ธุรกิจดำน้ำไทย...ฤาจะถูกฝรั่งยึดครอง

[สายน้ำ]

ธุรกิจดำน้ำไทย...ฤาจะถูกฝรั่งยึดครอง


ดำน้ำสนุกสนานไปในโลกใต้ทะเล

       “การดำน้ำ” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งดำน้ำที่สวยงามอยู่หลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นทะเลฝั่งอ่าวไทย ทะเลอันดามัน รวมไปถึงยังมีหมู่เกาะน้อย ใหญ่ต่างๆ จำนวนมากที่มีแนวปะการังที่สวยงาม อย่างเช่นที่ ภูเก็ต กระบี่ เกาะสุรินทร์ สิมิลัน หรือเกาะเต่า
       
       วินิจ รังผึ้ง บรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท. เป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล และมีประสบการณ์ในการดำน้ำมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ออกดำน้ำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ให้ความคิดเห็นว่า สำหรับสถานที่ดำน้ำดังๆ ของเมืองไทยก็จะเป็นที่ภูเก็ต ร้านดำน้ำในภูเก็ตส่วนใหญ่ก็จะเป็นของฝรั่ง ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นของฝรั่ง จะมีร้านที่เป็นของคนไทยอยู่บ้างบางส่วน เพราะในช่วงหลังนักดำน้ำคนไทยก็มีมากขึ้น
       
       จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าในปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาดำน้ำในประเทศไทยกว่า 5 แสนคน และมีผู้ที่สนใจเรียนดำน้ำอย่างจริงจังกว่า 8 หมื่นคน ทำให้เห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการดำน้ำ ของนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสโลกความงามใต้ท้องทะเล
       
       แต่หากมองให้ลึกลงไปในธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำของประเทศไทยเราแล้ว จะเห็นได้ว่าธุรกิจดำน้ำส่วนใหญ่จะเป็นของชาวต่างชาติที่เป็นผู้ประกอบการ รวมไปถึงผู้ฝึกสอนดำน้ำก็เป็นฝรั่ง เรียกว่าฝรั่งเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในวงการดำน้ำไทย
 
 
นักท่องเที่ยวดำน้ำดูความงดงามของท้องทะเล    
 
       “โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้มีอคติกับฝรั่ง ไม่ได้คิดอยากจะขับไล่หรือว่าอะไร แต่อยากให้เขาทำตัวถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ในพื้นฐานของการประกอบธุรกิจที่ดีงาม ไม่อยากให้หลงลืมไปว่า เขาไม่ใช่เจ้าของ ” วินิจ กล่าว
       
       และเมื่อมีการตั้งข้อคำถามขึ้นมาว่า ธุรกิจดำน้ำในประเทศไทย กลายเป็นธุรกิจที่ถูกชาวต่างชาติอย่างฝรั่งยึดไปแล้วหรือไม่นั้น เรื่องนี้พลัง ยิ้มพานิชย์ ผู้ฝึกสอนดำน้ำที่สถาบัน Sport Time Dive Center และเป็นหนึ่งในชมรมผู้สอนดำน้ำไทย กล่าวว่า ถ้าดูจากสัดส่วนธุรกิจดำน้ำของคนไทยกับฝรั่ง แล้วพูดแบบภาพรวมโดยไม่เน้นที่ตัวเลข ให้ดูที่เจ้าของจริงๆ ก็จะเป็นของฝรั่งกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
       
       ซึ่งจากคำตอบของพลัง สอดคล้องกับความคิดเห็นของมนัสสวีร์ อยู่ทวี ผู้ที่มีกิจการร้านดำน้ำเป็นของตัวเองชื่อว่า Dive Info Shop ที่กรุงเทพฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำถามที่ฝรั่งเข้ามายึดอาชีพดำน้ำของไทยหรือไม่นั้นว่า
       
