กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 24, 2024, 07:17:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2552  (อ่าน 2711 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2009, 12:04:23 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกของ ประเทศไทยได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมประเทศกัมพูชาแล้ว แต่ยังคงทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 2-4 พฤษภาคม 2552 ทำให้ บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ตอนบนอ่อนกำลังลง และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกและประเทศกัมพูชา ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายและฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้หย่อมความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาปกคลุมภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย


ข้อควรระวัง

สำหรับในช่วงวันที่ 2-6 พ.ค. อ่าวไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง



* Forecast2.jpg (38.91 KB, 684x423 - ดู 438 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2009, 12:14:59 AM »

ข่าวสด


บ้านบนเกาะ สวรรค์ของหนู                                  :                            คอลัมน์ สดจากเยาวชน
     

 
ด.ญ.ซำซียะ วีรญา ศรีรมย์ หนูน้อยมุสลิมตัวเล็กๆ ที่ร่าเริงสดใสมีชีวิตที่คนในเมืองใหญ่ต้องอิจฉา เพราะบ้านอยู่บนเกาะที่เหมือนสวรรค์น้อยๆ รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม

โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมเช่นนี้ชีวิตซำซียะและเพื่อนๆ บนเกาะยิ่งเติมเต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวมากมายให้ได้เรียนรู้

"ที่นี่มีทั้งหาดทราย มีทะเล มีป่าชายเลน ป่าพรุ มีภูเขา มีสวนยาง สวนกายี" ซำซียะบอกเล่าถึงธรรมชาติอันหลากหลายในทุ่งนางดำหมู่บ้านเล็กๆ ของตัวเอง

ทุ่งนางดำเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แห่งเดียวในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ที่มีลักษณะเป็นเกาะ นั่งเรือที่ท่าเรือคุระบุรีมาเพียง 15 นาที ชาวบ้านในแผ่นดินเล็กๆ ที่แยกตัวออกมานี้จึงใช้เรือสัญจรไปมาระหว่างเกาะกับฝั่งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ซำซียะบอกว่า "หนูนั่งเรือไปโรงเรียนทุกวันค่ะ เด็กๆ ในหมู่บ้านจะไปเรือนักเรียน มีพี่มาลีกี ป.6 เป็นคนขับเรือค่ะ"

ระหว่างทางเดินไปท่าเรือของหมู่บ้าน เด็กๆ ชาวบ้าน หรือแขกไปใครมาจะต้องเดินผ่านสะพานไม้เล็กๆ ที่ทอดยาวสู่คลอง ล้อมรอบไปด้วยป่าชายเลนก่อนเป็นอันดับแรก เป็นประตูเข้าสู่หมู่บ้านและพบกับห้องรับแขกที่เขียวขจี

เด็กๆ ได้เห็นได้สังเกตระบบนิเวศของป่าชายเลนระหว่างการเดินทางไปกลับในทุกๆ วัน

"ในป่าชายเลนมีไม้ตะบูน โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก เป็นที่อาศัยของสัตว์อย่างลิง นก เป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เพราะจะมีปู มีกุ้ง ปลา หอยจุ๊บแจง หอยแครงมากมายเลยค่ะ" น้องซำซียะอธิบายคุณค่าป่าชายเลนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของหมู่บ้าน
 


"ลูกของต้นตะบูนคล้ายกับส้มโอ หนูเอามาทำเป็นของเล่นค่ะ เจาะทำเป็นหน้ากากผีได้" เสียงบอกเล่าของซำซียะสะท้อนมุมมองเล็กๆ ของเด็กๆ ในสวนสนุกป่าเลน

ต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากระโยงระยางคอยยึดชายฝั่งจากการถูกกัดเซาะของคลื่นลม ตลอดแนวของสะพานเข้าสู่หมู่บ้าน นอกจากจะมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศแล้วยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม

"โน่น! ฝักโกงกางค่ะ" ซำซียะชี้และบอกว่า "ถ้ามันแก่ ฝักมันจะร่วงตกลงในเลนและเติบโตงอกต้น งอกราก งอกใบ"

ซำซียะรวมถึงเด็กๆ ในหมู่บ้านรู้ดีว่านี่คือการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติของป่าชายเลน แต่หากมีเวลาชาวบ้านและเด็กๆ จะรวมตัวช่วยกันปลูกต้นกล้าในป่าชายเลน เป็นการช่วยธรรมชาติให้งอกงามเติบโตอีกทางหนึ่ง

สิ้นสุดเขตป่าชายเลนเป็นถนนเส้นเล็กๆ สำหรับทางเท้า ทางจักรยาน หรือจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใช้การเดินเพื่อไปมาหาสู่กัน หมู่บ้านจึงเงียบสงบ ชาวทุ่งนางดำ 20 กว่าครัวเรือนเป็นชาวมุสลิม ใช้ชีวิตเรียบง่าย ด้วยการทำสวนรวมถึงการประมงชายฝั่ง สองข้างทางเข้าหมู่บ้านจึงร่มรื่นด้วยสวนยางพารา สวน มะม่วงหิมพานต์ ป่าพรุ ทุกหลังคาเรือนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ซำซียะบอกว่า "เดินไปสุดถนน อีกด้านของเกาะเป็นหาดค่ะ สวยมาก เดี๋ยวหนูจะพาไปเที่ยว"
 


หมู่บ้านทุ่งนางดำเป็นหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 ธรรมชาติในท้องทะเลที่เคยโดนคลื่นยักษ์ซัดสาดกำลังฟื้นตัวกลับมาสวยงามอีกครั้ง

