สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2552

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรงต่อไปอีก ส่วนบริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือยังคงมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกควรระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นโดยทั่วไป และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้ บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงเป็นลำดับ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศอุ่นขึ้น โดยจะมีหมอกในตอนเช้าเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ม.ค. 52) เป็นต้นไป


ข้อควรระวัง

 ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค. 2552 ชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่บ้านเรือนอยู่บริเวณชายฝั่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย 
 

[สายน้ำ]

เดลินิวส์


ภัยร้ายรายวัน : ภัยหนาว



 เช้าวันนี้ (15 ม.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิบริเวณประเทศไทยเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยบริเวณเทือกเขาสูงทางภาคเหนือมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่



ภัยร้ายรายวันจึงขอหยิบยก “วิธีรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น” มานำเสนอ โดยข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุ จังหวัดที่ประสบภัยหนาวมี 2 จังหวัด 478 อำเภอ 3,105 ตำบล 38,081 หมู่บ้าน แยกเป็นภาคเหนือ 15 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 6 จังหวัด และภาคตะวันออก 2 จังหวัด

วิธีรับมืออากาศหนาวเบื้องต้น คือทำร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ สวมถุงเท้า หรือถุงมือบ้างในบางพื้นที่ (เหนือ-อีสาน) ถึงกระนั้นยังมีภัยอีกอย่างที่ซ่อนอยู่หากคุณเผอเรอ นั่นคือ “อัคคีภัย” เนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง หากก่อกองไฟให้ความอบอุ่นร่างกาย ควรก่อกองไฟในที่โล่งและไม่มีเศษกิ่งไม้ใบหญ้า ควรห่างจากบ้านเรือนหรือวัสดุติดไฟง่าย

กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ควรตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก ถ้าสถานการณ์ไม่รุนแรงนักให้ทำการควบคุมเพลิงเองในเบื้องต้น แต่หากเพลิงไหม้ลุกลามจนยากต่อการควบคุม ให้ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันไฟลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและรีบออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที

อย่างไรก็ตาม ควรเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เป็นต้นเหตุของไฟไหม้ เช่น การเผาขยะหรือหญ้าแห้ง ควรเผาในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด ไม่เสียบปลั๊กไฟไว้ที่เต้าเสียบเดียวกันหลายๆ อัน และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จ รวมถึงบ้านที่ติดเครื่องทำน้ำอุ่น ควรหมั่นตรวจสอบเครื่องทำน้ำอุ่นให้อยู่ในสภาพดี เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วและไฟฟ้าช็อต

ทั้งนี้หากได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น พบเห็นเหตุหรือประสบเพลิงไหม้ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วยสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


รัสเซียเตือนภัยสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 ริกเตอร์

       เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(15) ตามเวลาท้องถิ่น ประกาศเตือนภัยสึนามิในเมืองเปโตรปาฟโลฟสค์-คัมชัตสกี ทางตะวันออกของประเทศ หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในมหาสมุทรแปซิฟิก
       
        แผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 7.3 ริกเตอร์ เขย่าหมู่เกาะคูริล ซึ่งเป็นเกาะข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในมหาสมุทรแปซิฟิก อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความเสียหายรวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

[สายน้ำ]

มติชน


คลื่นทะเลยักษ์ถล่ม"ปากพนัง" บ้าน 200 หลังถูกน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 15 มกราคม เกิดกระแสคลื่นลมแรงในอ่าวไทย คลื่นมีความสูงกว่า 2-4 เมตร โดยเฉพาะแนวชายฝั่งนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ อ.ท่าศาลา เมืองบางส่วน ปากพนัง และ อ.หัวไทร ส่งผลให้หมู่บ้านชาวประมง บริเวณหมู่ 2 และ 3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จำนวน 200 หลังคาเรือน ที่อยู่ริมทะเล ถูกน้ำทะเลท่วมต่อเนื่องกว่า 6 ชั่วโมง ส่วนคลื่นริมชายทะเลแถบบ้านหน้าโกฏ ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง กัดเซาะชายฝั่งบ้านหลายหลัง

นายแพรก สังข์แก้ว อายุ 78 ปี ชาว อ.ปากพนัง กล่าวว่า เดิมบริเวณนี้เป็นสวนมะพร้าว 600 ต้นปัจจุบันถูกน้ำทะเลกลืนเหลือเพียง 4 ต้น และบ้านหลังเดิมหายไปในทะเลแล้ว ขณะนี้เหลือเนื้อที่ไม่ถึง 10 เมตร ยังไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน

นายสุนีย์ ทองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.แหลมตะลุมพุก กล่าวว่า บ่อปลากะพงและบ่อปลาดุกทะเลที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ หายไปกับกระแสน้ำทะเลจำนวนมาก ชาวประมงไม่สามารถออกทะเลนานกว่า 2 เดือนแล้ว

ที่ จ.สงขลา นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดสงขลา เผยว่า 2 อำเภอของ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบจากภาวะคลื่นลมแรงประกอบด้วย หมู่ 7 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง บ้านเรือนเสียหาย 4 หลัง และพื้นที่หมู่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร บ้านเรือน 30 หลังถูกน้ำทะเลท่วม


***************************************************************************************************************************


จับ 3 เรือประมงปลากะตักอวนครอบ ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายปรีชา บริเพชร หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย เมื่อไปถึงบริเวณเกาะบุโหลน หมู่ 3 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล พบเรือประมงอวนครอบกำลังจับปลากะตักอยู่ จำนวน 3 ลำ จึงเข้าจับกุม ชื่อเรือ อ.เรืองเจริญ มีนายอิทธิพล อ้อนน้อมเวชกิจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 351 หมู่ 13 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นไต้ก๋งพร้อมลูกเรือ 5 คน เรือ ส.ประมงชัย 2 มีนายฮอด หาดป่าหยง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 400 หมู่ 3 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เป็นไต้ก๋ง พร้อมลูกเรือ 5 คน และเรือ อ.ขวัญสมุทร มีนายมานะ จันวัติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 2 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เป็นไต้ก๋งพร้อมลูกเรือ 5 คน จากนั้นยึดเรือทั้ง 3 ลำ และปลากะตักรวมทั้งหมด 800 กก. พร้อมส่งไต้ก๋งและลูกเรือทั้งหมด 15 คน ให้พนักงานสอบสวน สภ.ละงู จ.สตูล ดำเนินคดีในข้อหาทำประมงปลากะตักอวนครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต


************************************************************************************************************************************************


แผ่นดินไหว 7.3 ริคเตอร์ใกล้ญี่ปุ่น รัสเซียเตือนภัยสึนามิ

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริคเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะคูริวไปประมาณ 430 กิโลเมตร ทั้งนี้ หมู่เกาะคูริวตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิค และเป็นหมู่เกาะที่ตกเป็นกรณีพิพาทระหว่างประเทศรัสเซียกับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นอ้างสิทธิในเกาะ 4 แห่งที่อยู่นอกเกาะฮอคไกโดของญี่ปุ่น ทำให้ทั้ง 2 ประเทศยังไม่สามารถลงนามในข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการได้

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 00.49 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่ระดับความลึก 35 กิโลเมตร ห่างจากเมืองเซเวโรคูริลสค์ ประเทศรัสเซีย ไปทางตะวันออก 428 กิโลเมตร และห่างจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นไ ปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 1,787 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหายรุนแรง

ด้านสำนักข่าวไออาร์เอ โนโวสติ ของรัสเซีย รายงานว่า สำนักงานเตือนสึนามิของรัสเซียได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ ที่เมืองเปโตรพาฟลอฟสค์-คัมชัตก้า บนคาบสมุทรคัมชัตก้า ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิค ที่รัฐฮาวาย สหรัฐ ระบุว่า ไม่มีภัยคุกคามอย่างกว้างขวางและในระดับทำลายล้างจากสึนามิ

รายงานข่าวระบุว่า เมืองเปโตรพาฟลอฟสค์-คัมชัตก้ามีประชากรประมาณ 200,000 คน และตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ 725 กิโลเมตร 

[สายน้ำ]

ข่าวสด


ป่าไม้จัดงานสัปดาห์อนุรักษ์ผืนป่า

กรมป่าไม้ - นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยการจัดกิจกรรมสัปดาห์วันอนุรักษ์ทรัพ ยากรป่าไม้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค. ว่างานดัง กล่าวจัดที่กรมป่าไม้ การจัดงานในปีนี้ใช้แนวคิด "อนุ รักษ์ป่าไม้ ให้ชีวิต พิชิตโลกร้อน" ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนป่าสมบูรณ์ บอกเล่าเรื่องราวความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ในเมืองไทยที่อดีตมีความอุดมสม บูรณ์มาก โซนป่าร้องไห้ บอกเล่าเรื่องราววิกฤตปัญหาที่ป่าไม้ถูกทำลาย เกิดภัยภิบัติ และปัญหาโลกร้อนตามมา โซนป่าเกิดใหม่ บอกเล่าเรื่องราวของกรมป่าไม้ที่ได้เข้าไปอนุรักษ์ฟื้นฟูจนเกิดป่าใหม่หลายแห่ง โซนป่าหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บอกเล่าเรื่องราวคนอาศัยป่า ป่าอาศัยคนเกื้อกูลกันและกัน เพื่อให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้

ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่าสมบูรณ์อยู่เพียง 113 ล้านไร่ ซึ่งกรมป่าไม้วางเป้าหมายไว้ที่ 128 ล้านไร่ จะเข้ามาตรฐาน 40% จึงขอฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันอนุรักษ์และปลูกป่า ส่วนนายสุวิทย์ คุณกิตติ ให้นโยบายในการปราบปรามผู้ที่กระทำผิดด้านป่าไม้รายใหญ่ให้เด็ดขาด และประ สานงานมวลชนในการป้องกันดูแล ทรัพยากรป่าไม้


****************************************************************************************************************************


ป่าไม้เพชรบูรณ์ลุยจับนายทุนรุกป่า "หล่มเก่า"เหี้ยน-สั่งยกเลิกออกเอกสารสิทธิ

เพชรบูรณ์ - เมื่อเร็วๆ นี้ นายมานพ สายอุ่นใจ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 7 สำนักงานป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมป่าไม้ ให้เข้าไปตรวจสอบป่าพื้นที่หมู่ 1 ต.หินฮาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่า มีนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อปลูกยางพารา และได้มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วจำนวน 103 แปลง เป็นเนื้อที่กว่า 4,133 ไร่ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้กว่า 20 นาย เดินทางด้วยรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว

ขณะไปถึงพบว่ามีคนงานกว่า 30 คนกำลังแผ้วถางป่าอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปคนงานเหล่านั้นได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า คงยึดได้เพียงแค่เครื่องมือถางป่า เช่น มีด จอบ เท่านั้น จากนั้นจึงนำเครื่องมือวัดหาส่วนพิกัดของพื้นที่ออกมาวัด พบว่าพื้นที่ป่าดังกล่าว มีผืนดินติดต่อกับผืนป่าภูขี้ไก่ ต.หินฮาว อ.หล่มเก่า ซึ่งมีนายทุนบุกรุกถางป่าจำนวน 2,000 ไร่ และมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเอาผิดกับเจ้าของที่ดิน และข้าราชการที่ให้มีการนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปออกโฉนด

นายมานพ กล่าวอีกว่า ที่ดินที่มีการนำไปออกเป็นโฉนด ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบแล้วว่าเป็น การออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และที่ผ่านมาขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปตรวจสอบว่าบริเวณนี้เป็นป่าไม้หลายชนิด และได้จับกุมผู้กระทำผิด แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน ก็มีการนำเอาที่ดินบริเวณนี้ไปออกโฉนดทันที ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไร ตนจึงจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการขอยกเลิกเอกสารสิทธิทั้งหมด เพราะเห็นว่าผืนป่าบริเวณนี้เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีไม้หลายชนิดขึ้นอยู่ บางแห่งเป็นภูเขา ซึ่งทุกฝ่ายน่าจะสำนึกในความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่เช่นนั้นผืนป่าบริเวณนี้จะเหลือเพียงภูเขาหัวโล้น และจะเกิดภัยพิบัติตามมา อาทิ อุทกภัย วาตภัย จนเกิดความเสียหาย เช่น อ.น้ำก้อ และ อ.หล่มเก่า ที่ประสบอุทกภัยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายหลายหลังคาเรือนและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้หลายฝ่ายเล็งเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และระลึกถึงพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตรัสไว้ให้ทุกคนช่วยกันรักษาป่า

[สายน้ำ]

ไทยโพสต์


คนชอบล่า สัตว์ต้องหลบ                            :                              คอลัมน์โลกน่ารู้

นักวิจัยพบว่า  การล่าสัตว์และหาของป่าของมนุษย์ ส่งผลต่อวิวัฒนาการของสัตว์และพืช บรรดาสิ่งมีชีวิตได้มีขนาดเล็กลงและแพร่ขยายพันธุ์เร็วขึ้น

