ฮาติ ฮาติ กามู อากัน เมิน จินไต บ่าลี

[Sri_Nuan.Ray]

ได้บอก พี่ติ๊ก ให้แล้วนะคะ
พี่ติ๊กบอกว่า ขอบคุณมากค่ะ...

มาต่อกันดีกว่านะคะ

[Sri_Nuan.Ray]

 
ในที่สุด เราใช้บริการแท๊กซี่ ผี ชื่อ MR.I GST PUTU WESAYA หรือเรียกสั้นๆว่า พี่ปูตู...ค่ะ ไม่ใช่พี่ปูม้า....เสนอราคาค่าบริการมาที่ 150,000Rp เมื่อมาเจอนักจัดซื้อเก่าแบบ สีนวล จึงได้ราคาที่ 120,000Rp
แค่เนี่ย ก็สบายใจ สองสหายแล้วค่ะ ได้รถซูซูกิ สีแดง แบบเกือบจะหมดอายุขัยแล้ว ....ปัดโธ่!!!!!! นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไม ถึงได้ราคาถูกจัง

 ในระหว่างทางก็ เจ๊าะแจ๊ะ กับพี่ปูตู  ด้วยภาษาอังกฤษ สอบถามค่าเช่าต่อวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงตะวันตกดิน ค่าบริการเท่าไร ไปไหนได้บ้าง สุดท้าย ไม่รู้ว่า สองสหายเป็นหมู หรือพี่ปูตู เป็นหมู แน่  เราก็เลยได้ใช้บริการของพี่ปูตู ต่อมาอีก 2 วัน สนนราคาที่ 300,000 Rp/วัน เต็มวัน สำหรับการผจญภัยตามเส้นทางที่เราต้องการ และได้ราคาค่าแท๊กซี่พิเศษในวันสุดท้าย 100,000Rp.
ถือว่า Win - Win นะคะ

[Sri_Nuan.Ray]

 
หากพี่น้องสนใจ จะใช้บริการของพี่ปูตู ก็สามารถติดต่อได้โดยตรงที่เมล์
gst_putu_wes@yahoo.com  ทันสมัยเสียด้วยนะพี่ปูตูของเราเนี่ย....

ตอนแรกเราก็คิดว่าในระหว่างการเดินทาง 2 วัน เราจะได้ใช้รถสีแดง คันนี้ คุยกันไป-มา 
พี่ปูตู รับปากจะเปลี่ยนรถสภาพใหม่มาให้เรา ซึ่ง ก็เป็นไปตามนั้นพี่ปูตูเปลี่ยนรถใหม่ให้เราในวันรุ่งขึ้น  ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น
เดี๋ยวจะลองหารถสีแดงคันดังกล่าวมาให้ชมนะคะ 

หน้าตารถเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ เกือบจะต้องใช้พัดมือ แทน แอร์ล่ะค่ะ เอื๊อกกกก....

[Sri_Nuan.Ray]

 
นอนที่ไหนคืนแรก......
สองสหายเป็นอะไรที่ต้องเตรียมการณ์ ล่วงหน้าไว้บ้าง สีนวลได้รับการติดต่อจากพี่ R-Blue สำหรับการจะให้ความช่วยเหลือเรื่องที่พัก และ การเดินทาง แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด และพี่เล็กต้องเดินทางไปตจว. จึงทำให้การติดต่อทางเมล์ของเรา  ไม่เป็นผล ดังนั้นสีนวลจึงได้เข้าไปดูเวป และหาโรงแรมพักในคืนแรก ในอัตราที่เราพอใจ ในที่สุด โรงแรม Artini 1 จึงเป็นของเรา ในราคา 20 ดอล(716bt.) ในคืนแรก...