"เกาะที่เราเห็นตรงนั้นเป็นหมู่เกาะสุรินทร์ ตรงนู้นเกาะไข่ค่ะ" ซำซียะชี้ชวนดูเกาะต่างๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าหาดของเกาะทุ่งนางดำและเล่าว่า "ตรงหน้าหาดมีการอนุรักษ์หญ้าทะเลค่ะ เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำ"

ก่อนเกิดคลื่นสึนามิบริเวณหน้าหาดเคยมีหญ้าทะเลอยู่มาก คลื่นยักษ์สาดซัดทำลายหญ้าทะเลหายไปเป็นบริเวณกว้างมาก สัตว์น้ำก็น้อยลงตามไปด้วย ชาวบ้านจึงช่วยกันกำหนดแนวเขตอนุรักษ์หญ้าทะเล กำหนดช่วงเวลาในการจับสัตว์น้ำบริเวณแนวหญ้าทะเลเพื่อให้กุ้ง หอย ปู ปลา ได้พักขยายพันธุ์ตามธรรมชาติและเติบโตให้ทุกคนได้หาอยู่หากิน

ซำซียะบอกว่ามีกิจกรรมแสนสนุกที่หน้าหาด นั่นคือ "การหาหอยเดือยไก่"

"ที่ทุ่งนางดำเรียกว่า ซีโป๊ะโซะโซะอายำ ซีโป๊ะ แปลว่าหอย โซะโซะ แปลว่า เดือย อายำหมายถึงไก่ รวมกันก็คือหอยเดือยไก่ค่ะ"

หอยเดือยไก่ก็คือหอยเจดีย์ บ้างเรียกกันว่าหอยหลักไก่หรือหอยมวนพลูตามแต่ท้องที่ เปลือกมีลักษณะเป็นเกลียวยาวและมียอดแหลม ฝังตัวอยู่ในพื้นทราย ชาวบ้านเก็บมาแกงบ้าง ลวกจิ้มน้ำพริกบ้าง เป็นหอยท้องถิ่นที่มีอยู่เกลื่อนกล่น แต่จะหาได้ก็เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้น

"ถ้าน้ำลงเรานั่งเก็บได้เลยค่ะ มันจะจมอยู่ในดิน บางตัวมันก็จะโผล่อยู่บนดิน เวลางมเราก็เอามือล้วงดู ควานหาแล้วหยิบขึ้นมาได้เป็นกำๆ เลย แต่ถ้าน้ำขึ้น น้ำจะเยอะ หายาก ต้องดำน้ำลงไป" ซำซียะบอกเล่ากิจกรรมสุดสนุกของครอบครัว เพราะหากมีเวลาว่างทั้งพ่อ แม่ พี่ น้า อาจะมาช่วยกันเก็บหอย ได้เล่นน้ำทะเลสนุกแล้วยังแฝงไปด้วยการเรียนรู้มากมาย เช่น ได้สำรวจสิ่งมีชีวิตบริเวณหาดทราย เรียนรู้ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงของฝั่งทะเลอันดามันอีกด้วย

อย่างเช่นวันนี้อยู่ในช่วงน้ำใหญ่ เวลาที่น้ำทะเลขึ้นก็ขึ้นมาก ส่วนเวลาลงก็ลงมาก จนทรายใต้ทะเลโผล่เห็นหาดกว้างไกล ห้องอาหารที่แสนกว้างใหญ่ไพศาลยามน้ำลงนี้ จึงเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมาให้เด็กๆ และชาวบ้านทุ่งนางดำ

หมู่บ้านเล็กๆ บนเกาะของด.ญ.ซำซียะจะทำให้ทุกคนหลงรัก เจ้าถิ่นวัย 7 ขวบ อาสาเปิดประตูพาชม แล้วคุณจะรู้ว่าสวรรค์บนเกาะทุ่งนางดำเป็นอย่างไร ติดตามในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน "บ้านหนูอยู่เกาะ" เช้าวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2552 เวลา 06.25 น. ทางช่อง 3 อสมท. www.payai.com


**********************************************************************************************************************


เทศกาล 5 ภูมิภาค ฟื้นเที่ยว"พัทยา"

ชลบุรี - นายนิติ คงกรุต ผอ.ททท.สนง.พัทยา และนายอัครวิชย์ เทพาสิต นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.ททท.สนง.พัทยา แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวไทย 5 ภาค สีสันตะวันออก ซึ่งงานจะจัดขึ้นที่บริเวณชายหาดเมืองพัทยา ในวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2552 โดยมีการนำเอาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของดี OTOP อาหารและผลไม้ จากทั้ง 5 ภูมิภาคของประเทศไทย มาจัดบูธวางจำหน่าย

นายนิติ กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกลุ่มจังหวัดและระหว่างภูมิภาครวมทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศ ตามแผนรณรงค์โฆษณาตลาดประจำปี 2552 และเน้นการท่องเที่ยว ภายใต้แนวความคิด เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก จึงได้มีการจัดงานกิจกรรมท่องเที่ยวไทย 5 ภาคขึ้น โดยเริ่มที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเป็นภาคแรก โดยทางเมืองพัทยา และ จังหวัดชลบุรี ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ซึ่งการจัดงานเทศกาลที่พัทยาครั้งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศ คาดว่าการจัดงานครั้งนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าจะมีเงินหมุนเวียนสะพัดเข้ามากว่า 80 ล้านบาท

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.305 วินาที กับ 20 คำสั่ง