กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 19, 2024, 03:38:19 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2552  (อ่าน 4386 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2009, 02:17:40 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกน้อยกว่าภาคอื่นๆในระยะ 1-2 วันนี้
สำหรับพายุโซนร้อน “จันหอม” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง และเกือบไม่เคลื่อนที่ทำให้ลมตะวันตกที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น เป็นผลให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก และชาวเรือระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2552 นี้ไว้ด้วย

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณปริมณฑล
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 3-5 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นในระยะต่อไป ทำให้เกิดแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกกับลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้ และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก เว้นแต่ในภาคใต้และภาคตะวันออกจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย และในช่วงวันที่ 6-9 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้มีฝนตกต่อเนื่องไปอีก และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง

ข้อควรระวัง

สำหรับในช่วงวันที่ 3-5 พ.ค. ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


* Forecast040509.JPG (22.98 KB, 398x383 - ดู 1131 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2009, 02:33:34 AM »

เดลินิวส์

ร่วมใจรักษ์ป่า ดูแลธรรมชาติรอยต่อภาคตะวันออก
 
 จังหวัดจันทบุรี นับเป็น 1 ใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกที่ยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์และเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า “ป่าคือมณีมีค่าล้ำ” คำนิยามนี้ ไม่ใช่เขียนขึ้นมาเพื่อความเพลิดเพลินอย่างแน่นอน  หลังจากที่มนุษย์โลกได้บ่อนทำลายธรรมชาติไปเป็นจำนวนมาก โดยไม่มองถึงอนาคต จะด้วยเหตุผลมากมายที่แตกต่างกันก็ตาม มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีวิวัฒนา   การเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดได้อย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน มนุษย์ก่อสร้าง การทำลายตัวเองก็ติดตามกับการเรียนรู้ในการอยู่รอด มนุษย์โลกมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตรงข้ามกับสัตว์ป่าที่มีประชากรลดน้อยลงเป็นมุมกลับ เหตุผลหลักและศัตรูที่ร้ายกาจของสัตว์ป่าคือมนุษย์นั่นเอง เมื่อมีการขยายเพิ่มจำนวนมนุษย์มากขึ้นก็เกิดการแย่งที่อยู่อาศัยกันขึ้นตามทฤษฎีของการอยู่รอดนั่นคือการสร้างปัจจัย 4 สิ่งที่อยู่อาศัย จึงมีความจำเป็นต้องตัดไม้ทำลายป่าเพื่อความอยู่รอด จนก่อให้เกิดวิกฤติโลกร้อน หากจะเอ่ยบทความดังกล่าวแล้วมนุษย์ไม่ผิดที่จะต้องทำลายป่าเพื่อความอยู่รอด แต่ปัจจุบันมนุษย์ได้พัฒนาการสูงขึ้นจากการทำเพื่อความอยู่รอดของตนเองเป็นทำเพื่อความอยู่รอดของนายทุนอีกประการหนึ่ง
 
ป่าคือประติมากรรมของธรรมชาติ ที่สร้าง ขึ้นมาเพื่อเกลี่ยความสมดุลของหลากหลายชีวิต คน สัตว์ ต้นไม้ ลำธาร รวมเป็นธรรม ชาติ ทุกสิ่งที่เอ่ยมานี้ล้วนต้องพึ่งพากันขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ แต่ปัจจุบันนี้สัญญาณเตือนภัยได้เริ่มขึ้นแล้ว คือวิกฤติโลกร้อน สาเหตุที่มาจากน้ำมือมนุษย์ปฏิเสธที่จะเกลี่ยความสมดุลของธรรมชาติ คือการเอาเปรียบป่าด้วยการตัดไม้ทำลายป่าแต่ไม่มีการสร้างป่าทดแทน จนทำให้พื้นที่ป่าที่มีหน้าที่ดูดซับความร้อนลงสู่พื้นดิน สร้างไอน้ำขึ้นเป็นเกราะกันร้อน หมดไปนั่นเอง ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “...การที่จะมีต้นน้ำลำธารไปชั่วกาลนานนั้นสำคัญอยู่ที่การรักษาป่าและปลูกป่าบริเวณต้นน้ำลำธาร...”
 
