กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 01, 2024, 03:38:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 18 มีนาคม 2552  (อ่าน 3701 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 12:59:28 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามา ปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง เกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันตกกำลังเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนส่งผลทำให้ภาคเหนือมีฝนกระจายในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17-18 มีค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศร้อนขึ้น ส่วนภาคใต้มีฝนกระจาย และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีกำลังค่อนข้างแรงโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-23 มี.ค. ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
 


* Forecast2.jpg (39.62 KB, 684x423 - ดู 566 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (31 KB, 450x500 - ดู 568 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 01:12:17 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


ที่มาของชื่อทะเลอันดามัน                                    :                                  วินิจ รังผึ้ง



       หลายคนคงชอบชื่ออันไพเราะของ “อันดามัน” ที่ให้ความรู้สึกของท้องทะเลแห่งสีสัน ให้ความรู้สึกอันมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ แม้นจะเรียกขานกันจนติดปากติดหู แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าชื่ออันดามันนั้นมีที่มาอย่างไร ซึ่งเมื่อสืบเสาะค้นหากันจริงๆ ก็มีข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่า “อันดามัน” นั้นมีต้นรากมาจากคำว่า “หัวละมาน” ในภาษาอินเดียที่หมายถึงหนุมาน ตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์วรรณกรรมยิ่งใหญ่อันเป็นมหากาพย์ของผู้คนในแถบนี้นี่เอง แต่เอ... แล้วหนุมานจะมาเกี่ยวอะไรกับทะเลอันดามันล่ะ
       
       เมื่อลองมาจับต้นชนปลายกันก็พอจะเกี่ยวข้องกันอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะตอนพระรามจองถนน หรือบางคนก็เรียกตอนหนุมานจองถนน ซึ่งเป็นตอนพระรามจะกรีฑาทัพไปรบกับทศกัณฐ์ที่กรุงลงกา ซึ่งจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปนั้น ชามพูวราชได้กราบทูลว่าการที่พระรามจะใช้ฤทธิ์อำนาจยกพลข้ามไปกรุงลงกาเลยนั้นย่อมทำได้ แต่ก็จะไม่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมพระเกียรติ จึงเสนอให้พระรามสั่งไพรพลจองถนนข้ามมหาสมุทรไปยังกรุงลงกา นัยว่าจะเป็นถนนสายยุทธศาสตร์อย่างที่มักจะสร้างกันทำกันในพื้นที่ชายแดนหรือพื้นที่สู้รบที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนที่นิยมทำกันในปัจจุบัน
       
       พระรามเห็นด้วยจึงสั่งให้สุครีพเป็นผู้นำพาไพร่พลไปสร้างถนน สุครีพให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน ทำการขนหินจากภูเขามาช่วยกันถมทะเล แต่นิลพัทกับหนุมานซึ่งมีฤทธานุภาพด้วยกันทั้งคู่สร้างถนนไปก็เกิดเขม่นกันไป และมีการประลองอิทธิฤทธิ์กันไปมา กระทั่งเกิดการต่อสู้กันดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าถูกฝ่ายยักษ์โจมตีจึงให้พระลักษณ์ไปดู เมื่อทราบความจริงจึงทรงกริ้ว เปรียบทั้งสองเหมือนช้างบ้าตกมันเห็นจะทำงานร่วมกันไม่ได้ จึงตรัสสั่งให้นิลพัทไปรั้งเมืองขีดขินทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง หากขาดการส่งจะทำการประหารเสีย และสั่งให้หนุมานทำการจองถนนไปกรุงลงกาให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวัน ไม่เช่นนั้นก็จะมีโทษถึงประหารชีวิตเช่นกัน
       
       หนุมานจึงตั้งหน้าตั้งตาควบคุมไพร่พลขนหินมาจองถนนกันอย่างสุดฤทธิ์ แต่ไม่ว่าจะสร้างเท่าไหร่ถนนที่ทำไว้ก็ยุบพังทลายหายไปในท้องทะเลเสียทุกทีทั้งที่ไม่ได้มีการทุจริตคอรัปชั่นกรวดหินดินทรายกันสักนิด หนุมานจึงขันอาสาพระรามดำดิ่งลงไปดูใต้ท้องทะเล เห็นไหมครับกองทัพพระรามก็มีหน่วยมนุษย์กบหรือหน่วยจู่โจมทำลายใต้น้ำมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว หนุมานดำลงไปก็พบนางสุพรรณมัจฉา บุตรีของทศกัณฐ์ที่มีแม่เป็นปลากำลังนำพลพรรคปลานานาชนิดช่วยกันขนหินที่ฝ่ายลิงถมลงมาไปทิ้งเสีย หนุมานโกรธจึงจับนางสุพรรณมัจฉาไว้ และขู่จะทำร้ายเสีย นางสุพรรณมัจฉาจึงเกิดความกลัวร้องขอชีวิตและยอมสารภาพความจริงว่าทศกัณฑ์เป็นผู้สั่งให้มาปฏิบัติการ
       
