กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 24, 2024, 01:17:29 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสที่ 9 เมษายน 2552  (อ่าน 12827 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:08:18 AM »

สภาพอากาศประเทศไทย




ลักษณะอากาศทั่วไป    
 
บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ต่อไปอีก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง ลมตะวันออกกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. 2552ไว้ด้วย
 
คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 8-10 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นทำให้บริเวณประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง ส่วนลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนขึ้น และยังมีฝนกระจาย
 
   
ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
 

 
 
 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:11:37 AM »

คาดว่า เพื่อนๆ หลายคนคงไปดำน้ำกันที่อันดามัน .. เอาพยากรณ์ทางฝั่งอันดามันมาฝากเนอะ .. จะได้เตรียมพร้อม ..

สภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)




พยากรณ์อากาศ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


อากาศ 7 วันข้างหน้า   08 เม.ย. 52 - 14 เม.ย. 52   

คาดหมาย     

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร 
 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:17:55 AM »

วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6706 ข่าวสดรายวัน


"หอยชักตีน"ตรังเสี่ยงสูญพันธุ์ เปิดเวทีรับฟังประมงพื้นบ้านช่วยอนุรักษ์




รูปจาก dailynews

อนุรักษ์หอย- ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง เข้าร่วมในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของสถาบันวิจัยและพัฒนา ม.เทคโนลีราชมงคลศรีวิชัย จ.ตรัง กรณีการจับหอยชักตีนจนมีจำนวนลดลง เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จากทะเลตรัง เมื่อเร็วๆ นี้

 
ตรัง - นายอภิรักษ์ สงรักษ์ รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยตรัง กล่าวว่า ปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลมีจำนวนลดน้อยลง บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว หอยชักตีนเป็นสัตว์น้ำอีกชนิดหนึ่งที่กำลังจะสูญพันธุ์ จึงต้องหันมาหาแนวทางแก้ไข สาเหตุที่มีจำนวนลดลง เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดสูง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในจ.ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ประกอบกับชาวบ้านบางรายใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทำลายล้างจนเสี่ยงที่หอยชักตีนจะสูญพันธุ์ไปจากทะเลตรัง

นายอภิรักษ์กล่าวว่า สำหรับหอยชักตีนนั้นจะอาศัยตามหาดโคลนปนทราย ที่พบมากคือบ้านเจ้าไหม แหลมจุโหย เกาะมุกด์ หาดหยงหลิง หาดโต๊ะ และหาดยาว วิธีเก็บหอยของชาวบ้านส่วนใหญ่จะเก็บด้วยมือ ด้วยการดำลงไปเก็บในน้ำลึกประมาณ 5-6 เมตร สามารถเก็บได้ประมาณวันละ 1,000 ก.ก. ส่วนจุดรับซื้อที่ใหญ่สุดอยู่ที่เกาะลิบง อ.กันตัง ราคาก.ก.ละ 25-35 บาท พ่อค้าคนกลางจะนำไปขายก.ก.ละ 50 บาท สำหรับแนวทางแก้ไขคือให้แกนนำหรือคณะกรรมการกลุ่มอนุรักษ์ ทำความเข้าใจกับกลุ่มคนอาชีพเก็บหอยชักตีน กำหนดเขตพื้นที่อนุรักษ์ตามแนวเขตที่มีหญ้าทะเล ห้ามการใช้เครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย สำหรับกรณีหอยชักตีนนี้ จะมีการจัดเวทีชาวบ้านในพื้นที่ 5 ครั้ง จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลนำเสนอต่อนายอำเภอกันตัง ในวันที่ 25 เม.ย.นี้
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 06:46:50 AM »


ขอบคุณจ้ะน้องพิงค์.....