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ได้ประกาศจัดตั้งตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 200 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2515 ครอบคลุมพื้นที่ ตำบลทับไทร ตำบลทรายขาว อำเภอโป่งน้ำร้อน ปัจจุบันทรายขาว เป็น อำเภอสอยดาว ตำบลฉมัน ตำบลตะเคียนทอง และตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ 745 ตารางกิโลเมตร หรือ 465,602 ไร่ จากรายงานการสำรวจการบุกรุกถือครองพื้นที่ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เมื่อปี 2547 พบว่ามีราษฎรเข้าถือครองพื้นที่จำนวน 3,955 ราย เนื้อที่ 78,261-0-9 ไร่หรือคิดเป็นร้อยละ 16.81 ของพื้นที่ จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 32 ปีที่ผ่านมาปัญหาการบุกรุกพื้นที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปราบปรามจากหน่วยงานของรัฐก็ตาม ทหารพรานนาวิกโยธินและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว นั้นกำลังพลยังไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาที่หนักอึ้งอันนี้ได้ ซึ่งการที่จะให้ราษฎรทิ้งที่ทำกินแม้จะได้มาจากการบุกรุกพื้นที่ป่านั้นเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากและการใช้ไม้แข็งเข้าใส่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรนัก นายอยู่ เสนาธรรม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จึงได้ประสานไปยัง กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดกองทัพเรือ โดยได้มอบหมาย ให้ นาวาเอกรัตนะ วงษาโรจน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ค่ายเทวาพิทักษ์ โป่งน้ำร้อน ร่วมจัด โครงการอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก อันเนื่องมาจากพระ ราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขึ้นเพื่อเป็นการสกัดไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวัน ออก โดยจันทบุรี ดูแล  5 อำเภอทหารพรานนาวิกโยธินรับผิดชอบ 2 อำเภอ คือ โป่งน้ำร้อน-สอยดาว ที่มีแนวป่าติดต่อกัน และเพื่อเป็นการ สกัดกั้นไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้อีกต่อไปอย่างถาวร เสมือนหยุดเลือดไม่ให้ไหลออกจากร่างกาย จึงต้องห้ามเลือด โดยการสร้างแนวสกัดป้องกันการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้ด้วยวิธีจัดแบ่งเขตด้วยการทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องนำเจ้าของที่เข้าชี้จุดของตนเองอย่างชัดเจนแล้ว ทำแนวกันชน ขนาดกว้าง 4-6 เมตร ชี้ชัดเจนว่าจุดไหนคือป่าจุดไหนคือที่ทำ กินของชาวบ้าน สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแนวกันชนสกัดกั้นการบุกรุกพื้นที่ป่าฯเพิ่มขึ้นสร้างความชัดเจนให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ งาน เพื่อเป็นเส้นทางตรวจการณ์และลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ สร้างการ  มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา 3,955 ราย บริเวณพื้นที่ถูกบุกรุกด้านอำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอแก่งหางแมว ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร กลยุทธ์ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก นาย  พูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบโครงการเป็นอย่างดี จนทำให้โครงการฯบรรลุเป้าหมาย ทุกฝ่ายต่างพึงพอใจยิ้มรับกับความเป็นจริงและได้รับความร่วมมือจากราษฎรในพื้นที่ 100% นับเป็นสัญญาณแจ้งอนาคตที่ดีว่าในอีกไม่นานนี้เราจะหยุดการทำลายป่าได้ด้วยจิตสำนึกของพวกเราเอง มนุษย์ ป่า สัตว์ป่า จะคงยังต้องพึ่งพาอาศัยกันตลอดกาล.
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2009, 02:49:58 AM »

มติชน

"กูเกิ้ล"จ้างแพะตัดหญ้า รักษาสิ่งแวดล้อม โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์

กูเกิ้ล เป็นบริษัทบริการด้านการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตที่เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้จัก เติบโตรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทใหญ่โตมโหฬารไปแล้วในระยะเวลาไม่นานนัก คุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งของกูเกิ้ลก็คือ การกล้าคิดกล้าทำอะไรใหม่ๆ

เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวอยู่ข่าวหนึ่ง บอกว่า กูเกิ้ล จ้างแพะทำงานแทนคน

เป็นเรื่องจริงครับ ไม่ใช้เรื่องล้อเล่น เพราะแพะ 200 ตัวถูกจ้างให้มากินหญ้าในบริเวณสำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ลที่แคลิฟอร์เนีย กินหญ้าแถมยังให้ปุ๋ยไปด้วย

ไม่มีรายละเอียดเรื่องการว่าจ้างแน่ชัด แต่มีข้อมูลว่าการให้แพะมากินหญ้านั้น เสียค่าใช้จ่ายไม่ต่างจากการใช้เครื่องตัดหญ้า ทว่าผลดีของมันคือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง แพะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงกันมาโดยธรรมชาติ ไม่ต้องผ่านกระบวนการอะไรกันมากมาย ขณะที่เครื่องตัดหญ้าโดยตัวมันเองสร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในแทบทุกชิ้นส่วน จนแม้เมื่อเอามาใช้งานก็ยังกินพลังงาน

แต่แพะไม่เลยครับ

ความคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่นัก แต่ใครจะลงมือทำ

จำได้ว่าตั้งแต่ตอนเด็กๆ การ์ตูนในไทยรัฐของ ประยูร จรรยาวงศ์ แนะนำเรื่องการเลี้ยงเต่าบกไว้ในบ้านที่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ให้มันกำจัดมูลอันไม่น่าพิสมัยของหมาแมวที่เราเลี้ยง