       “จะว่ายึดก็ไม่เชิง คือสัดส่วนผู้ประกอบการของฝรั่งเยอะมาก ถ้าคนไทยลงทุนและก็เป็นผู้ประกอบการได้เยอะขึ้นก็คงดี เพราะว่าตอนนี้ธุรกิจดำน้ำจำนวนเงินเข้าประเทศเยอะมาก แต่พอผู้ประกอบการเป็นฝรั่งเยอะ ก็จะไปทางเขาหมด ถ้าจะไปเข้ากระเป๋าฝรั่งคนไทยก็ได้เป็นแค่ลูกเรือ แม่ครัว หรือเด็กเรือ แต่เราก็จะได้เข้ากระเป๋านิดหน่อย ถ้ามีคนไปลงทุนแล้วทำให้ดี จริงๆคนไทยมีศักยภาพทำได้ เพียงแต่ว่าคนไปลงทุนน้อย”
       
       ด้านพลัง ยิ้มพานิชย์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ดูเหมือนฝรั่งจะเข้ามายึดอาชีพดำน้ำของคนไทยนั้น อาจจะเกิดจากการที่วงการดำน้ำไทยยังขาดทรัพยากรที่สำคัญ คือ ทรัพยากรทางด้านบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านการดำน้ำยังไม่เพียงพอ และอีกเรื่องก็คือเรื่องของวัฒนธรรมที่จะสื่อสารกัน
 
 
ความสวยงามใต้ท้องทะเลไทยที่กำลังถูกฝรั่งยึดครอง 
 
       “การดำน้ำ เราต้องลงเรือไปดำน้ำด้วยกันตลอด คือเกือบจะ 24 ชม. บางครั้งไปถึง 4-5วัน ก็จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน ความใกล้ชิดมันมีมากกว่าไกด์ปกติ ฉะนั้นคนที่ไม่มีความลึกซึ้งก็จะไม่รู้สึกสนุกไปด้วย มันจะอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่า เรือก็ลำไม่ใหญ่จะหนีไปไหนก็ไม่ได้ อีกเรื่องที่เราเสียเปรียบฝรั่งคือเรื่องของภาษา คนที่เป็นผู้สอนส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนกรุงเทพไม่ใช่คนท้องถิ่นของที่นั่น ถ้าเป็นคนท้องถิ่นก็จะดีมากกว่า ที่ฝรั่งเข้ามาเยอะเพราะว่าอ่านตำราการดำน้ำมาเยอะ และตำราดำน้ำส่วนมากก็เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เขาได้เปรียบเรา” พลัง อธิบาย
       
       ดูเหมือนว่าฝรั่งจะเข้ามามีบทบาท และมาสร้างอิทธิพลในวงการดำน้ำไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากกรณีที่วินิจ รังผึ้ง ได้เขียนบทความเรื่อง “อย่าให้ฝรั่งครอบครองอันดามัน" ลงในคอลัมน์ “ถนนคนเดินทาง” ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันติดต่อกันถึง 2 ตอนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
       
       โดยวินิจ ได้เขียนเล่า ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในขณะดำน้ำเพื่อถ่ายภาพปลาการ์ตูนปานดำ บริเวณกองหินริเชลิว ที่ได้เจอนักดำน้ำฝรั่งเข้ามาทำกิริยาไม่เหมาะสม มาหาว่านักดำน้ำคนไทยกำลังทำลายทรัพยากรใต้ทะเลอยู่ ถึงกับขนาดเอามีดออกมาข่มขู่อยู่ใต้น้ำ และที่ไปกว่านั้นคือ มีการยื่นมือมาปัดหน้ากากดำน้ำของวินิจออกและว่ายน้ำหนีไป ซึ่งเป็นการกระทำที่ย่ำแย่มากอาจทำให้นักดำน้ำตกใจ จนอาจเกิดอันตรายได้
 
  
ปลาการ์ตูนในดงดอกไม้ทะเล(ภาพ : นวิษฐ ยศะสินธุ)  
 
