กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 19, 2024, 05:29:44 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2552  (อ่าน 4955 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 02:13:38 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา

สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทย ในขณะที่หลายพื้นที่ของประเทศมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ยังทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงไว้ด้วย

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

คาดหมาย

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

ข้อควรระวัง   

ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้


* Forecast160409.JPG (50.39 KB, 451x362 - ดู 786 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 02:25:33 AM »

เผอิญมาช่วยอัพเดทข่าวพร้อมๆกับเด็กน้อย โพสเรื่องพยากรณ์อากาศเหมือนกัน เลยขออนุญาตมาโพสเสริมเลยนะครับ 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ

อากาศ ร้อน อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ตาก น่าน ลำพูน ลำปาง และแพร่
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศ ร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากจังหวัดเลย หนองคาย สกลนคร อุดรธานี นครพนม ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
อากาศ ร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
อากาศ ร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา
http://www.tmd.go.th/daily_forecast.php
บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 02:36:54 AM »

ร่วมด้วยช่วยกันคนละแรงสองแรง 

เมื่อเกสรดอกไม้ก่อปัญหาในปักกิ่ง

ในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิราวเดือนเมษายนและ พฤษภาคมนี้ ชาวปักกิ่งประสบปัญหาเกสรดอกไม้จำนวนมากของต้นปอปลาร์(poplar tree) ที่ปลิวมาตามลม นับเป็นปัญหาหนึ่งที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต ทำให้คุณภาพอากาศยิ่งเลวร้าย ขณะที่ประชาชนในเมืองหลวงป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจจากมลพิษที่โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยของเสีย และพายุทรายที่มีอยู่แล้ว
       
ขณะเดียวกันทางการปักกิ่งได้ทดลองเปลี่ยนระบบการสืบพันธุ์ของต้นปอปลาร์เพศเมีย ซึ่งก็เป็นอีกความพยายามในการป้องกันการผลิตเกสร ขณะที่ทั่วกรุงปักกิ่งมีต้นไม้ประเภทนี้ถึง 300,000 ต้น

ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000042329
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 16, 2009, 03:59:44 AM โดย ดอกปีบ » บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 03:51:55 AM »

ดีค่ะ คนละไม้ละมือ เพื่อบ้านเรานะค่ะ .....รักกัน รักกัน เถิดคนไทย....ขอบคุณค๊าบบบ
บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 05:57:21 AM »

น้ำจืดของโลกกำลังเหลือน้อย ใช้สอยอย่างรู้ค่า-อย่าก่อมลพิษ

จริงอยู่ที่ว่าโลกเราประกอบด้วยน้ำถึง 97% แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำเค็ม และมีน้ำจืดเพียงแค่ 3% อีกทั้ง 3 ใน 4 ของจำนวนนี้ ก็เป็นน้ำแข็งที่ขั้วโลก ซึ่งน้ำที่มนุษย์เราบริโภคได้จริงนั้น มีอยู่เพียงน้อยนิดของสัดส่วนน้ำทั้งโลก
       
ทว่าแหล่งทรัพยากรเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ กลับถูกมนุษย์ทำลายลงทุกขณะ ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลกที่ปัจจุบันมีมากกว่า 6.5 พันล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านคน ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2050 นั่นหมายความว่า จะมีความต้องการน้ำจำนวนมหาศาล มากกว่าปริมาณน้ำที่จะจัดหาได้ในปัจจุบัน
       
ล่าสุดที่ประชุมสภาน้ำโลก (World Water Council : WWC) ชี้ว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีปัญหาน้ำอย่างรุนแรงนั้น คาดว่าจะสูงถึง 3.9 พันล้านคนในปี ค.ศ.2030 นับว่าเกือบครึ่งของประชากรทั่วโลก โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้จะอยู่ในจีนและเอเชียใต้
       
