กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 28, 2025, 03:01:29 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552  (อ่าน 2742 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2009, 12:44:24 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามา ปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้ ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีอากาศร้อนโดยทั่วไป สำหรับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคง ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้

สำหรับในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบน


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (36.6 KB, 684x423 - ดู 413 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2009, 12:57:46 AM »

ข่าวสด


สลด"โลมา"เกาะช้างติดอวนตายอีก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. นายศรัณ จิรังศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ. ตราด รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำดูปะการังว่า พบโลมาตายที่บริเวณเกาะสุวรรณ ใกล้กับหาดไก่แบ้ หมู่ 3 ต.เกาะช้าง หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังกำนันต.เกาะช้าง ออกเรือไปนำซากโลมาขึ้นฝั่ง และจากการตรวจสอบพบมีขนาดยาว 150-180 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ตามลำตัวไม่มีบาดแผล คาดตายมาแล้ว 2-3 วัน

นายศรัณกล่าวว่า โลมาที่ตายในระยะนี้ ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเรือประมงอวนลาก และอวนรุน ที่เข้ามาทำประมงในพื้นที่ใกล้ฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณแนวปะการังที่โลมาว่ายหากินอยู่ เมื่อโลมาติดอวนทำให้ไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้ ทำให้ตาย และชาวประมงเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี จึงทิ้งโลมาให้ลอยอยู่ในทะเล ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุในลักษณะนี้


****************************************************************************************


อาหารปลา(และสัตว์น้ำ)                          :                          คอลัมน์ รู้ไปโม้ด    น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com



ตามมาตรฐานอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ คุณค่าทางโภชนาการสำคัญที่ต้องมีคือ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เถ้า เยื่อใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และกรดไขมัน ทั้งหมดนำเป็นข้อมูลพิจารณาเลือกใช้ชนิดวัตถุดิบอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์น้ำ โดยวัตถุดิบที่นิยมใช้ผลิตอาหารสัตว์น้ำแบ่งได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

1.วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทโปรตีนต่ำ หรือประเภทแป้ง เป็นกลุ่มที่ราคาถูกที่สุด และเป็นส่วนผสมหลักในสูตรอาหารส่วนมาก มีโปรตีนต่ำประมาณ 8-14 เปอร์เซ็นต์ มีแป้งมากประมาณ 70-90 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ ปลายข้าว รำข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง มันสำปะหลัง

2.วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทโปรตีนสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดี คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบครัน วัตถุดิบจำพวกนี้จำเป็นต้องผสมรวมกับวัตถุดิบอาหารจำพวก แป้ง เพื่อให้สูตรอาหารมีโปรตีนและปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นครบพอดีตามความต้องการของสัตว์น้ำ ไม่มากเกินไป วัตถุดิบจำพวกโปรตีนสูงนี้อาจแบ่งได้เป็นวัตถุดิบจากสัตว์ และวัตถุดิบจากพืช เช่น ปลาป่น เลือดป่น เนื้อป่น กระดูกป่น หางนมผง แกลบกุ้ง กากกุ้งป่น กากถั่วเหลือง กากถั่วลิสง ใบกระถินป่น ส่าเหล้า

3.วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทพลังงานสูง โดยทั่วไปได้แก่ น้ำตาลทราย กากน้ำตาล และไขมัน แต่สำหรับโภชนาการอาหารสัตว์น้ำ หมายถึงไขมันชนิดต่างๆ เนื่องจากปลาและสัตว์น้ำทั่วไปใช้น้ำตาลทรายและกากน้ำตาลได้น้อยมาก การใช้ไขมันหรือน้ำมันผสมในอาหารปลานิยมใช้ในสูตรอาหารที่มีพลังงานต่ำและเยื่อใยสูง เพราะอาหารดังกล่าวทำให้ปลาเจริญเติบโตช้า จึงต้องใช้น้ำมันปลาหรือน้ำมันพืชเพิ่มเข้าไป

