กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 01, 2024, 01:42:03 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552  (อ่าน 2164 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มีนาคม 23, 2009, 01:17:20 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ สำหรับภาคใต้มีฝนกระจายในระยะนี้
 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
 

คาดหมาย

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้ในบางพื้นที่ในตอนบ่ายและค่ำ ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 24-28 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่เพิ่มขึ้น และลมกระโชกแรงกับลูกเห็บที่อาจตกได้ในระยะนี้



* Forecast2.jpg (37.39 KB, 684x423 - ดู 262 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (39.77 KB, 450x498 - ดู 268 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 23, 2009, 01:23:16 AM »

เดลินิวส์


โครงการปลูกป่าชายเลนถาวรเฉลิมพระเกียรติ  ช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนไทยทั้งสิ้น 722,446 ไร่
 
นายสำราญ รักชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสำนึก     ในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงสนพระทัยและห่วงใยทรัพยากรป่าชายเลนของชาติ จึงได้ริเริ่มโครงการปลูกป่าชายเลนถาวรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา นับตั้งแต่ปี 2547 จนเสร็จสิ้นโครงการเมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา นับเป็นความสำเร็จอันเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่ร่วมกันดำเนินการ โดยสามารถฟื้นฟูป่าชายเลนของไทยได้ถึง 722,446 ไร่ สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ 720,000 ไร่ และคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบร้อยละ 50 ของพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมดของไทย ที่มีประมาณ 1.47 ล้านไร่ โดยใช้เงินงบประมาณตลอดทั้งโครงการราว 1,075 ล้านบาท
 
อธิบดี ทช. กล่าวว่า ขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการจัดทำสรุปรายละเอียดข้อมูลการดำเนินงานของโครงการทั้งหมดเพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายรายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปีนี้ นอกจากนั้น เพื่อให้การดูแล รักษา และฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนของไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2552 กรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อจัดทำแนวเขตป่าที่ชัดเจน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการบริหารจัดการพื้นที่ป่าชายเลนของไทยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 23, 2009, 01:31:24 AM »

ข่าวสด


เกาะเต่า                     :                      รู้ไปโม้ด  nachart@yahoo.com
 
อยากรู้จักเกาะเต่าให้มาก ขอสถานที่ท่องเที่ยวด้วยนะครับ

Toto



ตอบ โตโต้

"เกาะเต่า" แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังระดับโลก โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง มีฐานะเป็นตำบลในอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางห่างจากตัวเกาะพะงันไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 45 กิโลเมตร ที่รวมเรียกเป็นเกาะเต่านั้นประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะคือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน เกาะเต่ามีรูปลักษณ์คล้ายเมล็ดถั่ว (บ้างว่าคล้ายตัวเต่า มีเกาะนางยวนเป็นหาง) พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นภูเขาเว้าแหว่งและกลายเป็นอ่าวกับแหลมที่สวยงามตามธรรมชาติ โดยรอบเกาะมีอ่าว 11 อ่าว แหลม 10 แหลม ตลอดแนวชายฝั่งของเกาะที่ยาว 28.6 กิโลเมตร ทั้งเป็นเกาะแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร

ช่วงพ.ศ.2476 เกาะเต่าเคยใช้เป็นสถานที่กักกันนักโทษการเมืองครั้งกบฏบวรเดช ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ไกลจากฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ยากต่อการหลบหนี สืบเนื่องจากเมื่อเกิดสงครามแปซิฟิก รัฐบาลเกรงว่าอังกฤษอาจเข้าชิงตัวนักโทษการเมืองไปจากเกาะตะรุเตาซึ่งตั้งอยู่ชายแดนมหาสมุทรอินเดีย จึงย้ายมาคุมขังไว้ที่เกาะเต่านี้ กระทั่งพ.ศ.2487 รัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ ราชการได้มีมติให้กราบบังคมทูลพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษการเมืองในคดีกบฏบวรเดชและคดีกบฏ พ.ศ.2481 เกาะเต่าถูกทิ้งร้างอยู่กลางทะเลอ่าวไทยจนถึงปี 2490 จึงมีชาวบ้านจากเกาะสมุยและเกาะพะงันอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ทำให้เกาะเต่าเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวบ้านและนักเดินเรือที่มาจอดเรือแวะพักที่เกาะแห่งนี้