       เมื่อสอบสวนไปสอบสวนมาที่สุดหนุมานก็ได้นางสุพรรณมัจฉาเป็นเมีย ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากนางสั่งให้ปลาทั้งหลายช่วยกันขนหินมาคืนตามเดิม หนุมานจึงทำการจองถนนเสร็จในเจ็ดวันตามที่พระรามสั่ง และยังมีลูกด้วยกันกับนางสุพรรณมัจฉาเกิดเป็นมัจฉานุอีกด้วย


 
       เรื่องราวของหนุมานจองถนนเริ่มจะเกี่ยวข้องกับทะเลอันดามันอยู่นิดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าน่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่ กระทั่งเมื่อครั้งไปพิจารณาดูแผนที่ของท้องทะเลอันดามัน อันเป็นทะเลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอลและเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเริ่มจากตอนบนบริเวณปากแม่น้ำอิระวดีของพม่าเรื่อยลงมาตามแนวชายฝั่งตะวันตกด้ามขวานทองของไทยลงไปยังช่องแคบมะละกาไปสิ้นสุดบริเวณเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ส่วนด้านตะวันตกซึ่งเป็นขอบอีกด้านหนึ่งของทะเลอันดามันนั้นไม่ใช่แนวชายฝั่งของผืนแผ่นดินแต่กลับเป็นแนวยาวของหมู่เกาะกลางมหาสมุทรอินเดียที่ชื่อว่าหมู่เกาะอันดามันที่ทอดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ลงไปเชื่อมต่อกับแนวของหมู่เกาะนิโคบาร์ ทั้งสองหมู่เกาะอยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย
       
       หากมองจากแผนที่ซึ่งแสดงเป็นภาพสามมิติแล้วจะเห็นว่าแนวของหมู่เกาะอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์นั้นเป็นแนวภูเขาที่ทอดเชื่อมต่อจากแนวสันเขาของผืนแผ่นดินในเขตพม่าลงมากลางมหาสมุทรอินเดียราวกับเป็นแนวถนนที่ธรรมชาติหรืออาจจะเป็นหนุมานและพลพรรคมาสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หมู่เกาะอันดามันหรือหมู่เกาะของหนุมานจึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อทะเลอันดามันที่น่าจะมีความเกี่ยวพันกันและน่าจะมีน้ำหนักอยู่มาก เอาไว้โอกาสหน้า หากเป็นไปได้ผมจะเดินทางไปค้นหาที่มาของชื่อทะเลอันดามันกันให้ถึงถิ่นหมู่เกาะอันดามันกันสักครั้ง
       
       ทะเลอันดามันนั้นเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงยุบตัวอยู่เรื่อยๆ ทำให้แนวชายฝั่งโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของไทยนับตั้งแต่จังหวัดระนองลงมาจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล มีลักษณะเป็นแนวชายฝั่งที่ตัดชันลงไปในทะเล โดยมีพื้นที่ชายหาดและอ่าวอยู่เป็นช่วงๆ ท้องทะเลค่อนข้างลึก น้ำทะเลค่อนข้างใสและมีสีสันสวยงาม ทะเลอันดามันมีความยาวจากเหนือจดใต้ราว 1,200 กิโลเมตร กว้าง 650กิโลเมตรมีพื้นที่กว้างราว 797,700 ตารางกิโลเมตร ลึกเฉลี่ยราว 870 เมตรและมีจุดที่ลึกสุดบริเวณร่องน้ำระหว่างหมู่เกาะอันดามันกับหมู่เกาะนิโคบาร์ซึ่งลึกราว 3,777 เมตรหรือลึกเกือบ 4 กิโลเมตรเลยทีเดียว
       
