กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 29, 2025, 12:45:01 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552  (อ่าน 4085 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:12:30 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคเหนือทำให้มีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้นำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้มีอากาศร้อนในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองกับมี ลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจาก ลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 28 ก.พ.-3 มี.ค.52 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเพิ่มขึ้นได้อีก


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีเมฆบางส่วนและอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้ ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ สำหรับในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 3 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ข้อควรระวัง

 ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 3 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (37.94 KB, 684x423 - ดู 374 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (38.64 KB, 450x489 - ดู 383 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:14:49 AM »

ไทยรัฐ


แม่น้ำคงคามีมลพิษ เต็มไปด้วยแพลงก์ตอนสัตว์เป็นมะเร็ง

นักชีววิทยาอเมริกันพบว่า น้ำในแม่น้ำคงคา อันเป็นแม่น้ำที่ชนชาวฮินดูถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์หลายช่วง เต็มไปด้วยแพลงก์ตอนสัตว์ ที่ล้วนเป็นโรคเนื้อร้าย

แพลงก์ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ซึ่งไม่สามารถว่ายน้ำไปตามต้องการได้อิสระ จำแนกได้เป็น แพลงก์ตอนพืช และแพลงก์ตอนสัตว์ โดยเหตุที่แพลงก์ตอนมีความสำคัญ เป็นข้อต้นของห่วงโซ่อาหาร ของสัตว์ต่างๆ เมื่อพวกมันเป็นเนื้อร้าย ก็จะพลอยทำให้ปลาเล็กปลาน้อยซึ่งกินมันเป็นอาหารพลอยติดโรคไปด้วย และเมื่อปลาใหญ่กินปลาเล็กกินอาหารอีกทอดหนึ่ง ก็พลอยติดโรคต่อกันไปเป็นทอดๆ ซึ่งจะรวมถึงคนที่ไปกินปลาในแม่น้ำเป็นอาหารในที่สุด

นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯได้เก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำคงคา ช่วงที่ไหลผ่านเมืองหริวอร์, กันปุระ, พาราณสี, ปัตนา และกัลกัตตาไปศึกษาที่ห้องปฏิบัติการในอเมริกา และได้นำมารายงานในที่ประชุมนักวิทยาศาสตร์ที่เมืองปัตนาว่า “มันเป็นเครื่องแสดงว่า แม่น้ำคงคามีปัญหาสุขภาพของสิ่งแวดล้อม และถ้าหากแพลงก์ตอนต้องตายเกลี้ยง ในแม่น้ำก็จะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย” และกล่าวเสริมว่า “เป็นเพราะการทิ้งขยะมูลฝอยลงแม่น้ำ ไปเลี้ยงให้พวกแบคทีเรียเจริญเติบโต”
เคยมีการประมาณว่า นับแม่น้ำคงคาช่วงตั้งแต่เมืองกอมุก ไปจนไหลลงสู่อ่าวเบงกอล ระยะทาง 2,510 กม.ได้มีการปล่อยน้ำโสโครกทิ้งลงสู่แม่น้ำเป็นปริมาณเกือบ1 พันล้านลิตร.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:22:39 AM »

มติชน


นาซ่ามึนดาวเทียมโลกร้อนดิ่งทะเล   สูญเงินเปล่า300ล.-เร่งหาสาเหตุ

นาซ่าผิดหวังดาวเทียมสำรวจโลกร้อนดวงแรกขององค์กรไปไม่ถึงวงโคจร ดิ่งร่วงสู่มหาสมุทรแอนตาร์กติกเสียก่อน สูญเกือบ 300 ล้านดอลล์ รอผลสอบเหตุล้มเหลว