ผลการศึกษาการล่าสัตว์  จับปลา  และเก็บหาของป่าทั้งสัตว์และพืช 29 ชนิด บ่งว่าเมื่อถูกกดดันจากมนุษย์ สิ่งมีชีวิตได้มีขนาดเล็กลง 20% และผสมพันธุ์เร็วขึ้น 25%

การที่คนเราจ้องล่าสัตว์ที่ตัวใหญ่ๆ ส่งผลต่อวิวัฒนาการสูงกว่าการล่าของสัตว์นักล่าชนิดอื่นๆ ซึ่งมุ่งจับเหยื่อที่ตัวเล็กและอ่อนแอ

คริส  ดารีเมาต์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตาครูซ รายงานในวารสาร Proceedings of  the  National Academy of Sciences ว่า คณะวิจัยได้คำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงลักษณะโดยใช้หลักการที่เรียกว่า  "ดาร์วิน"   ซึ่งตั้งชื่อตามชาร์ล   ดาร์วิน   ผู้เสนอทฤษฎีการเลือกสรรตามธรรมชาติ เพื่ออธิบายวิวัฒนาการ

นักวิจัยได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงขนาดของปลา  หอย  หอยทาก  แกะ และกวางแคริบู กับพืช 2 ชนิด คือ บัวหิมะหิมาลัย กับขิงอเมริกัน

ปรากฏว่า ในทุกกรณีสัตว์และพืชที่มนุษย์ต้องการได้มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และเริ่มแพร่พันธุ์ในช่วงอายุที่ลดลงๆ

ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวพวกมันเองต้องสูญพันธุ์.


*************************************************************************************************************************


ญี่ปุ่น'รับไม่ได้' จีนพัฒนาก๊าซฯ ใกล้ทะเลพิพาท

รัฐบาลโตเกียวยืนยัน "ยอมรับไม่ได้" ที่จีนพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ใกล้กับพื้นที่พิพาทกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนตะวันออก หลังจากรัฐบาลจีนยืนกรานแหล่งก๊าซฯ นั้นอยู่ในน่านน้ำของจีน

รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความไม่พอใจที่จีนพัฒนาแหล่งก๊าซเทียนไว่เทียน ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่พิพาท ที่จีนและญี่ปุ่นเคยทำข้อตกลงกันไว้เมื่อเดือน  มิ.ย.ปีที่แล้ว  โดยญี่ปุ่นระบุว่าการพัฒนาแหล่งก๊าซแห่งใหม่ควรระงับไว้ก่อนจนกว่าจะมีการเจรจาสะสางปัญหาสถานะของพื้นที่นั้นๆ

"พื้นที่นี้ควรมีการเจรจากันก่อน   รัฐบาลญี่ปุ่นรู้สึกเสียใจที่จีนพัฒนาแหล่งก๊าซฯ  นั้นโดยฝ่ายเดียว" ทาเคโอะ  คาวะมุระ  รัฐมนตรีประจำคณะรัฐมนตรีกล่าวเมื่อวันจันทร์  "ญี่ปุ่นไม่อาจยอมรับการพัฒนาโดยฝ่ายเดียวของจีน"

ภายใต้ข้อตกลงที่ทำกันไว้นั้น ญี่ปุ่นตกลงจะลงทุนพัฒนาแหล่งก๊าซแห่งหนึ่ง  และร่วมพัฒนาอีกแหล่ง

ข้อตกลงนี้ยังกำหนดเงื่อนไขว่า  ทั้งสองชาติจะเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับแหล่งก๊าซฯ  อื่นๆ  ต่อไป  ขณะที่จีนอ้างว่าตนมีสิทธิพัฒนาแหล่งก๊าซฯ อื่น  ข้อตกลงฉบับนี้ไม่ได้เจาะจงถึงแหล่งเทียนไว่เทียนไว้ด้วย แต่ญี่ปุ่นแย้งว่าแหล่งนี้อยู่ในข่ายที่ต้องเจรจาเพิ่มเติม

"ตามความเข้าใจของเรา  สถานะของแหล่งก๊าซฯ อื่นๆ นอกเหนือข้อตกลงทางการเมืองฉบับนี้ยังว่างเปล่าดังนั้นสถานะของมันควรจะคงไว้ดังเดิม"   คาวามุระกล่าว

ก่อนหน้านี้   ฮิโรฟุมิ   นากาโซเนะ  รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นยืนยันว่า ญี่ปุ่นได้ประท้วงจีนอย่างเป็นทางการแล้ว   อย่างไรก็ตาม   กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า  แหล่งเทียนไว่เทียนนี้อยู่ภายในน่านน้ำของจีนที่ไม่ได้เป็นกรณีพิพาท.

