พฤศจิกายน 23, 2025, 07:36:37 AM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552 (อ่าน 4137 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 12:50:34 AM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีลมแรงต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2552 โดยบริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-4 เมตร และมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-15 มกราคม 2552 นี้ไว้ด้วย
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง 3-5 องศา และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงต่อเนื่องออกไปอีก ในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอากาศอุ่นขึ้น โดยจะมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยอาจมีความเสียหายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. 2552
Forecast2.jpg
(36.81 KB, 684x423 - ดู 630 ครั้ง.)
Earthquake.jpg
(44.26 KB, 461x512 - ดู 636 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #1 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 12:55:38 AM »
ไทยรัฐ
ชาวโลกเรือนพันล้านออกเสียงเลือก 7 ธรรมชาติอัศจรรย์
หุบเขาแกรนด์ แคนยอน มโหฬารของอเมริกา ยอดเขาเอเวอเรสต์ และทะเลสาบล็อคเนสส์ ในสกอตแลนด์ ต้องประชันแข่งขันกันเอง และกับแหล่งท่องเที่ยวอันน่าทึ่งอื่นๆของโลก อีกไม่ต่ำกว่า 200 กว่าแห่ง เพื่อชิงตำแหน่ง 7 แหล่งธรรมชาติอัศจรรย์ใหม่
เป็นที่คาดว่า ชาวโลกไม่ต่ำกว่าพันล้านคน จะออกเสียงเลือกเอาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ให้เหลือเพียง 77 แห่ง ในรอบรองสุดท้าย ทางอินเตอร์เน็ต ก่อนจะตัดสินเลือก 7 แหล่งธรรมชาติอัศจรรย์ แบบเดียวกับที่ช่วยกันเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์สร้าง เมื่อ 18 เดือนที่แล้ว
โฆษกของการรณรงค์เลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ นางเตียง ไวริง ได้กล่าวชักชวนว่า เราขอเชิญชวนประชาชนทั่วโลก ช่วยกันออกเสียง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแหล่งอันน่าทึ่งที่สุดบนพื้นพิภพของเรา โดยต่างจะออกเสียงได้จนถึง วันที่ 7 สิงหาคม ศกนี้
มูลนิธิที่สวิสซึ่งไม่หวังผลกำไร เป็นผู้จัดการรวบรวมแหล่งที่เข้าข่ายทางอินเตอร์เน็ตมาตั้งแต่ พ.ศ. 2550 ได้มาทั้งหมดรวม 441 แห่ง และได้มีการคัดเลือกให้เหลือจำนวนน้อยลงมาเป็นลำดับจนถึงรอบรองสุดท้าย
เป็นที่น่าแปลกใจว่า มีแหล่งท่องเที่ยวที่แทบไม่มีคนรู้จัก เข้ามาถึงรอบนี้หลายแห่งด้วยกัน เช่น ภูเขาไฟยาสุระ ที่เกาะวานาตู ทางแปซิฟิกใต้ และก้อนหินซูมา อันเป็นก้อนหินสูงในไนจีเรีย.
******************************************************************************************************************************
สภาพอากาศแย่ขวางงานค้นหาเหยื่อเรืออิเหนาล่ม
นายยุสมาน ไซฟี'อี ดจามาล รมว.ขนส่งของ อินโดฯ กล่าวว่า การสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเรือโดนคลื่นสูงและแรงซัดกระหน่ำจนล่ม และกำลังสอบสวนต่อไปว่าเหตุใดกัปตันจึงออกเรือ แม้มีคำเตือนสภาพอากาศเลวร้าย อย่างไรก็ดี บริเวณท่าเรือก่อนออกเดินทาง พบว่าสภาพอากาศแจ่มใส และว่าในหลายวันที่ผ่านมา มีคำเตือนคลื่นแรงหลายพื้นที่ และยังเกิดพายุไซโคลนขณะเกิดเหตุด้วย ปฏิเสธเรือไม่ได้บรรทุกเกินอัตรา
แต่ตัวแทน PT Nur Budi บริษัทเจ้าของเรือที่เกิดเหตุ ระบุเจ้าหน้าที่ท่าเรือยอมให้ผู้โดยสารลงเรือเกินพิกัดทั้งๆที่เรือบรรทุกได้เพียง 205 คน ส่วนภารกิจช่วยเหลือ แม้ทางการอินโดฯส่งเรือรบ 3 ลำ เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์อย่างละ 1 ลำ พร้อมเรือเล็ก 8 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกค้นหาศพเหยื่อและช่วยเหลือผู้อาจรอดชีวิตแถบชายฝังตะวันตกของ จ.สุลาเวสี แต่ปฏิบัติการเป็นไปอย่างลำบาก เพราะมีฝนตกหนัก พายุพัดแรง และคลื่นทะเลสูง ส่วนญาติๆมาออเต็มท่าเรือเมืองปาเร-ปาเร รอฟังข่าวชะตากรรมผู้โดยสาร
ทั้งนี้ ข่าวแจ้งว่าแม้ทางการอินโดฯถูกกดดันให้ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยในภาคขนส่งมาแล้ว แต่มักเกิดอุบัติเหตุทางเรือบ่อยครั้ง และแม้ได้ชื่อว่าเป็นชาติแห่งเกาะแก่งและผู้คนอาศัยสัญจรทางน้ำเป็นนิจศีล แต่คนอิเหนาส่วนใหญ่กลับว่ายน้ำไม่เป็น