ที่ Puerto Galera วันนี้อากาศดีมากๆค่ะ  คาดว่าจะดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะกลับกรุงเทพฯ

Dive Shop และผู้คนที่นั่น ช่วยกันดูแลทะเลดีมาก เราแทบไม่เห็นขยะเลย  เขานิยมนำเรือเก่าๆไปจมไว้เพื่อเป็นจุดดำน้ำ  เราไม่ต้องเดินทางไกล เพื่อไปดำน้ำตามจุดต่างๆที่มีราว 41 Divesites  อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้บ้างจริงๆค่ะ
บันทึกการเข้า

Saaychol
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 08:39:58 AM »

  แล้วเจอกันค่า ..
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 12:44:42 PM »

ที่มา วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11352 มติชนรายวัน

ฟื้นฟูหญ้าทะเลไทยลุเป้า มีพะยูน250ตัวทั่วประเทศ

นาย วรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า หลังจากหญ้าทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเสื่อมโทรม สถาบันได้เร่งฟื้นฟู โดยทดลองปลูกหญ้าทะเลขึ้นที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ระยอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปลูกหญ้าทะเลที่ดี เพื่อทดสอบการเจริญเติบโต อาทิ แสงสภาพทางทะเล วิธีการที่จะอนุรักษ์หญ้าทะเลที่ดีที่สุดคือต้องสร้างจิตสำนึกภายในชุมชนที่ เป็นแหล่งหญ้าทะเล ด้วยการแนะนำประชาชนในพื้นที่ร่วมใจกันในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ ทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดทำทุ่นแสดงแนวเขต นิทรรศการให้ความรู้ เพราะความเสื่อมโทรมของหญ้าทะเลมาจากความไม่รู้ของคน สถานภาพแหล่งหญ้าทะเลชายฝั่งทะเลของน่านน้ำไทยในปี 2550 ประมาณ 92,959 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ทะเลอันดามัน 58,670 ไร่ และอ่าวไทย 34,289 ไร่ จังหวัดที่พบหญ้าทะเลมากที่สุด คือ ตรัง มีหญ้าทะเลมากถึง 21,040 ไร่ รองลงมา คือ กระบี่ 15,670 ไร่ และพังงา 15,470 ไร่ ตามลำดับ

" เมื่อหญ้าทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ก็ทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วย อาทิ พะยูน ซึ่งกินหญ้าทะเลเป็นอาหารหลัก จากการบินสำรวจพะยูนทุกๆ ปี ยังคงพบพะยูน และลูกทุกครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก แต่ก็ยังพบการตายของพะยูนเช่นกัน ทั้งกรณีการเกยตื้น ติดอวนชาวประมง สำหรับจำนวนพะยูนในประเทศไทยในปัจจุบันคาดว่าจะมีประมาณ 250 ตัว ทั้งชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และชายฝั่งทะเลอันดามัน" นายวรรณเกียรติกล่าว

หน้า 10


เป็นข้อมูลอีกด้านนะครับ หลังจากเราฟังเรื่องการลักลอบจับพะยูนมาหนาหูช่วงหลังๆนี้ ..

บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 12:48:35 PM »

ที่มา วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11352 มติชนรายวัน

อุตุฯเตือนฟ้าคะนอง ชุดชั้นในโครงเหล็ก ควรงดออกที่โล่งแจ้ง

นาย สมชาย ใบม่วง อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 8-10 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นทำให้บริเวณประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีลมกระโชกแรงเกินขึ้นได้ในบางพื้นที่ หรือเรียกว่า พายุฤดูร้อน หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง ฝนฟ้าคะนองจะเว้นช่วง ในช่วงเวลานี้ทำให้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนขึ้น แต่หลังจากวันที่ 14 เมษายน พายุฤดูร้อนก็จะกลับมาใหม่อีกรอบ และจะมีปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองในเวลานี้อีก 4-5 วัน สลับแบบนี้ ไปถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ตอนนั้นประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูฝนปกติ

" ปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นยังถือว่าปกติ เพียงแต่รุนแรงเพิ่มขึ้น ปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เรียกสภาพโดยรวมว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก" นายสมชายกล่าว

นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ นักวิชาการภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนใหญ่ปรากฏการณ์ฝนฟ้าคะนองมักจะเกิดขึ้นช่วงบ่ายไปถึงค่ำ คนที่ใส่เครื่องประดับซึ่งเป็นโลหะ รวมถึงสุภาพสตรีที่ใส่ชุดชั้นในมีโครงเหล็กที่มีคุณสมบัติเหนี่ยวนำไฟฟ้าไม่ ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่า ไม่ถึงกับห้ามใส่ของพวกนี้ แต่ในช่วงฝนฟ้าคะนองจะต้องหลบในบ้าน อาคาร หรือในรถจะปลอดภัยที่สุด กรณีหาที่หลบไม่ได้ แนะนำว่าให้ถอดเก็บให้มิดชิด จะอันตรายน้อยกว่าใส่ติดกับตัวสำหรับกรณีที่เกิดฟ้าผ่าในระยะใกล้ๆ ไม่ได้ผ่าแบบตรงๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าใกล้ๆ คนที่ใส่สร้อยคอ และแหวนทองคำ ทำให้คนคนนั้นมีรอยไหม้สีดำที่ลำคอ และนิ้ว ตามรอยสร้อยคอและแหวนนั้นทันที หากเก็บของพวกนี้ไว้ในกระเป๋าก็จะไม่เกิดเหตุนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้หาที่หลบในอาคารดีที่สุด" นายสธนกล่าว