น้ำมันที่นิยมใช้ ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำ น้ำมันข้าวโพด น้ำมันปลาสลิด น้ำมันตับปลาหมึกหรือน้ำมันตับปลาชนิดอื่น โดยน้ำมันเหล่านี้ส่วนใหญ่มีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบ ทำให้ปลาเจริญเติบโตได้ดี ทั้งยังมีกลิ่นหอมช่วยกระตุ้นการกินอาหารให้ดีขึ้น

4.วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทวิตามินและแร่ธาตุ โดยทั่วไปวัตถุดิบอาหารสัตว์จะมีวิตามินและแร่ธาตุอยู่แล้ว แต่อาจอยู่ในรูปที่จับตัวกับสารอื่นๆ ทำให้ปลาหรือสัตว์น้ำใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ หรืออาจมีปริมาณต่ำกว่าความต้องการของสัตว์น้ำ จำเป็นต้องใส่วิตามินและแร่ธาตุ ที่นิยมใช้ ได้แก่ พรีมิกซ์ ไดแคลเซียมฟอสเฟต และกระดูกป่น

พรีมิกซ์หมายถึงหัววิตามินและหัวแร่ธาตุซึ่งมีจำหน่ายในรูปของวิตามินรวมและแร่ธาตุรวม แต่พรีมิกซ์ถูกทำลายได้ง่ายด้วยแสง อากาศและความชื้น จึงควรเก็บในที่มืดและอุณหภูมิต่ำ นอกจากนี้ วิตามินถูกทำลายได้ง่ายเมื่ออยู่รวมกับแร่ธาตุ ดังนั้น ควรแยกวิตามินและแร่ธาตุออกจากกัน เมื่อต้องการใช้ก็นำวิตามินรวมและแร่ธาตุรวมมาผสมกันขณะอัดเม็ดอาหาร สำหรับไดแคลเซียมฟอสเฟตและกระดูกป่นเป็นแหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ดี

5.วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทกรดอะมิโนสังเคราะห์ กรดอะมิโนสังเคราะห์ที่มีขายในท้องตลาดมีอยู่ประมาณ 20 ชนิด มีคุณค่าทางโภชนา การเช่นเดียวกับกรดอะมิโนในธรรมชาติ การใช้กรดอะมิโนสังเคราะห์อาจต้องใช้เมื่อสูตรอาหารปลาหรือสัตว์น้ำที่ผลิตขึ้นมีระดับกรดอะมิโนต่ำกว่าความต้องการของสัตว์น้ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนครบ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กรดอะมิโนสังเคราะห์ แต่ถ้าจำเป็น ควรพิจารณาถึงต้นทุน เพราะกรดอะมิโนสังเคราะห์ราคาแพง

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2009, 01:01:42 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


ซากเรือสำเภาบ้านเสม็ดงาม แหล่งเรียนรู้ล้ำค่าแดนจันทบูร

  ที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของบ้านเสม็ดงามใน  ต.หนองบัว  อ.เมือง  จ.จันทบุรี  ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรีอันเงียบสงบ  หากเดินลงบันไดก็จะพบบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  บ่อน้ำนี้มีซากเรือสำเภาโบราณที่น้ำท่วมตัวเรืออยู่  ไม้โครงสร้างสร้างเรือลำนี้มากกว่าเรือสำเภาโบราณลำอื่นๆ ที่ขุดค้นพบในอ่าวไทย

     ในชุมชน   การค้นพบซากเรือลำนี้  ชาวบ้านเสม็ดงามต่างเรียกบริเวณที่พบซากเรือว่า  อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ด้วยความศรัทธา  ความเคารพนับถือ  และหวงแหน  ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ของชาติไทย   เพราะหลักฐานเอกสารประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจนว่า   สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ได้เตรียมกองทัพเรือที่เมืองจันทบูร  ก่อนจะยกทัพไปกอบกู้เอกราชจากพม่าในปี  พ.ศ.2310  อย่างไรก็ตาม  บริเวณที่พบซากเรือสำเภาเสม็ดงามเป็นอู่ต่อเรือสมัยพระเจ้าตากสินฯ จริงหรือไม่  ยังเป็นเรื่องที่จะต้องทำการศึกษาหาข้อมูลและหลักฐานต่อไป