       จากเหตุการณ์นี้ มนัสสวีร์ ผู้ที่ชื่นชอบโลกใต้ท้องทะเล และได้ออกทริปดำน้ำบ่อยๆ บอกว่าตัวเธอเองไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งทำกับคนไทย หรือคนไทยทำกับคนไทย สามารถแจ้งตำรวจจับได้ว่าพยายามฆ่าได้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย ตรงนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ดำเนินการตามกฎหมายได้ อีกส่วนหนึ่งก็คือ พวกผู้ประกอบการกับสถาบันดำน้ำต้องช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย
       
       “การดำน้ำจริงๆ แล้วมีกฎกติกามารยาทอยู่ เรื่องการไปดึงอุปกรณ์คนอื่นออกมาไม่ว่าจะเป็นหน้ากากหรืออื่นๆ เป็นการเสียมารยาทอย่างแรง และมันก็อันตรายถึงชีวิตเพราะว่าเราอยู่ใต้น้ำไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ ที่จริงกีฬาดำน้ำเป็นกีฬาที่ปลอดภัยถ้าเราอยู่ในกติกามารยาท เพราะจริงๆเวลาดำน้ำเวลาสอนก็เน้นเรื่องความปลอดภัย สอนให้ทำยังไงให้ปลอดภัย การไม่ปลอดภัยส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือความเสียหาย เกิดขึ้นเพราะคนแหกกฎ หรือไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ กฎมีอยู่ก็ไม่ทำ ก็อยากให้ทุกคนดำน้ำอย่างปลอดภัยและก็ช่วยดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล” มนัสสวีร์ บอกจากความรู้สึก
       
       ทางด้านพลัง ครูสอนดำน้ำ บอกว่าเหตุการณ์ที่วินิจ เจอแบบนี้เขามองว่า เป็นทัศนะคติของฝรั่งพวกนี้มากกว่า ที่มักจะมองตัวเองเหนือกว่าคนอื่น หรืออาจจะเป็นเพราะคนรอบข้างที่พวกเขาเคยเจอคนที่ไม่ดีมาก่อน บางทีก็จะพยายามแสดงให้ลูกทัวร์ของพวกเขาเห็นว่าเขาเป็นคนอนุรักษ์ธรรมชาติ
       
       “ผมกล้ายืนยันว่าไม่มีนักดำน้ำที่ลงไปในน้ำแล้วทำลายสิ่งแวดล้อมโดยเจตนา ซึ่งเมื่อก่อนเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ค่อยมี แต่ระยะหลังนี้เริ่มมีมากขึ้น เหตุการณ์แบบนี้สามารถดำเนินคดีได้ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะความไม่ให้เกียรติกัน ต้องมีการควบคุมคนพวกนี้ ไม่ให้เขาเข้ามาเอาผลประโยชน์จากทรัพยากรของเรา” พลัง กล่าว
 
 
สีสันของฝูงปลาในโลกใต้ทะเล 
 
       สำหรับวินิจ เขาอยากจะบอกกับนักดำน้ำชาวต่างชาติทุกคนที่เข้ามาดำน้ำในประเทศไทยว่า “อย่ามาดูถูกคนไทยหรือเหยียดสีผิว เพราะพื้นฐานนักดำน้ำของคนไทยเดี๋ยวนี้เป็นไปตามมาตรฐาน ต้องมีการสอบการดำน้ำด้วย ฝรั่งที่เข้ามาดำน้ำในประเทศบางส่วนเข้ามาดำน้ำเพื่อเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้เข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง ผมไม่เห็นด้วยว่ามาตรฐานของฝรั่งดีกว่า เกิดการพัฒนามากขึ้น มาตรฐานของคนไทยก็เพิ่มมากขึ้นสู้ต่างประเทศ”
       
       พร้อมกันนี้ยังได้ฝากทิ้งท้ายถึงอนาคตของวงการธุรกิจดำน้ำไทยไว้ว่า ธุรกิจดำน้ำของประเทศไทยแนวโน้มน่าจะมีมากขึ้น มีการลงทุนของผู้ประกอบการคนไทยมากขึ้น เหมือนกับในประเทศอื่นๆ หลายประเทศ ที่ทางรัฐบาลจะมีการส่งเสริมให้คนในประเทศมีความแข็งแกร่ง และให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เพื่อก่อเกิดการพัฒนามากขึ้น
       