       และด้วยความเป็นทะเลเขตร้อนจึงเป็นทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูง และเป็นทะเลที่มีความสวยงามยิ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่กลายเป็นจุดหมายปลายของคนจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งมีภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวทะเลอันดามันของไทย โดยแบ่งเป็นอันดามันเหนือซึ่งมีพังงา ระนอง และอันดามันใต้ที่นับจากกระบี่ ลงไปตรัง จนสิ้นสุดที่สตูล
       
       หน้าร้อนปีนี้ดูจะเป็นปีที่อากาศร้อนอย่างแสนสาหัส หากมีเวลาว่างก็อย่าลืมลงไปดับร้อนด้วยการท่องเที่ยวพักผ่อนริมฝั่งอันดามัน ทะเลแห่งสีสัน ทะเลของหนุมานกันดูบ้าง.


บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 01:27:42 AM »

อ๋อ ยังงี้นี่เอง ..พวกเราได้ท่องเที่ยวทะเลของหนุมานแย้วซิเนอะ แถมเป็นกองทัพเอสโอเอสพิทักษ์ทะเลด้วย 

ว่าแต่... น่าเอามาทำเป็นการ์ตูนเนอะ ....
บันทึกการเข้า
Birdie ที่ไม่ใช่กาแฟ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 295



« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 03:14:05 AM »

ต่อไปเรามาตั้งชื่อทริปกันว่า หัวละมานเหนือ หัวละมานใต้กันดีฝ่า 
บันทึกการเข้า
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 04:04:33 AM »

แปลว่า ทุกวันนี้เราลงไปดำน้ำในดินแดนของหนุมานอ่ะสิคะ(จริงๆต้องบอกว่า ของทศกัณฑ์ รึป่าว?)



แล้ว มัจฉานุ .. ลูกของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา ออกมาเป็นตัวอะไรอ่ะคะ

ปลาทอง + ลิง จะเท่ากับอะไรหนอ ?

นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ



ไปดีกว่า ..  เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 05:04:24 AM »





มัจฉานุ เป็นบุตรของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา  จึงมีร่างกายเป็นลิงเผือกเช่นเดียวกับหนุมาน แต่มีหางเป็นปลา  เมื่อนางสุพรรณมัจฉาคลอดมัจฉานุออกมาแล้ว ก็กลัวทศกัณฐ์จะรู้ จึงนำมัจฉานุไปทิ้งที่ชายหาด  ไมยราพณ์ซึ่งเป็นญาติกับทศกัณฐ์มาพบเข้า มีความสงสาร จึงได้นำไปเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม  ต่อมาไมยราพณ์ลักพาตัวพระรามมาไว้ที่เมืองบาดาล หนุมานติดตามมาด้วย  ได้พบกับมัจฉานุจึงต่อสู้กัน แต่ไม่สามารถเอาชนะกันได้  จนกระทั่งได้รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน


ภาพและเรื่องจาก http://www.banramthai.com/html/machanu.html

ขอขอบคุณไว้ ณ.ที่นี้ค่ะ
บันทึกการเข้า

Saaychol
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 05:25:36 AM »

ขอบคุณพี่สายชลสำหรับข้อมูลค่ะ 

หนูเองก็กำลังค้นหาข้อมูลอ่านอยู่เหมือนกัน
แบบว่า ตอนเรียนไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลย
เปิดอ่านกี่ที่ๆก็หลับตลอด
ยังงงๆอยู่เลยค่ะว่า สอบผ่านมาได้ยังไง 
บันทึกการเข้า
ตุ๊กแกผา
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 378



« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 20, 2009, 04:31:26 AM »

ลิงอย่างเรา ก็ขอเก็บข้อมูลไว้บ้าง....บอกใครต่อใครว่า ทะเลนี้มีที่มาจากลิง ไม่น่าถึงมีลิงอยู่ริมทะเลเยอะจัง แถมมาด้วยปีนต้นมะพร้าวโชว์ จนเป็นที่รู้จักอีกต่างหาก
อันดามันขาดลิงได้ไง....เนอะ     
ว่าแต่ว่าถ้าจะเปลี่ยนชื่อทริปจริงๆคงต้องชี้แจงกันอีก20ตลบแหล่ะ
........ทริปหัวละมานเหนือ  ทริปหัวละมานใต้     
......แค่คิดก็ฮาแล้ว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.022 วินาที กับ 20 คำสั่ง