กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 30, 2024, 02:35:02 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2552  (อ่าน 5034 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 04:06:29 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา

ลักษณะอากาศทั่วไป
 
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 10 (10/2552) เรื่อง ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น 
 
พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล     
 
อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
 
คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 3-5 องศา อากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปและมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลงและคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงต่อเนื่องออกไปอีก
     
ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 10-15 ม.ค. ชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
 
 
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 01:44:36 PM »

เดลินิวส์

ชวนชม'สุริยุปราคา'ตรุษจีน 26 ม.ค.นี้



 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 9 ม.ค. รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยในการเสวนาคุยกันฉันท์วิทย์ เวทีความคิดชาววิทยาศาสตร์ เรื่องสุริยุปราคาในเมืองไทยว่า ในปี พ.ศ. 2552-2553 จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในไทยถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกคือวันที่ 26 ม.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน จะเป็นสุริยุปราคา วงแหวน พาดผ่านบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทยจะเห็นเพียงบางส่วน สามารถดูได้ทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่เวลา 16.08 น. ที่ จ.เชียงราย แล้วไปสิ้นสุดที่ จ.นราธิวาส เวลา 18.00 น. ส่วนในกรุงเทพฯ ดวงจันทร์จะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่สัมผัสที่ 1 เวลา 15.53 น. สิ้นสุดเวลา 17.58 น. โดยในภาคใต้จะได้รับชมนานที่สุดประมาณ 2 ชั่วโมง 22 นาที ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ดวงอาทิตย์จะถูกบดบังถึงร้อยละ 54.9 ทางท้องฟ้าทิศตะวันตก  ส่วนครั้งที่ 2 คือวันที่ 22 ก.ค. 52 ซึ่งจะเป็นวันที่สุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 21 แต่ประเทศไทยจะเห็นเป็นบางส่วน และครั้งที่ 3 คือวันที่ 15 ม.ค. 2553 
 
รศ.บุญรักษา กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีดาราศาสตร์สากล ทั่วโลกได้จัดงานฉลองร่วมกัน  ส่วนประเทศไทย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติจะสถาปนาจุดสำคัญด้านดาราศาสตร์ ดังนี้ แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดสังเกตดวงอาทิตย์ตก และปราสาทเขาพนมรุ้ง จุดที่ดวงอาทิตย์พาดผ่าน 15 ช่องประตูในวันที่ 3  เม.ย.ของทุกปี และที่เส้นลองจิจูด 105 เส้นแวงมาตรฐานที่พาดผ่าน จ.อุบลราชธานี และหอดูดาวสิรินธร ซึ่งเป็นหอดูดาวภูมิภาคแห่งแรกของไทย ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่น่าสนใจในปีนี้ นอกจากสุริยุปราคาบางส่วนแล้ว ยังสามารถรับชมฝนดาวตกได้ชัดเจนจากกลุ่มเลโอนิดส์ และเจมินิดส์ในช่วงปลายปี เพราะตรงกับคืนเดือนมืด ส่วนที่เชื่อกันว่าเกิดจันทร์ดับในวันตรุษจีน ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ต้องไปสะเดาะเคราะห์ตามวัดต่าง ๆ นั้น ขอยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ปกติทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เพียงแต่ปีนี้สุริยุปราคาเกิดตรงกับวันตรุษจีนพอดีเท่านั้น.
 
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:01:48 PM »

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นิคมสหกรณ์แม่แตง
 

 

 จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง การประกอบอาชีพอย่างพออยู่พอกิน โดยอาศัยการผลิตเพื่อให้เกิดในครัวเรือน และเหลือจากการใช้ในครัวเรือนก็นำไปจำหน่ายเพื่อก่อให้เกิดรายได้ เป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ ดังจะเห็นได้จากการที่พระองค์ได้มีแนวพระราชดำรัสให้ดำเนินการเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่
 
และได้ดำริให้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ตามศูนย์ต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยเน้นในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทดลอง   การผลิตทั้งพืชและสัตว์ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริและสืบสานพระราชปณิธานและดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างได้น้อมนำพระราชดำริไปปฏิบัติใช้และหนึ่งในนั้นก็มีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 
โดยเฉพาะนิคมสหกรณ์แม่แตง สำนัก งานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดที่ดินให้ราษฎรในเขตท้องที่อำเภอแม่แตงกว่า 12,700 ไร่ ในสภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบเชิงเขา ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณน้ำค่อนข้างจำกัด ทำให้สมาชิกและราษฎรบริเวณใกล้เคียง ประสบปัญหาด้านการประกอบอาชีพ ขาดการจัดการดินและทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นิคมสหกรณ์แม่แตงจึงได้จัด       ทำโครงการศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในเขต   นิคมสหกรณ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยใช้พื้นที่ส่วนกลางของนิคมสหกรณ์แม่แตง จำนวน 50 ไร่ แล้วดำเนินการปรับสภาพพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง


 
มีการคัดเลือกสมาชิก ราษฎรหรือสมาชิกในครัวเรือนหมุนเวียนเข้าเรียนรู้ และปฏิบัติจริงในแปลงสาธิต มีการมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากที่ดินทำกิน ประกอบอาชีพการเกษตร และปรับเปลี่ยนทัศนคติแนวคิดตลอดจนวิธีการผลิตมาเป็นการเกษตร โดยอาศัยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ภูมิปัญญาและวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ ฝึกนิสัยในการขยัน ประหยัด อดทนและอดออม อันจะส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตในครอบครัวที่ดีขึ้น มีการดำรงชีวิตแบบพอมีพอกินและพึ่งตนเอง มีอาหารเพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน มีผลผลิตเหลือเพื่อจำหน่าย เสริมสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับการครองชีพ ตลอดทั้งเป็นการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดชุมชนเข้มแข็งแล้วนำไปขยายผลต่อไปยังกลุ่มคนอื่น ๆ เป็นรูปแบบเครือข่ายกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มการผลิต ตลอดทั้งแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินมีประสิทธิภาพ และเป็นการตอบสนองยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศชาติ
 
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ มีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่และปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นศูนย์แหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร โดยให้สมาชิกนิคมสหกรณ์ เข้ามาเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงและเป็นแหล่งศึกษาดูงานของเกษตรกรในพื้นที่และเกษตรกร     ทั่วไป เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกให้รู้จักความขยัน ประหยัด อดทน และอดออมในการประกอบอาชีพ
 
ตลอดปีงบประมาณ 2551 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านอาชีพที่สมาชิกสนใจ เป็นที่ต้องการของตลาดและสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการขยายองค์ความรู้ด้านการพัฒนาอาชีพเดิมให้เข้มแข็ง เพิ่มเติมอาชีพใหม่          ที่หลากหลาย และเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิต   เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการประกอบอาชีพ จำนวน 15 กิจกรรมด้วยกัน ประกอบด้วย การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงโคขุน การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงสุกร การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงแพะ การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงกบ การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงปลาในกระชัง การเรียนรู้ด้านการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก การเรียนรู้ด้านการเพาะเห็ด การเรียนรู้ด้านการปลูกผักปลอดสารพิษ การเรียนรู้ด้านการปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน การเรียนรู้ด้านการปลูกเสาวรส การเรียนรู้ด้านการปลูกยางพารา การเรียนรู้ด้านเตาเศรษฐกิจประหยัดพลังงาน การเรียนรู้ด้านปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยชีวภาพ การเรียนรู้ด้านบ่อแก๊สชีวภาพ และแปลงสาธิตพืชพลังงานทดแทน
 
 ล่าสุดทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดโครงการสื่อมวลชนสัญจรโดยนำคณะผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางเดินทางเข้าศึกษาการดำเนินงานของโครงการฯ ซึ่งหลายท่านให้ความสนใจกับการคัดเลือกเกษตรกรสมาชิกนิคมสหกรณ์ หรือบุคคลในครอบครัวสมาชิกว่ามีขบวนการในการคัดเลือกอย่างไร ก็พบว่าประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งอยู่ที่ความสนใจและการยอมรับของสมาชิกที่จะเข้ารับการอบรมและฝึกปฏิบัติ จากนั้นก็ทำความเข้าใจในเรื่องการปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นของโครงการ อาทิ การเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ตามจำนวนที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ศูนย์เรียนรู้ได้กำหนดขึ้น และหลังจากผ่านการฝึกอบรมภาควิชาการแล้ว ก็จะต้องเข้ารับการเรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติจริง ภายใต้การให้คำปรึกษาแนะนำจากหน่วยงานบูรณาการที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน
 
ขณะเดียวกันเกษตรกรสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเรียนรู้ในศูนย์ฯ จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ในด้านเทคโนโลยีการประกอบอาชีพที่ได้ศึกษามาให้กับเกษตรกรรุ่นต่อ ๆ ไปที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาในศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ต่อไปด้วย
 
จากการพบปะกับเกษตรกรหลายราย     ในวันดังกล่าวพบว่า ต่างมีความสุขและพึงพอใจกับการได้เข้ามาศึกษาในศูนย์แห่งนี้และต่างก็ให้ความมั่นใจในการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน.

 
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:27:03 PM »


ขอบคุณหนูแมลงปอ ที่ช่วยทำข่าวดีๆให้เราได้อ่านค่ะ.....น่ารักที่สุดเลย...
บันทึกการเข้า

Saaychol
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.5 วินาที กับ 20 คำสั่ง