มองกันในแง่หนึ่ง การเอาแพะมาใช้แทนเครื่องตัดหญ้าของกูเกิ้ลนั้น นับว่าเป็นเครื่องมือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ชั้นดีให้เห็นว่า กูเกิ้ล เป็นบริษัทสีเขียว แต่หากเราติดตามพฤติกรรมของบริษัทนี้มามากพอสมควรก็จะรู้มาก่อนแล้วว่ากูเกิ้ลเป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ของโลกที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ไม่ได้ทำแบบฉาบฉวย และทำในทุกระดับ แม้ระดับพนักงาน เช่น มีโครงการส่งเสริมการใช้จักรยานภายในแคมปัสสำนักงานใหญ่สำหรับการเดินทางสั้นๆ ภายใน การใช้รถขนส่งพนักงานที่ใช้ไบโอดีเซล 20 ตลอดไปจนถึงตัวอาคารที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดนั้นคือการปักหลักนโยบายที่ใช้ทางวิชาการเรียกว่า การลดร่องรอยคาร์บอน หรือ รีดิวซิ่ง คาร์บอน ฟู้ดพรินต์ บริษัทที่อยากจะทำดีกับโลก อาศัยตัวนี้สำหรับการวัดทุกกิจกรรมที่ตัวเองทำ ทำอย่างไรให้ปลดปล่อยคาร์บอนออกมาน้อยที่สุด

หลายเรื่องประหยัดได้จริงจัง บางเรื่องแม้ไม่ได้ประหยัดลง แต่ก็ช่วยสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า เช่น กรณีการเอาแพะมาแทนเครื่องตัดหญ้า

ในระยะยาวเราทุกคนได้จากนโยบายและการกระทำอย่างนี้

ช่วงสงกรานต์เดือดในบ้านเรา ผมไปเตร็ดเตร่อยู่ที่เนปาล เห็นที่นั่นพวกอาคารบ้านเรือนมีแผงพลังงานแสงอาทิตย์กัน เนปาลขาดแคลนไฟฟ้า ต้องปิดไฟวันละ 12 ชั่วโมง คนก็อาศัยพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทน

จะไปสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ทำได้ครับ มีที่ให้ทำเยอะ แต่ต้องไปก่อหนี้ต่างประเทศเกินตัว และผลกระทบจากการสร้างเขื่อนก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ แนวเขตหิมะที่ร่นสูงขึ้นเรื่อยทำให้น้ำก็เป็นปัญหา

รัฐบาลเนปาลเขาทำแบบนี้ครับ วางแผนอุดหนุนการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ให้คนในเขตเมืองราวๆ 1 ล้านครัวเรือน

เท่ากับลดความต้องการใช้ไฟจากระบบใหญ่ลงไป และลดแรงกดดันให้ต้องสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นใหม่

หนี้ก็ไม่ต้องสร้าง ป่าก็ไม่ถูกทำลาย

ในภูมิภาคเอเชียของเรานั้น 75 เปอร์เซ็นต์ของการปลดปล่อยคาร์บอนมาจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งยังไม่เลิกราทั้งที่สั่งสอนกันมาไม่รู้กี่สิบปีแล้ว





คลอง"บ้านวังทะลุ"เน่าน้อยลง "หลายฝ่าย"รุมแก้วิกฤตร่วมกัน

กรณีน้ำในคลองบ้านวังทะลุและประปาหมู่บ้านหมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เน่าเสียมีสีขุ่นแดงและดำข้น ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้ปลาลอยหัวตายจำนวนมาก สาเหตุจากฝนพายุฤดูร้อนชะล้างสิ่งปฏิกูลและลานมันสำปะหลัง รวม 2 แห่งในหมู่บ้านลงในคลองและประปาหมู่บ้าน ต่อมานายเมตต์ แสงจันทร์ ปลัดป้องกันและปราบปราม นายพีระศักดิ์ สัมฤทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ได้ตรวจสอบและสั่งให้ลานมันปรับปรุงบ่อบำบัดลานมัน โดยเบื้องต้นได้นำสารอีเอ็มเทลงคลองเพื่อบำบัดน้ำเน่าเสีย

ล่าสุด ที่หน้าท่าน้ำ วัดใหม่นาบุญ มีการฉีดพ่นน้ำให้เป็นฝอยขึ้นสู่อากาศลงน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน แต่สภาพสีน้ำยังขุ่นแดงอยู่ ส่วนที่ประปาหมู่บ้านได้ใช้สารคลอรีนเพิ่มขึ้น และลานมัน ช.ทรัพย์ สมบูรณ์ จำกัด ได้สูบน้ำเสียจากบ่อบำบัดขึ้นมากักเก็บเพื่อขยายขนาดบ่อรองรับน้ำเพิ่มเติมและขุดขยายคันดิน

นายพีระศักดิ์ สัมฤทธิ์ นายก อบต.กรอกสมบูรณ์ กล่าวว่า สภาพน้ำเริ่มดีขึ้นมาก ปลาสวายหน้าวัดกินอาหารได้ปกติ และปลาขาวยังลอยหัวอยู่บ้าง




ลั่นแหล่งเที่ยวใต้ปลอดไข้หวัดใหญ่เอ
จว.อันดามันพร้อมรับมือคุมเข้ม เกาะสมุยตรวจผู้โดยสารบินตรง

นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต ยังไม่ได้รับผลกระทบทางการท่องเที่ยวจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโก เพราะ จ.ภูเก็ต ไม่มีสายการบินตรงที่นำนักท่องเที่ยวมาจากประเทศในกลุ่มเสี่ยง เช่น เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลี และที่ท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่งติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนแล้ว

นายกฤษ ศรีฟ้า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า จ.พังงา ไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดหลักที่เดินทางมาจากประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และประเทศกลุ่มเสี่ยง

นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เห็นว่า ขณะนี้ย่างเข้าช่วงโลว์ซีซั่น มีกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยเป็นตลาดหลัก สภาวะเศรษฐกิจโลกและการเมืองยังเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามันหยุดชะงักลง

นายทศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งอาจจะชะงักการเดินทาง แต่สายการบินไทยแอร์เอเชียจะต้องเร่งทำการตลาดให้มากขึ้น เหมือนกับที่เคยฝ่าฟันวิกฤตโรคซาร์ส วิกฤตสึนามิ และปัญหาการปิดท่าอากาศยานมาได้

นายเกรียงศักดิ์ ติสิงห์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินสมุย ตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าจากสนามบินสุวรรณภูมิและเที่ยวบินตรงจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง หากพบอุณหภูมิสูง 37 องศา จะส่งตรวจที่โรงพยาบาลเกาะสมุย

นพ.สุระ คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า อ.แม่สายอยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า ทำให้มีความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมู เพราะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ นิยมไปท่องเที่ยวและไปต่อวีซ่าหนังสือเดินทางระหว่างประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งประเทศ จึงร่วมกับหลายหน่วยงานดูแลอย่างเข้มงวด

ด้าน นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ส่งแพทย์ สาธารณสุข อสม.กว่า 18,000 คน ลงพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอแล้ว เพื่อให้ความรู้และสอนวิธีการเฝ้าระวังอย่างถูกต้องให้กับประชาชน เพราะโรคนี้จะติดต่อทางน้ำลาย น้ำมูก เสมหะ และจะแพร่ไปยังผู้อื่นด้วยการจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปะปนอยู่ แต่ไม่ติดต่อจากการบริโภคเนื้อหมู (กรอบบ่าย)





รวมเด็กทั่วโลกละเลงสี World Kids Colouring Day วันระบายสีโลกเพื่อ "เด็กด้อยโอกาส"

โดย สกุณา ประยูรศุข


 
ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เด็กแต่ละคนที่เกิดมาไม่มีใครสามารถเลือกเกิดได้

ดังนั้น บนโลกใบนี้จึงมีเด็กอยู่มากมายหลายสถานะ ทั้งเด็กที่เกิดมาจากครอบครัวแสนสุข อบอุ่น เด็กยากจน เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กเร่ร่อนไร้คนเหลียวแล ฯลฯ

เด็กหลากหลายมากมายที่ประสบปัญหาในมุมหนึ่งของโลกใบนี้ขาดการเอาใจใส่ดูแลจากครอบครัว ชุมชน และสังคม เรียกกันว่าเป็น "เด็กด้อยโอกาส"

จากตัวเลขขององค์กรระดับโลกหลายองค์กร ไม่ว่ายูนิเซฟก็ดี องค์การอนามัยโลก ก็ดี ระบุไว้ว่ามีเด็กด้อยโอกาสในโลกนี้เป็นจำนวนร้อยล้านคน และในจำนวนร้อยล้านคนนี้มีถึง 77 ล้านคน ที่เป็นเด็กอยู่ในวัยเรียน แต่กลับไม่ได้เข้าโรงเรียนเรียนหนังสือตามปกติ เหตุเพราะเป็นเด็กที่เกิดในพื้นที่หรือประเทศที่มีความขัดแย้ง หรือมีสงครามตลอดเวลา ซึ่งตัวเลขในส่วนนี้ระบุว่ามีถึง 35 ล้านคน

แต่เมื่อเด็กๆ เกิดมาแล้ว แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เด็กทุกคนควรมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันทุกคน

"โรงเรียน" จะเป็นแหล่งฟื้นฟู เยียวยา จิตใจของเด็กๆ ให้หายจากความหวาดกลัวและมีการพัฒนาทางสมอง ร่างกาย และจิตใจ เพื่อจะได้เติบโตมาเป็นพลเมืองโลกที่สมบูรณ์และมีคุณภาพ

หลายองค์กรในโลกใบนี้ได้เล็งเห็นปัญหาและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อนำพาเด็กด้อยโอกาสที่ยังมีตัวเลขสูงอยู่นี้ให้เป็นเด็กมีโอกาสทางการศึกษา หรือได้เข้าเรียนในโรงเรียนเฉกเช่นเด็กปกติทั่วไป

หน่วยงานหนึ่งที่เล็งเห็นความสำคัญและได้เข้ามาช่วยเหลือ คือบริษัท "สเต็ดเล่อร์" ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องเขียนและสีคุณภาพมาตรฐาน มีบริษัทแม่ที่เยอรมนี และมีสาขาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