     ซากเรือสำเภานี้เป็นหนึ่งในโบราณวัตถุสำคัญที่นำมาจัดแสดงให้คนเข้าชมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเรือสำเภาเสม็ดงาม    ที่บ่งบอกถึงความเป็นเมืองท่าโบราณของดินแดนจันทบุรี  ตลอดจนการคมนาคม  ติดต่อค้าขายทางทะเล  รวมถึงการสงคราม  และถ้าเดินขึ้นไปชมด้านในอาคารนิทรรศการถาวร  บริเวณใกล้บ่อซากเรือ  มีการจัดแสดงเรื่องราวการสำรวจขุดค้นทางโบราณคดี  เรือเสม็ดงาม  พระราชประวัติการกอบกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และเก็บรักษาโบราณวัตถุซึ่งพบในท้องทะเลจันทบุรี  เศษเครื่องถ้วยลายครามจีน  กระปุกสังคโลก  ที่น่าชื่นชมที่สุด  คือ  พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นแห่งนี้ก่อตั้งและบริหารจัดการโดยชุมชน  โดยองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว  มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่แห่งนี้โดยตรง

     พ.จ.อ.กามนิต  ดิเรกศิลป์  อดีตเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโครงการโบราณคดีใต้น้ำ  สำนักโบราณคดี  กรมศิลปากร  ผู้ควบคุมการขุดค้นทางโบราณ  เรือเสม็ดงาม  ครั้งแรก  ปัจจุบันเป็นรองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี  และรับหน้าที่วิทยากรชุมชนในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเรือสำเภาเสม็ดงาม  เล่าให้ฟังว่า  บ้านเสม็ดงามมีการขุดค้นครั้งแรกในปี  พ.ศ.2524-2525  ทำให้ทราบว่า   ซากเรือเสม็ดงามเป็นเรือสำเภาท้ายตัด   กว้าง   8  เมตร  ยาว  25  เมตร  ไม้กระดูกงูเป็นไม้ตระกูลพญาไม้  ไม้เปลือกเรือเป็นไม้เนื้ออ่อนในตระกูลไม้สน  มีฐานเสาใบ  2  เสา  ลักษณะเป็นเรือสำเภาจีนแบบฟูเจียนขนาดเล็ก  โบราณวัตถุที่พบในตัวเรือเป็นเครื่องถ้วยลายครามจีนทั้งหมด

     "แหล่งขุดค้นนี้ทำงานยากที่สุด   เทียบกับแหล่งโบราณคดีในทะเลจีนใต้  ทะเลอันดามัน  แม่น้ำโขง   เพราะการทำงานโบราณคดีมีข้อจำกัด  ขึ้นอยู่กับการขึ้นลงของน้ำตามเวลา  หัวเรือติดแม่น้ำจันทบุรี  ท้ายเรือติดป่าชายเลน  ตรวจสอบสภาพเรือ  หัวเรือทะลุ  ท้องเรือชำรุด  สันนิษฐานว่าเรือลำนี้ถูกนำขึ้นเพื่อซ่อมแซม  แต่สภาพเรือชำรุดมาก  หรือไม่มีเวลาซ่อมจึงทิ้งไว้ในอู่ซ่อม"

     พ.จ.อ.กามนิต  กล่าวอีกว่า  ในการขุดค้นครั้งที่  2  เมื่อปี  พ.ศ.2532  ทำในลักษณะเดียวกับการขุดค้นครั้งแรกและทำการบันทึกสภาพเรือโดยการถ่ายภาพ  ทำแผนผังและศึกษาเทคนิคการต่อเรือในส่วนต่างๆ  อย่างละเอียด  นอกจากนี้คณะทำงานได้ทำการขุดค้นหลุมตรวจสอบชั้นดินที่ทับถมทางโบราณคดีที่บริเวณด้านท้ายเรือ  พบหลักฐานชี้ให้เห็นว่า  เรือเสม็ดงามนี้ถูกทิ้งร้างอยู่ในอู่ซ่อมอย่างแน่นอน   จากการหาอายุด้วยวิธีคาร์บอน-14  สามารถกำหนดอายุเรือโบราณลำนี้ได้ในช่วงประมาณ  พ.ศ.2310  ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ  ทรงเตรียมยกกองทัพไปตีพม่า  เพื่อกอบกู้เอกราช

