Mabuhay......Puerto Galera, Philippines

[สายชล]

เราเดินข้ามฟากไปทางด้าน Dive Shop เพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำ  ซึ่งที่นี่มีการจัดระบบระเบียบไว้อย่างดียิ่ง 

เรามีช่องสำหรับเก็บของส่วนตัว   และเราได้รับหมายเลขสำหรับผูกกับ BCD  ซึ่งตรงกับไม้แขวนอุปกรณ์ของเรา   เมื่อประกอบอุปกรณ์เสร็จแล้ว ถังอากาศพร้อมอุปกรณ์จะถูกนำไปไว้บนเรือเร็ว  เมื่อถึงเวลาดำน้ำ เราก็ใส่ Wet Suit แล้วก็หอบแต่ฟิน...หน้ากาก....กล้อง....ไปลงเรือเท่านั้น

[สายชล]

Dive Leader ของเรา เป็นหนุ่มตากาล็อกนาม Raymond ซึ่งดำน้ำเก่ง ปลอดภัย  รักษาวินัย และตาดีเยี่ยม


นอกจากแผนที่จุดดำน้ำทั้งหมดของ Puerto Galera แล้ว.....ก่อนจะลงดำน้ำทุกครั้ง Remond หรือไม่ก็เด็กเรือ จะเขียนแผนที่ของจุดดำน้ำไว้ในกระดานอย่างสวยงามและละเอียดเพื่อใช้ประกอบการบรี๊ฟที่จะบอกรายละเอียดสภาพภูมิประเทศของจุดดำน้ำ  แผนการดำน้ำ  และสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละจุด 

[สายชล]

#17  Sabang Wreck


ถึงเวลาดำน้ำแล้วล่ะค่ะ......


ไดฟ์แรกของการดำน้ำในทริปนี้  เป็นการดำน้ำตื้นๆง่ายๆ เพื่อเป็นการทดสอบการดำน้ำของพวกเราชาวไทย.... Raymond เลยจัดให้เราไปดำน้ำที่เรือจมสามลำเล็กๆที่อยู่ในอ่าวซาบัง ซึ่งที่นี่เขาเรียกกันว่า  "Sabang Wreck" 


เด็กเรือเขียนแผนผังของจุดดำน้ำไว้ให้เราอย่างสวยงาม เล่นเอาน้องเบิ้ดซึ่งเป็นจิตรกรมืออาชีพเห็นแล้วยังทึ่ง....

[สายชล]

เราก้าวลงไปที่ชายหาดหินกรวดบริเวณหน้ารีสอร์ทที่เรือจอดเทียบอยู่  เมื่อทุกคนพร้อม เรือก็แล่นฉิวออกไป....


เพียง 2 นาทีเรือก็หยุดกึกบริเวณห่างจากอ่าว Sabang เพียง 150 เมตร.....แล้ว Remond ก็สั่งให้เราใส่อุปกรณ์ดำน้ำ พร้อมกับนั่งห้อยก้นที่กาบเรือ  เตรียมพร้อมจะหงายหลังทำท่า Back Rool ลงไปในน้ำทะเลสีคราม


"1....2....3....Go......"


สิ้นเสียง Remond เสียงตูมๆจากการที่ตัวพวกเราตกกระทบน้ำก็ตามมา


"ฮุ้วววววว......น้ำเย็น"   เสียงคุณสายน้ำและน้องๆอีกหลายคนส่งเสียงครวญคราง


ไม่มีเวลาคิดมาก ....Raymond สั่งพวกเราให้มุดน้ำลงไปตามแนวสายทุ่นทันที.....


น้ำใสมองได้ไกลกว่า 20 เมตร....แถมยังไร้กระแสอีกด้วย  ที่พื้นทรายขาวสะอ้านไม่ห่างจากสายทุ่นนัก  มีเรือไม้ลำเล็กๆจมอยู่ลำหนึ่งที่ความลึกราว 17 เมตร โดยวางตัวอยู่ในแนวตะวันออก-ตะวันตก 

เมื่อมองจากด้านใต้  เรือลำนี้ดูสมบูรณ์ดี....

[สายชล]

ที่ไหนได้.....พอไปใกล้ๆ  เราเห็นด้านซ้ายของเรือยุบหายไปกองกับพื้นหมด....

[สายชล]

ส่วนด้านขวา....ไม้กระดานก็หายไปหลายแผ่นแล้ว.....


Remond บอกเราว่าเรือลำแรกนี้ และเรือลำที่สองที่อยู่ใกล้ๆกันถูกพายุไต้ฝุ่นจมลงเมื่อ 30 ปีก่อน  ที่เหลือให้เห็นนี้ก็นับว่าบุญแล้ว...

[สายชล]

สิ่งที่น่าสนใจของจุดดำน้ำนี้ก็คือ จะมีปลากบสองตัว สีน้ำตาลและสีเทาอาศัยอยู่  ถ้าไม่อยู่ลำที่หนึ่ง ก็จะไปอยู่ลำที่สอง หรือไม่ก้ลำที่สาม....

เราเลยช่วยกันว่ายรอบเรือหาปลากบกันใหญ่....

[สายชล]

หาปลากบเท่าไรก็ไม่พบ....

เจอแต่เจ้าหน้ามู่ทู่......ปลาหิน Reef Stonefish ที่ตัวใหญ่ยักษ์ขนาดจัมโบ้  ตัวยาวเกือบฟุต  หัวโตราว 10 ซม. แถมมีปลาสิงโตตัวโตเป็นบอดี้การ์ดอีก...

[สายชล]

ดูภาพขยายด้วยเลนส์มาโครนะคะ ว่าหน้าตาเจ้าปลาหินตัวนี้อัปลักษณ์เพียงใด....

[สายชล]

Raymond พาเราดำน้ำไปทางด้านตะวันตกจากเรือจมลำแรก.....

แผล๊บเดียวก็ถึงเรือจมอีกลำหนึ่ง ซึ่งลำนี้มีสภาพทรุดโทรมยิ่งกว่าลำแรกอีกค่ะ...

หัวเรือและกลางลำเรือพังทลายไปหมด  เหลือให้เห็นแต่โครงเรือส่วนท้ายไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.....

[สายชล]

เสน่ห์ของเรือจมลำนี้อยู่ตรงระเบียงไม้ท้ายเรือที่เป็นช่องๆให้มองลอดไปเห็นอีกฝั่งหนึ่งได้....

[สายชล]

เราช่วยกันตามหาปลากบจนทั่วลำเรือ....

[สายชล]

ไปเจอปลากบครีบเหลือง....ตาเหลือง....ชูสองนิ้ว  อยู่บนเสากระโดงเรือ.....

[สายชล]

จากเรือลำที่สอง....เรามุ่งหน้าไปทางเหนือ

สมอเรือที่นำมาใช้ผูกสายทุ่น....เห็นแล้วก็ชอบใจ  เพราะเข้ากับบรรยากาศเรือจมดีจริงๆ....

[สายชล]

เรือจมลำที่สามอยู่ลึกกว่าลำอื่นๆคือที่ความลึกราว 21 เมตร แต่เล็กกว่าลำอื่นๆ เพราะเป็นเรือใบไฟเบอร์ ขนาดเล็ก


เมื่อสองสายไปดำน้ำที่นี่ครั้งแรกเมื่อร 5 ปีก่อน  เรือจมลำนี้ยังอยู่ในสภาพที่ใหม่เอี่ยมอยู่เลย  ตอนนี้....สิ่งมีชีวิตเริ่มมาเกาะติดเต็มลำเรือแล้ว.....