"สเต็ดเล่อร์" ได้จัดงานที่มีชื่อว่า "วันระบายสีเด็กทั่วโลก" หรือ "World Kids Colouring Day" ขึ้น ปีนี้เป็นปีที่สอง สำหรับปีแรกที่จัดขึ้นนั้นมีเด็กทั่วโลกเข้าร่วมงานถึง 500,000 คน

"รอล์ฟ ดีเตอร์ ดาเนียล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท สเต็ดเล่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการจัดงานว่า งานวันระบายสีเด็กทั่วโลก หรือ World Kids Coloring Day เป็นการหาทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในโลกนี้ สำหรับประเทศไทยจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2552 ที่บริเวณลานเอเทรี่ยม 2 ห้างเซ็นทรัลเวิลด์

ส่วนประเทศอื่นๆ จะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานขึ้นพร้อมกันทั่วโลกร่วมแบ่งปันความสุขและช่วยเหลือเพื่อนผู้ด้อยโอกาสผ่านศิลปะการวาดภาพระบายสี เงินรายได้ที่ได้ในประเทศไทยจะมอบให้กับมูลนิธิสงเคราะห์เด็ก สภากาชาดไทย ผ่านทาง คุณหญิงสมศรี กันธมาลา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกนำเงินเข้าช่วยเหลือกองทุน "เซฟ เดอะ ชิลเดรน" หรือ กองทุนการกุศลเพื่อพิทักษ์เด็กสากล
 


"รอล์ฟ" บอกด้วยว่าการจัดงานครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วนับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ มีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกันทั่วโลกกว่า 500,000 คน จากประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศ อาทิ แคนาดา เยอรมนี เกาหลี สหราชอาณาจักร อิหร่าน เกาหลี ฯลฯ และไทย

"เด็กๆ มาร่วมแต่งแต้มสีสันผ่านดินสอสี และถือว่าเป็นการได้มาสร้างกุศลร่วมกัน เพราะเงินรายได้จากการขายเครื่องเขียนสเต็ดเล่อร์ชุด Back to School ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษนั้น ทั้งหมดบริจาคให้กับเด็กๆ ด้อยโอกาส มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก สภากาชาดไทย" เอ็มดีสเต็ดเล่อร์กล่าว

ขณะที่ "อภิวันท์ หล่อจิตต์เสียง" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บอกว่า งานนี้นอกจากเป็นการแบ่งปันความสุขของเด็กทั่วโลกไปสู่เด็กด้อยโอกาสแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการ ใช้ศิลปะในการวาดภาพและระบายสีเพื่อพัฒนาสมองและทักษะการเรียนรู้

เพราะศิลปะ เป็นสิ่งที่ช่วยให้จิตใจมนุษย์สงบ อ่อนโยน นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองเองก็ค้นพบว่า การจะทำให้มนุษย์ฉลาดนั้นจะต้องมีการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ดังนั้นถ้าอยากฉลาดก็ต้องหากิจกรรมที่กระตุ้นประสาททั้ง 5 ทำ และการวาดภาพระบายสีก็ทำให้เกิดการกระตุ้นประสาท ทำให้เกิดการเชื่อมโยงของเซลล์สมองในเวลาที่เด็กๆ คิดหรือเกิดจินตนาการ

"กิจกรรมของเราครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการ และใช้ศิลปะในการวาดภาพและระบายสีเพื่อพัฒนาสมอง เราคาดหวังว่าน้องๆ จะได้รับความสนุก และความรู้จากกิจกรรมต่างๆ ซึ่งในปีนี้มีกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านความคิดมากมาย ทั้งการวาดภาพระบายสี เกม การแสดง และกิจกรรมเปิดโลกแห่งจินตนาการ มีเวิร์กช็อปที่เพิ่มมากขึ้น และเราได้จัดทำกระปุกออมสินเพื่อให้น้องๆ ระบายสีแล้วนำกลับบ้านไปใช้ได้ เป็นการส่งเสริมการออมอีกทาง และสร้างสรรค์ชิ้นงานของเด็กๆ ให้ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง"

"จึงอยากเชิญชวนผู้ปกครองและเด็กๆ มาสนุกร่วมกันในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ลานเอเทรี่ยม 2 เซ็นทรัลเวิลด์ โดยสามารถซื้อชุดเครื่องเขียนระบายสีชุด Back to School ประกอบด้วย ดินสอสีคุณภาพที่จัดทำพิเศษด้วยระบบ ABS ป้องกันการหัก 24 สี ดินสอวาดภาพ 6 แท่ง ไม้บรรทัด 1 อัน ยางลบ 1 แท่ง และกบเหลาดินสอ และสมุดระบายสี 1 เล่ม ขายในราคาเพียง 135 บาท ขณะที่ราคาปกติแพงกว่านี้มากๆ"
 


งานนี้จึงไม่เฉพาะแต่เด็กด้อยโอกาสในไทยเท่านั้นที่จะได้รับการแบ่งปันความสุข แต่เด็กทั่วโลกต่างก็ได้รับความสุขจากงานนี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเรียนแต่ไม่ได้เข้าโรงเรียน เงินบริจาคทั้งหมดที่ได้รับจากโครงการเวิลด์คิดส์ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปช่วยเหลือในการศึกษาของเขาเหล่านั้น

และเมื่อเด็กๆ ได้รับการศึกษา สิ่งที่ตามมาคือความมั่นคงในชีวิต และศักยภาพในการทำสิ่งต่างๆ ในรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าการสร้างสันติภาพ หรือสร้างสังคมให้ดีขึ้น

มาช่วยกันปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาให้เป็นอิสระกันเถอะ

ข้อมูล "สภาวะเด็กไทย"จาก สสส.