     ในแง่มุมทางด้านประวัติศาสตร์นั้น  วิทยากรชุมชนวัย  62  ปีคนเดิม  สันนิษฐานว่าเรือลำนี้น่าจะเป็นหนึ่งในเรือสำเภาที่รวบรวมมาเพื่อเป็นกำลังหลักของกองทัพเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  หัวเรือหันลงสู่แม่น้ำเตรียมออกศึก  แต่ยังซ่อมไม่เสร็จถึงถูกทิ้งร้างอยู่ในอู่ซ่อมเรือ  แม้ไม่พบศาสตราวุธในเรือ  แต่พื้นที่ใกล้เคียงนี้พบร่องรอยการตีเหล็ก  ถลุงเหล็ก  และห่างออกไปจากที่นี่  500  เมตร  มีพื้นที่หนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า  ทุ่งค่าย  มีแนวกำแพงเมือง  และคูเมือง  สันนิษฐานว่า  เป็นสถานที่ใช้ในการฝึกทหารสมัยพระเจ้าตากสินฯ ยิ่งไปกว่านั้น  ตามริมฝั่งอ่าว  ต.หนองบัว  พบแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลักษณะคล้ายอู่ต่อเรืออยู่หลายแห่ง  ขณะนี้ตนได้ประสานสำนักโบราณคดี   กรมศิลปากร  เพื่อทำการขุดค้นเพิ่มเติม  ถ้าสามารถดำเนินการได้น่าจะได้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

     นอกจากนี้  เขายังระบุว่า  ซากเรือสำเภาเสม็ดงาม  เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์การค้าขายทางทะเลระหว่างไทยกับจีน  เพราะจากการศึกษา  พบว่าเป็นเรือสำเภาจีน  และเนื่องจากเรือลำนี้ไม่ได้จมลงในท้องทะเล  แต่ถูกทิ้งร้างอยู่ในอู่ซ่อมเรือทั้งที่ยังซ่อมไม่เสร็จ  ทำให้พบซากไม้โครงสร้างเรือมากกว่าเรือสำเภาโบราณลำอื่นๆ  ที่พบในอ่าวไทย  และสิ่งที่น่าสนใจศึกษาก็คือ   ชาวบ้านเสม็ดงาม  เรียกบริเวณที่พบซากเรือว่า  อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกันต่อๆ มายาวนาน  เคารพบูชาพระเจ้าตากสินมหาราช  เห็นได้จากมีการจัดตั้งศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อสักการบูชาถึง   3   ศาลด้วยกัน  ก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาสักการะบูชาอยู่ไม่ขาด

     เราคงไม่มีวันรู้อย่างแน่ชัดว่า  บ้านเสม็ดงามเป็นอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจริงหรือไม่  ซากเรือสำเภาจีนลำนี้ยังคงเป็นหนึ่งในปริศนาทางประวัติศาสตร์เมืองจันทบูรในอดีต  ซึ่งเชื่อว่ายังมีแหล่งโบราณคดีอยู่มากมายกระจัดกระจายในดินแดนแห่งนี้  ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ต้องสำรวจและศึกษาไม่มีวันสิ้นสุด  แต่สำหรับพิพิธิภัณฑ์กลางแจ้งเรือสำเภาเสม็ดงามวันนี้เปิดต้อนรับผู้ที่สนใจตามรอยประวัติศาสตร์แล้ว  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ มีเพียงตู้รับบริจาคที่ตั้งอยู่เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษามรดกวัฒนธรรมที่สำคัญนี้เท่านั้น

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.02 วินาที กับ 19 คำสั่ง