สำหรับอุบัติเหตุทางเรือครั้งร้ายแรงในอินโดฯ เกิดเมื่อ 30 ธ.ค. 2549 เรือเฟอร์รี่พร้อมผู้คนบนเรือ 600 คน แล่นระหว่างเกาะบอร์เนียวกับชวา ถูกพายุซัดล่มกลางทะเล พบผู้รอดชีวิตราว 250 คน ในหลายวันหลังเกิดเหตุ และอีกไม่กี่เดือนต่อมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ศพ ในเหตุไฟไหม้เรือเฟอร์รี่เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ทางการฟิจิประกาศภาวะฉุกเฉินและเคอร์ฟิว หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วมพื้นที่ วีติ เลวู เกาะหลักของประเทศ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ และสั่งอพยพชาวบ้านหนีภัยอีกหลายพันคน.
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #2 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 01:07:08 AM »
ผู้จัดการออนไลน์
เลย เย็นยะเยือก บนภูกระดึงเกิดปรากฏการณ์ แม่คะนิ้ง
เลย - เมืองเลยหนาวจัด อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 2-10 องศา ขณะที่บนยอดภูกระดึงเกิดปรากฏการณ์ แม่คะนิ้ง สร้างความตื่นตาให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็น แนะนักท่องเที่ยวหากขึ้นภูกระดึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งสุขภาพและเครื่องนุ่งห่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเลยในขณะนี้สภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิลดลง 4 องศาเซียลเซียส เกือบทุกพื้นที่จังหวัดเลย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 2-10 องศาเซียลเซส โดยเฉพาะบนยอดภูกระดึงมีอุณหภูมิติดลบ จนเกิดปรากฏการแม่คะนิ้ง( น้ำค้างที่จับตัวเหมือนก้อนน้ำแข็งเล็กๆ)ขึ้น
สภาพอากาศที่หนาวจัด ก่อให้เกิดปรากฏการ์ณแม่คะนิ้งขาวโพลน
นายศุภชาติ วรรณวงค์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวถึงการเกิดน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งนั้น ในปีนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ในวันนี้แม่คะนิ้งจะเป็นมากบริเวณน้ำตกเพ็ญพบใหม่ ส่วนหนึ่งของที่ทำกางเต็นท์ วังกวาง เนื่องจากบางจุดของภูกระดึงเป็นช่วงอากาศ ทำให้อากาศหนาวกว่าปกติ สำหรับนักท่องเที่ยวบางคนบอกว่า เป็นสิ่งที่เหนือการคาดคิด หนาวหนักสะใจ ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดเช่นนี้
นายศุภชาติ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงนี้หากนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงก็ขอให้โทรศัพท์มาสอบถามยังที่อุทยานฯ ภูกระดึงที่ เบอร์ 0-4287-1333 เพื่อให้คำแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยว และได้มีการเตรียมความพร้อมกับสภาพอากาศที่หนาว เพื่อสร้างความอบอุ่นของร่างกาย และท่องเที่ยวอย่างสนุกในช่วงฤดูหนาวนี้
ด้าน นายคำพัน บุตรราช หัวหน้าสถานีอุตตุนิยมวิทยาจังหวัดเลย กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 9-11 ม.ค.ที่ผ่านมา อากาศหนาว อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรให้ความอบอุ่น แก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ และทำแผงกำบังลมหนาวแก่สัตว์เลี้ยง
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะอาจลุกลามทำให้เกิดอัคคีภัยได้ และควันไฟจะทำให้ทัศนวิสัยลดลง รวมทั้งก่อมลพิษเป็นอันตรายต่อการเกษตรกรเอง
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #3 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 01:11:57 AM »
มติชน
คลื่นยักษ์ถล่มชุมพร ชายหาดหายกระทบหมู่บ้าน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายกู้เกียรติ ดำรงค์ อายุ 33 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร เดินทางเข้าแจ้งนายยงยุทธ มฤคทัต นายอำเภอหลังสวนว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดคลื่นขนาดใหญ่พัดขึ้นฝั่งในพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.นาพญา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ขอให้หาทางช่วยเหลือด้วย
นายเยิ้ม แซ่ท่าม อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 16 ต.นาพญาให้สัมภาษณ์ว่า บ้านตั้งอยู่ริมทะเลเป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ หลายปีที่ผ่านมาอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ขณะนี้ถูกคลื่นซัดชายฝั่งจนทำให้ชายหาดหายไปอย่างรวดเร็ว น้ำทะเลขึ้นมาอยู่ติดผนังบ้านต้องย้ายคนในบ้านออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยจึงขอให้ทางราชการช่วยเหลือด้วย