คณะกรรมการบริหารแผน คณะที่ 4 ที่รับผิดชอบในการจัดทำแผนการเรียนรู้สู่สุขภาวะแผนหลักอันหนึ่งของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเด็กไทย ดังนี้

เด็กปฐมวัย หมายถึงเด็กตั้งแต่อายุ 0-5 ปีนั้น มีแนวโน้มการพัฒนาล่าช้าทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา และจริยธรรม อันเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม ทั้งจากครอบครัวและสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่ขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องการพัฒนาเด็ก

เด็กระดับประถมศึกษา (6-12 ปี) พบว่าพฤติกรรมการถูกเลี้ยงดูมีลักษณะตามใจมากไป ทำให้เด็กขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ พ่อแม่มุ่งหวังเรื่องผลการเรียนมากเกินไป ทำให้ขาดพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ความสามารถ ในการคิดและตัดสินใจที่ถูกต้อง

ขณะที่ความหมายของ "เด็กด้อยโอกาส" นั้น มีการระบุจากหน่วยงานที่ดูแลปัญหาด้านเด็ก ว่า ประกอบด้วย

1.เด็กยากจน (มากเป็นพิเศษ) หมายถึงเด็กซึ่งเป็นลูกหลานของคนยากจนที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ (ครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี) ครอบครัวอยู่รวมกันหลายคน ขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก รวมถึงเด็กในแหล่งชุมชนแออัด หรือลูกของกรรมกรก่อสร้าง หรือเด็กจากครอบครัวที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล ขาดโอกาสที่ได้รับการศึกษา และบริการอื่นๆ

2.เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด หมายถึงเด็กที่ติดสารระเหยหรือยาเสพติดให้โทษ หรือเด็กกลุ่มเสี่ยงการถูกชักนำให้ประพฤติตนไม่เหมาะสม เกี่ยวข้องผูกพันกับกลุ่มมิจฉาชีพ ผู้มีอิทธิพล หรือบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์จากการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย เป็นเด็กด้อยโอกาสที่มีแนวโน้มสูงต่อการก่อปัญหาในสังคม

3.เด็กที่ถูกทอดทิ้ง หมายถึงเด็กที่มารดาคลอดทิ้งไว้ในโรงพยาบาล หรือสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงเด็กที่พ่อแม่ปล่อยทิ้งให้มีชีวิตอยู่ตามลำพัง หรืออยู่กับบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ทั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาการหย่าร้าง หรือครอบครัวแตกแยก มีสภาพชีวิตอยู่ท่ามกลางความสับสน ขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู

4.เด็กที่ถูกทำร้ายอย่างทารุณ หมายถึงเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางร่างกาย ทางเพศ หรือทางจิตใจ มีชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นสุข ระแวง หวาดกลัว เนื่องจากถูกทำร้ายทารุณ ถูกบีบคั้นกดดันจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ซึ่งมีสภาพจิตใจหรืออารมณ์ไม่เป็นปกติ หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะต่างๆ จากบุคคลที่อยู่ใกล้ตัว

5.เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์หรือโรคติดต่อร้ายแรงที่สังคมรังเกียจ

6.เด็กในชนกลุ่มน้อย ที่เป็นลูกหลานของบุคคลที่มีวัฒนธรรมแตกต่างไปจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ มีปัญหาเกี่ยวกับการถือสัญชาติไทย จนเป็นสาเหตุให้ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษา หรือบริการอื่นๆ ส่วนใหญ่อพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่ตามบริเวณแนวชายแดนของประเทศไทย

7.เด็กเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ดำรงชีวิตอยู่อย่างไร้ทิศทาง ขาดปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต เสี่ยงต่อการประสบอันตรายและเป็นปัญหาสังคม

8.เด็กถูกบังคับให้ขายแรงงานหรือแรงงานเด็กก่อนถึงวัยอันสมควร ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ไม่มีโอกาสได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามหลักพัฒนาการอันเหมาะสมกับวัย

9.เด็กที่อยู่ในธุรกิจบริการทางเพศหรือโสเภณีเด็ก ทั้งสมัครใจและถูกบังคับล่อลวงให้ขายบริการทางเพศ

10.เด็กในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งกระทำผิดกฎหมายและถูกควบคุมตัว ตลอดถึงเด็กที่ตั้งครรภ์นอกสมรส ซึ่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น การทำแท้ง การฆ่าตัวตาย การทอดทิ้งทารก