โรงแรมที่พักคืนแรกนี้ สวยเชียว แต่ว่าที่นอน นุ่ม และยุบ มากไปหน่อย  จึงเป็นโจทย์ของเรา ในวันรุ่งขึ้น ที่จะต้องหาที่พักให้ได้ก่อน 8 โมงเช้าวันวันที่สอง 

[Sri_Nuan.Ray]

 
พบศพ....
ในระหว่างที่พี่ปูตู พาเราไปที่พัก เราได้พบขบวนแห่ 1 ขบวน ครั้งแรกก็นึกว่าเป็นงานมงคล เพราะเห็นคนแต่งตัวมีสีสัน แต่เมื่อมองให้ชัดๆ เห็นเค้าแห่  ห่ออะไร ขาวๆ ยาวๆบนบ่า... ก็มาถึง บางอ้อ ว่าเป็นขบวนแห่ศพ ที่เค้าเรียกว่า Cremation ซึ่งเป็นอะไร ที่หาดูกันไม่ได้บ่อยๆ ........ ฮ่าๆๆๆ..... เพราะไม่ค่อยมีคนตาย กันบ่อยๆ งัย
นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นลางดี ที่เดียว ที่ได้เห็นอะไรๆที่ไม่ค่อยได้ตั้งใจจะเห็น....เนื่องจากรถวิ่ง ดังนั้น รูปจึงไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก....ทัศนากันเองนะคะ

[Sri_Nuan.Ray]

 
Artini1….
สองสหายได้มาถึงที่พัก ในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เมื่อเข้ามาถึงที่พัก Artini Cottages | Hanoman Street Padang Tegal Ubud | Bali Indonesia 80571 | Phone 62-361- 974147Fax 62-361- 970333   น้ำส้มคั้น ก็ปรี่...welcome drink มาหาเรา 2 แก้ว ทันที  สองสหายไม่ค่อยมีเวลาสำรวจ อาณาจักรของเราเลย รู้แต่ว่า มีที่ประทับสวยงาม ที่เป็นแบบส่วนกลาง  ก่อนทางเดินไปห้องพัก  เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนทางเข้าบ้าน เราจะเจอ เหมือนแผ่นศิลา ดักพวกเราไว้ก่อน และค่อยเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ตามอัธยาศัย คุณโร่ เธอ บอกว่าเหมือนฮวงจุ้ยของจีน ที่เป็นตัวดักความชั่วร้าย ก่อนเข้ามาถึงตัวบ้าน แต่สงสัยว่า ความดีงามจะแผ่เข้ามาทางใด น้า...

[Sri_Nuan.Ray]

 
.....และแล้วเวลาการเดินถนนอุบุด ยามเย็น ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว สองสหาย ได้เดินเล่นและใช้สายตาอันครบกริบของเราในการหาที่พักในคืนที่สอง 

แต่แล้ว.....ราตริ มณิกาล  ก็มาเยือนอย่างรวดเร็ว เพราะเวลาที่บาหลีเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชม. 
เราไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะหาอาหารเย็น ได้แต่ถามเวลาปิดร้านเท่านั้นเอง  เหตุผลที่ไม่มีเวลานั้นก็คือ......

[Sri_Nuan.Ray]

 
เลก็อง ศิลปะพื้นบ้าน Legong Dance
กิจกรรมของสองสหายในคืนแรก โดยไม่รอช้าก็คือการ ติดต่อซื้อตั๋ว สำหรับดูศิลปะ “เลก็อง”ที่อุบุดพาเลซ ( Saren Agung)  ที่เป็นที่ลือเลื่องของที่บาหลีทันที  ราคา80,000Rp / คน ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากันทั้งหมด งานนี้ไม่มีตั๋วผี ค่ะ  ด้วยอัธยาศัยที่น่ารักของเจ้าหน้าที่ของ อาร์ตินี่ ซึ่งได้รับอาสาพาสองสหายมาที่ อุบุดพาเลซ ในเวลา 1 ทุ่มตรง ทำให้เรารู้สึกว่า ความหิวเป็นเรื่องรองทันที เราต้องเสพความสุขทางสายตา อุตส่าห์มาถึงที่ ก่อนเสพอาหารมื้อค่ำ....