นายมณี อุทรักษ์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนราธิวาส ได้แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นอีกระลอกในช่วง 2 วันนี้ เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้ และฝั่งอ่าวไทยจะได้รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมโดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเนื่องจากในทะเลมีคลื่นลมแรง
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #4 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 01:17:20 AM »
ข่าวสด
วิวาห์ใต้สมุทรรักษ์โลก
หอการค้าจังหวัดตรัง ร่วมกับ จังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัด จัด "พิธีวิวาห์ใต้สมุทร" ในแนวคิด "Love & Harmony in Us All" หรือ "รักเรา รักษ์โลก" กิจกรรมสร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ของโลกที่รวมคู่รักหนุ่มสาวดำดิ่งสู่ใต้ทะเลลึก เพื่อประกอบพิธีจดทะเบียนสมรส ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลแห่งความรัก และปีนี้เป็นปีที่ 13 ในวันที่ 13-15 ก.พ. จัดขึ้นที่บริเวณชายหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง งานนี้คู่บ่าวสาวจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยกิจกรรมปล่อย "ถ้วยทะเล" สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ทางนิเวศวิทยา สามารถเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์เล็กๆ ในทะเล เช่น กุ้ง และปะการัง อีกทั้งร่วมกันปลูกต้นไม้แห่งความรัก สำหรับหนุ่มสาวที่สนใจพิธีวิวาห์ใต้สมุทรและอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างตำนานรักใต้ทะเลในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ โทร. 0-2863-3288 ต่อ 191, 263
****************************************************************************************************************************
ฝนถล่มบอร์เนียว ขวางอินโดฯกู้เรือ
เมื่อ 12 ม.ค. เอพีรายงานว่า ฝนจากลมมรสุมที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐซาราวัก เกาะบอร์เนียวของมาเลเซีย เลวร้ายลงอีก ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 7,000 คนออกจากพื้นที่ไปที่ศูนย์อพยพชั่วคราว เมื่อน้ำท่วมบ้านเรือนช่วงสุดสัปดาห์ แม้ฝนหยุดตกแล้วแต่อาจมีคลื่นสูงซัดเข้ามา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ต่ำ ทั้งนี้ มาเลเซียมักประสบภัยพายุฝน และน้ำท่วมทางภาคตะวันออก ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เป็นประจำทุกปี
ส่วนที่อินโดนีเซีย ยอดผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รี่ถูกพายุไซโคลนซัดอัปปางในน่านน้ำทางฝั่งตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์ อยู่ที่ 246 คน แต่สภาพอากาศที่ยังแปรปรวน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งทหาร ตำรวจและหน่วยงานกาชาด ล่าสุด ช่วยขึ้นจากทะเลได้เพียง 21 คน เรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวมีผู้โดยสารราว 250 คน ลูกเรือ 17 คน มุ่งหน้าออกจากเมืองปารี-ปารี บนเกาะสุลาเวสี ไปยังเมืองซามารินดา จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก
****************************************************************************************************************************
ปลาบอกบุญ
:
คอลัมน์ ไหลตามโลก
จากท้องทะเลลึก ขึ้นบกมาถูกจับแช่แข็ง
ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะเจ้าได้กุศล
ด้วยเป็นปลาบอกบุญ
อุทิศถวาย ณ อารามนิชิโนมิยะ เขตเฮียวโก ตะวันตกของญี่ปุ่น
ถวายท่าน "อิบิสึ"
1 ใน 7 เทพเจ้า ลูกพระอาทิตย์บูชาสืบมา
เชื่อมั่น 6 เทพ 1 เทพี จะบันดาลโชคดีมาสู่ ปัญญามาเสริม มั่งคั่งมาส่ง
อายุจะยืนยาว ความชอบธรรมจะยืนยง
รู้จักพอเพียง รวมเป็นชีวิตงามด้วยความสุข
สำหรับ อิบิสึ ท่านเป็นเทพแห่งทะเล ไร่นา และการค้า
มาพร้อมคันเบ็ดตกปลาในมือขวา แขนซ้ายหนีบปลาบรีมสัญลักษณ์แห่งโชคดี
เชื่อจะนำความสำเร็จมาให้ในหน้าที่การงาน
เป็นเทพเจ้าแห่งความรุ่งเรืองในสัมมาอาชีพ
ทูน่าเป็นตัวแทนท้องทะเลมาบอกบุญในวันของท่าน
ตัวเล็ก เงินเล็ก แต่ศรัทธายิ่งใหญ่นะครับ
ป ปลา สาวกอิบิสึนำส่งท่านด้วย
บุญ (และน้ำแข็ง) คงพาเจ้าเย็นเป็นสุขดีนะ ทูน่าเอ๋ย