ครั้งอดีตเกาะเต่าสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี เต่าทะเลจะว่ายเข้าฝั่งขึ้นมาวางไข่บนชายหาดแทบทุกหาดของเกาะเต่า เป็นที่มาของชื่อ "เกาะเต่า" ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวและประมง แต่หลังจากเกาะเต่าเป็นที่รู้จักทั่วโลก ชาวบ้านจึงหันมายึดอาชีพทางการท่องเที่ยวแทน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่ามี อ่าวแม่หาด อ่าวซึ่งมีหาดทรายสีเหลืองอมแดงยาวประมาณ 1 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือตอนโพล้เพล้ หากอากาศดีไร้เมฆหมอกจะเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำสวยงามมาก อ่าวจันทร์สม อ่าวกุลเจือ และหาดศาลเจ้า หาดเล็กๆ อยู่ถัดจากอ่าวแม่หาดลงไปทางใต้ ต้องนั่งเรือไปหรือเดินไปตามถนนดินแคบๆ เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย

หาดทรายรี อยู่ห่างจากอ่าวแม่หาดไปทางเหนือราว 2 กิโลเมตร ชายหาดที่กว้างและยาวที่สุดของเกาะเต่า ขนานไปกับทิวมะพร้าวและต้นสน เป็นหาดทรายขาวสะอาดและสวยงามมาก ตอนใต้ของหาดมีก้อนหินขนาดใหญ่เรียงรายคล้ายสวนหินธรรมชาติ โดยเฉพาะหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งตั้งอยู่ปากธารน้ำจืดมีจารึกพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สลักไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสเกาะเต่า พ.ศ.2442

อ่าวตาเทน อ่าวตาศักดิ์ แหลมยายณี อยู่ทางเหนือของหาดทรายรี แหลมยายณีเป็นจุดชมเกาะนางยวนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้กับเกาะนางยวน ช่วงเวลาเย็นของเดือนมีนาคม-เมษายน จะเห็นพระอาทิตย์ลับลงระหว่างช่องเขาพอดี แต่บริเวณแหลมยายณีและอ่าวตาเทนไม่มีหาดทรายจึงไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ ต้องเดินไปที่อ่าวตาศักดิ์ซึ่งมีหาดทรายแคบๆ ยาวราว 30 เมตร

ด้านเกาะนางยวนที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะเต่า ประกอบด้วย เกาะเล็กเกาะน้อย 3 เกาะ เชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาว บางครั้งยามน้ำลงสามารถเดินถึงกันและกลายเป็นเกาะเดียวต่อเนื่องกันไปได้ ดงปะการังอันอุดมสมบูรณ์อยู่ภายใต้ท้องทะเลเกาะนางยวนนี่เอง


*****************************************************************************************************************


ภูเก็ตสนองพระราชดำริ"พระเทพ"

ภูเก็ต - นายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะ เข้าพบนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยนายพรชัยกล่าวว่า โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการของสมด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากร อนุรักษ์พัฒนาทรัพยากรพันธุกรรมพืชให้เกิดประโยชน์ถึงมหาชนชาวไทย ตลอดจนให้เข้าใจและเห็นความสำคัญของพันธุกรรมพืช ซึ่งมีกรอบการดำเนินงานประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมปกปักพันธุกรรมพืช กิจกรรมสำรวจเก็บรวบรวมพันธุกรรมพืช และกิจกรรมปลูกรักษาพันธุกรรมพืช สำหรับจังหวัดภูเก็ตเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ที่นำแนวทางพระราชดำริมาใช้ มีสวนพฤกษศาสตร์ของโรงเรียนที่ร่วมสนองพระราชดำริ คือ สวนพฤกษศาสตร์ของโรงเรียนสตรีภูเก็ต เป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยให้เยาวชนได้ใกล้ชิดกับพืชพรรณไม้เห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงามอันก่อให้เกิดสำนึกในการอนุรักษ์พรรณพืชต่อไป

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 23, 2009, 01:36:09 AM »

แนวหน้า


ประมงตรังประกาศห้ามจับปลาฤดูวางไข่ 

 ตรัง:นายสุริยะ วิฑูรย์พันธ์ ประมงจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลาที่มีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง รวมพื้นที่จำนวน 4,696 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,935,000 ไร่

 ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ สัตว์น้ำ และสัตว์น้ำวัยอ่อน ให้มีความอุดมสมบูรณ์สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนตลอดไป โดยเครื่องมือที่ห้ามทำการประมง ได้แก่ อวนลากทุกประเภททุกขนาดที่ใช้กับเรือกล อวนประเภทล้อมจับทุกชนิด อวนติดตาขนาดช่องตาเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร ส่วนเครื่องมือประมงที่ยกเว้นให้ทำการประมงได้ คือ อวนล้อมจับปลากะตักในเวลากลางวันทำการประมงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก เครื่องมืออวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบกับเรือกล เฉพาะในเวลากลางคืน ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น และเครื่องมืออวนโป๊ะ ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนจะถูกปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบเครื่องมือทำการประมงทั้งหมด

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.11 วินาที กับ 20 คำสั่ง