ส่วน "ศิลปะ" นั้น มีประโยชน์อย่างมากมายสำหรับการเริ่มต้นของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการ "พัฒนา" ซึ่งมีระบุไว้ในตำราศิลปะ ว่า ประโยชน์ของการวาดภาพระบายสี คือการได้ผ่อนคลาย และมีสมาธิที่จดจ่อกับงาน การระบายสีด้วยสีสันที่สวยงามเด็กจะรู้สึกมีความสุข มีชีวิตชีวา ทำไปเรื่อยๆ ก็จะสนุกและเสริมสร้างสมาธิไปในตัว

การวาดภาพระบายสีเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของกิจกรรมสำหรับเด็กที่ไม่ต้องเร่งรีบมาก เพราะในชีวิตประจำวันของเด็กๆ ในโรงเรียนนั้น ปัจจุบันเน้นหนักทางด้านวิชาการมาก ศิลปะ จะช่วยให้เด็กมีช่องว่างในการทำอะไรที่ช้าลง มีสุนทรียภาพ
และช่วยทำให้เกิดสมดุลของสมองซีกขวาและซีกซ้าย





ชีวิตทันสมัย...ผลัดโฉมกล่อง"ยูเอชที"รีไซเคิลให้มีคุณค่า


นักเรียนได้โต๊ะใหม่จากกล่องยูเอชทีที่นำมารีไซเคิล
 
เด็กยุคดิจิตอล มีชีวิตที่สะดวกสบาย กับนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ หิวน้ำ อยากดื่ม ก็ใช้หลอดจิ้มลงไปในกล่องก็ได้น้ำผลไม้ นม หรือน้ำนมข้าวกล้องที่มีความสดดื่มแล้ว พอจะเข้าไปในครัวนึกอยากช่วยคุณแม่ทำอาหารก็ไม่ต้องนั่งขูดมะพร้าว หรือนั่งตำน้ำพริกให้เมื่อย เพราะแทบทุกอย่างมีอยู่ในกล่องยูเอชทีหมดแล้ว

กล่องยูเอชทีมี 2 แบบ คือ ชนิดที่มีกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์ และพลาสติค ประเภทโพลีเอททีลีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยทำให้กะทิ น้ำแกง นม หรือน้ำที่บรรจุ สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยไม่ต้องแช่เย็น และกล่องพาสเจอไรซ์ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นกระดาษ และพลาสติค ซึ่งเก็บความสดของน้ำผลไม้ หรือนมได้ไม่นาน ต้องเข้าตู้แช่เย็นเท่านั้น ข้อดีของกล่องยูเอชทีที่ทำให้ทั่วโลกนิยม เพราะคุณสมบัติกล่องที่ปลอดเชื้อทำให้เก็บความสดใหม่ และคงรสชาติคล้ายของจริงได้นานถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องใส่วัตถุกันเสีย และไม่ต้องแช่เย็น

ทว่าชีวิตทันสมัย มาพร้อมกับปัญหาขยะล้นโลก เพราะความสะดวกสบายที่มานั้น ต้องมีการประดิษฐ์ขึ้น แม้ว่าวัสดุหลักในการผลิตกล่องส่วนใหญ่จะสามารถพร้อมหมุนเวียนมาใช้ใหม่ (renewable) แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยไม่รู้ว่าจะเอาไปรีไซเคิลได้อย่างไร จึงโยนทิ้งไปเป็นภาระกับโลกมากมาย ซึ่งประมาณว่าปีๆ หนึ่งมีการผลิตสินค้าในรูปของกล่องยูเอชทีออกมาจำหน่ายในประเทศไทย นับพันล้านกล่องเลยทีเดียว
 


ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมากมายที่เกิดขึ้น ทั้งภัยธรรมชาติ โลกร้อน ทำให้ชีวิตยุคใหม่ ทั้งในส่วนผู้ผลิต ผู้บริโภค ต้องหันกลับมาสนใจและทำเรื่องรีไซเคิลจริงๆ จังๆ ผู้ผลิตสินค้าอย่าง อำพลฟูดส์ โฟรเซสซิ่ง ผลิต-จำหน่ายกะทิชาวเกาะ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่นๆ ปีละกว่า 100 ล้านกล่อง ลงทุนสร้างโรงงานรีไซเคิลกล่อง และทำแคมเปญ "กล่องวิเศษ ให้โชค ให้โลก ให้เด็กไทย" เพื่อเชิญชวนคนรุ่นใหม่ทุกครัวเรือน ได้ร่วมกันส่งกล่องที่ใช้แล้วกลับคืนตามร้านค้าทั่วไป โดยมีการจับรางวัลทุกสัปดาห์เพื่อเป็นแรงจูงใจ ซึ่งกล่องทั้งหมดจะถูกนำไปรีไซเคิล เป็นแผ่นไม้ ทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ส่งไปให้โรงเรียนขาดแคลน 7,600 ชุดในปีนี้
(ซ้าย) กล่องยูเอชทีที่ย่อยแล้วจะถูกนำมาโรยบนแผ่นเหล็ก

 