หน้า 10

อันนี้ถือเป็นข่าวฝากท่านสุภาพสตรีนะครับ
บันทึกการเข้า
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 12:49:08 PM »

ได้ข่าวนี้เหมือนกันเลยน้องปีป .. อยากให้โครงการนี้สำเร็จไปด้วยดีจัง ..



ปล .. เราไปตรังสิ้นปี .. จะได้ไปช่วยเค้าปลูกหญ้าทะเลมั๊ยอะ ..  
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 12:55:27 PM »

หวังว่าอย่างนั้นเลยครับพี่พิงค์  มีโอกาสก็อยากเจอเงือกในตำนานซักครับ 

ขออนุญาตฝากข่าวต่อเลยนะครับ 

ไทยเรียนรู้สมุทรศาสตร์ เอาแม่แบบบริหารจัดการจากจีน [9 เม.ย. 52 - 00:38]

เมื่อ เร็วๆนี้ ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เผยว่า สถาบันฯได้ดำเนินโครงการความร่วมมือทางวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม กับ The First Institute of Oceanography, State Oceanic Administration : SOA ของสาธารณรัฐประ-ชาชนจีน  พร้อมลงนามความร่วมมือระหว่างกัน  ณ  กรุงปักกิ่ง  ซึ่งกรอบความร่วมมือทางวิชาการ  โดยดำเนินการ 5 ปี เพื่อมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการและการแลกเปลี่ยนความรู้ และเทคโนโลยีระหว่างกัน ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรและเจ้าหน้าที่ไทย ล่าสุด สถาบันฯได้ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างสองหน่วยงานขึ้นเพื่อวางแผนงาน  (Action  plan)  เกี่ยว-กับการจัดการสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงฤดูกาลบริเวณฝั่งทะเลอันดามันและผลกระทบทางสังคม การจัดวางทุ่นตรวจวัดทางสมุทรศาสตร์ 1 แห่ง โดยมีตัวแทนจากจีนเข้าร่วมประชุม 12 คน และของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลชายฝั่งทะเล ได้แก่ กองทัพเรือ กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์ พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC)

นอกจากนั้นยังมีการหารือถึงการแลก เปลี่ยนความรู้ทางด้านสมุทรศาสตร์และการเกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี  ซึ่ง จีนเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านสมุทรศาสตร์และด้วยขนาดพื้นที่ประเทศ ที่มีขนาดใหญ่ และมีที่ดินติดชายฝั่งทะเลเป็นบริเวณกว้างจึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการ และดูแลพื้นที่และทรัพยากรชายฝั่งทะเลเป็นอย่างดี ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์แก่ไทยในการเรียนรู้และพัฒนางานด้านการศึกษาวิจัย สมุทรศาสตร์ นายวรรณเกียรติกล่าว

ที่มา ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=132004
บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:00:45 PM »

เสือลายเมฆ..รักสงบ ชื่อดุ..แต่เชื่องดั่งแมว [7 เม.ย. 52 - 00:58]

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา...คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดให้มีการประชุมสุดยอด เสือลายเมฆ+เสือขนาดเล็ก (Clouded Leopard and Small Felid Conservation Summit) จัดโดย Conservation Breeding Specialist Group (CBSG) - IUCN และ IUCN's Cat Specialist Group

ในการประชุมครั้งนี้ มุ่งหวังสร้างเครือข่าย ความร่วมมือในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ เพื่อการอนุรักษ์ วิจัย ประเมินสถานภาพเสือลายเมฆ และ เสือขนาดเล็ก พร้อมกับจัดทำแผนงานการอนุรักษ์ในระยะยาวของภูมิภาคนี้ โดยมีนักวิทยาศาสตร์-นักอนุรักษ์ของโลก ที่ เกี่ยวข้องกับเสือลายเมฆ และ เสือขนาดเล็ก จำนวนถึง 14 ประเทศ ได้เดินทางมาร่วม ประชุมและมากที่สุดคือ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ซาราวัก และไต้หวัน

