สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ และมีฝนได้บางพื้นที่ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. 2552 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งและอุณหภูมิลดลง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้ บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ สำหรับในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. 52 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ไทยรัฐ


อินโดแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ เตือนสึนามิกลางดึก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 01.34 น. ตามเวลาท้องถิ่นอินโดนีเซียหรือตรงกับ 00.34 น. ตามเวลาในไทย สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซีย ออกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว แต่ได้ยกเลิกในอีก 1 ชั่วโมงต่อมา ด้านศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ รายงานว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ห่างจากเมืองมานาโด  ไปทางเหนือค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 320 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 33 กิโลเมตร  เบื้องต้นศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่ามีขนาด 7.5 ริกเตอร์แต่ได้ปรับลดลงเหลือ 7.0 ริกเตอร์ ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย ระบุว่า วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.4 ริกเตอร์  และว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก 2 ครั้ง ขนาด 5.6 และ 5.9 ริกเตอร์ ภายใน 1 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหว


*****************************************************************************************************************************


นักวิจัยออสซี่ชี้โลกร้อน ต้นตอไฟป่าผลาญแรง
 
นักดับเพลิงชาวออสเตรเลียกว่า 4,000 นายพยายามควบคุมไฟป่าที่ยังลุกไหม้พื้นที่ทางตอนใต้ในรัฐวิกตอเรียอีกกว่า 20 จุดเมื่อ 11 ก.พ. ทั้งยังสามารถช่วยชีวิตตัววอมแบทและโคอาลาเอาไว้ได้เป็นจำนวนมาก แต่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 181 ศพ และสื่อมวลชนคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 300 ศพ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรียตั้งรางวัลมูลค่า 1 แสนดอลลาร์ แก่ผู้แจ้งเบาะแสมือเพลิงที่ก่อเหตุโดยอาศัยไฟป่าบังหน้า ขณะที่นักฟุตบอลชาวออสเตรเลียจัดการแข่งขันรอบการกุศลที่ญี่ปุ่น เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อไฟป่าด้วย

ด้านนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2563 เพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน หลังคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบภาวะโลกร้อนระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติระบุสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียทวีความรุนแรงมากกว่าทุกปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและปรากฏการณ์เรือนกระจก ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดภัยแล้งและไฟป่าในภาคใต้ แต่เกิดน้ำท่วมหนักในภาคเหนือ ส่วนอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นเป็นอันตรายต่อแนวปะการังเกรต แบร์ริเออร์ รีฟ. 
 

***************************************************************************************************************************


เกาะรูปหัวใจดังกระฉ่อนโลก


 
เกาะเล็กๆเกาะหนึ่งในทะเลอาเดรียติก กลายเป็น “เกาะสวาทหาดสวรรค์” คนจำนวนมากอยากไปพักผ่อนฉลองวันเซนต์ วาเลนไทน์ (St. Valentine's Day) เทศกาลแห่งความรักประจำปีนี้...

หลังจากเว็บไซต์ อินเตอร์เน็ต “กูเกิ้ลเอิร์ธ-Google Earth” เผย แพร่ภาพรูปโฉมของเกาะดังกล่าว ซึ่งธรรมชาติบรรจงเนรมิตให้ลักษณะเหมือนรูปหัวใจ สัญลักษณ์ แห่งความรัก โดยไม่ต้องพึ่งใครแต่งเติมเสริมสร้าง

เกาะรูปหัวใจตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลประเทศโครเอเชีย พื้นที่แค่ 130,000 ตารางหลา เดิมชื่อเกาะกาเลสน์แจ็ค ไม่มีคนอยู่อาศัยถาวร แต่มีเจ้าของครอบครอง กรรมสิทธิ์

เจ้าของเกาะเองก็ไม่คิดว่ารูปร่างมันจะเหมือนรูปหัวใจเปี๊ยบเช่นนี้ จนกระทั่งคนจากทั่วโลกติดต่อขอเช่าพักผ่อนวันวาเลนไทน์ บอกเห็นภาพและข้อมูลในกูเกิ้ลเอิร์ธ “น่าอัศจรรย์เหลือเชื่อจริงๆ ผมมั่นใจเกาะนี้เหมือนรูปหัวใจที่สุดในโลก” วลาโด้ จูเรสโก้ สมาชิกครอบครัวเจ้าของเกาะบอกด้วยว่า “เราเปลี่ยนชื่อเป็น-เกาะคู่รัก-Lovers' Island' ” เรียบร้อยแล้วครับ

เปลี่ยนชื่อเกาะเตรียมโกยเงินเข้ากระ-เป๋าล่ะซีท่า??