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรีนพีซระบุถึงปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดมลพิษทางน้ำ 6 อันดับแรก คือ 1.ความลาดชันของพื้นที่ 2.โรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางน้ำ 3.พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4.ปริมาณการใช้สารเคมีเกษตร 5.ปริมาณสารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และ 6.ความหนาแน่นประชากร
       
อย่างไรก็ดี ในส่วนของประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำมากกว่า 92.68% ของพื้นที่ทั้งหมด หากพิจารณารายภาคพบว่า ภาคตะวันออกมีสัดส่วนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดคือ 35.64% ของพื้นที่ทั้งหมด รองลงมาคือภาคกลาง 15.89% ส่วนจังหวัดที่มีเนื้อที่ความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำระดับสูงมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และสมุทรสาคร มีมากถึง 100% ของพื้นที่
       
ทั้งนี้ ประชากรไทยประมาณ 63 ล้านคน อาจได้รับผลกระทบจากมลพิษทางน้ำระดับสูงถึง 4,440,049 คน ระดับปานกลางจำนวน 3,687,738 คน และระดับต่ำ จำนวน 1,178,816 คน โดยภาคกลางจะมีประชากรที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางน้ำระดับสูงมากที่สุด คือประมาณ 3 ล้านคน รองลงมาคือภาคเหนือ 626,839 คน ภาคตะวันออก จำนวน 363,668 คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 314,369 คน และภาคใต้ จำนวน 209,447 คน
       
สำหรับการป้องกันและแก้ปัญหา คือพยายามลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางน้ำ ปริมาณสารเคมีที่ใช้ในโรงงานและในการทำเกษตรกรรมให้จูงใจในการลดมลพิษ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด (Clean Production) รวมทั้งลดการทำลายแหล่งน้ำ อันเป็นสถานที่ก่อกำเนิดทรัพยากรที่สำคัญต่อชีวิต

ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040861
บันทึกการเข้า
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 07:03:58 AM »

ไ่ม่แน่ใจว่า ถือว่าเป็นข่าวหรือเปล่า
แต่เห็นว่า น่าสนใจดี จึงอยากนำมาบอกต่อค่ะ : )

...


  รายการแดนสนธยา เสนอสารคดีชุดพิเศษ  ตอน มหาสมุทรชีวิต (OCEANS)
          วันที่ 14 - 16 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 18.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

รายการแดนสนธยา เสนอสารคดีชุดพิเศษ ตอน มหาสมุทรชีวิต (OCEANS) วันที่ 14 - 16 เมษายน 2552          พบ กับสุดยอดสารคดีฟอร์มยักษ์ชุดใหม่ล่าสุดจาก BBC กับผลงานการถ่ายทำระดับมืออาชีพของทีมสุดยอดนักประดาน้ำ นำโดย พอล โรส พร้อมตากล้อง และทีมงานกว่า 100 ชีวิต... สู่การสำรวจความมหัศจรรย์ใต้ท้องน้ำ ที่ใช้เวลาถ่ายทำใต้น้ำนานถึง 3,825 นาที และเหนือน้ำ 22,800 นาที... ในกว่า 50 สถานที่ทั่วโลกของมหาสมุทรทั้ง 7 แห่ง ร่วมสัมผัสความสวยงาม อย่างประทับใจในการดำดิ่งสู่ห้วงมหาสมุทรลึกที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน สัตว์น้ำ ยุคอดีตกาลที่เชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตปัจจุบัน สัตว์ลึกลับที่ไม่เคยมีปรากฏให้ผู้ใดพบเห็น โดยเริ่มผจญภัยกันที่ ทะเลคอร์เตซในมหาสมุทรแปซิฟิก