[Sri_Nuan.Ray]

 
เราจองไปดูที่ อุบุดพาเลซ ตอนแรกนึกว่าเป็นพาเลซราชวังหรูหรา แต่จริงๆ แล้วเป็นลักษณะ เหมือน เข้าไปที่ลานวัดแบบฮินดู  มีแท่นเป็นขั้นบันไดและมีซุ้มประตูบาหลีอยู่ด้านบน ซึ่งทำ เป็นเหมือนฉาก สำหรับให้นักแสดง ออกมา  ณ ที่นี้ เราใช้เวลาไปประมาณ 1.5 ชั่วโมง เพลิดเพลินจำเริญใจ ที่ซู้ด ทั้งลีลา และ เสียงเพลงบรรเลง

[Sri_Nuan.Ray]

 
กามะลัน.. เครื่องดนตรีของเลก็อง

เมื่อได้เวลา..วงดนตรีหรือกามะลันนี้ ที่เรียกว่า Kebyar Dang ก็แสดงเป็นชุดแรก Kebyar Dang เป็นเหมือนวงมโหรี ขนาดใหญ่ ส่วนมากเป็นดนตรีเป็นเครื่องตี ลักษณะเหมือนระนาดที่เมืองไทย ทั้งเสียงแหลมและเสียงทุ้ม
สงสัยเป็นยิ่งนักว่าทำไม ถึงมีเสียงออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เท่านั้นเอง และมีดนตรีเอก อีก 2 ชิ้นเป็นกลอง ที่นั่งแถวหน้า ที่คอยให้จังหวะ ส่วน ปี่ ดนตรีเอกอีก 1 ชิ้น นั่งเป่า หลบมุม อยู่ด้านข้าง เมื่อได้เวลาอันสมควร ก็ได้บรรเลงให้พวก ต่างชาติคนไทย อย่างสองสหาย  และ พี่แคนนาดา พี่ฝรั่งหัวสีทอง พี่กิมจิ พี่อาทิตย์อุทัย ได้ชื่มอารมณ์โสมนัส ด้วยความทึ่ง กิมกี่...

[Sri_Nuan.Ray]

 
นักแสดงเลก็อง...........

การแสดงชุดที่สองชื่อว่า Puspa Wresti

เริ่มมีนักแสดงชุดแรกผู้แสดงเป็นผู้หญิง 8 คน เป็นเหมือนการรำอวยพร และมีการโปรยดอกไม้
แสดงการเฉลิมฉลอง นำมาซึ่งความสุขให้กับเรา

[Sri_Nuan.Ray]

 
การแสดงชุดแรกของสาวบาหลี ชุดแรก ก็ตระการตาแล้วล่ะ...

[Sri_Nuan.Ray]

 
การแสดงชุดที่สาม เรียกว่า Topeng Keras

ผู้แสดงเป็นชาย แสดงเดี่ยว แต่งกายด้วยชุดที่มีสีสรร ประกอบด้วยหน้ากากสีแดง ที่มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  ตลกขบขัน แสดงออกมาด้วยอาการเข้มแข็ง เหมือนเป็นการแสดงหน้าม่าน

[Sri_Nuan.Ray]

 
การแสดงชุดที่สี่ เรียกว่า Legong Kraton

ผู้แสดงเป็นผู้หญิง 3 คน  เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ความรัก ความสมหวัง และ การลักพาตัว ท่าทางการแสดงค่อนข้าง อ่อนช้อย ส่งสายตากรอกกลิ้ง สีหน้าท่าทางมีทั้งสุขและขึงขังทุกนาที ที่แสดงออกมา

[Sri_Nuan.Ray]

 
การแสดงชุดที่ห้า เรียกว่า Kebyar duduk dance Or Taruna Jaya

ผู้แสดงเป็นหญิงแสดงเดี่ยว ใช้พัดเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง การแสดงบรรยายออกมาว่าด้วยชีวิตการเติบโตของเจ้าหญิง ใช้การหยักคิ้ว ลิ่วตา เป็นระยะๆ