จากนั้นนำไปสู่ การลงนามในบันทึกความเข้าใจกัน (MOU) ระหว่าง องค์การ สวนสัตว์ สวนสัตว์แห่งชาติของสถาบันสมิธโซเนียน สวนสัตว์แนชวิลล์ และ สวนสัตว์ Point Defiance ของสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยเหลือในการเพาะเลี้ยงเสือลายเมฆ ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

นายสุริยา แสงพงศ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว บอกว่า ทีมงานของ สวนสัตว์ได้เพาะเลี้ยงเสือลายเมฆมา 6 ปีแล้ว ได้ ลูกมากกว่า 30 ตัว ถือเป็น แหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งยังเป็นศูนย์รวม การศึกษา การวิจัย การจัดการ แหล่งรวมพันธุกรรม นอกถิ่นอาศัยที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของโลก

เสือลายเมฆ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pardofelis nebulosa อยู่ในวงศ์ Felidae มีขนาดเล็กกว่าเสือดาว แต่ใหญ่กว่าแมวป่าชนิดอื่นๆที่พบใน ภูมิภาคอินโดจีน ลักษณะทั่วไป มีความยาวลำตัวถึงหัว 65-95 ซม. ความยาวหาง 55-80 ซม. น้ำหนักประมาณ 16-23 กก. ขาทั้ง 4 ข้างค่อนข้างสั้น แต่อุ้งเท้ามีขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการปีนต้นไม้

ลักษณะเด่นคือ มี ลวดลายตามลำตัวคล้ายก้อน เมฆ...จึงเป็นที่มาของชื่อ...เสือลายเมฆ ลายที่อยู่บนหลัง จะมีขนาดใหญ่กว่าบริเวณอื่นๆ โดยมี ขอบสีดำล้อมรอบ ขนตามลำตัวสีเหลืองอ่อน บางตัวอาจมีสีเทาเข้ม หรือน้ำตาลเทา ใต้ท้องมีสีอ่อนกว่าลำตัว หางยาวฟูและมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับความยาวลำตัว มีลายจุดสีเข้มตลอดถึงปลายหาง

การกระจายพันธุ์ตั้งแต่ ประเทศเนปาล สิกขิม ภาคเหนือของ อินเดีย ภาคใต้ของ จีน ไต้หวัน ตะวันตกของ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เกาะบอร์เนียว และ เกาะสุมาตรา พฤติกรรมมัก ชอบอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว และ หากินตามลำพัง ส่วนมากอยู่บนต้นไม้ แต่ก็ลงมาบนพื้นดินบ้างเป็นครั้งคราว มักหา กินในเวลากลางคืน เหยื่อ ได้แก่ นก ลิง และ งูบางชนิด โดยก่อนกินเหยื่อจะเลียขนของเหยื่อเพื่อทำความสะอาด บางครั้งจะกลับมากินเหยื่อที่เหลือทิ้งไว้จนหมด ใช้เวลาตั้งท้อง 90-95 วัน ตกลูกครั้งละ 2-4 ตัว โดยลูกเสือแรกเกิดมีน้ำหนักตัวประมาณ 150-180 กรัม

เสือชนิดนี้มีลวดลายสวยงาม จึงตกเป็นที่ต้องการของมนุษย์เสมอๆทั้งล่าเพื่อเอาหนัง และนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงโดยมนุษย์แล้ว ปรากฏว่า เสือลายเมฆมีพฤติกรรมที่ไม่ดุ และค่อนข้างเชื่องมาก กว่าเสือหรือแมวป่าชนิดอื่นๆ

สถานะปัจจุบันใน สหภาพนานาชาติ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากร ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะ DD (Data Defficient) หมายถึง ข้อมูลไม่เพียงพอในการประเมินความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ไชยรัตน์ ส้มฉุน

ที่มา ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=131653


* farming01.jpg (102.63 KB, 450x200 - ดู 2834 ครั้ง.)

* farming02.jpg (122.49 KB, 450x200 - ดู 1808 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.133 วินาที กับ 20 คำสั่ง