:: อีสาน บ้านเฮา ::

[WayfarinG]

เห็นพี่พี่คุยกันเรื่องจะไปเที่ยวอีสาน .. พิงค์ว่า ปีนี้การท่องเที่ยวเค้าโปรโมทภาคอีสานน่าดู .. ก็ดีแหละ .. เงินทองจะได้ถ่ายเทไปที่อื่นบ้าง นอกจาก ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน .. 

เราไปเที่ยวกันเมื่อ ธค ปีที่แล้ว .. อากาศดีมาก .. น่าประทับใจ ..


เวลาทั้งหมด 5 วัน เราเริ่มต้นจาก กทม ไปหยุดแวะที่ ภูเรือ .. จากนั้น ก็วิ่งมาที่ เชียงคาน .. แล้วก็ เรียบทางหลวงหมายเลข 211 ที่เค้าว่าเป็นทางที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เพื่อมายัง หนองคาย ..

อย่างว่า มาหนองคาย .. แวะเที่ยวเวียงจันทร์ซะหน่อยละกัน .. วันรุ่งขึ้นก็ขับล่องลงมาที่ ขอนแก่น เพราะ น้องที่ไปด้วยอยากไปดูไดโนเสาร์ที่ภูเวียง .. ขับทะลุหมู่บ้านเต่า ลงมาที่พิมาย .. แล้วก็ กทม ..

[WayfarinG]

เริ่มต้นทริปด้วยการแวะที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วมั๊ง .. ครั้งแรกมาหน้าฝน ไม่มีใครเลย .. ช่างต่างกับครั้งนี้โดยสิ้นเชิง ..

เราเริ่มต้นหาจุดกางเตนท์ที่คิดว่า น่าจะโอเค ห่างไกลจากผู้คนพอประมาณ .. 

หลังจากกางเสร็จ เราก็ไปเที่ยวที่ผาโหล่นน้อย .. เค้าว่าเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุด .. แป่วววว .. เราไปตอนเย็น จะเห็นมันขึ้นมั๊ยอะ .. 






รู้มะ ทำไมที่นี่ถึงชื่อว่า "ภูเรือ"

เหตุ ที่ขนานนามว่า "ภูเรือ" ก็เพราะ ที่นี่มีภูเขาลูกหนึ่ง มีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือนั่นเอง .. 

[WayfarinG]

เคยคิดมะว่า การมาเที่ยวอุทยาน .. เค้ามีกฎมีระเบียบ .. ก่อนสี่ทุ่ม เจ้าหน้าที่ประกาศว่า .. หลังสี่ทุ่มขอให้อยู่ในความสงบ ห้ามส่งเสียงดัง .. เพราะ จะเป็นการรบกวนคนอื่น ..

ฮืมม์ .. และแล้ว .. มันไม่เป็นเช่นนั้น .. ไอ้เต้นท์ข้างๆ .. ที่มากันเป็นครอบครัว .. พ่อแม่ลุงป้าน้าอา มากันครบ .. อย่างว่า .. มาเที่ยวเปลียนบรรยากาศการดื่มสุรา .. ยิ่งดึกยิ่งเมา ยิ่งเสียงดัง ..

ไม่เคยเข้าใจว่า .. จะกินเหล้า ทำไมไม่กินที่บ้าน จะส่งเสียงดังเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครว่า .. แต่นี่มันที่สาธารณะ .. มันหมายถึง ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น แทนที่จะเกรงใจกันบ้าง .. ไม่มี ..

แล้ว เค้าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกหลานเค้าได้งัย กะอีแค่กฎเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ทำไม่ได้ .. 

จนในที่สุด .. พี่ที่กางเตนท์อยู่ข้างเต้นท์เค้าทนไม่ได้ ต้องเดินไปบอกเจ้าหน้าที่ให้มาบอกให้เบาเสียงหน่อย .. แต่ที่ไหนได้ .. ยังกลับถามอีกว่า เสียงเค้าดังเหรอ .. เฮ้อออ .. จริงๆ เลยนะ .. คนเรา .. 


