แล้ง 4 ระดับ 111 ล้านไร่ ยามนี้...แม้ว่าจะมี
ฝนตกกระจายไปทั่วประเทศ แต่ปริมาณน้ำที่ในแหล่งกักเก็บทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางยังน้อยอยู่ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์ สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ยังขอ ให้ประชาชนและเกษตรกรร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อสำรองทรัพยากรไว้ใช้ในอนาคต ให้เกิดประโยชน์และ ประสิทธิภาพสูงสุด...หากเกิดกรณีฝนตกน้อย หรือทิ้งช่วง
ส่วน การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2552 ใน เขตชลประทานได้กำหนดพื้นที่เป้าหมาย ทั้งประเทศ 13.19 ไร่ ล่าสุด เมื่อต้นเดือนนี้ (เมษายน) มีการ เพาะปลูกไปแล้ว 14.20 ล้านไร่ คือ 108 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เป้าหมาย
ซึ่งแยกเป็น ข้าวนาปรัง 9.55 ล้านไร่ พืชไร่พืชผัก 0.59 ล้านไร่ และ อื่นๆ อีกราว 3.73 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังมีแนวโน้มที่จะเพาะปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ขอให้เกษตรกรที่จะทำนาปรังรอบที่ 2 ให้พิจารณาถึงแหล่งน้ำต้นทุน ว่าจะพอเพียงหรือไม่
คุณบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในการรับผิดชอบ เกี่ยวกับความแห้งแล้งของพื้นที่เกษตรกรรม บอกกับสื่อมวลชนว่า....
พื้นที่ที่มีโอกาสเกิดสภาวะแห้งแล้งทั้งประเทศรวม 111.3 ล้านไร่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ
ระดับแรกเป็น พื้นที่มีสภาวะแห้งแล้งปกติในฤดูแล้ง โอกาสขาดแคลนน้ำ ทั้งอุปโภค บริโภคและการเกษตรต่ำ (ส่วนใหญ่เป็น พื้นที่นาปรังในเขตชลประทาน ไม้ผล ไม้ยืนต้นและป่า) 68 ล้านไร่
ระดับ 2...ความแห้งแล้งปานกลาง ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน มีการปลูกข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง พืชผัก ไม้ผล 94.32 ล้านไร่
ระดับ 3 ราวๆ 32.70 ล้านไร่ เป็น พื้นที่โอกาสสูงที่จะเกิดความแห้งแล้ง เนื่องจากไกลแหล่งน้ำชลประทานปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่ำและดินอุ้มน้ำได้ต่ำ
และ....ระดับ 4 เป็น พื้นที่มีโอกาสเกิดความแห้งแล้งสูงมาก เพราะลักษณะทางกายภาพของดินในการอุ้มน้ำต่ำมาก มีพื้นที่ประมาณ 11.15 ล้านไร่ ประชากรและเกษตรกรเดือดร้อน ด้วยปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ไม่มีแหล่งน้ำชลประทาน พื้นที่การเกษตรกรรมเสียหายรุนแรง ส่วนใหญ่ จะปลูกพืชไร่เป็นหลัก
กรมพัฒนาที่ดินมีแผนส่งเสริมพื้นที่นอกเขตชลประทานให้ เกษตรกรปลูกพืชปุ๋ยสดหลังการเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากใช้น้ำน้อยและสามารถ สับกลบเพิ่มความอุดมสมบูรณ์กลับสู่พื้นดินได้อีก
ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดินยังจัดทำแผนที่แสดงพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดสภาวะแห้งแล้ง ในปีนี้ โดยใช้ปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญในการวิเคราะห์พื้นที่ด้วย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)
ซึ่ง.....จะแจงถึง ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี ปริมาณน้ำฝนที่ต่างจากค่าปกติ พื้นที่ชลประทาน ความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน และพื้นที่ที่เคยเกิดภาวะแล้งซ้ำซาก
โดย...สามารถตรวจสอบข้อมูลในแผนที่ทั่วประเทศได้จากเว็บไซต์
www.ldd.go.th ตลอดเวลา...!!!
ที่มา . ไทยรัฐ