กระบวนการรีไซเคิล ที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมนี้ นับเป็นเครื่องแรกที่ผลิตโดยคนไทย ซึ่งมีการออกแบบ ดัดแปลงเป็นพิเศษ ให้ใช้งานง่ายรองรับปริมาณกล่องที่ส่งกลับมารีไซเคิลได้มากๆ โดยมีกระบวนการที่สำคัญคือ

เครื่องย่อยกระดาษ ทำหน้าที่ตัดย่อยกล่องเป็นชิ้นเล็ก เครื่องอัดร้อน ทำหน้าที่ขึ้นรูปแผ่นตามความหนาที่ต้องการ โดยกระดาษที่ย่อยแล้วจะถูกนำมาโรยบนแผ่นเหล็ก ให้ได้ขนาด จากนั้นนำเข้าเครื่องอัดร้อนที่อุณหภูมิสูง เพื่อหลอมพลาสติคที่เป็นส่วนประกอบในกล่อง ซึ่งเครื่องอัดร้อนนี้ออกแบบเป็นพิเศษที่สามารถอัดได้หลายๆ แผ่นพร้อมๆ กัน จากนั้นนำไปเข้าเครื่องอัดเย็น เพื่อให้แผ่นไม้แข็งและพร้อมใช้งาน

เครื่องตัดขอบ (ชิปบอร์ด หรือกรีนบอร์ด) มีความแข็งแรงมาก ช่วยยึดติดกันเป็นแผ่นได้ดี เนื่องจากมีพลาสติคจากตัวกล่องเป็นตัวยึดกระดาษและอะลูมิเนียมให้ติดกันโดยไม่ต้องใช้กาว หรือสารเคมีใดๆ เมื่อเสร็จแล้วก่อนนำไปใช้ก็จะมีการตัดขอบให้สวยงาม พร้อมนำไปทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือ ซึ่งโรงเรียนแรกที่จะได้ใช้โต๊ะเก้าอี้ จำนวน 100 ชุด จากกล่องกะทิ คือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 23 จังหวัดพิษณุโลก

คุณสมบัติโดดเด่นของแผ่นไม้ที่ได้มาจากกล่องใช้แล้วล้วนๆ นี้ สามารถกันน้ำได้อย่างดี กันปลวกได้ 100% และไม่เป็นผุยผง ดัดโค้ง ทำเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามความต้องการ ปราศจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ ทั้งเป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้อย่างดี

หากทุกโรงงานมีกระบวนการรีไซเคิล รองรับการใช้ผลิตภัณฑ์แบบนี้ โลกคงเย็นลงกว่านี้ ชีวิตเด็กรุ่นใหม่แม่บ้านทันสมัย ชอบความสะดวกสบาย ถ้านำขยะกล่องที่ใช้แล้วเกิดคุณค่า สร้างประโยชน์ ทำเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง ให้ส่งไปน้องๆ ที่โรงเรียนที่ขาดแคลนได้ก็อยากจะร่วมทำดีกันทั้งนั้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 04, 2009, 02:52:52 AM โดย แมลงปอ » บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2009, 03:02:28 AM »

ไทยรัฐ

หิมะถล่มเทือกเขาแอลป์ส ดับอย่างน้อย6ศพ เป็นนักไต่เขาจากเชก



วันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดรุนแรงในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ถูกใช้เป็นโรงงานผลิตดอกไม้ไฟ อย่างผิดกฏหมาย ที่มณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกของ จีน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน บาดเจ็บ 2 คน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (3 พ.ค.) อ้างการเปิดเผยของหน่วยกู้ภัยออสเตรียว่า เกิดเหตุหิมะถล่มที่เมืองโซเอลเดน แหล่งท่องเที่ยวและเล่นสกีชื่อดังบนเทือกเขาแอลป์สใน ประเทศออสเตรีย เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 2 พ.ค. จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงเขาชอลฟ์โคเกล ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน หน่วยกู้ภัยใช้เฮลิคอปเตอร์กู้ศพออกมาได้แล้วอย่างน้อย 6 ศพ ทั้งหมดเป็นนักไต่เขาจากสาธารณรัฐเชก แต่การเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะสภาพอากาศเลวร้าย

วันเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ถูกใช้เป็นโรงงานผลิตดอกไม้ไฟ อย่างผิดกฏหมาย ที่มณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน บาดเจ็บ 2 คน บ้านเรือนข้างเคียงพังราบหลายหลัง ตำรวจเร่งไล่ล่าเจ้าของโรงงานอยู่ ส่วนที่ สหพันธรัฐรัสเซีย เกิดเหตุท่อส่งก๊าซสำหรับใช้ในบ้านเรือนระเบิดที่อพาร์ทเมนต์ในเมืองเอียร์ คุสต์สในภูมิภาคไซบีเรียทางภาคตะวันออก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน บาดเจ็บ 7 คน และบางส่วนของอพาร์ทเมนต์พังถล่มลงมา
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2009, 07:51:04 AM »


ขอบคุณจ้ะน้องเด็กน้อย.....หาข่าวเก่งจัง.....
บันทึกการเข้า

Saaychol
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.023 วินาที กับ 20 คำสั่ง