กระดานข่าว Save Our Sea.net
มีนาคม 29, 2024, 12:01:55 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 29 เมษายน 2552  (อ่าน 6415 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:12:57 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28-30 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้บางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 1-4 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง และลมตะวันตกกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ยังทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนต่อเนื่อง และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วง 1-2 วันนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (38.21 KB, 684x423 - ดู 1806 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:26:36 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


ปะการังอ่อนที่เกาะเต่า                                         :                                วินิจ รังผึ้ง



      ถ้าถามถึงสีสันของโลกใต้ทะเลแล้ว คงต้องยกให้สีสันของโลกใต้ทะเลอันดามัน เพราะมีน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส มีปะการังและชีวิตอันหลากหลายซึ่งมีสีสันที่สดใสจัดจ้าน โดยเฉพาะปะการังอ่อนที่มีสีแดงสด ม่วง ชมพู อันเป็นสีสันที่เด่นสะดุดตาที่สุดในท้องทะเลก็ว่าได้ ซึ่งแหล่งที่พบปะการังอ่อนมากๆ และสวยงามนั้น จะพบได้ที่หมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย กองหินริเชลิว หมู่เกาะพีพี และหมู่เกาะตะรุเตา แต่ไม่ค่อยจะพบเห็นทางท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยสักเท่าไหร่ จะพบบ้างก็บริเวณเกาะโลซินซึ่งเป็นกองหินกลางทะเลที่ห่างไกลจากชายฝั่งมากเท่านั้น ส่วนจุดดำน้ำแห่งอื่นๆนั้นแม้นจะพบบ้างก็มักจะกระจายกันอยู่ไม่กี่ต้น ไอ้ที่จะมากมายละลานตาไปทั้งกองหินนั้นไม่ค่อยจะมีให้เห็น
       
       ผมเองเคยดำน้ำมาทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามันก็ออกจะเห็นด้วย และเชื่ออย่างนั้นมาตลอด เพราะเมื่อกลับมาดำท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะบริเวณกองชุมพร หรือแหล่งดำน้ำรอบๆเกาะเต่า ซึ่งนับเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดทางฝั่งอ่าวไทย สิ่งที่เป็นสีสันของโลกใต้ทะเลในบริเวณนั้นก็คงจะเป็นเจ้าปะการังดำ ซึ่งเป็นต้นแผ่กิ่งก้านสาขาเหมือนต้นไม้สีเหลือง นั่นดูจะเป็นสีสันที่สะดุดตาที่สุด จะหาสีแดงสดใส สีม่วง สีชมพูนั้นแทบไม่ต้องหวังกันเลย เพราะแหล่งปะการังอ่อนในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ขึ้นมากมายเป็นลานหินนั้น ผมแทบจะไม่เคยพบเห็นในที่ใดมาก่อน
       
       กระทั่งเมื่อได้มีโอกาสเดินทางไปดำน้ำในเส้นทางชุมพร-เกาะเต่าอีกครั้ง และได้มีโอกาสดำน้ำที่เกาะเล็กๆใกล้ๆ อ่าวเทียนออกซึ่งเป็นอ่าวสวยงามแห่งหนึ่งของเกาะเต่า ชาวบ้านเรียกเกาะเล็กๆแห่งนี้ว่า กงทรายแดง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Shark Island เนื่องจากบริเวณกงทรายแดงหรือเกาะฉลามแห่งนี้ มักเป็นที่อยู่อาศัยของฉลามหูดำ และฉลามครีบขาวที่มักจะว่ายเวียนหากินกันให้นักดำน้ำเห็นกันอยู่บ่อยๆบริเวณนี้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ เพราะฉลามเหล่านี้มักมีขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นฉลามเด็กๆ ขนาดยาวสักเมตร หรือเมตรเศษๆ ไม่ค่อยดุร้าย ไม่ค่อยกล้าเข้ามาใกล้นักดำน้ำเท่าไหร่ เจอกันทีไรก็มักจะว่ายหนีรักษาระยะ ไม่ค่อยยอมให้ว่ายเข้าไปดูใกล้ๆ
       
       ลักษณะของกงทรายแดง หรือ Shark Island นั้นเป็นเกาะหินเล็กๆไม่มีชายหาด ระดับน้ำรอบๆเกาะมีระดับความลึกต่างกันไล่ตั้งแต่ 10 ฟุตทางด้านเหนือของเกาะลึก และจะค่อยๆลึกลงไปถึง 60 ฟุตทางด้านใต้ แม้จะเป็นจุดดำน้ำใกล้เกาะเต่า แต่สภาพใต้ทะเลก็มีความหลากหลายของสรรพชีวิต ตั้งแต่ปะการังแข็งรูปทรงหลากหลายมีตั้งแต่ปะการังเขากวาง ปะการังผักกาด ปะการังสมอง ปะการังดอกเห็ด ซึ่งอยู่ในระดับตื้น
       