[สายน้ำ]

แนวหน้า


ผบช.ภ.8เตรียมเดินหน้า จัดระเบียบท่าเรือเกาะพะงัน สกัดมาเฟียขูดรีดเงินนักเที่ยว    
 
 สุราษฎร์ธานี:พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 เปิดเผยภายหลังร่วมแถลงข่าวการสอบสวนปากคำนายทิวัตต์ เกษมโภค หรือ อีด อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาฆ่านางแอสทริด อัล อัลซาล ชาร์เนอร์ อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ที่บริเวณหาดในวก พื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน ว่า สำหรับคดีดังกล่าวได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายและเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล และแม้นายธิวัตต์จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน แต่เราก็ต้องทำสำนวนการสอบสวนอย่างรัดกุม เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีที่กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของ อ.เกาะพะงัน และประเทศไทย

 ทั้งนี้ต้องชมเชยตำรวจเกาะพะงัน ที่ทำงานอย่างรวดเร็วและรัดกุมและยอมรับว่า แม้คดีที่เกิดขึ้นจะมาจากความผิดส่วนตัวที่ผู้ชายกระทำต่อผู้หญิงอันเป็นสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง แต่ก็ทำให้ภาพพจน์ด้านความปลอดภัยของเมืองท่องเที่ยวได้เสียหายไปแล้ว ซึ่งตนได้กำชับไปยังทุก สภ.ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้เพิ่มมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวให้เข้มข้นขึ้นอีก อาจจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มสายตรวจเดินเท้าในพื้นที่ล่อแหลม หรือพื้นที่เปลี่ยวให้มากขึ้น

 ซึ่งหลังเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวถูกฆ่าเสียชีวิตที่บน อ.เกาะพะงัน ในวันที่กำลังมีการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ทำให้ข่าวที่ออกไปส่งผลต่อภาพลักษณ์การจัดงานดังกล่าวบนเกาะพะงันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีการร้องเรียนว่า นอกเหนือจากพื้นที่ อ.เกาะพะงัน ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว ยังมีการร้องเรียนว่ามีกลุ่มมาเฟียเรียกเก็บเงินขณะเข้าไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บริเวณหาดริ้น โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เส้นทางเข้าออกผ่านทางท่าเทียบเรือสปีดโบ๊ต ลักษณะเหมือนกับการเก็บค่าเหยียบย่ำแผ่นดิน ซึ่งเรื่องนี้ภายหลังรับเรื่องร้องเรียนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบก.ศสส.ภ.8 จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหาข่าว และข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นพบว่ามีการเรียกเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ต จาก อ.เกาะสมุย ไปขึ้นที่ท่าเทียบเรือบริเวณหาดริ้น อ.เกาะพะงันจริง รายละ 100 บาท ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการสรุปปัญหาและตัวการที่ดำเนินการเก็บเงินดังกล่าว เพื่อเสนอรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจะเสนอให้มีการจัดระเบียบท่าเรือใหม่ทั้งหมด


*******************************************************************************************************************************


‘เพชรบูรณ์’เปิดเส้นทางลัด ร่นระยะเวลาขึ้นชมภูกระดึง    
 
 เพชรบูรณ์:นายเสรี จูบุญส่ง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.นี้ เป็นต้นไป อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ จะเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวขึ้นภูกระดึง จ.เลย ซึ่งจะต้องใช้แส้นทางปผ่านบ้านฟองใต้ หมู่ที่ 7 ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว ซึ่งเป็นทางขึ้นภูกระดึงแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมวิวยามพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหล่มสักที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่ขึ้นภูกระดึง จะต้องมาถึงผาหล่มสักเพื่อเก็บภาพประทับใจบริเวณนี้ และที่สำคัญจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ได้เป็นอย่างดี

 ทั้งนี้เส้นทางขึ้นภูกระดึงฝั่งบ้านฟองใต้ ถูกผลักดันและทำพิธีเปิดเส้นทางอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นโครงการของนายดิเรก ถึงฝั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในขณะนั้น แม้ว่าจะถูกกำหนดข้อจำกัดจากทางอุทยาน แต่เส้นทางดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากอยู่ใกล้ผาหล่มสัก ซึ่งมีระยะทางเพียง 5 กิโลเมตร จาก 20 กิโลเมตรหากขึ้นที่ จ.เลย


