ปลื้มเยาวชนไทย รัก(ษ์)ควายไทยครั้นในอดีต วัว ควายเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสำคัญต่อชุมชน ทั้งการใช้งาน ผลิตปุ๋ยคอก อีกทั้งยังเป็นพาหนะอำนวยความสะดวกในการเดินทางคมนาคมขนส่ง แต่ปัจจุบันวิถีชีวิตเปลี่ยนไป วัว ควายถูกลดความสำคัญลง เยาวชนรุ่นหลังแทบจะไม่รู้จักวัว ควายกันแล้ว เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดทำโครงการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ร่วมไถ่ชีวิตโค กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล เป็นของขวัญให้พ่อของแผ่นดิน พร้อมรณรงค์สอนเด็กไทยให้รักษ์วัวและควาย
อย่างเช่นครอบครัวของนางสาวนงลักษณ์ จงกฎ และนางสาวนงเยาว์ จงกฎ สองพี่น้องแทนที่จะใช้เวลาว่างไปเล่นกับเพื่อนๆ แต่กลับเอาเวลาเหล่านี้มาช่วยพ่อเลี้ยงวัว ด้วยการออกไปเกี่ยวหญ้าให้วัวกิน พาวัวออกไปกินหญ้าในทุ่ง ทำความสะอาดคอกวัว เก็บขี้วัวไปทำปุ๋ย ซึ่งทั้งสองสาวไม่รู้สึกว่าการเลี้ยงวัวเป็นภาระหนัก หรือสูญเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีทำให้ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับครอบครัวทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความรักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น
ไม่ต่างจากเด็กชายธรีระวัฒน์ พรหมศรี เด็กน้อยวัยเพียง 10 ขวบ ที่มักจะใช้เวลาว่างที่มีอยู่ทั้งหมดไปกับการเลี้ยงวัวทุกวันหลังเลิกเรียนและวันหยุด เมื่อทำเป็นประจำจึงรู้สึกเป็นเรื่องที่สนุกไม่น่าเบื่อจนกลายเป็นความผูกพันและรู้สึกหวงแหนวัวที่เลี้ยง
"ที่บ้านเลี้ยงควายไว้ 3 ตัว ซึ่งปกติพ่อกับแม่จะเป็นคนเลี้ยง แต่ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อกลับถึงบ้านตัวเองก็จะเป็นคนเกี่ยวหญ้าให้ควายกิน ส่วนวันหยุดก็จะจูงควายไปกินหญ้าในท้องทุ่งท้องนาทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับควาย และคิดว่าเมื่อโตขึ้นต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯก็จะเอาควายมาเลี้ยงด้วย" ความรู้สึกที่แสนจะบริสุทธิ์ของเด็กชายจีรวัฒน์ แสวงทรพย์ หรือ อี๊ด
ร่วมปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ วัว ควาย ก่อนที่พวกมันจะหมดไปจากประเทศไทย