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) ของสหรัฐอเมริกา แสดงความผิดหวัง หลังดาวเทียมสำรวจภาวะโลกร้อนดวงแรกของนาซ่าที่ถูกส่งขึ้นไปสำรวจการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศซึ่งก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกหรือโลกร้อนนั้น ประสบความล้มเหลวโดยเข้าสู่วงโคจรไม่ได้ ก่อนดิ่งตกลงในมหาสมุทรแอนตาร์กติก เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ดาวเทียมสำรวจภาวะโลกร้อนดวงนี้มีชื่อว่า "โอซีโอ" มีมูลค่า 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาพัฒนานาน 8 ปี ได้ถูกปล่อยออกจากฐานยิงโดยจรวดขนส่ง "ทอรัส เอ็กซ์แอล" ที่ฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลา 01.55 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันเดียวกัน โดยการทะยานออกจากฐานยิงเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อโครงสร้างทรงกรวยด้านนอกที่ห่อหุ้มเป็นเครื่องป้องกันดาวเทียมดวงนี้ในขณะเคลื่อนที่นั้น ไม่ยอมแยกตัวออกจากโอซีโอ ทำให้ดาวเทียมไม่สามารถเข้าสู่วงโคจรได้และดิ่งตกมหาสมุทรแอตแลนติกในไม่กี่อึดใจต่อมา

นายชัค โดเวล ผู้อำนวยการฝ่ายการบินของนาซ่ากล่าวถึงความล้มเหลวของภารกิจนี้ว่า "เป็นความผิดหวังครั้งใหญ่สำหรับวงการวิทยาศาสตร์" และว่า ตัวแปรยังบ่งชี้ว่ายานทั้งหมดได้เผาไหม้ตัวเองในชั้นบรรยากาศ สารพิษไฮดราซีนซึ่งเป็นเชื้อเพลิงบรรจุบนยานดังกล่าวจึงไม่เป็นภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม

นับเป็นครั้งแรกที่นาซ่าใช้จรวดทอรัสในการขนส่งดาวเทียมสำรวจภาวะโลกร้อนดวงแรกนี้ของนาซ่า ซึ่งนายจอห์น บรันส์ชูเลอร์ ผู้อำนวยการโครงการจรวดทอรัส จากบริษัท ออร์บิทัล ไซเอ็นซ์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตจรวดขนส่งรุ่นนี้ กล่าวว่า ระบบขนส่งนี้มีประวัติเกือบสมบูรณ์แบบในปฏิบัติการที่ผ่านมาระหว่างปี 2537-2547 โดยไม่เคยมีปัญหาใดๆ มาก่อน รวมถึงเรื่องแบบโครงสร้าง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสอบสวนของนาซ่าจะทำการสอบสวนหาสาเหตุของภารกิจที่ล้มเหลวครั้งนี้ต่อไป

ดาวเทียม "โอซีโอ" เป็นดาวเทียมสำรวจภาวะโลกร้อนดวงแรกของนาซ่าที่มีเป้าหมายทางภารกิจในการขึ้นไปสำรวจการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ แต่ไม่ใช่ดาวเทียมสำรวจภาวะโลกร้อนดวงแรกของโลก เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (จาซ่า) ได้ส่งดาวเทียมสำรวจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกดวงแรกของโลกชื่อ "โกแซท" ขึ้นสู่วงโคจรแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยนักวิทยาศาสตร์ในการหาค่าความหนาแน่นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนในชั้นบรรยากาศทั้งหมดของพื้นผิวโลก เพื่อศึกษาดูความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก (เอเอฟพี)

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:31:53 AM »

ข่าวสด


"ฮัลโหล"ใต้น้ำ                                     :                                    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์


 
สองนักวิจัยในอังกฤษ "เจมส์ โอเกอร์" กับ "จิมมี่ ลอยโซ" ภูมิใจนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคหน้าตาเหมือน "จักรกลจากต่างดาว" ชิ้นนี้...

นั่นคือ ต้นแบบระบบฮัลโหลใต้น้ำ ดิ ไอโซโฟน

เวลาจะใช้ต้องลงไปใช้ในน้ำ เอาเครื่องครอบหัว

ผู้พัฒนาบอกว่าไอโซโฟนช่วยให้มีสมาธิติดต่อสื่อสารมากขึ้น เสียงที่ได้ยังคมชัดกว่าปกติซะด้วย

แฮ่...ดูเป็นนวัตกรรมประหลาดๆ ดี แต่จะทำออกมาขายได้จริงๆ อ๊ะเปล่านั้นก็ยังน่าสงสัยอยู่!