       แต่ลึกลงไปหน่อย บริเวณรอยต่อระหว่างปะการังแข็งกับพื้นทราย จะเป็นดงแซ่ทะเลสีแดงสลับกับปะการังดำสีเหลืองที่มีรูปทรงกิ่งก้านคล้ายกับต้นไม้ แม้นสีสันภายนอกจะมีสีเหลืองหรือสีขาว แต่กิ่งก้านที่เป็นโครงสร้างภายในจะเป็นสีดำมันวาว ปะการังชนิดนี้จึงได้ชื่อว่าปะการังดำซึ่งมีมากมายในแถบทะเลเกาะเต่าและหมู่เกาะทะเลชุมพร นับเป็นความงดงามแปลกตาเป็นเอกลักษณะของใต้น้ำรอบๆ บริเวณนี้


   
       เมื่อดำลึกลงไปทางปลายหัวเกาะด้านใต้ในระดับความลึกราว 60 ฟุต กระแสน้ำค่อนข้างแรง บริเวณนั้นมีกองหินใต้น้ำก้อนเล็กๆขนาดเท่ารถบรรทุกหกล้อ เรียงรายกันอยู่ 4-5 ก้อน สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจและแทบไม่เชื่อสายตาก็คือ บนก้อนหินเหล่านั้นเต็มไปด้วยปะการังอ่อน สีแดง สีม่วง สีชมพู ขึ้นแซมสลับกับแซ่ทะเลสีแดงเต็มไปหมดทั้งก้อนหิน มันเป็นสีสันที่ผมไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะได้พบเจอภาพเช่นนี้ในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย
       
       อาจจะเป็นเพราะบริเวณกองหินใต้น้ำด้านใต้ของหัวเกาะกงทรายแดง เป็นจุดที่มีกระแสน้ำไหลแรงอยู่เสมอและน้ำทะเลค่อนข้างใส ซึ่งปะการังอ่อนนั้นชอบขึ้นอยู่บริเวณใต้ทะเลที่น้ำใส กระแสน้ำไหลแรงพาสารอาหารที่แขวนลอยมากับน้ำ ซึ่งบริเวณนี้เป็นทำเลที่เหมาะสมยิ่ง แต่ที่น่าแปลกก็คือทำเลที่มีลักษณะใกล้เคียงเช่นนี้ในแหล่งดำน้ำแห่งอื่นๆ ของแหล่งดำน้ำทางฝั่งอ่าวไทยกลับไม่มีปะการังอ่อนอาศัยอยู่เหมือนเช่นที่กงทรายแดงแห่งนี้
       
       ปะการังอ่อนนั้นเป็นสัตว์ทะเลเช่นเดียวกับปะการังแข็ง เพียงแต่ไม่มีโครงสร้างแข็งที่เป็นหินปูนครอบคลุมอยู่ แต่กลับมีโครงสร้างอ่อน และมีรูปทรงสีสันสวยงามคล้ายกับต้นไม้ดอกไม้ทะเล โครงสร้างของปะการังอ่อนที่คล้ายกับลำต้นของต้นไม้ สามารถจะดูดน้ำเข้าไปช่วยให้ลำต้นอวบอิ่มเติบโตชูกิ่งก้านออกไปจับกินอาหารที่ล่องลอยมากับกระแสน้ำในยามที่มีกระแสน้ำไหลแรง และจะคายน้ำให้กิ่งก้านเหี่ยวเฉาเป็นการพักตัวในยามที่กระแสน้ำสงบนิ่ง ปะการังอ่อนนั้นมีการกระจายพันธุ์เช่นเดียวกับปะการังทั่วไป ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่ดีที่เราพบเห็นเจ้าปะการังอ่อนขึ้นอยู่หนาแน่นบริเวณกองหินใต้น้ำที่กงทรายแดงแห่งนี้ ซึ่งในอนาคตมันอาจจะแพร่ขยายพันธุ์ไปในแหล่งดำน้ำอื่นๆใกล้เคียงก็เป็นได้
       