***************************************************************************************************************************


  เปิดเทศกาลท่องเที่ยว “ล่องเรือแลนกทะเลน้อย” ร่วมชื่นชมธรรมชาติพัทลุง    
 
 พัทลุง:นายอรชุณห์ นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานประชุมคณะทำงานดำเนินการจัดงานเทศกาล “ล่องเรือ แลนกทะเลน้อย ” ประจำปี 2552 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 มี.ค.-15 เม.ย.นี้ ที่บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง

 สำหรับในปี 2552 จ.พัทลุง ได้กำหนดให้เป็นปีท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง (welcome Phatthalung 2009) ดังนั้นในเทศกาลล่องเรือแลนกทะเลน้อยในปีนี้ จึงมีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ และหลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ชาวต่างประเทศ อาทิ การอำนวยความสะดวกด้านที่พัก อาหาร การเดินทาง ความปลอดภัย และด้านอื่นๆ

 โดยในส่วนของกิจกรรม นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสดอกบัวที่สวยงามแดงสะพรั่งทั่วท้องทะเลน้อยนับล้านดอกจนได้รับการขนานนามว่า “ทะเลล้านบัว” และนกนานาชนิดแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ การวิ่งทะเลน้อยมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน การประกวดนางงามพัทลุง การจัดการแสดงทางวัฒนธรรม เส้นทางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม การล่องเรือชมนกทะเลล้านบัว และมหกรรมอาหารพัทลุง ซึ่งคาดว่าจะสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จ.พัทลุง อย่างแน่นอน

[สายน้ำ]

สำนักข่าว INN


รวบไต๋เรือพร้อมลูกเรือแอบหาปลาอันดามัน

ตำรวจสตูล รวบไต๋เรือประมงพร้อมลูกเรือ ลอบหาปลาในทะเลอันดามัน ก่อนยึดของกลางเรืออวน 3 ลำ และปลากะตัก จำนวนหนึ่ง

นายปรีชา บริเพ็ชร หัวหน้าป้องกันและปราบปรามประมงทะเล เกาะหลีเป๊ะ ได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมเรือตรวจการณ์ 241 ลาดตระเวนทะเลอันดามัน บริเวณ ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล พร้อมจับกุมเรืออวนครอบ ปลากะตัก จำนวน 3 ลำ  ได้ผู้ต้องหา จำนวน 15 คน นำโดย นายฮวด หัตตาหยง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นไต๋เรือ อยู่บ้านเลขที่ 13 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล และได้ของกลางเป็นปลากะตัก จำนวน 800 กิโลกรัม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธร อ.ละงู ต่อไป


******************************************************************************************************************************


เปิดตัวรู้เฟื่องเรื่องกฎหมายป่าไม้  

เปิดตัวรู้เฟื่องเรื่องกฎหมายป่าไม้ในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อป้องกันประชาชนรู้เท่าไม่ถึงการณ์

นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด, นายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ กรรมการเนติบัณฑิตยสภา ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือรู้เฟื่องเรื่องกฎหมายป่าไม้ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ต้องการให้ประชาชนมีความรู้เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ภาษาเข้าใจง่าย โดย นายชัยเกษม กล่าวว่า โครงการจัดพิมพ์หนังสือรู้เฟื่องเรื่องกฎหมายป่าไม้ สืบเนื่องจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงงานเป็นอัยการ จ.อุดรธานี จึงทรงเห็นว่ามีประชาชนจำนวนมาก ถูกจับกุมดำเนินคดีตัดไม้และบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การตัดไม้จากในพื้นที่ของเอกชน ซึ่งไม้สักเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งแม้จะอยู่ในที่ของตนก็ต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ และคดีการบุกรุกพื้นที่เขตอุทยาน

โดยหนังสือดังกล่าวจะมุ่งให้ความรู้ด้านป่าไม้ ที่ใช้รูปแบบการสนทนากันของตัวการ์ตูน ภาษาไม่ซับซ้อนอ่านและเข้าใจง่าย ภาพประกอบสบายตา ซึ่งได้จัดพิมพ์ทั้งสิ้น 1 หมื่นเล่ม และแจกจ่ายไปตามโรงเรียนหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงประชาชนที่สนใจ และเมื่อมีการเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนแล้ว เชื่อว่าการดำเนินคดีกับประชาชนในเรื่องของป่าไม้จะลดลง