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:36:59 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


ทร.หนุนปิดอ่าวส่งเรือรบไล่ล่าพวกฝ่าฝืน

   วันที่  25  กุมภาพันธ์  พล.ร.ท.ชัยวัฒน์  พุกกะรัตน์  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่  1  และ  ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล  นำคณะเดินทางไปยัง  จ.ชุมพร  พบปะหารือกับนายการัณย์  ศุภกิจวิเลขการ  ผู้ว่าราชการ  จ.ชุมพร  พล.ต.ต.อภิชาติ  เชื้อเทศ  ผบก.ภ.ชุมพร  เกี่ยวกับเรื่องความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว  เนื่องจากบุคลากรและอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลขาดความชำนาญ  ขาดประสบการณ์  ขาดความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการช่วยเหลือชีวิต  โดยยืนยันว่าทางกองทัพเรือพร้อมให้คำแนะนำ  และพร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงในการฝึกยามฝั่งให้กำลังพลและ  อส.ของชุมพร

     พล.ร.ท.ชัยวัฒน์เปิดเผยด้วยว่า  ระหว่างวันที่  15  ก.พ.-15  พ.ค.ของทุกปี  เป็นช่วงปลาวางไข่  ได้มีประกาศปิดอ่าว  3  จังหวัดคือ  ประจวบคีรีขันธ์  ชุมพร  และสุราษฎร์ธานี  ได้รับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานในช่วงนี้  มีเรือประมงขาดจิตสำนึกสาธารณะ   ไม่ให้ความร่วมมือกับทางการ   ลักลอบ  ฝ่าฝืนเข้ามาจับปลาในเขตหวงห้าม  ทัพเรือภาคที่  1  ต้องใช้ภารกิจร่วมเครือข่ายในศูนย์ประสานการปฏิบัติหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล  ส่งเรือรบเข้ามาสนับสนุนการปิดอ่าวเพื่อป้องปราม   หากพบผู้ใดฝ่าฝืนจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

     อย่างไรก็ตาม  ในช่วงปิดอ่าวไม่ให้ชาวประมงจับปลาเพื่อให้ปลาวางไข่แพร่พันธุ์  ยังถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ  จะต้องหากิจกรรมหรือสร้างงานเสริมให้ชาวประมงมากกว่านี้  โดยเฉพาะการท่องเที่ยว.


****************************************************************************************************************************************


แม่กลองอนุรักษ์สัตว์น้ำก่อนจะสูญพันธุ์

    นายสนม  กำเนิดอุย  นายก  อบต.คลองเขิน  อ.เมืองฯ  จ.สมุทรสงคราม  เปิดเผยว่า  นายประภาศ  บุญยินดี  ผู้ว่าราชการ  จ.สมุทรสงคราม  ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ  "มาช่วยกันอนุรักษ์สัตว์น้ำที่กำลังจะสูญพันธุ์"  ที่  อบต.คลองเขิน  ร่วมกับทางจังหวัดและประมงจังหวัด  จัดขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ชาว  ต.คลองเขิน  และตำบลใกล้เคียงมาช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำที่กำลังจะสูญพันธุ์  หากไม่ช่วยกันดูแลป้องกัน

     นายสนมกล่าวว่า  ตำบลคลองเขินมีบริเวณติดกับแม่น้ำลำคลองหลายสาย  ส่งผลให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำที่เกิดจากธรรมชาติและมีผู้มาปล่อย  แต่ปัจจุบันมีผู้ไม่หวังดีแอบใช้สารเคมี  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า  ยาเบือ  เบือกุ้ง  เบือปลา  จนอาจทำให้สัตว์น้ำต่างๆ  สูญพันธุ์ได้ในอนาคต  เพราะยาเบือนี้ทำให้พันธุ์สัตว์น้ำ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุ้งตายยกครัว  จึงอยากให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสอดส่องดูแล  และมีบทลงโทษทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด  เพราะเท่าที่ผ่านมาบทลงโทษน้อยเกินไป  ทำให้ผู้ฝ่าฝืนไม่เกรงกลัว

     นายประภาศ  บุญยินดี  ผู้ว่าราชการ  จ.สมุทรสงคราม  กล่าวว่า  สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีความผูกพันกับธรรมชาติ  แม่น้ำลำคลอง  โดยเฉพาะวิถีของคนตกกุ้งที่เป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของกุ้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ  ในอดีตนั้นมีเรือตกกุ้งเพียง  200  กว่าลำ  และมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ  เนื่องจากไม่มีกุ้งในแหล่งน้ำให้ตก  สมัยที่ตนเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม  ได้จัดทำโครงการปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามขนาด  5  ซม.  เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย  เนื่องจากกุ้งดังกล่าวมีอัตราการรอดตายสูง  ทำให้มีเรือตกกุ้งในพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณพันกว่าลำ