       สิ่งที่ดูจะเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของแหล่งดำน้ำรอบๆเกาะเต่าก็คือ กองหินใต้น้ำบางแห่งจะมีดอกไม้ทะเลหรือซีแอนนีโมน ครอบคลุมอยู่มากมายทั่วไปทั้งลานหิน แต่ดอกไม้ทะเลเหล่านี้ก็มักจะไม่ค่อยมีปลาการ์ตูนมากมายและหลากหลายพันธุ์เหมือนทางฝั่งทะเลอันดามัน โดยปลาการ์ตูนที่พบกันเป็นส่วนใหญ่ก็มักเป็นเจ้าการ์ตูนพันธุ์อินเดียน ซึ่งเป็นปลาการ์ตูนชนิดที่ไม่ค่อยมีสีสันเท่าไหร่ และอาจจะพบเห็นปลาการ์ตูนอานม้าที่พอมีสีสันอยู่บ้าง แต่ก็มีให้เห็นกันไม่ค่อยมากนัก
       
       เดือนเมษายนใกล้สิ้นสุดลง ฤดูกาลดำน้ำทางฝั่งทะเลอันดามันก็ใกล้ปิดฤดูกาล ด้วยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มครอบคลุมฝั่งทะเลอันดามัน ในขณะที่ท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยคลื่นลมก็จะเริ่มสงบอันเป็นช่วงฤดูกาลดำน้ำทางฝั่งอ่าวไทยและบริเวณเกาะเต่า ใครที่มีโอกาสไปดำน้ำที่เกาะเต่าก็อย่างลืมแวะไปชมความงามของปะการังอ่อนที่กงทรายแดง แหล่งดำน้ำที่สวยงามของเกาะเต่าดูครับ


****************************************************************************************************************************


จีนครึ่งประเทศประสบพายุทรายครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี


ชาวเมืองในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ควบมอเตอร์ไซด์ฝ่าพายุทรายที่พัดเข้ามาในเมืองตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. - ภาพ เอเอฟพี

หนังสือพิมพ์สากล – พายุทรายพัดถล่มทางตอนเหนือของจีน ครอบคลุมกว่า 14 มณฑล หลายพื้นที่รุนแรงมากเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปี ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นเตรียมหามาตรการรับมือ


สองแม่ลูกเดินจูงมือกันข้ามถนนท่ามกลางพายุทรายที่หนาแน่นในเมืองหลันโจว มณฑลกานซู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา - ภาพ เอเอฟพี
       
       สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่าพายุทรายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนตั้งแต่วันพฤหัสบดี( 23 เม.ย.) ที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกบางส่วนประสบกับมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะเขตปกครองตนเองซินเจียง , หนิงเซี่ย และมองโกเลียใน รุนแรงมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการต้องประกาศเลื่อนเที่ยวบินหลายเที่ยว รวมถึงประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนต่างๆ


ผู้คนในเมืองหลันโจว มณฑลกานซู่เดินข้ามถนน ซึ่งทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยพายุทราย - ภาพ ซีน่าเน็ต
       
       ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนได้ประกาศรับมือพายุทรายระดับ 1 แล้ว ซึ่งเป็นระดับเบื้องต้นในการป้องกัน


ถนนในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ - ภาพ ซีน่าเน็ต
       
       อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาประเมินว่า ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาจจะเผชิญกับพายุทรายระลอกที่สองระหว่างวันที่ 28 – 30 เมษายนนี้
       
       ทั้งนี้พายุทรายที่พัดเข้ามาทางตอนเหนือของจีนมักจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม กระทั่งเดือนพฤษภาคม และเนื่องจากช่วงต้นปีนี้ทางตอนเหนือประสบภาวะแห้งแล้ง จึงทำให้มีพายุทรายค่อนข้างหนาแน่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายออกมาเตือนว่าต้องเตรียมรับมือกับมลพิษทางอากาศครั้งใหม่นี้


ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองหลันโจว ต้องใช้ผ้าปิดจมูกขณะอยู่นอกบ้านเพื่อป้องกันฝุนทรายที่อาจสูดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ - ภาพ ซีน่าเน็ต

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:31:18 AM »

มติชน


ซีพีเอฟจับมือชุมชนปลูกป่าชายเลน ลดอุณหภูมิโลก



นายฤาชา สิงขรรัมย์ ผู้แทนบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารแบบครบวงจร ที่ตระหนักและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดกระบวนการผลิต ขณะเดียวกันยังร่วมกระตุ้นการสร้างจิตสำนึกทั้งของผู้บริหาร พนักงาน และประชาชน ด้วยการเชื่อมโยงกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ากับชุมชนใกล้เคียง โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับชาวบ้านในตำบลบางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จัด “โครงการ 999 ต้นกล้า คืนสู่ป่าเฉลิมพระเกียรติ” ขึ้น ณ ศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติบางโทรัด

“โครงการนี้เป็นความร่วมมืออันดีระหว่างบุคลากรของซีพีเอฟ องค์การบริหารส่วนตำบลบางโทรัด และชาวบ้านรวมประมาณ 100 คน ที่ช่วยกันนำต้นโกงกาง จำนวน 999 ต้น ไปปลูกในพื้นที่ริมทะเล เป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศน์ และยังมีส่วนช่วยให้เกิดการกระตุ้นจิตสำนึกของพนักงานและคนในชุมชน ให้เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนป่าที่พวกเขาเป็นผู้ลงมือปลูก อันจะยังผลให้เกิดการเอาใจใส่และดูแลรักษาให้ต้นโกงกางสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายฤาชากล่าว



ทั้งนี้ ซีพีเอฟให้การสนับสนุนการปลูกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ทั้งในรูปแบบการนำผู้บริหารและพนักงานดำเนินการปลูกป่าเอง และร่วมกับนิสิต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและองค์การพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติแห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นความตั้งใจจริงในการอนุรักษ์ป่าชายเลนของบริษัทได้เป็นอย่างดี   “โครงการ 999 ต้นกล้า คืนสู่ป่าเฉลิมพระเกียรติ” ยังนำไปสู่ “กิจกรรมมวลชนสัมพันธ์” ที่องค์กรธุรกิจในปัจจุบันต่างก็ให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างบริษัทและชุมชนรอบข้าง ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีและนำไปสู่ความร่วมมือในโครงการอื่นๆต่อไป

นายสมพงษ์ รอดดารา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางโทรัด ตำบลบางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ซีพีเอฟ  ซึ่งมีโรงงานการผลิตอยู่ใน จ.สมุทรสาคร มีความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อม และออกมาให้ความรู้แก่ชุมชนใกล้เคียงให้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมด้วย ทำให้เกิดความสบายใจและเชื่อได้ว่า โรงงานของซีพีเอฟ เป็นโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ 

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:34:15 AM »

ข่าวสด


คราบน้ำมันลอยเต็มอ่าวหลีเป๊ะ เหตุเรือปลาจม-นอตถังน้ำมันหลุด


คราบน้ำมัน-สภาพชายหาดอ่าวประมง ของเกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล คราบน้ำมันที่ลอยขึ้นจากเรือประมงที่จมอยู่ในทะเลทำให้น้ำและหาดทรายสกปรกและมีกลิ่นเหม็น ขณะนี้ทางจังหวัดสตูลกำลังเร่งหาวิธีการแก้ก่อนที่จะกระทบท่องเที่ยว

สตูล-จากกรณีที่คราบน้ำมันเตาลอยขึ้นมาเต็มบริเวณอ่าวประมง ของเกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง ทำให้น้ำและหาดทรายสกปรกและมีกลิ่นเหม็น ทางนายช่วงชัย เปาอินทร์ รองผู้ว่าฯสตูลกล่าวว่าคราบน้ำมันที่ลอยขึ้นมา เกิดจากเรือปลาป่นถูกไฟไหม้จมลึก 38 เมตรเมื่อ 14 ปีที่แล้ว รอยรั่วเกิดจากนอตถังน้ำมันหลุดและคายออกมาทำให้น้ำมันไหล การหารือมีการแก้ปัญหาไว้ 2 ระยะ ระยะสั้นให้ประสานกับเจ้าของเรือเพื่อขอดูแปลนเรือและเข้าไปอุดรอยรั่วเป็นการถาวรหรือสูบน้ำมันออกจากตัวถังจุดนี้ต้องดูว่าถังน้ำมันอยู่จุดไหนของเรือ ให้นำทุ่นมาล้อมคราบน้ำมันไว้ไม่ไห้ขยายวงกว้างและกำจัดคราบและกลิ่นบริเวณชายหาดโดยใช้สารเคมี

ระยะยาวสำรวจเพื่อที่จะกู้เรือขึ้นมาแต่ต้องดูงบประมาณของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ถ้าแก้ในส่วนของระยะยาวนั้นอาจจะส่งผลต่อปะการัง แต่ก็จะพยายามให้กระทบน้อยที่สุด

