พฤศจิกายน 25, 2025, 10:16:27 AM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์" (อ่าน 3762 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
«
เมื่อ:
กรกฎาคม 04, 2007, 12:14:21 AM »
แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
กรุงเทพมหานคร ได้จัดทำหนังสือ
แนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการกรุงเทพมหานคร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน
เรื่องราวต่างๆ ที่ถ่ายทอดลงในหนังสือ กลั่นกรองจากการศึกษาวิจัยของผู้เชี่ยวชาญ คือ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน หัวหน้าทีมและคณะวิจัย ที่เพียรพยายามศึกษา ค้นคว้า รวบรวมแนวพระราชดำริ เพื่อให้เห็นหลักการ หลักคิด ตลอดจนวิธีปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ที่พระองค์ท่านมีต่อการแก้ปัญหาและพัฒนาเมืองกรุงเทพฯ อย่างเป็นองค์รวม
และมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ทั้งการแก้ปัญหาการจราจร การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การบำบัดน้ำเสีย และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาบนพื้นฐานของความเป็นไทยเพื่อให้ประชาชนมีความสุขอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนี้สาระสำคัญของหนังสือยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและปณิธานของกรุงเทพมหานคร ในการอัญเชิญแนวพระราชดำริไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างกรุงเทพฯให้เป็น "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์" สมดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงภาพของกรุงเทพมหานครในอนาคต
นับแต่ขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้วยพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่น และทุ่มเทพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของมหาประชาราษฎรทั่วราชอาณาจักร ดังปฐมพระบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
แนวพระราชดำริการบริหารจัดการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิใช่เป็นเรื่องบริหารจัดการทรัพยากรหรือผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องตั้งอยู่ในกรอบของ ศีลธรรมและจริยธรรม อันเป็นความถูกต้องดีงามด้วย
การบริหารจัดการจะต้องอาศัยหลักวิชาการที่มีเหตุและผลชัดเจน ไม่ใช่การทำงานตามสามัญสำนึกหรือสถานการณ์ อีกทั้งยังต้องยึดหลักความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ที่มีกฎเกณฑ์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อกรณีอื่นได้
การบริหารจัดการที่กำหนดขึ้นไม่ใช่เพียงการค้นคิดทฤษฎีหรือหลักเกณฑ์ แต่เป็นการหาหนทางแก้ไขปฏิบัติได้จริง
และประการสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือการบริหารจัดการจะต้องยึดหลัก "ความพอเพียง"
เพราะธรรมชาติให้ทรัพยากรที่จำกัดจะต้องพยายามใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุดและคุ้มค่า ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
พระราชกรณียกิจในการพัฒนาของพระองค์เริ่มจาก "การระเบิดจากข้างใน" แล้วขยายออกไปสู่วงกว้าง โดยทรงเห็นว่า
การพัฒนา "คน" เป็นสิ่งสำคัญ
และจำเป็นที่จะต้องกระทำ
เนื่องจากคนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาทุกสิ่ง หากปราศจากคนที่มีคุณภาพหรือความพร้อม โครงการหรือแผนการต่างๆ จะสำเร็จลุล่วงไปไม่ได้
ฉะนั้นในการพัฒนาบ้านเมืองจึงทรงนำคนหรือประชาชนเป็นตัวตั้งและคำนึงถึงประโยชน์การมีส่วนร่วมของประชาชน
เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความเป็นอยู่ที่ดีและบังเกิดความมั่นคงทางจิตใจจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์จรรโลงประเทศชาติให้มั่นคงเข้มแข็ง เป็นแผ่นดินที่ทุกคนจะอยู่อาศัยด้วยความร่มเย็นผาสุกตลอดไป
ยกตัวอย่าง พระมหากรุณาธิคุณใน
การแก้ปัญหาน้ำท่วม กทม
. ซึ่งมีในหนังสือ ว่า น้ำท่วมเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่กลายเป็นปัญหา เนื่องจากการพัฒนาเมืองไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิม เพราะกรุงเทพฯสร้างในที่ลุ่ม น้ำท่วมถึง คนสมัยก่อนไม่เคยเดือดร้อนเพราะมีวิถีชีวิตแบบคนเมืองน้ำ บ้านเรือนก็สอดคล้องกับนิเวศวิทยา
ต่อมาเมื่อคนมากขึ้น มีการก่อสร้างและการกระทำอื่นๆ ที่ขัดกับธรรมชาติ เช่น การถมลำคลอง การมีสิ่งก่อสร้างขวางทางระบายน้ำ การสูบน้ำบาดาลจนทำให้แผ่นดินทรุด ฯลฯ