     อย่างไรก็ตาม  หากมีแต่ผู้จับ  แต่ไม่มีผู้ปล่อยปริมาณกุ้งก็อาจลดลงได้  ทางจังหวัดจึงได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยพันธุ์กุ้งขนาด  5  ซม.  สู่แหล่งน้ำธรรมชาติทั่ว  จ.สมุทรสงคราม  ประมาณ  10  ล้านตัว  เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด  ที่จะฟื้นฟูพันธุ์สัตว์น้ำให้คงอยู่กับท้องถิ่นต่อไป  และยังเป็นการสร้างงาน  สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่

     นายประภาศกล่าวด้วยว่า  กุ้งก้ามกรามที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาตินั้นเป็นสมบัติของส่วนรวม  จึงขอให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน   ใช้วิธีเบือกุ้งที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์น้ำ  และทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม  ซึ่งทางจังหวัดจะมีนโยบายขั้นเด็ดขาดที่จะจับกุมกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไปดำเนินคดีโดยไม่มีการรอลงอาญา.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 01:40:35 AM »

เนชั่นทันข่าว


ประมงพื้นบ้านขู่บุกเวทีอาเซียนซัมมิทฉุนมาตรการปิดอ่าว
 
นายอิศเรศ สีเอี่ยม ประธานกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านหาดแสงอรุณ หมู่ 4 ต. แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านเล็ก ต.ห้วยยาง เข้าร้องเรียนกับสำนักงานประมงจังหวัดกรณีมีเรืออวนลากเข้ามาหากินในเขต 3,000 เมตร ในเวลากลางคืน ทำให้อวนปูของชาวประมงเรือเล็กทั้ง 2 ตำบลได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังจากที่กรมประมงประกาศปิดอ่าวให้ปลาทูวางไข่ ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 พฤษภาคม แต่เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดอ้างว่าดูแลได้ไม่ทั่วถึง และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งตำรวจเอง

" การประกาศปิดอ่าวครั้งนี้อนุญาตให้เรืออวนลากขนาด 16 เมตรทำการประมงได้เวลากลางคืน ซึ่งเป็น เรื่องที่ชาวบ้านแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะยังไม่เคยมีการทำประชาพิจารณ์หรือสอบถามความเห็นจาก ชาวประมงเรือเล็กที่มีส่วนได้เสียโดยตรง และการปิดอ่าวไม่ควรมีมาตรการยกเว้นให้เรือประมงพาณิชย์ เรากำลังหารือที่

จะไปร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบปัญหา ระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท เพื่อรักษาสิทธิในการทำกินตามวิถีชีวิตดั้งเดิม เนื่องจากการร้องเรียนหน่วยงานระดับจังหวัดไม่ได้รับความสนใจ จากนั้นจะล่ารายชื่อชาวประมงที่เดือดร้อน ทั้งจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อยื่นต่อศาลปกครองกลางให้ระงับคำสั่งปิดอ่าวที่อนุญาตให้เรือเข้า มาหากินในเวลากลางคืน เพราะไม่มีประโยชน์ในการอนุรักษ์ปลาทูตามที่อ้าง แต่ปิดอ่าวเพื่อทำให้มีการ ต่อรองผลประโยชน์กับกลุ่มทุนที่ลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้ามมากกว่าเรื่องอื่น " ประธานกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านหาดแสงอรุณ ระบุ

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
chickykai
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 04:15:05 AM »

เนชั่นทันข่าว


ประมงพื้นบ้านขู่บุกเวทีอาเซียนซัมมิทฉุนมาตรการปิดอ่าว
 
นายอิศเรศ สีเอี่ยม ประธานกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านหาดแสงอรุณ หมู่ 4 ต. แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านเล็ก ต.ห้วยยาง เข้าร้องเรียนกับสำนักงานประมงจังหวัดกรณีมีเรืออวนลากเข้ามาหากินในเขต 3,000 เมตร ในเวลากลางคืน ทำให้อวนปูของชาวประมงเรือเล็กทั้ง 2 ตำบลได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังจากที่กรมประมงประกาศปิดอ่าวให้ปลาทูวางไข่ ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 พฤษภาคม แต่เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดอ้างว่าดูแลได้ไม่ทั่วถึง และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งตำรวจเอง