ด้านนายอาหลี สุขสุวรรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯจังหวัดสตูล เผยว่านักประดาน้ำ 10 คนแบ่งเป็น 2 ชุด ลงไปสำรวจเรือใต้น้ำในระดับความลึก 42 เมตร พบซากเรือถูกปกคลุมไปด้วยปะการัง สำรวจพบว่ามีรอยรั่วของน้ำมันหลายจุดและพบรูขนาดใหญ่บริเวณด้านกราบซ้ายของเรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว มีน้ำมันสีดำทะลักออกมาเรื่อยๆเจ้าหน้าที่ใช้ถุงมืออุดรูรั่วไว้ชั่วคราว จะนำข้อมูลทั้งหมดรายงานให้นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าฯสตูลเพื่อหามาตรการแก้ไขต่อไป

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:37:22 AM »

คม ชัด ลึก


ไฟเขียว "ป่าเปียก" แก้ไฟป่า-หมอกควัน

"กรมป่าไม้" นำแนวพระราชดำริ "ป่าเปียก" มาป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่า ครม.ไฟเขียว กระตุ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำแผนของบดำเนินการ มั่นใจแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

  นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ ทส.เสนอแผนการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยให้ดำเนินการขยายผลแนวพระราชดำริ "ป่าเปียก (Wet Fire Break)" ซึ่งเป็นแนวทางการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยใช้ความชุ่มชื้นให้ป่าเขียวตลอดเวลา ก็จะสามารถป้องกันไฟป่าได้

 นอกจากนี้ ตามมติ ครม.มีความเห็นชอบให้สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าปี 2551-2554 เพื่อดำเนินงานควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดสรรงบประมาณให้กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขยายผลแนวพระราชดำริต่อไป

 นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมจะจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาซึ่งมีหลักการสำคัญคืออนุรักษ์ป่าไม้ โดยใช้ความชุ่มชื้นให้ป่าเขียวตลอดเวลา จะสามารถป้องกันไฟป่าได้ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เมื่อมีไฟป่าเกิดขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงการแก้ไขปัญหาด้วยการระดมสรรพกำลังกันดับไฟป่าให้มอดดับอย่างรวดเร็วเท่านั้น ซึ่งเห็นว่าจะไม่น่าเป็นแนวทางป้องกันไฟป่าได้สำเร็จและยั่งยืนในระยะยาว

 "กรมเชื่อว่าการดำเนินการและวิธีการตามแนวพระราชดำริจะสามารถป้องกันไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดังนั้นจึงเร่งจัดทำแผนงานโครงการต่างๆ ตามแนวและวิธีการที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ป่า เพื่อของบประมาณไปดำเนินการต่อไป" นายสมชัย กล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 12:41:03 AM »

แนวหน้า


‘สุวิทย์’ร่วมลงนาม ผุดอุทยานเขาสวนกวาง แหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติ    
 
 ขอนแก่น:นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการอุทยานสัตว์ป่าเขาสวนกวาง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้าน ร่วมลงนาม พร้อมทั้งเป็นสักขีพยาน ที่โรงแรมพูลแมน ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น

 นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า ทส. ได้มอบนโยบายให้องค์การสวนสัตว์ดำเนินการสำรวจพื้นที่บริเวณ อ.เขาสวนกวาง เพื่อก่อตั้ง “โครงการอุทยาน สัตว์ป่าเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 แห่ง คือ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง ควบเกี่ยวกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี รวม 4,696 ไร่

 โดยการก่อตั้งโครงการดังกล่าวก็เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าหายาก และเป็นศูนย์วิจัยเพาะเสี้ยงสัตว์ ตลอดจนเป็นแหล่งการศึกษาและท่องเที่ยวในรูปแบบผจญภัย รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว การลงทุน การจ้างงานในท้องถิ่น ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้มั่นคง ช่วยลดอัตราการว่างงานและปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ลงได้ ซึ่งโครงการดังกล่าว อยู่ในสังกัดสวนสัตว์ในพระราชูปธัมป์ เป็นแห่งที่ 7 ของประเทศ และคาดว่าในปลายปีนี้จะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมได้

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
chickykai
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 04:11:31 AM »

OMG! เริอจม 14 ปี ยังมีน้ำมันในเรือ แล้วเค้าก็ปล่อยไว้จนเรือมันผุ น้ำมันรั่ว แม่เจ้า!

ปกติอ่าวประมงที่เกาะลงดำน้ำตื้นที่หาดก็เหม็นน้ำมันเรือบนผิวน้ำจากเรือหางอยู่แล้วนะ
บันทึกการเข้า

***********************************************************************
ไม่สวย แต่เลือกมาก
ทางเลือกเป็นของทุกคน แต่เลือกแล้วต้องยอมรับผลทั้งหมดที่ตามมา
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 01:53:44 PM »

ขอบคุณค๊าบบบ ... .
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.518 วินาที กับ 20 คำสั่ง