       “ตอนนี้การดำน้ำในประเทศไทยมีการพัฒนามากขึ้นเทียบกับเมื่อก่อน ณ วันนี้ถ้าให้คนไทยล้วนๆ ทำเลยก็คงทำได้ รับรองว่าจะไม่กระทบกับอะไรต่างๆ อย่างประเทศมาเลเซียเขาก็จะไม่เปิดโอกาสให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศของเขา บ้านเราเป็นประเทศที่ปล่อยปละละเลยให้ใครเข้ามาทำอะไรก็ได้ เราต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้เพราะจะได้เกิดการพัฒนา อยากเห็นคนไทยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้บริหารการดำน้ำ ได้เข้ามามีบทบาทอย่างจริงจัง” วินิจ ถ่ายทอดความรู้สึกจากใจ
 


จาก     :     ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 29 พฤษภาคม 2550

[WayfarinG]

ไม่ว่าตอนไหน..ประเทศไทย..สุดที่รักของพวกเรา..ก็ดำเนินนโยบาย..'รักนะ..ฝรั่งหัวแดง...' อย่างสม่ำเสมอ..


สงสัย...ว่าสมัยก่อน..เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้อิสระภาพไปทำไม..


เพื่อในที่สุดแล้ว...พวกหัวแดง..ก็ยังมาย่ำยี..เรายิ่งกว่าเดิมอีก..

[สายชล]

อย่ามัวแต่....เดี๋ยว....เดี๋ยว....เดี๋ยว....อยู่เล๊ย....

จะทำอะไรก็รีบทำๆเสียตอนนี้เลย เหล็กกำลังร้อน ตีง่ายออกนะคะ ปล่อยไว้ให้เย็น ตีทีก็กระเด้งกระดอน เหนื่อยแรงแถมจะเจ็บตัว โดนฆ้อนย้อนกลับตีหัวเข้าให้อีก....

เคยสังเกตไหมคะ ไม่ว่าธุรกิจประเภทไหนที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ในไทยทุกวันนี้ เริ่มจากคนไทยเราไปซื้อสินค้าต่างชาติมาขาย หรือขอเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ พอสินค้าเริ่มติดตลาด ขายดีมีกำไรงาม พวกต่างชาติก็เริ่มงอแง ไม่ขายสินค้าให้ หรือตั้งเงื่อนไขมากมายไม่ยอมต่อสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้

จากนั้นก็เข้ายึดครอง ตั้งบริษัทข้ามชาติในไทย ขายสินค้าเสียเอง ส่งคนของตนมาควบคุมดูแลกิจการ คนของรัฐก็เอาอกเอาใจให้อภิสิทธิ์มากมาย แต่กิจการคนไทยน่ะไม่ค่อยจะเหลียวแลมอง คอยกดหัวแถมจ้องจะฟันภาษี ขนาดไปนั่งเฝ้าร้านนับหัวคนมาใช้บริการหรือซื้อของกินของใช้ ขายก๋วยเตี๋ยวยังถูกบุกมานั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวเลย

เคยได้ยินว่ามีร้านดำน้ำคนไทยไปเปิดกิจการที่พีพี  มีเจ้าหน้าที่สรรพากรไปนั่งนับหัวนักดำน้ำที่มาใช้บริการ ในขณะที่ร้านฝรั่งไม่ยักจะเข้าไปทำอย่างนั้นบ้าง จนร้านดำน้ำคนไทยแห่งนั้นทนไม่ได้ต้องปิดกิจการไปเลย

ได้ยินแล้วก็ช้ำชอกใจ....อยากเกิดใหม่เป็นฝรั่งหัวแดงจังเลย....หึ่ๆ....    