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


ปรากฏการณ์"แพลงตอนบูม" ส่งผลปลาตายเกลื่อนหาดพลา
 
       ปรากฏการณ์แพลงตอนบูม หรือน้ำทะเลเปลี่ยนสี เกิดขึ้นบริเวณชายหาดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง สร้างความแตกตื่นให้ชาวประมงชายฝั่ง เพราะไม่เคยเกิดขึ้นในโซนนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สีน้ำทะเลขุ่น มีสาหร่ายลอยเป็นแพกระจาย ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว และปลาลอยตายเกลื่อนชายหาด แต่ไม่มีใครนำไปบริโภคเพราะกลัวอันตราย ล่าสุดได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ประมงเข้าไปตรวจสอบแล้ว

        ปรากฏการณ์แพลงตอนบูม หรือน้ำทะเลเปลี่ยนสี มักเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี พบบ่อยบริเวณชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ช่วงเปลี่ยรฤดูจากหน้าหนาวเป็นหน้าร้อน ส่งผลให้สัตว์ทะเลปรับสภาพไม่ทัน

[สายน้ำ]

ข่าวสด


ภูเก็ตอบรมกู้ชีพนักเที่ยวโดนพิษกะพรุนกล่อง

ภูเก็ต - นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้จัดโครงการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องแมงกะพรุนกล่อง การปฐมพยาบาล และการช่วยฟื้นคืนชีพ แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประกอบอาชีพทางทะเล โดยมีผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 200 คน

นายปรีชากล่าวว่า แมงกะพรุนกล่องเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรง ซึ่งมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในประเทศไทย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2538 และล่าสุดเมื่อช่วงเดือนเม.ย.51 มีนักท่องเที่ยวได้รับพิษจนเสียชีวิต 1 ราย ที่เกาะลันตา จ.กระบี่ และมีการสำรวจพบกะพรุนกล่องที่อ่าวน้ำบ่อ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากแมงกะพรุนกล่องมีพิษร้ายแรงสามารถทำให้คนเสียชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยพิษเข้าสู่กระแสเลือดไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง และเมื่อเข้าสู่ระบบประสาทก็จะกดทับระบบประสาท ทำให้หัวใจหยุดเต้น และหัวใจล้มเหลวในที่สุด

"ภัยดังกล่าวอาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ อันจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้ จึงได้จัดฝึกอบรมแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล ลูกเรือ บีชการ์ด อาสาสมัคร และชาวประมง รวมทั้งฝึกทักษะในการปฐมพยาบาล การกู้ชีพเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที เป็นการสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว" นายปรีชา กล่าว

[สายน้ำ]

เนชั่นทันข่าว


ขนส่งทางน้ำสาขากระบี่จัดกิจกรรมมอบรักสู่ทะเล 14 ก.พ.

นายชนะ คำมี หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขากระบี่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 ทางสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขากระบี่ ได้จัดกิจกรรมมอบความรักสู่ทะเล วันวาเลนไทน์ เพื่อช่วยกันรักษาความสะอาดชายหาด และท้องทะเลกระบี่ โดยการเก็บขยะตามชายหาด และตักขยะในทะเลตามเกาะต่างๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกระบี่ อาทิ หาดอ่าวนาง, หาดพนรัตน์ธารา, อ่าวไร่เลย์ ,เกาะปอดะ ,และทะเลแหวก

เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการ รวมทั้งนักท่องเที่ยว ให้มีส่วนร่วมในการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ตามแหล่งท่องเที่ยว นอกเหนือที่เราจะมอบความรักให้กับคนที่เรารัก แค่ให้ดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ เราลองมามอบความรักสู่ทะเล ในวันวาเลนไทน์บ้าง โดยการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

โดยมี อบต.อ่าวนาง, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ,สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ ,สมาคมวิทยุสมัครเล่นจังหวัดกระบี่ ,ชมรมเรือหางยาวอ่าวนาง, สหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ,ชมรมเรือหางยาวอ่าวต้นไทร ,ชมรมเรือหางยาวอ่าวน้ำเมา ,ผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวบริเวณอ่าวนาง อ่าวไลย์ ,นักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมมอบความรักสู่ทะเล วันวาเลนไทน์

นอกจานั้นยังมีโรงเรียนแจ้งความประสงค์ที่จะขอให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 3 โรงเรียนด้วยกัน เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือสังคม รวมทั้งการห่วงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะท้องทะเล ซึ่งเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีสวยงาม มีเกาะเก่งต่างๆที่สวยงามมากมาย ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวปราศจากขยะและถุงพลาสติก การรักษาสิ่งแวดล้อมจึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะช่วยกันปกป้องดูแลรักษา ร่วมกับหน่วยงานราชการ

สำหรับกิจกรรม จะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น.- 12.00น.บริเวณหาดอ่าวนาง ด้วยการปล่อยพันธุ์ปลาสวยงานสู่ท้องทะเลจำนวน 1 ล้านตัว นักเรียน ประชาชน ผู้ประกอบการ รวมทั้งนักท่องเที่ยว รวมกันเก็บขยะบริเวณ หาดอ่าวนาง, หาดพนรัตน์ธารา, อ่าวไร่เลย์ ,เกาะปอดะ ,ทะเลแหวก จากนั้นลงเรืองหางยาวเก็บขยะบริเวณในท้องทะเลตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