     วันอังคารที่ 14 เม.ย. 52
          ร่วมทีมดำน้ำไปกับนักสำรวจ พอล โรส และทีมผู้เชี่ยวชาญทำการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ใต้ท้องสมุทร ดำดิ่งสู่ ทะเลคอร์เตซในมหาสมุทรแปซิฟิก สำรวจผลกระทบขั้นรุนแรง ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ทำให้สมดุลของระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ร่วมเผชิญหน้ากับ สิงโตทะเล สัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ที่นักชีววิทยาทางทะเล และนักสมุทรศาสตร์ ทูนี่ มาโต้ ทำการศึกษาตรวจสอบความสมบูรณ์ของนิคมสิงโตทะเล พบการค้นหาสาเหตุถึงการขยายพันธุ์ได้มากของสิงโตทะเล เมื่อตรวจอุจจาระสิงโตทะเล และพบเศษกระดูกหูปลา ที่เป็นปลาในเขตน้ำลึก พร้อมค้นหาหลักฐานการขยายตัวของเปลือกโลกบน รอยแยก ซาน แอนเดรียส ที่สร้างทะเลคอร์เตซ ที่มีการแยกตัวของแผ่นดินทั้ง 2 มาตลอดเวลา 5 ล้านปี ติดตามผลกระทบที่รุนแรง เมื่อฉลามลดจำนวนลงไปมากในทะเล คอร์เตซ และการแพร่พันธุ์เป็นจำนวนมากของ หมึกฮัมโบลด์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมีมากกว่า 20 ล้านตัว พบการรุมโจมตีล่าเหยื่ออันแสนโหดเหี้ยมของ หมึกฮัมโบลด์ ที่ใช้การกระพริบสีสัน เพื่อรวมตัวกันออกล่าเป็นฝูง
       วันพุธที่ 15 เม.ย. 52
          ติดตามนักโบราณคดีทางทะเล ดอกเตอร์ ลูซี่ บลู ในการสำรวจซากเรืออับปาง ซากเรือฟานหมิง ที่ในอดีตเคยบรรทุกคนงานอพยพชาวจีนในการพาไปสำรวจทุกซอกมุม และ แหล่งที่ซ่อนคนงานชาวจีนภายในเรือ ติดตามวิถีชีวิตของ อินเดียนแดงเผ่าเซริ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์ทะเล ร่วมเจาะลึกวิธีการดูแลท้องทะเลของ ชาโป และไรมอนโด ชาวเผ่าอินเดียนแดง ในการออกหาหอยแครง ที่พวกเขายังคงอนุรักษ์ ดูแลทรัพยากรทางทะเล โดยวิธีการเก็บเกี่ยวแบบยั่งยืน ที่ทำให้เห็นถึงวิธีสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์กับความสมบูรณ์ ของท้องทะเล ร่วมค้นหา วาฬหัวทุย ไปกับ ดอกเตอร์ คอริน่า และดอกเตอร์ ไดแอน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวาฬ ในการตรวจสภาพความสมบูรณ์ของ วาฬหัวทุย ด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างเชื้อโรคในลมหายใจของวาฬในธรรมชาติ เพื่อตรวจสภาพว่าพวกมันติดเชื้อในปอดหรือไม่
        วันพฤหัสบดีที่ 16 เม.ย. 52
          พบเฮลิคอปเตอร์ติดตั้งจานเก็บตัวอย่าง เพื่อเก็บเชื้อโรคจาก ลมหายใจของวาฬ ที่สามารถบินอยู่เหนือช่องหายใจของวาฬได้ ทำให้ ดอกเตอร์ คอริน่า สามารถตรวจเช็คสุขภาพของวาฬหัวทุย โดยไม่เป็นการรบกวนมัน ซึ่งผลจากการเก็บตัวอย่างบ่งชี้ว่า พวกวาฬอาจได้รับ เชื้อแบคทีเรียจากมนุษย์ ที่มาจากกิจกรรมจากการชมวาฬ ร่วมสังเกตการณ์ใต้น้ำในทะเลคอร์เตซของ ฟิลิป คูสโต และทูนี่ มาโต้ ในการสำรวจความสมบูรณ์ของทะเลคอร์เตซ ในการเป็นแหล่งผสมพันธุ์ของวาฬหัวทุย สำรวจน่านน้ำแห่งใหม่ในมหาสมุทรขั้วโลกใต้ ที่เย็นเฉียบ กับภารกิจการสำรวจผลกระทบจากการที่ทะเล อุ่นขึ้น ใน เกาะแทสมาเนีย ติดตามหาสาเหตุที่ทำให้ป่าต้นเคลป์ลดจำนวนลงอย่างมาก ซึ่งนักสิ่งแวดล้อม ฟิลิป คูสโต ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิน้ำทะเล และพบว่าอุณหภูมิในน้ำทะเลมีความอุ่นมากถึง 14 องศาเซลเซียส ทำให้เม่นทะเลเจริญเติบโตได้ดี และสามารถอพยพมาทำลายต้นเคลป์อ่อนๆ ได้