เมื่อถึงฤดูฝนน้ำป่าไหลหลาก หรือน้ำทะเลหนุน จึงทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังเป็นพื้นที่กว้างขวาง เกิดความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ
การบรรเทาปัญหาน้ำท่วม
แก่กรุงเทพมหานครที่เป็นเสมือนหลักการของการบรรเทาปัญหาน้ำท่วมอยู่ 5 ประการ
เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล
โดยผ่านแนวคลองทางฝั่งตะวันออกของเขตชุมชน กทม. เนื่องจากฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด โดยการสร้าง คันป้องกันน้ำท่วมด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมนอกคันกั้นน้ำโดยปรับปรุงคลองที่ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงน้ำให้ระบายน้ำไปสู่สถานีสูบน้ำบริเวณชายทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น และการทำ "ชัมพ์" (Sump) ซึ่งเป็นอ่างหรือบ่อที่จะดักน้ำแล้วใช้เครื่องสูบน้ำกำลังสูงสูบน้ำออกทะเลเพื่อเร่งน้ำหรือผลักน้ำให้ลงทะเลเร็วขึ้น
กำหนดมาตรการบังคับให้มีพื้นที่สีเขียว
เพื่อป้องกันการขยายตัวของเมือง และเพื่อรักษาสภาพของการเป็นทางระบายน้ำเมื่อเกิดน้ำหลาก ได้แก่การปรับลักษณะที่อยู่อาศัยของประชาชนให้เหมาะสม ออกประกาศการก่อสร้างกระทรวงมหาดไทย ออกข้อบัญญัติของ กทม. พระราชกฤษฎีกาหรือ พ.ร.บ.ผังเมืองเพื่อควบคุมการใช้ที่ดินและอาคาร จำแนกการใช้ที่ดินเป็นย่านหรือบริเวณ
สร้างบึง สถานเก็บกักน้ำ
ตามจุดต่างๆ ของพื้นที่ กทม.เพื่อช่วยในการกักเก็บน้ำและบรรเทาน้ำท่วม ได้แก่ โครงการแก้มลิง
สร้างระบบป้องกันน้ำท่วม
ในเขตชุมชน เช่นประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูเรือสัญจร แนวป้องกันน้ำท่วม และการเสริมตลิ่งคลอง
ขยายทางน้ำ
หรือเปิดทางน้ำในเส้นทางที่ผ่านทางหลวงหรือทางรถไฟ เนื่องจากการสร้างถนนหรือทางรถไฟไปกีดขวางทางน้ำไหล การขยายทางน้ำจะช่วยให้การระบายน้ำตามลำคลองให้ไหลลงทะเลได้เร็วขึ้น
นอกจากที่ยกมาเป็นตัวอย่างแล้ว การบริหารจัดการกรุงเทพมหานครของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังมีเรื่องของการคลี่คลายวิกฤตการจราจร
การเปลี่ยนน้ำเสียเป็นน้ำใส
เป็นต้น
รายละเอียดในแต่ละเรื่องน่าสนใจและน่าศึกษานำมาเป็นตัวอย่างในการบริหารจัดการงานด้านอื่นๆ ได้ด้วย
และเพื่อเป็นการต่อยอดขยายผลให้ประชาชนได้ร่วมภาคภูมิใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างทั่วถึง กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมซีดีหนังสือแนวพระราชดำริด้านบริหารจัดการกรุงเทพมหานครของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำนวน 30,000 แผ่น เพื่อมอบให้กับประชาชน ให้ทราบถึงพระราชหฤทัยที่ทรงอยากให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองสวรรค์ ดังเช่นที่เคยมีพระราชดำรัส
"...อันนี้เคยไปถามคนที่เขารู้ทางอนาคต ถามเขาว่าแซยิด ๗๒ นี่ก็มีเป้าหมายแล้วที่จะสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันภัยแล้ง แต่ว่าแซยิด ๘๔ จะมีเมือง เรียกว่าเมืองสวรรค์ เมืองที่ดี มีไหมมีทางไหม
เขาบอกว่ามีทาง ก็เลยขอให้ไว้ใจว่าเราคิด คิดอยู่
จะสร้างเมืองสวรรค์ จะทำให้กรุงเทพมหานครนี้เป็นกรุงเทพฯเมืองสวรรค์ แล้วก็เมืองใหม่นั้นก็จะเป็นเมืองสวรรค์เหมือนกัน ไม่ได้เน้นการย้ายกรุงเทพฯไปที่อื่นไกล แต่ว่าเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้น.
.."
จาก : มติชน โดยตวงศักดิ์ ชื่นสินธุ วันที่ 4 กรกฎาคม 2550
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 30, 2007, 12:53:33 PM โดย สายน้ำ
»
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 2388
Re: แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
«
ตอบ #1 เมื่อ:
กรกฎาคม 04, 2007, 02:51:12 AM »
แนวพระราชดำริของท่าน..เป็นการวางแผนที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว...แต่คนที่จะทำตามพระราชดำริของท่านอะซิ..ยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่..
บันทึกการเข้า
If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home. -- > James Michener
Sea Man
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2208
ท้องฟ้า/ภูเขา/ป่าไม้/ทะเล
Re: แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
«
ตอบ #2 เมื่อ:
กรกฎาคม 04, 2007, 07:34:52 AM »
...........ถูกต้องนะครับ..........
บันทึกการเข้า
.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 681
Re: แนวพระราชดำริ "กรุงเทพฯเมืองสวรรค์"
«
ตอบ #3 เมื่อ:
กรกฎาคม 04, 2007, 10:11:01 AM »
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...