แต่ช่างมันเถอะ .. เราตื่นตีห้า เพื่อไปรอพระอาทิตย์ขึ้น .. ก็เสียงดังเหมือนกัน .. หุหุ ..





ถ้าไม่อยากเดินขึ้นไปยอดภูเรือ ทางอุทยานเค้ามีรถบรรทุกพาขึ้นนะ เที่ยวละ 10 บาท .. แต่เอาน่าออกกำลังกายตอนเช้า ขับไล่ความหนาวเย็น ..

[WayfarinG]

จากภูเรือ เราก็ขับขึ้นมาเลื่อยๆ เพื่อหยุดเที่ยว เมืองเชียงคาน .. เมืองนี้เคยมาเมื่อหลายปีก่อน ตอนมาเที่ยวงาน ผีตาโขน .. จะบอกว่า เชียงคาน ไม่เปลียนเลย .. บ้านเรือนตอนนั้นเป็นยังงัย .. ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างงั้น ..

มาคราวนี้ .. เราพักกัน่ที่ เรือนแรมลูกไม้ .. มีห้องพักอยู่ 5 ห้อง .. เป็นบ้านเก่าเอามาทำเป็น guest house น่ารักดีมาก ..

ดูสภาพบ้านเรือนเค้าซิ .. ยังคงความเก่าไว้อย่างดี .. 





ยามเย็นก็เดินเล่นริมแม่น้ำโขง .. ที่นี่ดีอย่าง คือ เค้าทำทางเดินเรียบแม่น้ำโขง ให้ตอนเย็นๆ คนได้มาเดินออกกำลังกายกัน ..

[WayfarinG]

ถ้าใครคิดว่า จะมาหาแสงสีเสียง ดิสโก้ คาราโอเกะ .. สงสัยคงจะผิดหวัง .. เพราะ ที่นี่ ตึกสูง ที่เห็น น่าจะไม่เกิน 4 ชั้น ซึ่งอยู่ในเขตของเมืองใหม่ .. ถ้าบ้านติดริมน้ำ .. ส่วนมากก็จะ สองชั้น ..





แล้วถ้าใครอยากข้ามไปเที่ยวลาว .. เค้ามีเรือข้ามฝากนะ .. แต่ไม่แน่ใจว่า ฝั่งโน้นมีอะไร .. สอบถามจากชาวบ้าน เค้าก็ว่ามีตลาดขายของ .. เอาไว้งวดหน้าเนอะ .. 

[WayfarinG]

ออกจากเชียงคาน .. เราก็ขับเลาะทางหลวงหมายเลข 211 ที่เลาะเรียบแม่น้ำโขง ..





ทางสวยดีนะ .. เห็นเกาะแก่งมากมายในแม่น้ำ ..

[WayfarinG]

คาดว่าถ้าเป็นหน้าแล้ง .. แก่งต่างๆ น่าจะโผล่พ้นน้ำมากกว่านี้ .. บางทีอาจเดินข้ามไปอีกฝั่งก็น่าจะได้ ..





จะบอกว่า ชอบเส้นทางนี้มาก .. วิวสวย .. อยากหยุดมันทุกโค้ง .. เพื่อถ่ายรูป .. แต่อะนะ .. ลำบากคนขับ .. ต้องจอดๆ หยุดๆ .. 

[WayfarinG]

กว่าจะมาถึงหนองคายก็บ่ายแก่ๆ แล้วหละ .. แวะเที่ยววัดคู่บ้านคู่เมืองของหนองคายเพื่อสิริมงคลเนอะ .. 