          ติดตามชม “มหาสมุทรชีวิต” ในรายการแดนสนธยา
          วันที่ 14 - 16 เมษายน 2552 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 18.30 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี


ที่มา : http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=458B367A59F825C1C72576CF262599FD
บันทึกการเข้า
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 07:17:32 AM »

นักธรณีเม็กซิโกเตือนภัยน้ำทะเลสูง 3 เมตร ใน 50 ปี [15 เม.ย. 52 - 23:47]

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (15 เม.ย.) ว่า นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเม็กซิโก ได้เปิดเผยผลการศึกษาภาวะผันแปร ของระดับน้ำทะเล จากช่วงยุคน้ำแข็ง เมื่อกว่า 120,000 ปี ก่อน พบว่า มีอัตราการเพิ่มระดับเพียง 3 เมตร ภายในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี เพราะผลพังทลายของภูเขาน้ำแข็งไม่กี่ชิ้น แต่หากการพังทลายของภูเขาน้ำแข็ง เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน หรือ อนาคตอันใกล้ อาจทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลก เพิ่มสูงได้ถึง 13 เมตร หรือ 42 ฟุต มากเพียงพอจะกระทบถึงความเป็นอยู่ ของมนุษย์หลายสิบล้านคน ที่อาศัยอยู่ตามที่ลุ่มแถบปากแม่น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในทวีปเอเชีย และแอฟริกา

ทั้งนี้ เพียงแค่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 3 เมตร จะก่อผลกระทบต่อเมืองใหญ่ แถบชายฝั่งทะเลจำนวนมาก รวมทั้งนครเซี่ยงไฮ้ของจีน นครกัลกัตตาของอินเดีย เมืองนิวออร์ลีนส์ในสหรัฐฯ นครมุมไบของอินเดีย และกรุงธากาของบังกลาเทศ โดยน้ำแข็งจะละลายมาจากพื้นที่ด้านตะวันตก ของทวีปแอนตาร์กติกา และแถบกรีนแลนด์

ข้อมูลของคณะลูกขุนระหว่างประเทศ ว่าด้วยปัญหาชั้นบรรยากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือ ไอพีซีซี ทำนายไว้เมื่อปี 2550 ระบุระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นราว 59 ซม.ก่อนถึงปี 2653 สืบ เนื่องมาจากปัญหาโลกร้อน จะทำให้เกาะเล็กเกาะน้อยได้รับผลกระทบน้ำท่วม แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังมองความเป็นไปได้ว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นได้ถึง 3 เมตร ภายในช่วงเวลาแค่ 50 ปีจากนี้ และสิ่งที่ต้องมองกันต่อไป คือ หาแหล่งที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสม อาทิ พื้นที่แถบตะวันตกของออสเตรเลีย

ที่มา : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=133071
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 16, 2009, 07:20:43 AM »

ว้าว...อึ้งกับความมหึมาอ่ะ....น่าสนใจมากจ้า .....ขอบคุณค๊าบบ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.302 วินาที กับ 19 คำสั่ง