[Sea Man]

.......บ้ามเมืองของเรา..........เราก็ควรดูแลให้ดี.....แต่นี้เรากันเองก็แบ่งแยกกัน..จนกล่าวได้ว่า....รวมตัวกันไม่ติด..เห็นได้อย่างงานที่แล้วมายังตัดราคาค่าสอนดำน้ำกันเองเลย...........แล้วเราจะปกป้องสมบัติของชาติกันได้อย่าไร........เราท่านทั้งหลายที่เป็นคนไทยก็ควรลดทิฐิ.....ของตัวเราเองลงบ้างเพื่อที่จะทำหน้าที่..และรวบรวมกันให้เป็นปึกแผ่น..........เหมือนไม้ไผ่ถ้ามัดรวมกันหลายๆอันก็จะเป็นพลังที่เข้มแข็งได้.............และเมื่อนั้นเราก็จมีพลังที่จะกดดันอะไรหลายๆอย่างให้บังเกิดขึ้นได้....ต่างชาติก็จะยำเกรงที่จะไม่กล้าทำอะไรที่เป็นสิ่งไม่ควร.........และเราท่านทั้งหลายก็สามมารถประกอบกิจการโดยที่ต่างชาติไม่สามารถที่จะเป็นเจ้าของได้ 100% ...........และต้องกราบเรียนมานะที่นี้ด้วยว่ามิได้...โต้แย้งกับผู้ใด....แต่เป็นการพูดจากการได้เห็นการได้สัมผัสและความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น...........และก็ยังเคารพและเห็นด้วยกับทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นออกมา.......

[สายชล]

 

เหมือนที่เราเสียกรุง 2 ครั้ง...ก็เพราะคนไทยแตกสามัคคี เห็นแก่ลาภ...ยศ...สรรเสริญ จนขายชาติ ขายบ้าน ขายเมืองได้ ใช่ไหมคะน้อง Sea Man

 

[topping]

อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ทัศนคติของคนไทยที่มีต่อคนในชาติด้วยกันเองด้วยค่ะ ... คนไทยส่วนใหญ่จะมองว่าฝรั่งเหนือกว่า มองคนไทยด้วยกันเองด้อยกว่าฝรั่ง ... ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทั้งไทยและฝรั่งก็มีทั้งที่ดีและไม่ดีปน ๆ กันไป

ยกตัวอย่างที่เคยเจอเอง ผับหนึ่งที่ถนนข้าวสาร เขาห้ามคนไทยเข้า แต่ฝรั่งเข้าได้ .. ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าประเทศไทยแท้ ๆ ยังกีดกันคนไทยด้วยกันเองเลย (เหมือนผับที่บาหลีที่โดนบอมบ์ครั้งใหญ่เมื่อสี่ห้าปีก่อน เพราะคนท้องถิ่นเข้าไม่ได้ ให้เข้าได้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ... คนพื้นที่เค้าคงหมั่นไส้ ผับนั้นเลยเป็นเป้าหมายซะ)

ถ้าคนไทยไม่มองคนไทยด้วยกันว่ามีสิทธิเท่ากัน อย่างนี้ฝรั่งคงจะครองเมืองกันได้ง่าย ๆ ล่ะค่ะ

[Sea Man]

........อันนี้ถูกต้องเลยครับพี่สาย..........ชล...........

[WayfarinG]

เอิ๊กกก...พี่ ซีแมน ... พิมพ์เกินหนึ่งประโยค... 

[Hilarious diver]

อย่ารอให้สูญเสียเลย....เราร่วมมือกันทำให้เรื่องนี้เป็น national agenda กันเถอะ

ไม่งั้นอีกหน่อยเราคงต้องสูญเสียทะเลให้ฝา-หรั่งไปจริงๆ แน่ๆ เลย

เป็นอีก 1 เสียงที่จะสนับสนุนการรณรงค์ให้คนไทยหันมาเห็นค่าของธรรมชาติที่ตนเองมีอยู่ 

อย่ามามัวให้อำนาจเงินของฝา-หรั่งมาอยู่เหนือความเป็นคนไทย และประเทศไทยของเรา 

[conundrum]

เคยสังเกตไหมคะ ไม่ว่าธุรกิจประเภทไหนที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ในไทยทุกวันนี้ เริ่มจากคนไทยเราไปซื้อสินค้าต่างชาติมาขาย หรือขอเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ พอสินค้าเริ่มติดตลาด ขายดีมีกำไรงาม พวกต่างชาติก็เริ่มงอแง ไม่ขายสินค้าให้ หรือตั้งเงื่อนไขมากมายไม่ยอมต่อสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายให้