[WayfarinG]

แล้วก็แวะ .. ศาลาแก้วกู่ .. สร้างขึ้นโดย “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” ( พ.ศ. 2476 – 2539 ) ซึ่งมีประวัติชีวิตและผลงานอัศจรรย์ โดยย่อ ดังนี้ นางคำปลิว สุรีรัตน์ (พี่สาวคนโตของปู่เหลือ) ชาวหนองคาย แต่งงานได้ระยะหนึ่ง ฝันว่ามีชีปะขาวนำ นาคมรกตมามอบให้ แต่บอกว่าอีก 7 เดือนค่อยไปรับมาเป็นของตน ต่อมาแม่ตั้งท้องลูกคนที่เจ็ด ในวัยสูงอายุและหมดประจำเดือนแล้ว และคลอดเมื่ออายุครรภ์ได้ 7 เดือน ทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นไปตามนิมิตในฝัน นางคำปลิวและสามี จึงรับน้องชายมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ตั้งแต่แรกเกิด





ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00–17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท





ข้อมูลจาก
http://sala-saeoku.blogspot.com/
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=News&file=article&sid=1444

[WayfarinG]

วันรุ่งขึ้น .. พวกเราก็จัดแจงจ้างรถสกายแลป .. ให้ไปส่งที่ บขส เพื่อนั่งรถ inter bus ข้ามไปยังเวียงจันทร์ .. เป็นวิธีที่สะดวกดีนะ ..

เพราะ ไหนๆ ก็มาแล้ว .. ข้างหน้าก็เพื่อนบ้าน .. แวะเที่ยวอีกซักรอบละกัน ..





มีความรู้สึกว่า .. เวียงจันทร์ เปลียนไป .. ค่าครองชีพ สูงกว่า เท่าที่จำเป็น ..

[WayfarinG]

เราไปถึงสถานนีรถ เราก็จัดแจงเช่ารถตุ๊กๆ .. คล้ายสองแถวเล็กบ้านเรานั่นแหละ เที่ยวรอบๆ ..





ปกติมาเวียงจันทร์ก็คงทำไรไม่ได้มากไปกว่า .. วัด .. วัด .. วัด .. 

[WayfarinG]

ประตูชัย .. สร้างให้เหมือนประตูที่ปารีสเลยเนอะ .. ไม่มีโอกาสไปฝรั่งเศสกะเค้า .. มาเที่ยวเมืองขึ้นในอดีตละกัน .. เอิ๊กกก ..





พระพุทธรูป .. หน้าตาไม่ค่อยเหมือนกับของไทยเนอะ ..





แมงกะไซด์ลาว .. 

[WayfarinG]

แล้ว ก็มาที่นี่ เค้าเรียกว่า กันว่า buddha park





ลักษณะก็คล้ายๆ กับ ศาลากู่แก้วแหละ ..





แต่เค้าว่า รูปปั้นใกล้ๆ กันมากเลย .. แถมนั่งรถมานาน .. จนปอดเต็มไปด้วยฝุ่น .. 

[WayfarinG]

กลับถึงหนองคายเป็นที่เรียบร้อย .. เช้าวันรุ่งขึ้นก็บึ่งลงใต้ มาที่ขอนแก่น .. นอน 1 คืน .. แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไปภูเวียง ..

ไม่น่าเชื่อเลยว่า .. ประเทศไทย จะมีไดโนเสาร์ .. ลองย้อนไปดิ .. หลายร้อยล้านปีก่อน .. คงจะเทห์น่าดูเลยเนอะ ..





แต่พิงค์ว่า .. ตอนนี้ ประเทศไทย ก็มีไดโนเสาร์อยู่เยอะนะ .. มันยังไม่ตายไปหมดประเทศไทยหรอก มัน reborn ได้ .. 

[WayfarinG]

อ้าว .. ใครเอานายเสื้อแด๊งแดง .. มาขังไว้อย่างงั้นหละ ..





เคยเห็นพี่ในเวปเค้ามาขอนแก่นแล้วแวะเที่ยวหมู่บ้านเต่า .. ไหนๆ มาแล้วก็แวะเที่ยวซักหน่อย

หมู่บ้านเต่า ตั้งอยู่ที่บ้านกอก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ห่างจะอำเภอเมืองประมาณ ๕๐ กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่มีเต่าเพ็ก (เต่าเหลือง) ทั่วหมู่บ้าน