่ตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทย และอันดามันถูกครอบครองโดยเอกชนไปเกือบหมดแล้ว ทั้งที่ตามกฎหมายกำหนดแนวถอยร่นจากหน้าหาดเอาไว้ระยะทาง 50 เมตรไม่ให้มีการก่อสร้างทำให้ป่าชายหาดก็หายไปด้วย

อธิบดีทช. ยังกล่าวถึงปัญหาการท่องเที่ยวดำน้ำเพื่อดูปะการังด้วยว่า ที่ผ่านมาแหล่งดำน้ำลึกหลายแห่งเกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากร เนื่องจากขาดการควบคุมและการให้ความรู้นักดำน้ำก่อนลงไปดำน้ำ  ดังนั้น ทช.จึงหาวิธีการแก้ปัญหาโดยนำร่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ต้นแบบที่เกาะตะเกียง ในเขตท้องที่ทะเลสตูลก่อนเป็นอันดับแรก เพราะยังเป็นแหล่งดำน้ำที่มีความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยวิธีการจะเรียกว่าเป็นการจัดระเบียบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำทั้งหมด เ ริ่มตั้งแต่การกำหนดเขตดำน้ำตื้น การวางแนวทุ่นทอดเรือ นอกจากนี้จะมีเส้นทางดำน้ำใต้ทะเล รวมทั้งการจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 100-200 คน ต่อวัน ขณะที่การลงไปดำน้ำจะต้องมีไดร์มาสเตอร์ลงไปด้วยทุกครั้ง และนักท่องเที่ยวเองจะได้รับความรู้จากป้ายสื่อความหมายยของตัวทรัพยากรบริเวณเกาะตะเกียง ไม่ใช้ดำลงไปเห็นปลาแต่ไม่รู้ว่าเป็นปลาชนิดไหนเป็นต้น ทั้งนี้จะมีการเปิดแหล่งดำน้ำต้นแบบในวันที่ 28 พ.ย.นี้

ด้านดร. ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เกาะตะเกียง จะเป็นโมเดลแห่งแรกที่การจำกัดนักท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงศักยภาพของแนว ปะการังเป็นหลัก เนื่องจาก มีความหลากหลายของชนิดปะการังและมีความสมบูรณ์มาก เช่น ปะการังเขากวาง ผักกาด ปะการังพุ่ม ดังนั้นค่อนข้างเห็นด้วยที่ทช.จะเริ่มรองรับนักท่องเที่ยวที่อาจจะมาเที่ยวดำน้ำจากแหล่งอื่นๆที่ใกล้เคียงกันมาดำในพื้นที่นี้ โดยอยากให้ไปดำน้ำแบบไปกลับเท่านั้น และต้องจำกัดนักท่องเที่ยว ให้การจำกัดจำนวนเรือไม่เกิน 10 ลำ ให้ต้องดูแลเรื่องขยะเป็นหลัก

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 04:27:17 AM »

ชอบใจเรื่องแผนการจัดระเบียบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ ทั้งเขตดำน้ำตื้น การวางแนวทุ่นทอดเรือ รวมทั้งการจำกัดนักท่องเที่ยวต่อวัน มากค่ะ

แต่ดูเหมือนจะหลงลืมเรื่องหนึ่งไปหรือเปล่าคะ.....

เรื่องที่ว่าก็คือ.....การควบคุมดูแลไม่ให้มีการทำประมงผิดกฎหมายในแหล่งดำน้ำท่องเที่ยวไงคะ....  


ถ้าทำได้ดีควบคุมดูแลได้ครบถ้วนทุกด้านอย่างจริงจังแล้วละก็....เชื่อว่าแหล่งดำน้ำทั้งหลายคงจะไม่บอบช้ำอย่างที่เห็นมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ และในไม่ช้า....คงจะกลับมาสวยงามและสมบูรณ์แบบยั่งยืนต่อไป

คงมีหลายท่านที่อ่านแล้วก็คงสงสัยว่า "เกาะตะเกียง" ที่จะเป็นเกาะนำร่องในการจัดจัดระเบียบกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ ที่พูดถึงในข่าวนั้น มันอยู่ตรงไหนของสตูลกันนะ

สายชลไปค้นหาข้อมูลมาให้จากหลายแหล่งแล้ว ได้ความว่า....

เกาะตะเกียง หรือ เกาะเละละ เป็นเกาะเล็กๆใน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เขตจังหวัดสตูล ใกล้แนวเขตทะเลตรัง ห่างจากฝั่งอำเภอปะเหลียนของตรังประมาณ 20 กิโลเมตร

เกาะตะเกียงนั้นเป็นที่ตั้งของประภาคารที่คอยส่องแสงบอกตำแหน่งแก่ชาวเรือยามค่ำคืนจึงเรียกกันว่า เกาะตะเกียง หรือที่ชาวใต้เรียกสั้นๆว่า เกาะเกียง

จุดเด่นของเกาะตะเกียง คือ ตัวเกาะมีลักษณะเป็นป่าเขียวครึ้ม ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม หน้าเกาะเป็นแนวหาดขาวสะอ้าน และยาวร่วมร้อยเมตร สามารถมองเห็นเกาะหลาวเหลียง ที่อยู่ในเขตทะเลตรังได้  ใต้ทะเลที่หน้าชายหาดน้ำค่อนข้างตื้น สามารถดำน้ำชมปะการังได้ง่าย มีปะการัง...ปลา และสัตว์ทะเลมากมายหลายชนิดให้ชม

การเดินทาง....ใช้บริการเรือหางยาวจากท่าเรือแหลมตาเสะ สามารถนั่งได้ 8-10 คน ซึ่งสามารถเที่ยวได้หลายเกาะ เช่นเกาะ หลาวเหลียง และเกาะเภตรา


บนเกาะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ จึงนิยมจัดเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวร่วมกับเกาะหลาวเหลียง เกาะเภตรา โดยกลับไปพักที่ตรัง หรือพักที่เกาะหลาวเหลียงก็ได้



* Koh-Takiang-1.jpg (98.13 KB, 566x419 - ดู 305 ครั้ง.)

* Koh-Takiang.jpg (106.37 KB, 572x434 - ดู 301 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2008, 05:12:22 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.023 วินาที กับ 20 คำสั่ง