จากนั้นก็เข้ายึดครอง ตั้งบริษัทข้ามชาติในไทย ขายสินค้าเสียเอง ส่งคนของตนมาควบคุมดูแลกิจการ คนของรัฐก็เอาอกเอาใจให้อภิสิทธิ์มากมาย แต่กิจการคนไทยน่ะไม่ค่อยจะเหลียวแลมอง คอยกดหัวแถมจ้องจะฟันภาษี ขนาดไปนั่งเฝ้าร้านนับหัวคนมาใช้บริการหรือซื้อของกินของใช้ ขายก๋วยเตี๋ยวยังถูกบุกมานั่งนับชามก๋วยเตี๋ยวเลย

img width=40 height=40]http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_69.gif[/img]    

เห็นประโยคนี้แล้วนึกถึงกรณี Pizza Hut เลยครับ ที่บริษัทมหาชนแห่งหนึ่งในเมืองไทยซื้อแฟรนส์ไชส์มาทำจนติดตลาด แล้วบริษัทแม่เจ้าของสิทธิ์ยึดเอาไปทำเอง เลยต้องเกิด The Pizza ขึ้นมาสู้ 

[conundrum]

เคยได้ยินว่ามีร้านดำน้ำคนไทยไปเปิดกิจการที่พีพี  มีเจ้าหน้าที่สรรพากรไปนั่งนับหัวนักดำน้ำที่มาใช้บริการ ในขณะที่ร้านฝรั่งไม่ยักจะเข้าไปทำอย่างนั้นบ้าง จนร้านดำน้ำคนไทยแห่งนั้นทนไม่ได้ต้องปิดกิจการไปเลย

ได้ยินแล้วก็ช้ำชอกใจ....อยากเกิดใหม่เป็นฝรั่งหัวแดงจังเลย....หึ่ๆ....    

ส่วนประโยคนี้เห็นแล้วก็เหนื่อยใจ รู้สึกเบื่อหน่าย และเกลียดข้าราชการบางจำพวก (ยกเว้นแม่หอยสุดที่รักนะครับ) โดยเฉพาะสรรพากร สงสัยที่จ้องรีดเลือดจากปูเชื้อชาติไทย ก็คงเพราะพูดจาเบ่ง+ข่มขู่ได้แต่เฉพาะภาษาไทย ส่วนภาษาอื่นเจ้าหน้าที่ไม่แข็งแรง พูดจาข่มขู่ ฝรั่งมันบอก 'ไออออ ม่ายยยย ข้าวววว จายยยย'

[แม่หอย]

 
บอกว่าเกลียดข้าราชการบางจำพวกน่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่หอยยังเกลียดข้าราชการเยอะแยะ..
แต่อย่าถึงกับไม่เคยศรัทธาในข้าราชการเลยนะคะ เพราะข้าราชการดีๆ ก็มี .. ฮิๆ..

คิดเหมือนคุณ conundrum เลยค่ะ.. สงสัยต้องเสนอให้กรมสรรพากรกลั่นกรองรับเจ้าหน้าที่ที่มีปัญญาข่มขู่โต้ตอบกับฝรั่งมั่ง จะได้ไม่คอยขู่แต่คนไทย

[WayfarinG]

ข้าราชการดีๆ ก็มี .. ฮิๆ..

แต่หายาก..เหมือนกับ..งมเข็มใน 7 มหาสมุทรรวมกันเลยอะ..


คิดว่าไม่ว่าชาติไหนภาษาไหน..กินอาหารใต้โต๊ะกะพื้น..คงอร่อยกว่า..นั่งกินบนเก้าอี้นุ่มๆ สบายๆ .. เค้าเลยนิยมทำกันเป็นล่ำเป็นสัน...

[Sea Man]

......ซะใจจจจจจจจจจ..................จริงๆ..เจ้Way.......

[angel frog]

..... ถูกทุกข้อ....