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #5 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 01:23:11 AM »
คม ชัด ลึก
ฟื้นปะการัง ชูเที่ยวเชิงอนุรักษ์
อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซี สำเร็จแล้วกว่า 6 ไร่ เตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มรอบเกาะเสม็ด ชูแหล่งท่องเที่ยวใต้น้ำแห่งใหม่ พร้อมการฟื้นฟูระบบนิเวศคืนความสมดุลสู่ธรรมชาติ
นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เปิดเผยถึงโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังจาการปลูกด้วยท่อพีวีซีว่า หลังจากอุทยานฯเริ่มทดลองปลูกปะการังมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงเวลานี้ นับว่าประสบความสำเร็จ เพราะปะการังที่ปลูกไว้ขณะนี้งอกยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังจากการปลูกด้วยท่อพีวีซี ดำเนินการโดยอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ร่วมกับผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้ดำรงอยู่ในสภาพที่ดี ลดสภาพเสื่อมโทรม เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นเวลานาน และเป็นมรดกแก่ลูกหลานสืบไปอยู่ตลอดเวลา
"ในปี 2552 เราได้เตรียมโครงการปลูกปะการังในท่อพีวีซีเพิ่มอีก 4 จุด เพื่อให้ได้พื้นที่ปลูกปะการังเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จากนั้นจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี ในการอนุบาล และรอปะการังเจริญเติบโตและแข็งแรงเต็มที่ และในปี 2555 จะเปิดให้นักท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการังได้อย่างเต็มรูปแบบ"
นายสิทธิชัยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การปลูกปะการังในพื้นที่อุทยานฯ นอกจากเราจะได้รักษาสมดุลของระบบนิเวศ เพิ่มที่อยู่อาศัยให้สัตว์น้ำแล้ว ยังได้ผลดีในการสร้างจิตสำนึก ดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติให้แก่เยาวชน นักทอ่งเที่ยว และประชาชน ที่เข้ามาในพื้นที่อุทยานฯ อีกเป็นจำนวนมาก เพราะตลอดทั้งปีอุทยานฯ จะมีนักทอ่งเที่ยวและหน่วยงานงานต่างๆ มาใช้สถานที่จัดกิจกรรม ซึ่งก็จะเลือกการปลูกปะการังเป็นกิจกรรมหลักของงาน เมื่อนักทอ่งเที่ยวมาเห็นก็ช่วยกันปลูก เพราะการปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซีทำง่าย และทุกคนได้มีส่วนร่วม มีความสุข เกิดความประทับใจในสถานที่ที่สวยงาม และกิจกรรมดีๆ ที่ได้มีส่วนร่วม ทำให้ตลอดปีเรามีผู้เข้าร่วมโครงการปลูกปะการังเป็นจำนวนมาก
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552
«
ตอบ #6 เมื่อ:
มกราคม 13, 2009, 01:27:55 AM »
แนวหน้า
ทส.ปลุกธุรกิจท่องเที่ยวไทย หั่นค่าเข้า"อุทยานแห่งชาติ" วันธรรมดาเหลือครึ่งราคา
นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ลดค่าธรรมเนียมบัตรเข้าชมอุทยานแห่งชาติทั้ง 110 แห่งทั่วประเทศ ในวันธรรมดาลงครึ่งราคา เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติมากขึ้นตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนของรัฐบาลด้านการท่องเที่ยว โดยคนไทยจะเสียค่าเข้าชมเพียง 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติจะเหลือ 200 บาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะยังเก็บในราคาปกติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ไม่ให้เกิดวามแออัดเช่นที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวที่มีตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นทุกปีนั้น นายอุภัย กล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อวางแผนระยะยาว ทั้งนี้ยืนยันว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะไม่เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มกำไรจากรายได้โดยยังคงเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ มีรายได้จากค่าเข้าชมประมาณ 525 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่แหล่งธรรมชาติถือเป็นจุดขายสำคัญด้านการท่องเที่ยวของไทย ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่ง ค้นหาพื้นที่ในอุทยานประเภท UNSEEN หรือจุดท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือยังไปน้อย มาเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศตามนโยบายรัฐบาลด้วย
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...