" การประกาศปิดอ่าวครั้งนี้อนุญาตให้เรืออวนลากขนาด 16 เมตรทำการประมงได้เวลากลางคืน ซึ่งเป็น เรื่องที่ชาวบ้านแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะยังไม่เคยมีการทำประชาพิจารณ์หรือสอบถามความเห็นจาก ชาวประมงเรือเล็กที่มีส่วนได้เสียโดยตรง และการปิดอ่าวไม่ควรมีมาตรการยกเว้นให้เรือประมงพาณิชย์ เรากำลังหารือที่

จะไปร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบปัญหา ระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท เพื่อรักษาสิทธิในการทำกินตามวิถีชีวิตดั้งเดิม เนื่องจากการร้องเรียนหน่วยงานระดับจังหวัดไม่ได้รับความสนใจ จากนั้นจะล่ารายชื่อชาวประมงที่เดือดร้อน ทั้งจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อยื่นต่อศาลปกครองกลางให้ระงับคำสั่งปิดอ่าวที่อนุญาตให้เรือเข้า มาหากินในเวลากลางคืน เพราะไม่มีประโยชน์ในการอนุรักษ์ปลาทูตามที่อ้าง แต่ปิดอ่าวเพื่อทำให้มีการ ต่อรองผลประโยชน์กับกลุ่มทุนที่ลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้ามมากกว่าเรื่องอื่น " ประธานกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านหาดแสงอรุณ ระบุ



งง เนชั่นแฮะ ชาวประมงพื้นบ้านเค้าไม่ได้ไม่พอใจมาตรการปิดอ่าวหนิคะ เท่าที่อ่าน เค้าไม่พอใจเรื่องอนุญาตให้เรืออวนลากเข้ามาหากินในเขตน้ำตื้นได้ตอนกลางคืนไม่ใช่เหรอ หรือเราอ่านไม่เข้าใจแฮะ
บันทึกการเข้า

***********************************************************************
ไม่สวย แต่เลือกมาก
ทางเลือกเป็นของทุกคน แต่เลือกแล้วต้องยอมรับผลทั้งหมดที่ตามมา
แม่หอย
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1404



« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 11:09:09 AM »

งงเหมือนกันค่ะ.. การพาดหัวข่าวของสื่อ บางทีอ่านแล้วต้องตั้งสติทำความเข้าใจใหม่.. ไม่งั้นอาจเข้าใจไปคนละเรื่องได้
ประมงพื้นบ้านไม่ต่อต้านมาตรการปิดอ่าวหรอกค่ะ เพราะเรือเล็กของเขาน่ะยังทำประมงได้ แต่เขาโวยเรื่องที่มีเรืออวนลากเข้ามาทำประมงเวลากลางคืน และเรื่องที่มีการอนุญาตให้เรือประมงขนาด 16 เมตรเข้ามาทำประมงได้ 
เรื่องข้อยกเว้น ได้ยินมาว่าที่อนุญาตให้เรือขนาดไม่เกิน 16 เมตรยังทำการประมงได้นั้นก็เพราะมีเป้าหมายจะยกเว้นให้เรือประมงขนาดเล็กแหละค่ะ เพราะขืนห้ามทำการประมงทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้นเลยก็ต้องโดนประท้วงอีก  แต่ทีนี้เมื่อมีข้อยกเว้น (หรือแม้แต่ห้ามอยู่ก็เหอะ) ก็จะมีผู้ฉวยโอกาส สร้างปัญหาอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ .. อย่างตอนนี้ในเมื่ออนุญาตเรือเล็ก บรรดาชาวประมงก็จะใช้เรือขนาดเล็กนั่นแหละ แต่เอาไปติดอุปกรณ์ล้างผลาญทะเลแบบที่เดิมใช้กับเรือขนาดใหญ่ซะ .. ไทยเราเก่งกันนักนี่คะ กับเรื่องที่เขาว่า "เลี่ยงบาลี" น่ะ
กฎหมายก็คอยออกวิ่งตามก้นผู้จ้องหลบหลีกไปสิ.. 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.023 วินาที กับ 19 คำสั่ง